46 ทองคำแลกเป็นทองคำ
By loop
วันนี้ก็เป็นวันที่ 6 ของเดือนพฤศจิกายนร้านขายเครื่องประดับของเฉินจินที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเปิดต้นเดือนนั้นก็ยังไม่ถูกเปิดสักที เพราะมันติดอยู่ในช่วงเตรียมการที่ยุ่งมาก ถึงแม้ว่าตอนนี้การปรับปรุงร้านจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยรวมแล้วร้านของเฉินจินนั้นมีบรรยากาศที่หรูหราและน่าประทับใจมาก มีสินค้าทองคำและหยกที่น่าตื่นตา ดูสวยงาม รวมไปถึงแสงไฟสลัวจากโคมไฟส่งอระย้าเป็นแสงคล้ายแสงของคริสตัลเปล่งแสงออกมาก มีแสงสีเหลืองอำพันที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นที่ทำให้ดูเหมือนว่าอุณหภูมิภายในนั้นอุ่นขึ้นราวๆสององศาได้
ลูกค้าที่ได้เข้ามาในร้านนี้จะได้ความรู้สึกที่ตื่นเต้นที่จะได้เห็นสมบัติอันล้ำค้าเหล่านี้ นี่คือการออกแบบที่ทางร้านตั้งใจให้ลูกค้าที่เขามารู้สึกถึงความหรูหรา เมื่อเดินเข้มาในร้าน เกาหยานเองก็ทำงานที่นี้มาได้เกือบครึ่งเดือน และตอนนี้เธอทำงานได้คล่องขึ้นมาก ไม่เหมือนวันแรกที่เธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ตอนนี้เธอพยายามทำงานที่เธอได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่ เธอดูเต็มไปด้วยพลังและความแข็งแกร่งเพราะเธอรู้ดีว่าเธอจะมีอนาคตที่ดีขึ้นถ้ายังทำงานให้กับร้านของพี่ชายเฉินผู้เป็นเจ้าของอพาทเม้นท์ที่เธอพักอาศัยอยู่
เมื่อมองครั้งแรกสภาพแวดล้อมในการทำงานในร้านนั้นดีมาก เพราะร้านค่อนข้างกว่าง และมีสามชั้น โดยชั้นแรกและสองได้รับการปรับปรุงเป็นพื้นที่ทำการขายและออฟฟิศทำทำการขายในขณะที่ชั้นสามครึ่งหนึ่งของร้านเป็นห้องสโต(ห้องเก็บสินค้า) ส่วนที่เหลืออีก 50 ตารางเมตรถูกสร้างเป็นห้องครัว โรงอาหารและเลานจ์ เมื่อเทียบกับที่ทำงานก่อนหน้านี้ของเธอที่เธอต้องทนต่อสภาพแวดล้อมที่แย่ๆทุกวัน
ยิ่งไปกว่านั้นผู้จัดการร้านอย่างชิววังตินนั้นเป็นคนง่ายๆ เข้าถึงได้และดูใจดี เธอดูแลเกาหยานเป็นอย่างดีและยินดีที่จะแบ่งปันประสบการณ์ให้เธออยู่ตลอดเวลา มันแสดงให้เห็นว่าผู้จัดการมีความตั้งใจที่จะดูแลและฝึกฝนทักษะการขายของเธอมากขนาดไหน แม้แต่ป้าสองคนที่ทำงานร่วมกับเธอและพอมีประสบการณ์บางก็ยังช่วยเหลือเธอ จนถึงผู้จัดการร้านพยายามดูแลเธอย่างดีเหมือนคนในครอบครัว พวกเขาพยายามแนะนำและช่วยเหลือเธอในหลายๆเรื่อง สำหรับร้านนี้ความสัมพันธ์ระหว่างผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานนั้นกลมกลืนกันมาก
