Chapter 12 ยั่วยวนใจ(2)
หนังสือที่ผมตรวจสอบถูกเรียกว่า ตาพายุ.
-ตาพายุ-
คลาส: จอมเวทย์, นักเวทย์เสริมพลัง (ถ้าเรียนรู้โดยคลาสอื่น, ค่าร่ายจะเพิ่ม 10 เท่า.)
ค่าร่าย: 200 (ค่าร่ายจะเพิ่ม 10% ต่อ 10 เวล.)
ข้อมูลเบื้องต้น:
-ผู้ใช้เป็นจุดศูนย์กลาง, ดูดมอนเตอร์ให้หมุนเป็นวงกลมรอบตัว.
-ศัตรูที่โดน ‘ตาพายุ’ จะติดสตัน.
-ไม่สามารถใช้ (???)ระดับบอส.
คูลดาวน์: 15 นาที.
ระยะเวลา: 5 วินาที. (ระยะเวลาเพิ่มขึ้น 10% ต่อ 10 เวล.)
สกิลแรงค์: F
คำอธิบายเสริม: มีผลกระทบร่วมกับสกิล “หลุมพายุ”.
ราคาหนังสือสกิล: 30,000,000 วอน.
“มันขึ้นอยู่กับการวัดของสารานุกรมหรอนี้?”
“เดี๋ยวนะ… ถ้าคลาสอื่นใช้, ค่าร่ายจะเป็นสิบเท่า?”
มันเป็นอย่างนี้เองสินะ. ตลอดเวลาที่ผมล่า, ผมไม่เคยเห็นฮีลเลอร์หรือจอมขมังเวทย์ใช้สกิลที่ต่างจากคลาสของตนเลย.
เมื่อคุณใช้สกิลคลาสอื่น, มันจะเป็นการผลาญมานาอย่างเปล่าประโยชน์มาก.
“โอ้ฉัน… นี้มันบ้าไปแล้ว, ผมคิดว่านี้มันเป็นเรื่องใหญ่แล้วละ?”
ดังนั้นในกรณีของผม, ตราบเท่าที่ผมมีเงิน, ผมสามารถใช้สกิลอะไรก็ได้โดยไม่มีข้อจำกัด
มันรู้สึกเหมือนอเวคครั้งที่สองเลยทีเดียว.
ขณะหลงอยู่ในความคิด, ผมสังเกตเห็นราคาของหนังสือสกิล.
“30 ล้านวอน? โอ้พระเจ้า.”
สำหรับสกิลโจมตรี, 30 ล้านวอนจัดอยู่ในราคาที่ถูก.
อย่างไรก็ตาม, สำหรับผม, มันเป็นราคาที่ไร้สาระ.
ถ้าจะให้ผมคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้, การล่าเคลวี่คอร์เป็นการล่าที่มีค่าต่อให้เสี่ยงชีวิตก็ตาม.
ด้วยหินวิญญาณและหนังสือสกิล, รายได้ของผมคือ 130ล้านวอน!
อัญมณีที่ปาร์คฮยอนพูดถึง, ผมไม่รู้ว่ามันราคาเท่าไร.
ในซักวันหนึ่ง! ด้วยความโชคดีในการล่า, ผมสามารถทำเงินได้มหาศาล.
ปราศจากการลังเลเป็นครั้งที่สอง, ผมเรียนสกิลตาพายุ.
ด้วยสายฟ้าฟาด, ไม่มีอะไรที่จะเสริมกันดีกว่านี้แล้ว.
มันเป็นสกิลที่เสริมได้ดีกับทุกสกิลหมู่อย่างแท้จริง.
มากกว่า 30 ล้านวอน, ผมรอที่จะได้รับ 300 ล้านวอน, 3 พันล้านวอน, แม้กระทั้ง 30 พันล้านวอน.
“สกิลแรงค์? อะไรละนั้น…?”
ผมกดที่สกิลแรงค์.
แรงค์ของสกิลถูกแบ่งเป็น S~F, ขึ้นอยู่กับพลังทำลายล้างของสกิล.
สำหรับเวทย์ป้องกันเช่นโล่, แรงค์ขึ้นอยู่กับจำนวนการป้องกันที่มี.
“แน่นอน ตาพายุควรเป็นสกิลแรงค์ F , มันไม่ใช่สกิลโจมตรีมันค่อนเป็นสกิลสนับสนุน… และสายฟ้าฟาดของผมเป็นสกิลแรงค์ C? อะไรกัน…? ผมคิดว่ามันค่อนข้างเป็นสกิลที่แข็งแกร่งเลยทีเดียว.”
ผมเปลี่ยนชุดเป็นชุดสีดำเลือดและออกจากบ้านของปาร์คฮยอน.
เธอกำลังโทรคุยกับใครบางคนระหว่างรอ.
มีรถคุ้มกันหลายคันข้างหน้าและข้างหลังรถที่เราจะนั่ง.
การคุ้มกันระดับนี้ควรเป็นระดับประธานาธิบดีหรือบุคคลสำคัญระดับสูง.
ผมคิดว่ามันเป็นแค่กิลธรรมดาๆ… ผมคิดผิด.
ขณะที่เธอเข้ามาในรถ, ผมถาม, “เรากำลังจะไปที่ไหน?”
“เราจะไปกรอกใบสมัครกิล. มีอย่างอื่นที่ฉันต้องทำอีกหรอ.”
เธอตอบด้วยรอยยิ้ม.
สถานที่ที่มาถึงหลังจากชั่วโมงขับรถที่ยาวนานคือตึกกิลโนเบลส.
เป็นอย่างที่คาดไว้, ขนาดมันใหญ่กว่าที่ผมคิดไว้เป็นอย่างมาก.
