Chapter 11 ยั่วยวนใจ
เมื่อผมรู้สึกตัว, สิ่งแรกที่เห็นไม่ใช่โรงพยาบาลหรือสมาคมสาขา.
ผมอยู่บนเตียงในบ้าน.
อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่บ้านธรรมดาๆ, แต่เป็นบ้านที่ดูฟุ่มเฟือยเป็นอย่างมากซึ่งมันสามารถทำให้ขากรรไกรคุณค้างได้เลยทีเดียว.
ความทรงจำสุดท้ายของผมคือการจัดการเคลวี่คอร์ลง. ดังนั้นผมจึงโล่งใจที่ยังมีชีวิตอยู่.
ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก, คิดว่าร่างกายของผมจะพิการไปเสียแล้ว.
“หืม? เกิดอะไร….สภาพนี้มัน.”
มือซ้ายที่ถูกเผาจนไหม้เกรียมและไม่สามารถที่จะขยับได้.
เหล็กในที่ถูกฝังที่ไหล่, หายไปอย่างไร้รอยขีดข่วน.
หลังจากขยับแขนซ้ายไปเรื่อยๆ, ผมยืนยันได้ว่ามันเป็นความจริง.
โดยไม่รู้สึกเจ็บใดๆ, แขนซ้ายของผมกลับมาเป็นเหมือนเดิมก่อนถูกโจมตรี.
‘ผมคิดว่าผมมีชีวิตอยู่. อย่างแน่นอน.’
ผมรู้สึกถึงประตูที่เปิด.
“นายตื่นแล้ว?”
มันคือความสวยงาม.
ระหว่างที่เธอกำลังพูดกับผม, เธอโชว์รอยยิ้มที่สวยงามในตอนพูด.
จิตใจของผมล่องลอย.
ผมถามออกไปโดยสัญชาตญาณ, “เกิดอะไรขึ้น? ที่นี้… ที่ไหน?”
แทนที่จะตอบ, ด้วยนิ้วที่ขาวของเธอ, เธอแตะแขนซ้ายของผม.
ขณะนั้นผมสะดุ้ง, แล้วเธอถามว่า, “แขนนายขยับได้ดีแล้วใช่มั้ย? ด้วยนี้, แม้กระทั้งโฮจุนยังต้องร้องไห้ด้วยสกิลของฉัน?” ***โฮจุน ชื่อหมอผ่าตัด
ปราศจากการตอบ, ผมรอให้เธอตอบคำถามผม.
เธอสังเกตผม, เธอพูดต่อ.
“ฉันพานายมาหลังจากเจอนายสลบอยู่หน้าประตู่ดันเจี้ยนระดับ 12. ไม่ต้องพูดถึงแขนซ้ายที่ไหม้, เพียงแค่พิษที่อยู่ในร่างกายนายก็เพียงพอที่จะฆ่านายได้แล้ว.”
“ขอบคุณมาก. ฉันเป็นหนี้เธอแล้ว.”
เธอยิ้มด้วยสายตาที่ทำให้คนตกหลุมรักเธอ. เธอยืนมือมาและจับมือกับผม.
“แนะนำตัวช้าไปหน่อย. ยินดีที่ได้รู้จัก. ฉันเป็นหัวหน้ากิลโนเบลส ปาร์คฮยอน. นายคือมินชอล, ใช่มั้ย? นายคือสุดยอดหน้าใหม่ที่ซางมินจับตาอยู่!”
นี้เป็นโชคชะตาที่น่าทึ่ง? ทีได้พูดคุยกับเธออย่างนี้.
ซางมินพูดถึงผมเป็นอย่างมากกับกิล.
“มีเด็กน้อยที่กล้าหาญได้เข้าดันเจี้ยนระดับ 12 ทุกวัน. ประสบการณ์ต่อสู้ของเด็กน้อยนั้นเติบโตในอัตราที่น่ากลัว, ตาของเขาเต็มไปด้วยความต้องการบางอย่าง.”
หลังจากคุยกับผมในตอนเช้า, ซางมินโทรหาหัวหน้ากิล ปาร์คฮยอน.
‘ถ้าเธอต้องการพบเขาคนนั้น, ไปที่ดันเจี้ยนระดับ 12.’