สิ่งสำคัญที่สุดคือร้านขายเครื่องประดับแห่งนี้น่าจะมีอนาคตที่สดใสได้ แม้ว่าร้านค้าจะยังไม่ได้เปิดก็ตาม แต่หลังจากการข้อสังเกตของเกาหยานแล้วนั้น เกาหยานมองว่าที่ตั้งร้านในปัจจุบันถือเป็นทำเลทองที่ลูกค้าหลายคนจะเลือกมาจับจ่ายใช้สอยในบริเวณนี้ เพราะมันตั้งอยู่จุดใจกลางของย่านนี้และมีผู้คนเดินไปมามากมายอีกทั้งลูกค้าในย้านนี้ค่อนข้างมีเงิน นอกจากนี้พี่ชายเฉินค่อนข้างจะทุนหนาซึ่งเธอแอบได้ยินมาจากป้าชิวผู้จัดการ้าน- เพราะการลงทุนที่เข้ามาในร้านตอนนี้มีมูลค่ารวมเกือบ 6,000,000 หยวน และยังมีก่อสร้างเพิ่มเติมห้องเก็บของบนชั้นสามเกือบจะถึงขอบของตึก
ตอนนี้ทางร้านเองกำลังจัดเตรียมกิจกรรมโปรโมตครั้งยิ่งใหญ่เพื่อเป็นการขโมยลูกค้าจากร้านอื่นๆในระแวกนี้ทั้งหมด! มีเงินลงทุนจำนวนมหาศาล หากร้านขายเครื่องประดับเปิดตัวได้ดีตั้งแต่เริ่มต้นมันจะประสบความสำเร็จในการต่อยอดการขายได้อย่างแน่นอนอีกทั้งเฉินจินอาจจะให้โบนัสกับพนักงานรุ่นแรกของเขา เกาหยานเองก็ต้องทำงานอย่างขยันขันแข็งและพยายามสร้างการมีส่วนร่วมกับคนในร้านให้มากที่สุด
โดยปกติทั่วไปแล้ผู้จัดการร้าน ชิววันติงจะจดบันทึกพฤติกรรมการทำงานของเธอ เมื่อใดก็ตามที่เธอโทรหาเฉินจิน เธอก็จะพยายามชื่นชนเกาหยานอยู่ตลอดเวลา
เฉินจินพยักหน้า “ หลังจากเปิดตัวร้านอย่างเป็นทางการเราอาจจะเลื่อนระดับให้เกาหยานและคนอื่นๆให้เป็นพนักงานประจำและเพิ่มเงินเดือนให้สูงขึ้น หากยอดขายเดือนแรกของร้านดีเราสามารถจ่ายคอมมิชชั่นแก่พนักงานขายได้เลย”
ชิววันติง พูดว่า“ จะดีกว่าไหม ถ้าเราไม่รอให้มีการสรุปผลกำไรแบบเต็มเดือนเราใช้ข้อสรุปเพียงครึ่งเดือน และเราก็คำนวณผลกำไรของร้านก่อนที่จะพิจารณาขึ้นเงินเดือน เพราะตอนนี้ยอดขายของร้านยังไม่ชัดเจน และยังไม่รู้ว่าจะมีรายจ่ายใดๆเพิ่มเติมหรือป่าว”
“ อืมป้าชิว คุณพูดถูก”
โดยตอนนี้เฉินจินมีเงินเหลืออยู่กับตัวของเขาน้อยกว่า 3,000,000 หยวนก่อนที่ร้านขายเครื่องประดับจะได้กำไรใดๆ เขาไม่ควรจะใช้เงินไปแบบสุรุ่ยสุร่าย และต้องควบคุมต้นทุนการใช้เงินของเขาไว้
และเรื่องเกี่ยวกับเงินลงทุน ชิววังติงได้แสดงว่าเงินที่เตรียมไว้อาจไม่เพียงพอ เธอบอกว่า“ สำหรับร้านขายเครื่องประดับขนาดใหญ่ที่มีเครื่องประดับทองคำประมาณ 20 กิโลกรัมในเคาน์เตอร์ราคารวมๆจะอยู่ที่ประมาณอย่างน้อย 5,000,000 หยวนขึ้นไป แต่ในตอนนี้เรามีทองคำเตรียมไว้เพียง 15 กิโลกรัมและนำเงินไปซื้อเครื่องประดับเนื้อเงินมาเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายโดยรวมของแพลตตินัมเพชรและอัญมณีอื่น