Chapter 14 ที่ที่สูงกว่า
-เหรียญตกบนโต็ะ.-
500 วอนที่แจฮยอกโยนมากำลังหมุนบนโต็ะ.
เขาดูน่าสมเพช.
“แกอยากจะเจ็บตัวอีกหรอ? สายตาอย่างนั้นหมายความว่าไง, ไอ้ตูดหมึก!”
มันดูเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยน.
‘…วันนี้ผมลืมเอากรรไกรตัดเล็บมา! มันเป็นความผิดพลาดที่ผมเสียใจที่สุดในชีวิต. มีอันหนึ่งได้มาจากปู่ที่ปรึกษา…’
ต่อมา.
-ต่อย.-
หมัดของแจฮยอกลอยมาถูกอกของผม.
“แกแปลกไปนะ?”
ด้วยการก่นด่าและหมัดของเขา, มันทำให้ทุกคนสนใจ.
ผมส่ายหัวเบาๆ.
เป็นลม? ไม่, มันแทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย! จริงๆแล้ว, ผมรู้สึกค่อนข้างพอใจ.
ทุกสิ่งที่ผมเสียไป, ตอนนี้ผมได้รับคืนมาหมดแล้ว.
อย่างแรก, ด้วยหนึ่งหมัดของเขา, ผมมั่นใจว่าเขาต้องเวลประมาณ 40 มันเป็นเวลาเพียง 1 ปีนับตั้งแต่เขาอเวค.
แม้ว่าเขาจะเป็นอเวคคลาสนักรบ, เขาก็ไม่สามารถเน้นลงค่าแข็งแกร่งได้ในเริ่มต้น.
มันดูเหมือนว่า, ในเริ่มต้นเขาเน้นความอดทนของเขาและเพียงช่วงหลังพักฤดูใบไม้ผลิเขาจึงเริ่มลงค่าความแข็งแกร่ง.
ถ้ากรณีนั้น, ค่าแข็งแกร่งของเขาควรที่จะไม่ถึง 50 แต้ม.
ถ้าคนปกติถูกต่อยด้วยหมัดนี้, พวกเขาควรจะตายทันที ณ ตรงนั้น.
แต่ไอ้ขยะนี้, ต่อยได้ดีจริงๆ.
ผมเป็นคนดีจริงๆ, ในความคิดที่จะเมตตาเขา.
‘ไอ้ขยะนี้เป็นเป็นศพแน่! ฮ่าฮ่า, ไอ้สารเลว, อย่างมากแกควรเริ่มร้องขออภัยฉันนะ!’
ผมหันหัวและมองไปที่เขาโดยทันที.
18 ปีของชีวิต, นี้เป็นครั้งแรกที่ผมแสยะยิ้ม.
ขณะที่เขาเห็นอย่างนั้น, เขาก่นด่าผมต่อและเริ่มต่อยมาอีกหมัด.
จากนั้น.
-เสียงมือคว้าหมัด.-
ด้วยแรงกระทบนิดหน่อย, ผมคว้าหมัดอย่างง่ายดาย.
“อะ-อะไรกัน? ปล่อยฉัน! ไอ้เวร! สวะ!”
ดูเหมือนว่าเขาจะตกใจมากที่มือของเขาถูกคว้าไว้ได้. เขาพยายามทุกวิธีทางเพื่อที่จะเอามือของเขาออกมา.
เหล่าผู้ที่มองดูรู้สึกสับสนงงงวย.
นอกเหนือขยะฮวงแจฮยอก, ผมไม่ได้โกรธหรือเสียใจกับเพื่อนร่วมห้องที่เหลือ.
ถ้ามันเป็นเรื่องของพวกเขา, ผมก็ทำแค่เพียงมองดูเหมือนพวกเขาเหมือนกัน.
‘ใช่แล้ว, สำหรับวันนี้, ผมจำเป็นต้องเป็นอาจารย์ผู้ดูแลกฎระเบียบให้ชายคนนี้ซะหน่อยแล้ว.’
ขณะผมเลิกคิด, ผมหัวเราะและมองตรงเข้าไปในตาของแจฮยอก.
-เสียงประกอบรอยยิ้มปีศาจ.-
จากนั้น.
-ต่อย.-
“กึก.”
-เสียงอึกทึกจากโต็ะล้ม.-
ขณะปล่อยมือของแจฮยอก ผมต่อยหมัดไปที่อกของเขา.
จากนั้น, เขาล้มลงในทันที.
“เมื่ออ่อนแอ, นายจะแข็งแกร่ง, แต่เมื่อแข็งแกร่ง, นายจะอ่อนแอ.”
ผมพูดขณะนั่งบนตัวแจฮยอก.
“นี้.”