เพราะความอยากรู้อยากเห็น, ปาร์คฮยอนจึงไปที่ดันเจี้ยน, และด้วยโชคล้วนๆ, ผมจึงรอดมาได้.
ดังนั้นผมจึงเริ่มเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น.
คลาสของปาร์คฮยอนคือฮีลเลอร์. สกิลซึ่งรักษาผม, มันไม่เหมือนกับสกิลที่อินอาใช้ซึงเอาไว้เพิ่มพลังชีวิต, แต่สกิลนี้มันแก้สภาพผิดปกติ.
มันเป็นหนึ่งในสกิลขั้นสูงของฮีลเลอร์ซึ่งใช้กับผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่.
ผลของมันคือย้อนกลับไปยังสภาพก่อนหน้าที่บาดเจ็บ.
สกิลคูลดาวน์ 1 ชม. ถ้าสกิลไม่พร้อมใช้งานในเวลานั้น, ผมควรที่จะตายไปแล้ว?
มือของปาร์คฮยอนขยับไปที่ลิ้นชักใต้เตียง.
สิ่งของของผมอยู่ที่นั้น. แม้ผมกำลังจะตาย, ผมยังเอาของที่ได้ออกมา.
สิ่งที่ผมสังเกตเห็นอย่างแรกคือหินวิญญาณมันติคอร์ซึ่งเสี่ยงชีวิตเพื่อมัน. และหินเลือดระดับ C เท่ากำปั้น.
“…ชีวิตฉันมีค่า 100 ล้านวอน.”
ด้วยการพูดคนเดียวอย่างจริงจังของผม, เธอเพียงแค่มองเฉยๆ.
‘เดี๋ยวก่อน, นี้คืออะไร?’
ข้างหินเลือด, มีอัญมณีเล็กๆ, และใต้มันมีหนังสือ.
“นายจำไม่ได้หรอ? มือขวาของนายถือคทา, อัญมณี, หินวิญญาณ, และหินเลือดทั้งหมดที่นายมี… และหนังสือสกิลเล่มนั้นอยู่ใต่รักแร้นาย.”
“ฉันทำอย่างนั้นจริงๆหรอ? ฮ่าฮ่า…”
ผมพยายามที่จะยิ้ม, แต่หน้าของผมแดงด้วยความละลาย. ผมไม่สามารถจำอะไรได้เลย. แต่มันก็สำเร็จเกียวกับสิ่งที่ผมทำ.
“ใช่! นายกำมันไว้แน่น, ฉันต้องหักข้อมือและไหล่ของนายเพื่อที่จะให้นายปล่อย. อ่อ ฉันหักนิ้วนายไปสองสามนิ้วด้วย.”
เธอกล่าวคำเหล่านั้นด้วยรอยยิ้มโดยไม่รู้สึกอะไร.
‘…’
ทันใดนั้น, ความเจ็บปวดทั้งหมดที่แขนขวาซึ่งผมไม่สามารถเข้าใจได้เริ่มทำให้ผมรู้สึกเจ็บ.
ตอนนั้นเอง.
ด้วยความรู้สึกที่ต่างจากก่อนหน้านี้, เธอถามผมอย่างจริงจัง.
“เพราะอะไร?”
“ฮะ?”
“เพราะอะไร ทำไมนายถึงพยายามที่จะแข็งแกร่ง?”
ปราศจากคำใดๆ, ผมกลิ้งหินวิญญาณไปรอบๆ. เหตุผลสำหรับการแข็งแกร่ง…
เหตุผลง่ายๆคือเงิน, มันเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนผม. แต่ก่อนหน้านั้น, ไม่มีอะไรที่ผมต้องการที่จะปกป้องหรอ? วิธีเดียวที่ผมสามารถทำได้ก็คือเงิน.
ผมตอบอย่างจริงจัง.
“มีบางสิ่งที่ฉันต้องปกป้อง. เพื่อที่จะปกป้อง, ฉันต้องกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งกว่า.”
ปาร์คฮยอนไม่ได้ถามคำถามอีก. เธอมองเข้ามาในตาของผม, ด้วยรอยยิ้มก่อนหน้านี้, เธอพูดอีกครั้ง.
