I Never Run Out Of Mana – ตอนที่ 28. Growth. Revenge. (4)

28. Growth. Revenge. (4)

มันนานแค่ไหนแล้ว

สายตาของผมมองไปที่นาฬิกา

เหลืออีก20นาทีก่อนที่ดันเจี้ยนจะปิดลง

ชายสองคนที่หยาบกร้านเป็นเหมือนกับผ้าขี้ริ้วที่โสมมภายใน30นาทีที่ผ่านมา และถูกโยนลงไปอยู่ในมุมหนึ่งของดันเจี้ยน

เมื่อต้องการที่จะออกจากดันเจี้ยนผมต้องการล้างมอนเตอร์ให้หมด

ภายใน10นาทีในดันเจี้ยนก็เต็มไปด้วยหินเลือดของแมนติคอร์.

คิดว่าทางออกจะเปิดขึ้นเมื่อผมหันกลับไป

ทันใดนั้นดันเจี้ยนเลเวล12ที่ผมเคยแวะมาเมื่อสองเดือนก่อน แคลโวคอร์ก็เกิดขึ้น.(เพื่อใครลืมบอสลับที่ดรอปหิน10M)

‘อ่าถ้าฉันรู้ว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น ฉันน่าจะรีบๆตีไอ้ลูกกระหรี่ทั้งสองนี้ไวๆ.’

10นาทีสุดท้าย

กับการเจริญเติบโตที่ผมประสบความสำเร็จผมก็สามารถดูแลมันได้อย่างง่ายดาย.

การล่าแคลโวคอร์ครั้งสุดท้ายผมสามารถที่จะได้รับหินเลือด,หินวิญญาณ,อัญมณีและหนังสือสกิล.

ผมกำลังมองแรร์ดรอปตรงหน้าอีกครั้ง

พลังจากลมหายใขหรือพิษที่เคยถูกต่อยครั้งนึงและทำให้ผมตกอยู่ในอันตรายไม่ส่งผลกับผมอีกต่อไป

ไม่เหลือสิ่งใดอยู่บนพื้นและการโจมคีเป็นวงกว้างของมันผมก็ไม่ให้มันได้มีโอกาศได้ใช้การโจมตีระยะไกลนั่น.

มันใช้เวลาไม่นานก่อนที่มันจะตายพร้อมกับเสียงโหยหวนที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยิน.

หินเลือดที่อยู่เหนือตัวของมันเรืองแสงและงดงามเช่นเคย

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหนังสือสกิลและหินวิญญาณก็ตกลง

การจับคู่ของชื่อบอสลับมันดูเป็นอะไรที่เหมาะสมกับมันมาก.(หมายถึงของที่ดรอปทั้งหมด)  1

‘โอเค ดูเหมือนกับว่าฉันพอจะมีเงินเหลือบ้าง.’

เนื่องจากมีเวลาไม่มากก่อนที่ดันเจี้ยนจะปิด ผมได้หยิบสมุดและเก็บของดรอปอื่นๆก่อนที่จะลากชายอีกสองคนไปกับพื้นอยู่ข้างหลังของผม.

หลังจากการรักษาพวกเขาเสร็จแล้วผมก็มุ่งหน้าไปที่ศูนย์หลังจากออกจากดันเจี้ยน

พวกเขารักษาระยะห่างจากผมโดยที่ผมไม่พูดอะไร ผมถามพวกเขา

แน่นอนว่าผมไม่ลืมที่จะเก็บโล่ของผมด้วย

“มันเป็นช่วงเวลาที่ดีไหม?”

“…..”

“…..”

ผมถามพวกเขาด้วยรอยยิ้มและมองตรงไปที่เขาและตาของพวกเขาก็ตอบสนองด้วยความกลัวก่อนที่จะก้มมองลงไปที่พื้น

ผมเป็นคนที่สังหารซัคคิวบิ.

ผมจะไม่ฆ่าคนแล้วในวันนี้

แต่การทำผิดทั้งหมดไม่สามารถชำระล้างได้ทั้งหมดในเวลา1ชั่วโมง

ผมเดินออกมาจากทางออกอย่างรวดเร็วและผมก็หยุดถามพวกเขา.

“เฮ้ คุณบอกว่าผมเป็นหนี้เท่าไรนะ?”

“…..”

“ฮ่า…อย่าให้ผมต้องพูดสองรอบ เร็วๆและตอบมา.”

“ใช่…ใช่! หนี้สินที่เหลืออยู่4.1พันล้าน”

“4.1พันล้าน? ว้าว พวกคุณมั่นใจอะไรมากขนาดนี้ หนี้เดิมคือ 200ล้านวอน แต่ตอนนี้มันเพิ่มขึ้นถึง4.1พันล้าน? คนแคระที่อยู่ข้างนอกนั่นเป็นCEO?