‘กิลขนาดนี้ เป็นเพียงแค่กิลระดับกลางหรอ…?’
มีบางอย่างซ่อนไว้ภายใต้รอยยิ้มของเธอ.
หลังจากผ่านทางเข้า, มีคนจำนวนนับไม่ถ้วนมาต้อนรับเธอ.
ด้วยการตอบสั่นๆ, เธอตอบและรีบเดินผ่านพวกเขาอย่างรวดเร็ว.
ในตอนนั้นผมเข้าใจอย่างแจ่มชัดเลยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นหัวหน้ากิล.
ที่ที่เธอพาผมมาคือชั้น 15, สโตนเวิคชอป.
เมื่อประตูลิฟท์เปิด, สถานที่ตรงหน้าผมแตกต่างจากล็อบบี้โดยสิ้นเชิง.
ตรงกลางมีเตาหลอมขนาดยักษ์ซึงดึงดูดความสนใจของผมเป็นอย่างมาก.
‘มันเป็นสิ่งก่อสร้างถูกกฎหมาย?’ ผมเริ่มที่จะห่วง.
–เสียงตีเหล็ก.-
ทุกๆที่, ผมจะได้ยินเสียงเหล็กถูกตี.
หลังจากเดินได้ซักพัก, เธอหยุดเดินตรงหน้าชายแก่.
เธอทักทายด้วยความเคารพ.
“คุณกำลังทำอะไรอยู่, ที่ปรึกษา?”
“อาห้า~ นี้ใครเนี้ย? หัวหน้าสาวของเรามาหรอนี้? เนื่องในโอกาสอะไรกันเนี้ย?”
ดูเหมือนเขากินกิมจิเป็นอาหารเย็น.
การได้ยินเสียงหยาบของชายแก่, มันทำให้ผมเจ็บคอเลยทีเดียว.
ชายแก่หยุดสิ่งที่เขาทำและต้อนรับปาร์คฮยอน.
“มีบางอย่างที่ฉันต้องการขอร้องคุณ. ฉันรู้สึกขอโทษจริงๆที่มาขอร้องคุณบ่อยๆ.”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! มันจะมีเหตุผลอื่นที่จะมาเจอคนแก่อย่างฉันรึ? สิ่งนั้นคืออะไรละ? ก่อนฉันพักหายใจจะทำให้, เร็วเข้า, บอกมา”
การได้ยินเสียงนี้, ‘มันดูเหมือนว่าเขากำลังจะพัก(หยุด)หายใจจริงๆ, บอกเขาไปเร็วเข้า!’
ราวกับได้ยินความคิดผม, ปาร์คฮยอนพูด.
“ฉันต้องการคทาสำหรับจอมเวทย์.”
“ฮ่าฮ่า, ผิดคาด, มีคนใช้คทาอยู่ทุกๆที่, ชนิดไหนละที่คุณต้องการ?”
“อืมม…ไม่เอาแรงค์ C, ขอเป็นกึ่งแรงค์ A.”
“กึ่งแรงค์ A? บางอย่างค่อนข้างยาก, ไอ้หนุ่มนั้นเป็นคนใช้หรอ?”
ชายแก่พูดขณะชี้ค้อนแดงของเขามาที่ผม.
อายุของเขากับกล้ามแขนของเขาทำให้ผมสะดุ้ง.
เห็นเหตุการณ์เช่นนี้, ปาร์คฮยอนห้ามปรามก่อนจะพูดต่อ.
“คุณจะทำมั้ย, ฮืออ?”
“แน่นอน! ฉันจะทำเองทำทั้งหมดด้วยค้อน ตอกๆๆ.”
ชายแก่รับคำขอของปาร์คฮยอนอย่างกระตือรือร้น.
หลังจบการทักทาย, ผมถามเธอ.
“อะไรคือแรงค์ C, กึ่งแรงค์ A?”
“เรากำลังพูดถึงแรงค์ของอาวุธ, มันขึ้นอยู่กับหินเลือด, แรงค์ของอาวุธสามารถเปลี่ยนได้. อาวุธและชุดเกราะสามารถได้นอกเหนือจากการล่า. อย่างที่พูดไป, อาวุธแรงค์ C สร้างจากหินเลือดแรงค์ C , อาวุธกึ่งแรงค์ A สร้างจาก B ครึ่ง A ครึ่ง.”
ผมไม่สามารถซ่อนความประหวาดใจของผมได้ พวกเขาสามารถสร้างอาวุธเองได้.
คลาสของที่ปรึกษาแก่คือแบล็คสมิท.
นอกจากสกิลสร้างที่ได้ตอนเวล 1, แบล็คสมิทไม่ได้รับสกิลหรือไอเทมอะไรเลยจากคลาสของพวกเขา.
นอกจากนี้ที่น่าแปลกใจพวกเขาสามารถได้รับค่าประสบการณ์โดยไม่ต้องสู้กับมอนเตอร์เพื่อเวล.
ทางเดียวที่จะเพิ่มเวลและสกิลเวลคือทุบหินเลือด.
‘คุณสามารถหาเงินได้, แต่มันเป็นชีวิตที่ธรรมดาๆมาก.’
ตามที่ปาร์คฮยอนบอก, ที่ปรึกษาอาวุโสไม่ได้เวลสูงที่สุดในหมู่แบล็คสมิทของกิลโนเบลส.
อย่างไรก็ตาม, เขาสามารถสร้างอาวุธได้ดีกว่าพวกเวลสูง เขามีพรสวรรค์เกินกว่า.
ขณะผมไปยังห้องทำงานของเธอบนชั้น 60.
‘แม่งเอ้ย!’