ๆ ที่เราจัดหามามันนั้นน้อยกว่า 500,000 หยวน เราได้ใช้เงินทั้งหมดของเราไปแทบจะหมดเคาน์เตอร์แสดง ไปกับสิ้นค้าอย่างแรกและอย่างที่สองที่มีในร้าน อย่างไรก็ตามเราไม่มีอะไรเหลืออยู่ในห้องเก็บของแล้ว มันจะดีวกว่าถ้าเพิ่มเงินลงทุนของเราเข้าไปอีก หากเรามีลูกค้าจำนวนมากไหลเข้ามาในวันเปิดทำการยอดขายอาจสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ เป็นไปได้ว่าเราอาจจะเกิดปัญหาของในสต๊อกขาด” เธอแนะนำเฉินจินอย่างจริงจัง“ เจ้านาย ฉันเสนอให้เราลดพื้นที่การดำเนินธุรกิจและดำเนินการในเรื่องแรกเท่านั้นคือการเพิ่มทองคำ เครื่องประดับอย่างที่สองนั้นถึงจะพร้อมแล้วแต่ก็อาจะลดจำนวนมันไปเล็กน้อย โดยอาจจะเน้นสินค้าประเภทแรกอย่างทองมากกว่า การทำอย่างงี้อาจทำให้ยอดขาดของร้านพุ่งกระฉูดขึ้นมาก็ได้”
“ไม่!” เฉินจินส่ายหัวของเขา“ ถ้าเราต้องการเปิดธุรกิจเราต้องทำมันให้ยิ่งใหญ่ เราจะเริ่มดำเนินการในเรื่องที่หนึ่งและที่สองในเวลาเดียวกัน ลงทุนเพิ่มอีก 5,000,000 หยวน ”
“5,000,000 หยวน?”
ชิววันติง ถึงกับตกตะลึง เธอถามว่า“ เจ้านาย คุณยังมีเงินเหลือมากขนาดเลยหรอ?”
“ ไม่หรอก ตอนนี้ผมมีทองคำอยู่ส่วนหนึ่งที่เพื่อนของผมเคยซื้อมาให้ มันมีมูลค่า 5,000,000 หยวน ไม่ก็อาจสูงกว่านั้น ผมสามารถนำทองคำนี้ไปขายในร้านตรงๆเลยได้หรือป่าว”
“ มันเป็นทองคำรูปแบบอย่างไร? ทองคำแบบแท่งหรือทองคำรูปพรรณ?”
“ มันเป็นทองคำแท่งส่ะส่วนใหญ่นะ”
“ มีใบรับรองการผลิตหรือป่าว” ใบรับรองจะระบุสถานที่ตั้งของการผลิตและผู้ผลิตอย่างชัดเจน
“ อืม…ผมคิดว่าไม่น่ามีนะ”
“ มีใบรับรองการซื้อหรือป่าว” ใบรับรองนี้จะระบุถึงต้นกำเนิดของทองคำและบริษัทที่จัดซื้อ
เสียงของเฉินจินก็ดูเบาลง “ไม่”
“ แล้วใบรับรองการตรวจสอบล่ะ คุณมีอันนี้หรือเปล่า?” ใบรับรองการตรวจสอบจะระบุส่วนประกอบเฉพาะของทองคำและเปอร์เซ็นต์ของทองคำ
ถึงตอนนี้เสียงของเฉินจินก็เหมือนยุง “นี้…. ผมคิดว่าผมไม่มีสิ่งที่ป้าชิวว่ามาเลย” ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักว่าเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ตื้นเกินไป
“ โอ้…ฉันเข้าใจแล้ว” ชิววันติว กล่าวพร้อมกับประสบการณ์ที่ยาวนานหลายปี “ ทองคำที่เพื่อนของเจ้านายมอบให้ อาจจะเป็นทองคำประเภท“ ทองคำประเภทที่สาม”
“ อืมใช่ ผมสามารถขายทองคำประเภทนี้ในร้านได้หรือไม่” เฉินจินเองก็ไม่ยอมแพ้ที่จะขายพวกมัน เขามีทองคำนี้มากกว่าหนึ่งตันตอนนี้!