“ฉันเข้าใจ. นายมีความคิดที่จะเข้าร่วมกิลของพวกเรามั้ย?”
“นี้เป็นสิ่งที่ฉันต้องตอบแทนที่เธอช่วยชีวิตฉันหรอ?”
“มันไม่ใช่อย่างนั้น. ฉันเพียงแค่จะไปเจอนายและบังเอิญช่วยนายแค่นั้น.”
“ฉันได้ยินมาจากรุ่นพี่ซางมินก่อนหน้านี้, แต่ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจเพราะฉันกำลังยุ่งอยู่. แต่ฉันไม่อยากเสียนายไป. บางทีอาจมีเงื่อนไขที่นายต้องการ?”
ผมไม่รู้เหตุผล, แต่ดูเหมือนว่าเธอต้องการให้ผมเข้าร่วมกิลของเธอจริงๆ. แม้กระทั้งถามถึงเงื่อนไข. ขณะที่ผมกำลังลังเล, ปาร์คฮยอนพูดขึ้นมาก่อน.
“แบ่ง 10%, ฉันจะพูดถึงมันจากนาย. นอกจากนี้แทนคถาปลอม, ฉันจะให้บางอย่างที่สุดยอดแก่นาย. เป็นไงบ้าง? นี้ไม่ใช่ข้อตกลงที่ดีที่สุดใช้มั้ย?”
“…”
นั้นมันแปลก, หรือว่าเธอจะรู้เกี่ยวกับความสามารถของผม?
เธอรู้ได้ไงอุปกรณ์ของผมเป็นของปลอม?
เธอตรวจสอบผมขณะกำลังช่วยผม?
อย่างไรก็ตาม, เวล 25 อเวคกับข้อเสนอนี้, แม้กระทั้งให้คทาเพื่อเข้ากิล, ผมไม่สามารถเข้าใจได้.
เธอกำลังปิดบังอะไรอยู่?
หลังจากเห็นสีหน้าจริงจังในการคิดของผม, เธอพูดอีกครั้ง.
“นายไม่ต้องให้คำตอบฉันตอนนี้ก็ได้, ฉันจะให้เวลานายคิดเกี่ยวกับมัน.”
ผมรู้สึกสงสัย, แต่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องปฎิเสธ.
ไม่มีอะไรที่อันตรายต่อผมด้วยเงื่อนไขที่เป็นข้อตกลง.
ขณะที่กำลังยอมรับคำเชิญ, ถ้าผมพบว่ามันแปลกๆ, ผมก็ยังปฎิเสธมันได้.
เมื่อรุ่นพี่ซางมินชวนผม, ผมก็มีความคิดที่จะเข้ากิลอยู่แล้ว.
ปัญหาอยู่ที่ว่าผมตัดสินใจเร็วกว่าที่คิด.
‘ผมจะคิดถึงผลที่จะตามมาภายหลัง.’
ผมตัดสินใจยอมรับข้อเสนอของปาร์คฮยอน.
“ไม่, ฉันจะยอมรับข้อเสนอตอนนี้เลย.”
ด้วยความพอใจ, เธอพูด, “งั้นอีก 30 นาทีฉันจะมาหานายที่หน้าประตู. ฉันวางชุดที่นายต้องเปลี่ยนไว้ตรงนั้น.”
“ฉันเข้าใจละ.”
หลังจากที่เธอจากไป, สายตาของผมจ้องไปที่หนังสือสกิล.
ผมดาวน์โหลดแอพสารานุกรมหนังสือสกิลที่เธอบอกลงในโทรศัพท์ของผม.
มันประกอบด้วย เวลที่ต้องการในการเข้าดั้นเจี้ยน, มอนเตอร์, สมาชิกปาร์ตี้ที่ต้องการในการเคลียร์ดันเจี้ยนให้สำเร็จ, และข้อมูลที่มีประโยชน์อื่นๆ.
ผมคงเป็นคนเดียวที่ไม่รู้ว่ามีแอพที่สะดวกและมีประโยชน์เช่นนี้.
ขณะที่กำลังเสียใจ, ผมตรวจสอบหนังสือสกิลด้วยโทรศัพท์ของผม.
คลิก.