-ต่อย.-
“ไอ้ขยะมนุษย์.”
-ต่อย.-
“ทำไมถึงมีโลกเ_ยๆนี้กัน. ไอ้ตูดหมึกเอ้ย.”
-ต่อย.-
ผมต่อยอีกหมัดไปที่อกของเขา.
ความโกรธ ณ ตอนนั้นซ้อนทับกับความโกรธที่ผมสะสมไว้นาน.
-ฉากสยอง.-
ผมลง 160 แต้มใส่ค่าความแข็งแกร่ง.
ทุกครั้งที่ต่อยแจฮยอก, เขาจะกรีดร้องเสียงสูงจนปอดสะเทือน.
แม้จะยังงั้น, เขาดูเหมือนว่ายังมีความทรนงตัวหลงเหลืออยู่, และมองไปที่ฝูงชน.
ความโกรธของผมที่ถูกปลดปล่อย, มันเหมือนยังกับเขื่อนแตก.
“เจ็บใช่มั้ยล่ะ? แต่นายไม่ตายเร็วหรอก, และนายไม่เลือดไหลหรอก. ทำไมหรอ? เพราะค่าความอดทนที่ดีของนายใช่มั้ยล่ะ?”
-หลังแหวน.-
ตอนนี้มือของผมปะทะเข้าเบ้าแก้มของเขา.
อีกครั้ง.
-หลังแหวน.-
“อ๊าก! ไอ้เวร!!!!! ฉันจะฆ่าแก!!!”
มันดูเหมือนว่าเขาถูกตบหน้าจึงทำให้เขาอับอาย, ดังนั้นเขาจึงพยายามที่จะขัดขืนอย่างสุดกำลัง.
อย่างไรก็ตาม.
เพื่อที่จะให้แน่ใจว่าเขาจะขยับไม่ได้, ผมตรึงแขนทั้งสองของเขาด้วยขาของผม สิ่งที่เขาทำได้เพียงอย่างเดียวคือการดิ้นอย่างเปล่าประโยชน์.
“ฉันเดาว่านายยังทนได้อีกเยอะ? มันใช่อยู่แล้ว, ฉันจะได้ไม่รู้สึกผิดที่ต่อยตีนาย. กรุณาด้วย, มาต่อกันเลยดีกว่า!”
-ต่อยๆ ตบๆ.-
นอกจากเบ้าแก้มของเขา, ผมต่อยที่ที่ร่างกายของเขาตรงจุดลับ.
หลังจากนั้น, เขายกตัวท่อนบนขึ้นและพยายามพูดอย่างช้าๆ.
“เป้า. เป้า. ไอ้เวร. แกไม่มีที่อื่นให้ทำแล้วหรอ.”
‘ชายคนนี้, ยังปากดีอยู่เลย.’
แม้เขาจะเป็นคนที่ยังมีชีวิต, แต่กลิ่นเน่าเฟะได้ลอยออกมาจากเขา.
ผมไม่ต้องการได้ยินซักคำจากไอ้ขยะนี้.
หลังคิดเส็จ, ผมเพิ่มไปอีกขั้นกับชายปากดีนี้.
-ฝ่าเท้า.-
“แกไม่รู้หรอว่าฉันเป็นใคร? ฉันเป็นสมาชิกกิลโนเบสล… เห้ยย, เห้ย, อย่าเข้ามา!”
ขณะผมเขาใกล้, เขาหยุดพูดและสั่น.
โอ้โห้? สมาชิกกิลโนเบสล? ‘ยินดีต้อนรับ, ไอ้น้องชาย!’
จากนั้น.
-ประกายสายฟ้า.-
ผมยกมือขึ้น.
“เห-เห้ยย! อย่า-อย่าเขามาใกล้ฉัน!”
ขณะผมยกมือขึ้น, เขาสั่นอย่างรุนแรง.
การมองไปที่เขา, ผมเริ่มที่จะหัวเราะ.
จากนั้น, ผมลดมือลงและลูบหัวของเขาเบาๆ.
“คาบเรียนกำลังเริ่มแล้ว. วันนี้ไม่ใช่เพียงแค่วันเดียวที่พวกเราจะคิดบัญชีกันหรอกนะ, ใช่มั้ย? แจฮยอก?”
ได้ยินคำพูดของผม, แจฮยอกสั่นด้วยความโกรธและวิ่งหนีออกจากห้องไป.
เพื่อนร่วมห้องรอบๆผม, ทั้งหมดมองมาที่ผมด้วยความกังวล, คงคิดว่า, ‘ปีศาจตนใหม่ได้กำเนิดขึ้นแล้วหรอนี้?’
ถึงพวกเขา, ผมพูด.