“ได้.” ชิววันติงตอบกลับอย่างรวดเร็วโดยไม่มีขอสงสัยใดเธอทำการยืนยันคำถามของเฉินจิน “ เจ้านายสามารถขายมันในร้านตราบใดที่ทองคำเหล่านี้นไม่มีปัญหาหรือตำหนื แต่อยู่ในประเภท“ ทองคำประเภทที่สาม” โดยไม่มีการรับรองใด ๆ ลูกค้าจะมีข้อสงสัย หากมีปัญหาเกี่ยวกับทองคำและลูกค้ารายงานการร้องเรียนกับสมาคมผู้บริโภคมันจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่สำหรับเรา ยิ่งกว่านั้นเนื่องจากร้านค้าของเรามีขนาดใหญ่มาก กรมอุตสาหกรรมและการพาณิชย์จะทำการตรวจสอบแบบสุ่มๆทุกปี หากพวกเขาค้นพบว่าเรากำลังขาย“ ทองคำโมฆะประเภทที่สาม” หรือว่าการปลอมปนทองคำเราจะถูกปรับและอาจจะต้องขึ้นลงขึ้นศาล…. เจ้านาย ฉันไม่แนะนำให้เราขายมัน“ ทองคำประเภทที่สาม””
ที่จริงแล้วมีร้านค้าทองคำที่ไม่มีตราสินค้ามากมายในเมืองเล็ก ๆ และเมืองที่ขาย“ ทองคำประเภทที่สาม” เป็นส่วนใหญ่ เพื่อไม่ให้ลึกเกินขอบเขตความผิดกฎหมาย แต่มีการปลอมแปลงรายการขายและอาจเจอทองปลอมได้ ถึงกระนั้นพวกเขาก็สามารถหนีรอดกฏหมายที่จะเอาผิดร้านเหล่านั้นไปได้
อย่างไรก็ตามในเมืองใหญ่เช่นชางไห่การบังคับใช้กฎหมายค้อนข้างจะเข้มงวดอย่างแน่นอน ตามทฤษฎีแล้วกฎหมายไม่อนุญาตให้ขาย“ ทองคำประเภทที่สาม” แม้ว่าคุณอาจะขายทองคำบริสุทธิ์ 100% ก็ตาม
“ แล้วผมควรทำยังไงดี?” ในไม่ช้าเฉินจินก็แสดงใบหน้าที่ร่วงโรยราวเหมือนกับผักที่ถูกแช่แข็งนานๆ เพราะทองคำที่เขามีไม่สามารถนำไปทำเงินได้?
“ ไม่ต้องกังวลเจ้านาย ทองคำจากเพื่อนของเจ้านายสามารถใช้เพื่อแลกกับทองคำจริงๆได้”
“ ทองคำแลกกับทองคำ” เฉินจินถึงกับตกใจ
ชิววันติง เริ่มอธิบายด้วยน้ำเสียงที่น่ารัก“ เจ้านายก็แค่นำทองคำของเจ้านายไปหาผู้ผลิตเครื่องประดับที่ถูกกฎหมายและแลกเปลี่ยนเป็นเครื่องประดับทองคำที่มีใบรับรองที่เหมาะสม แน่นอนถ้าเราขาย“ ทองคำประเภทที่สาม” ในขั้นตอนการซื้อของลูกค้าพวกเขาจะเป็นคนที่เสี่ยงต่อการซื้อทองปลอม เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้าหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลจะพยายามจัดระเบีบยสินค้าพวกนี้ เพื่อป้องกันสินค้าปลอมที่ไม่ได้ถูกตรวจสอบในตลาด”
แต่เนื่องจากผู้ผลิตเครื่องประดับอยู่ในขั้นตอนการผลิตและไม่เจอกับลูกค้าโดยตรง หน่วยงานที่กำกับดูแลที่เกี่ยวข้องจึงเข้มงวดมากขึ้น ตราบใดที่ยังไม่มีปัญหาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายหน่วยงานรัฐบาลจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการผลิต และไม่ได้มุ่งเป้ามาที่กระบวนการขั้นตอนนี้มากนัก
มันคล้ายกับการเปรียบเทียบของแถบแสดงความเผ็ด ทุกคนรู้ว่ามันอร่อย แต่ทุกคนเคยดูกระบวนการผลิตอย่างละเอียดของมันหรือไม่? ลูกค้ารายใดที่จะเข้าไปในครัวเพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับอาหารที่จัดเตรียมให้ที่ร้านอาหาร
