I Never Run Out Of Mana – ตอนที่ 13. ยั่วยวนใจ(3)

Chapter 13 ยั่วยวนใจ(3)

Chapter 13 ยั่วยวนใจ(3)

‘แม่ง! เขาพูดว่าสร้างคทาจอมเวทย์?’

ด้วยการขอตัวเข้าห้องน้ำ, ผมรีบไปหาชายแก่เร็วเท่าที่ผมสามารถทำได้.

“ที่ปรึกษา… ไม่, คุณที่ปรึกษา, เป็นไปได้มั้ยที่คุณจะไม่ได้สร้างแต่คทา คุณสร้างอาวุธนักรบได้มั้ย?”

“ถ้าฉันทำข้าวขาวได้, ทำไมฉันจะทำข้าวดำไม่ได้?” *สำนวน

ขณะพูด, ชายแก่ตอกค้อนไม่หยุด.

ได้ยินคำพูดของชายแก่, ผมต้องการพูดว่า ‘ฮูเร่~ แบล็คสมิท ฮูเร่ๆ!’ เลยทีเดียว

ขณะซ่อนความตื่นเต้นของผม, ผมสนทนาต่อ.

“งั้น, เป็นไปได้มั้ยที่คุณจะสร้างดาบแทนคทา?”

ได้ยินคำพูดของผม, ชายแก่หยุดตอกค้อนและมองมาที่ผมด้วยความโกรธ.

“นายกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร? นายไม่ใช่จอมเวทย์? ทำไมนายต้องการสิ่งที่นายใช้ไม่ได้? ถ้ามีบางอย่างผิดพลาดสำหรับนาย, ฉันจะซวยเพราะหัวหน้า!”

“ได้โปรด. ผมรับผิดชอบเอง, สร้างมันเป็นดาบ!”

แม้คำขอของผมจะถูกปฎิเสธ, แต่ผมก็ขอร้องซ้ำๆกับชายแก่.

ด้วยความเหนื่อยกับการรบกวนของผม, เขาพูดอย่างหน่ายๆ.

“ไก่อ่อนอย่างนาย, ทำไมดื่อรั้นจัง? เอาล่ะ, ก็ได้, แต่อย่าเสียใจละกัน!”

“ขอบคุณ. ขอบคุณคับ. ถ้างั้น, นี้…”

ผมให้อัญมณีที่ได้จากเคลวี่คอร์แก่ชายแก่.

“นายต้องการฝังมันลงในดาบ?”

“คับ. ได้โปรด!”

“นายมีมากกว่านี้มั้ย? ดาบที่ฉันจะสร้างฝังได้สองเม็ด.”

“ผมมีแค่เม็ดเดียว, ถ้าผมได้มาอีก, ผมจะกลับมาหาคุณ.”

“นายกำลังรบกวนฉัน. เอาล่ะ, ออกไป!”

“คับ, ขอบคุณมากคับ!”

ผมพบว่าหินที่ให้เขาไปคือหินความแข็งแกร่ง +30 ซึ่งใช้กับอาวุธ.

ผมไม่รู้ราคาหรือแรงค์ของมัน, แต่มันเป็นสิ่งที่เสี่ยงชีวิตได้มา. ดังนั้นผมต้องการใช้มันเพื่อตัวเอง.

เขาบอกผมว่าจะเส็จประมาณ 1 เดือน.

ผมกลับไปห้องทำงานของปาร์คฮยอนบนชั้น 60.

ผมอ่านแบบฟอร์มอย่างละเอียด สำหรับผมผมสงสัยว่าคนที่เพิ่งอเวคคนอื่นๆจะถูกปฏิบัติเช่นนี้หรือไม่.

ในส่วนที่ผมไม่เข้าใจ, ปาร์คฮยอนจะอธิบายมันแก่ผม.

ลักษณะนี้ดำเนินไปเรือยๆ, แน่นอน, ผมจำทุกสิ่งเป็นอย่างดี.

หลังจากเส็จการลงทะเบียนกิล, ผมบอกว่าจะกลับมาในอีก 1 เดือนเพื่อมาเอาคทาและเดินทางกลับบ้าน.

***

-เสียงสกิล.-

[ได้รับ 600 ค่าประสบการณ์.]

[ได้รับ 600 ค่าประสบการณ์.]

.

.

เพียง 10 นาที, ผมสามารถเคลียร์ดันเจี้ยนระดับ 12 ได้ด้วยตัวเอง.

มันเป็นไปได้เนื่องจากการผสานของ ‘ตาพายุ’ และ ‘สายฟ้าฟาด.’

แน่นอน, เนื่องจากคูลดาวน์ ‘ตาพายุ’ , ผมเลยต้องพัก 5 นาที.

ระหว่างพัก, ผมก็ขายของดรอปไปเรือยๆ.

ผมรู้สึกไม่ดีกับรุ่นพี่ซางมินที่ผมล่าด้วย. แต่มันไม่มีเหตุผลให้เสียเวลาและล่าด้วยกัน.