“ฉันจะไม่ว่าพวกนายหรอก! ถ้าเป็นฉันฉันก็จะทำแบบที่พวกนายทำ. แต่พวกนายรู้มั้ย? สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลกไม่ใช่แจฮยอก, แต่มันคือการนิ่งเงียบ!?”
‘ว้าว, ฉันเท่จริงๆ! นี้คือเหตุที่ทำไมสาวๆถึงตกหลุมรักผม! คืนนี้, ถ้าฉันทำได้ดีจริงๆ, ฉันจะรู้สึกเหมือนเป็นช่วงที่ดีที่สุดในชีวิตของฉัน!’
มันคือทางที่ผมภาคภูมิใจ. ผมหวังว่าผมคงไม่จำสิ่งนี้ในอนาคต…
-สัญญาณดัง.-
สัญญาณที่หมายถึงคาบแรกหลังหยุดฤดูร้อนดังขึ้น.
ในไม่ช้าอาจารย์ได้เข้ามาในห้อง, ผมยกมือและพูด.
“อาจารย์, แจฮยอกไปเข้าห้องน้ำคับ!”
***
หลังจากนั้น, แจฮยอกไม่ได้มาโรงเรียนเป็นอาทิตย์. เขาต้องอับอายเป็นอย่างมาก…
โอ้ เยี่ยม, ผมไม่ต้องสนใจ. ผมสามารถรู้ได้ว่าเขาจะทำอะไรผ่านหัวหน้าปาร์คฮยอน.
เขากำลังฝึกอย่างหนักเกี่ยวกับดันเจี้ยนระดับ 12.
ทุกครั้งที่ผมต้องการสั่งสอนเขา, ผมสามารถไปที่นั้นง่ายๆและสั่งสอนเขา.
หลังเหตุการณ์นั้น, ผมการเป็นดาวเด่นที่โรงเรียน.
จากนักเรียน 1000 คน, มีเพียง 3 คนที่อเวค, และหนึ่งในนั้นคือผม.
ผมมีอัตราการเติบโตที่ไม่น่าเชื่อในช่วงพักฤดูร้อน, และระดับสูงที่สุดใน 3 คน.
ผมเคยมองข้ามการนอนทั้งวันของแจฮยอกไป, แต่ตอนนี้ผมจะเป็นเหมือนเขาแล้ว.
ถ้าการศึกษาไม่ถูกกำหนดโดยประเทศ, ผมจะหนีและออกไปล่า.
5 โมงเย็นถึง 5 โมงเช้า, ผมอยู่ที่พื้นที่ล่า.
ผมไม่สามารถเลิกล่า 12 ชม ต่อวันได้.
เพราะผมไม่มีเวลาหยุดพัก, ผมจึงสามารถล่า 3-4 ชม มากกว่าอเวคทั่วไป.
และเพราะเหตุนี้, เมื่อวาน, ผมจึงถึงเวล 61.
ด้วยเงินทั้งหมดที่ได้รับ, ผมจึงสามารถซื้อแหวนกระโหลกหนึ่งวงและหนังสือสกิลหนึ่งเล่มได้ และตอนนี้ผมกำลังออกจากร้าน.
หลังรอมา 4 วันตั้งแต่สั่งไป, ในที่สุดผมก็ได้รับแหวน.
มันเป็นแหวนที่นิยมเป็นอย่างมาก.
แหวนนี้ +20 ความแข็งแกร่ง.
20 ความแข็งแกร่งประมาณ 25,000,000 วอน.
แน่นอน, ถ้าผมจะนับเวล, มันเพิ่มถึง 4 เวล.
อย่างไรก็ตาม, มีสิ่งที่น่าตกใจกว่านั้น, นั้นคือราคาของหนังสือสกิล.
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงหนังสือสกิลคลาสนักรบ, แต่ราคามันคือ 120,000,000 วอน.
เพื่อดันเจี้ยนที่สูงกว่า, มันเป็นทางเลือกที่ผมสร้างขึ้น.
2 วันก่อน, เพื่อทำให้แน่ใจคนเก็บนี้ไม่ต้องทวง, ผมให้พวกเขาไป 100,000,000 วอน.
มันเป็นการเตื่อนอย่างหนึ่งเพื่อไม่ให้พวกมันมาตื้อพวกเราในช่วงนี้.
ถ้าผมรักษาระดับการเติบโตนี้ได้, เมื่อนั้นผมเดาว่าผมต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องวิธีใช้เงินของผม.
ผมไม่มีความคิดจะจ่ายหนี้ที่เหลือ, ค่าชดเชยผมจะจ่ายหลังจากขยี้พวกเขา.
ด้วยความคิดเหล่านั้น, ผมคิดว่าผมจำเป็นต้องโน้มน้าวแม่ของผม…