ด้วยเหตุผลเดียวกันผู้ผลิตเครื่องประดับจึงจัดหาสินค้าที่ได้รับการรับรองที่เหมาะสมได้ แต่ผู้ผลิตยังต้องการทองคำเงินและวัตถุดิบอื่น ๆ สำหรับการผลิต ต้นกำเนิดของวัตถุดิบมีความซับซ้อน มี บริษัท ขุดที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมายเช่นเดียวกับทองคำ วัตถุดิบส่วนใหญ่ประกอบด้วยทองคำที่อาจไม่ได้มาจากผู้ผลิตที่ถูกกฏหมายโดยตรงก็ได้
“ ช่างทองและร้านค้าเครื่องประดับจำนวนมากให้บริการส่งคืนทองคำ ทองคำส่วนใหญ่ที่นำมาคืนนั้นใบรับรองหายไปและกลายเป็น “ทองคำประเภทที่สาม” ช่างทองและร้านขายเครื่องประดับจะขายทองคำที่นำกลับคืนให้กับผู้ผลิตเครื่องประดับและนี่เป็นวงจรของการขายคืน / คืนและการผลิตซ้ำ ดังนั้นแม้ว่าทองคำที่เจ้านายได้รับจากเพื่อนของเจ้านาย เป็น“ทองคำประเภทที่สาม” เจ้านายก็สามารถขายมันเป็นเงินหรือแลกเปลี่ยนเป็นเครื่องประดับทองคำได้กับผู้ผลิต ตราบใดที่มันเป็นทองคำแท้มันก็เป็นเรื่อง่ายๆที่จะนำมันกลับมาสร้างมูลค่า แน่นอนว่าราคาทองคำที่นำกลับมาใช้ใหม่โดยไม่ผ่านการรับรองจะลดลงเล็กน้อย จะมี “ค่าธรรมเนียมการสูญเปล่าในการผลิต” สำหรับการแลกเปลี่ยนเครื่องประดับทองคำ แต่มักจะไม่แตกต่างกันมากนัก เพียงประมาณห้าเปอร์เซ็นต์เท่านั้น”
ในฐานะมืออาชีพที่เชี่ยวชาญในธุรกิจนี้ ชิววันติงมีความคุ้นเคยกับช่องทางการแลกเปลี่ยนทองคำกับทองคำมากมาย
ดวงตาของเฉินจินเปล่งประกายอย่างสดใส เจอแล้ว! มีวิธีจัดการกับทองคำ! เขาจะนำ“ ทองคำประเภทที่สาม” ของเฉินจินมาจากแหล่งกำเนิดที่ไม่ชัดเจนให้แก่ผู้ผลิตเครื่องประดับเพื่อแลกกับเครื่องประดับทองคำที่สามารถขายในร้านค้าของเขาได้ในราคาที่สูงกว่าและถูกกฎหมายและได้รับการรับรอง ด้วยวิธีนี้ร้านขายเครื่องประดับของเฉินจินจะไม่เกิดปัญหาด้านกฏหมายอื่นๆตามมา0 และสามารถขายทองได้ตามปกติ และอาจเปิดตัวธุรกิจได้อย่างใหญ่โต เพื่อต้อนรับลูกค้าจำนวนมากที่ต้องการเข้ามาซื้อของในร้านของเขา เขายังสามารถเสนอส่วนลดมากขึ้นในราคาของเครื่องประดับได้ เนื่องจากธุรกิจของเขามาจากการขายเน้นปริมาณมากๆ เฉินจินยังสามารถทำเงินได้มากมายแม้ว่าราคาจะลดลงต่ำกว่าราคาขายจริงในตลาด
“ไปกันเถอะ! ป้าชิวพาผมไปที่บริษัทผู้ผลิตเครื่องประดับที่คุณรู้จักดีและหาคนคุ้นเคยที่ไว้ใจได้ ผมต้องการแลกทองคำประเภทที่สามเป็นทองคำจริงๆ!”
ในอีกสามวันต่อมาภายใต้การดูแลของชิววันติง พวกเขาไปหาผู้ผลิตเครื่องประดับมากกว่า 10 ราย เฉินจินหยิบเอาทองคำ 100 กิโลกรัมแล้วนำมาแลกเป็นเครื่องประดับทองคำ 90 กิโลกรัม ปัญหาการของขาดสต๊อกได้ถูกคลี่คลายแล้ว!