เพราะตอนนี้ผมไม่ต้องการล่าที่ดันเจี้ยนระดับ 12 แล้ว ผมต้องการดั้นเจี้ยนที่ค่อนข้างสูงกว่า.

กว่าจะรู้ตัว, เวลาได้ล่วงเลยไปใกล้เดือนสิงหาคมแล้ว.

พรุ่งนี้, ผมต้องกลับไปเรียน.

เหมือนจะนานแต่มันเป็นพักฤดูร้อนสั่น, ผมได้เติบโตในอัตราที่ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้.

เลเวล: 57

ค่าประสบการณ์: [19,254,800/22,884,590] 84%

คลาส: จอมเวทย์

ความสามารถพิเศษ: มานาไม่จำกัด

แข็งแกร่ง: 160

มานา: ∞

คล่องแคล่ว: 10

อดทน: 140

แต้มที่ยังไม่ใช้: 0

สกิลที่เรียนรู้

บอลน้ำแข็ง: Lv. 21 [16,244/180,000]

สายฟ้าฟาด: Lv. 38 [128,456/350,000]

ตาพายุ: Lv.20 [88,243/170,000]

โล่น้ำแข็ง: Lv. 17 [338/140,000]

ล่ามากกว่า 12 ชม ต่อวัน, เวลของผม 57 ในที่สุด.

สำหรับอเวคทั่วไป, ไม่มีทางเวลเร็วเช่นนี้, มันควรจะเป็นผลลัพธ์ของการล่าเป็นปี.

และความแตกต่างจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อเวลสูงขึ้น.

หลังเวล 20, ค่าประสบการณ์ที่ต้องการในการอัพเวลจะเพิ่ม 1 ล้านต่อเวล.

อย่างไรก็ตาม, หลังเวล 30 อัตราการเพิ่มจะกลายเป็นมหาศาล.

มันแทบจะเป็นการคัดผู้อ่อนแอออก.

แม้นี้จะเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้าย, อย่างน้อยที่สุดก็แค่ผมต้องเสียเวลาเก็บเวลเพิ่มมากขึ้น.

ในกรณีนั้น, มันจะทำให้คุณติดอยู่ที่ๆหนึ่งหรือจุดๆหนึ่งเป็นเวลานาน .

แม้จะยังงั้น, เทียบกับหลายๆคน, ผมก็เร็วกว่าอยู่ดี.

สำหรับสกิลโจมตรี, การเก็บเวลก็ไม่ได้ยากเท่าไร.

สำหรับสกิลโล่, มันจำเป็นต้องถูกโจมตรี, ดังนั้นมันจึงสกิลเวลขึ้นยาก.

ถ้าผมมีเงินมากๆ, ผมจะใช้สกิลโล่ที่หลากหลายผลัดเปลี่ยนไปเรื่อยๆเพื่อเพิ่มสกิลเวล, แต่ตอนนี้, มันยากมากที่จะทำ.

ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะใช้หนี้ แต่เก็บเงินซื้อหนังสือสกิลแทน.

สกิลที่ผมจะซื้อเป็นสกิลที่มีราคามหาศาล.

ดันเจี้ยนระดับ 12? ไม่, ผมกำลังเตรียมบางอย่างเพื่อเหนือกว่าระดับ 13.

15 วันหลังจากไปที่กิลโนเบสล, ผมได้รับข้อความจากปู่ที่ปรึกษา.

ด้วยความมั่นใจ, ผมไปที่ชั้น 15 ของกิลเพื่อไปรับดาบของผม.

อย่างไรก็ตาม, ผู้ที่จะนำดาบไปส่งที่บ้านผมไม่ใช่ปาร์คฮยอนแต่เป็นเลขาฝึกหัด.

แม้อาวุธจะประกอบด้วย S~F, แต่แรงค์ของอาวุธไม่ได้วัดโดยระดับของหินเลือดเพียงเท่านั้น.

แรงค์ของอาวุธสามารถวัดโดยความสามารถของอเวค.

เพื่อใช้อาวุธที่ถูกสร้าง, คุณจำเป็นต้องมีค่าสถานะที่มันต้องการ.

ค่าที่ต้องการถูกวัดด้วยระดับของหินเลือดที่ใช้.

ค่าสถานะที่วัดไม่ได้ขึ้นอยู่กับหินจำเพาะทั้งหลาย แข็งแกร่ง, มานา, คล่องแคล่ว, หรืออดทน, แต่ขึ้นอยู่กับหินเลือด.

ดังนั้น, ค่าที่ต้องการจะขึ้นอยู่กับระดับของหินเลือดที่หลอม.

ดาบคลาสนักรบที่ผมได้มาเป็นกึ่งแรงค์ A, ซึ่งต้องการ 200 แต้มค่าความแข็งแกร่งเพื่อใช้.

เพราะผมมีค่าสถานะไม่พอ, ไม่ว่าผมจะพยายามยังไง, ผมก็ไม่สามารถยกดาบที่ดูเหมือนเบานี้ได้.

ดังนั้น, โดยไม่มีทางเลือก, ผมขอให้เลขาของปาร์คฮยอนช่วยเอามันไปส่งที่บ้านผม.

โชคดี, ไม่มีการได้ถามถึงทำไม่ไม่ใช่คทาแต่เป็นดาบ.

ข้างหน้าผม, มีดาบที่ผมไม่สามารถแม้ที่จะใช้ได้.

มันเป็นหนึ่งในดาบระดับกลางถึงสูงที่มนุษย์สร้างขึ้น.

หลังจากรับดาบมา, ผมใส่แต้มเวลอัพทั้งหมดของผมลงค่าความแข็งแกร่ง เพราะผมมีเหตุเพื่อที่จะใช้ดาบนั้น.

***

-เสียงปลุก.-

“อืออ…”

วันใหม่เริ่มขึ้นด้วยเสียงปลุกตอนเช้า.

อย่างไรก็ตาม, สำหรับการล่า, วันนี้มันเป็นเช้าที่หดหู่.

หลังอาบน้ำ, ผมทานอาหารที่แม่ทำให้.

ถ้าผมทำได้, ผมจะลาออกจากโรงเรียนและใช้ชีวิตกับการล่า.

โอกาสสูงสุดที่จะอเวคอยู่ระหว่างช่วงอายุ 15~19.

ในโรงเรียนปกติ, อเวคและนันอเวคจะถูกสอนเหมือนกัน.

เป้าหมายของโรงเรียนคือเพื่อสอนทั้งอเวคและนันอเวคไปพร้อมๆกัน.

สำหรับสังคมของพวกเราตอนนี้, อันตรายจากการรุกรานของมอนเตอร์และพอร์ทัลระเบิดเป็นสิ่งสำคัญ, แต่ในเวลาเดียวกัน, พวกเขาก็รู้สึกได้ถึงภัยคุมคามของเหล่าอเวค.

จึงมีการกำหนดให้นักเรียนที่อเวค, ไปรายงานตัวที่สภาเกิดขึ้น.

ดังนั้นอเวคจึงกลายเป็นบุคคลพิเศษ.

คุณเป็นสมบัติของชาติ แต่คุณก็สามารถเป็นอาญากรได้ในเวลาเดียวกัน.

ถ้าอเวคสร้างปัญหาในโรงเรียนหรือสังคม, บทลงโทษที่พวกเขาได้รับจะมากกว่าปกติ.

อย่างไรก็ตาม, สำหรับการเพิ่มทักษะสังคมของคุณและเข้าเรียนปกติโดยไม่สร้างปัญหา, เมื่อจบการศึกษา, คุณจะได้รับคำแนะนำกิลและไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียน.

สำหรับอเวค, ค่าเล่าเรียนไม่มีความหมายอะไร.

แต่, คำแนะนำกิลเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นในสายตาของอเวคเป็นอย่างมาก.

อเวคมีการร้องเรียนเกี่ยวกับสังคมปัจจุบัน.

อเวคเหนือกว่านันอเวค, สิ่งที่พวกเขาต้องการคือผู้แข็งแกร่งกลืนกินผู้อ่อนแอ.

และอเวคชนชั้นล่างจะถูกควบคุมบังคับโดยเหล่าอเวค.

ง่ายๆเลย, พวกเขาต้องการระบบชนชั้น.

พวกเขาไม่ได้รวมกลุ่มกันเพื่อมั่วสุมหรือต่อสู้เพื่ออำนาจ, พวกมันไม่ได้อยู่ในสายตา, แต่พวกมันอยู่ทุกๆที.

อย่างไรก็ตาม, เหตุการณ์ครั้งหนึ่งเกิดขึ้นในขณะนั้นมันได้มอบความกลัวให้แก่เหล่านันอเวคเกี่ยวกับผู้อเวค.

หนึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการก่อการร้ายบุกรุกศูนย์กลางวิจัยพืช.

หกปีที่แล้ว, มันไม่เกินจริงเลยที่จะเรียกว่าพืชซึ่งพวกเขาได้ระเบิดสถานที่นั้นซึ่งเป็นแห่งประทังชีพของเหล่ามวลมนุษย์ทุกคน.

เนื่องจากความสำคัญของพืช, ที่นั้นจึงมีอเวคการ์ดจำนวนมาก.

อย่างไรก็ตาม, มันเกิดจากการที่คนคนหนึ่ง.

“โอ้ ชิบละ!, ฉันกำลังไปสายแล้ว!”

***

ไม่มีอะไรต่างจากเดิมเมื่อถึงโรงเรียน.

ทางเข้าโรงเรียน, เขาข้างทาง, ห้องเรียน, ทุกอย่างเหมือนเดิม.

ด้วยความคิดมากมายในใจ, ผมเข้าห้องเรียน, ทันใดนั้น.

“เฮ้, ไอ้ไร้ค่า! วันนี้เป็นวันดีของแกนะ? เอาเงินนี้ไปซื้อขนมปังกับโซดามาให้ฉัน.”

-เสียงเหรียญตกบนโต็ะ.-

Comment

Options

not work with dark mode
Reset