“ใช่….”

“แม้ว่าผมจะไม่จ่ายนี้แต่มันก็ไม่มีปัญหาใหญ่ใช่มั๊ย?”

“นะ-นั่น…”

จากนั้นมือที่ผมกำลังถือดาบอยู่กะแทงเข้าไปที่พื้นเสียงดัง เปร้ง ในขณะที่ผมรอคำตอบของพวกเขา.

เมื่อได้ยินเสียงพวกเขาสั่นด้วยความกลัว

“เอาหล่ะฉันจะออกไปที่นั่นและจะให้คนแคระนั่นเข้าใกล้ความตายสักหน่อย แต่ชายคนนั้นไม่ได้เป็นอเวคดังนั้นการรักษาจะไม่สามารถใช้ได้กับเขา ถ้าผมตีเขาไปสักทีเขาก็จะตายอย่างรวดเร็ว คุณมีอะไรแนะนำผมมั่งไหม?”

“คุณกำลังพูดอะไร.”

“ผมกำลังพูดอะไร?มีอีก4นาทีก่อนที่ดันเจี้ยนจะปิดดังนั้นคุณจะต้องให้คำตอบที่ผมชอบใจเพื่อให้คุณกลับออกไปและรอดจากความพินาศด้วยตัวของคุณเอง นั่นแหละสิ่งที่ผมถาม!”

จากนั้นคนที่เป็นนักรบก็พูดขึ้นอย่างรวดเร็ว

“ระ-เราจะดูแลทุกอย่างเอง โปรดไว้ชีวิตพวกเรา.”

“นั่นเป็นคำตอบที่ผมชอบ แต่พวกคุณไม่ใช่CEOเขาเป็นเจ้าของถูกมั๊ย? บอกตรงๆตามเดิมผมมีแผนจะคืนเงินทั้งหมดให้กับพวกคุณ นั่นมันหมายถึงก่อนที่พวกคุณจะมาและระรานพอดี.”

“… บอกตรงๆ เจ้านายของเราไม่สามารถทำอะไรได้.”

“อ่า เป็นอย่างนั้น งั้นก็ให้CEOมีชีวิตต่อไป.”

ผมใช้ดาบเจาะ

ดาบของผมล้อมรอบพวกเขาทั้งสอง

เนื่องจากเป็นสกิลตามความคิดของผม ผมไม่ได้ทำร้ายเขา

“ดูแล.”

ด้วยคำพูดเหล่านั้นผมพยายามทำให้มันดูเย็นชา

จากนั้น.

“มะ-ไม่! มันไม่ใช่อย่างนั้น เราจะดูแลมันเอง.”

คนโง่ที่กำลังตื่นตระหนกและกำลังหวาดกลัว

“งั้นก็ไปทำมันสิ.”

“เอ๋?”

“โฮล, บัด, และไฟสต๊อก.”

“… คุณกำลังพูดอะไร?”

“เหลืออีก50ล้านวอนจากยอดเงินเดิม สำหรับการที่จะออกให้ออกจากนรกของพวกคุณผมจะให้500ล้านวอนกับหนังสือสกิลทั้งสามเล่มนี้ในการตัดหนี้ด้วยเหมือนกัน หนังสือสกิลจะมีค่าใช้จ่ายต่อเล่ม400ล้านวอนใช่มั๊ย ถ้าคุณตอบช้าดูเหมือนว่าผมต้องเรียกดาวตกมาเพื่อเร่งคำตอบจากคุณ?”

“นั่นมันไม่ใช่! ผมจะหาหนังสือสกิลทั้งหมดสามเล่มมาให้คุณเอง”

“แน่นอนคุณต้องเอาให้ เราได้ทำข้อตกลงเกี่ยวกับการค้า แต่ถ้าเจ้านายของคุณแสดงใบหน้าที่หน้าเกลียดบนบ้านของผมอีกครั้ง…คุณรู้ใช่มั๊ยว่าจะเกิดอะไร?”

“ได้ ใช่!”

“โปรดช่วยรออีกหนึ่งสัปดาห์ แลัวเราจะเดินออกไปในตอนนี้.”

หนังสือสกิลทั้งสาม โฮลและบัน ไม่แพงเท่าไร

แต่มันแทบจะไม่มีขาย หนังสือสกิลมีอัตตราดรอปที่ต่ำมาก

หากมีความต้องการที่ขาดแคลน ราคาของมันจะเพิ่มขึ้นตามธรรมชาติ.

แต่สำหรับผลของสกิลนอกจากจะใช้มานาเยอะแล้ว ระยะเวลาของมันก็น้อยเกินไป ผมจึงจัดมันอยู่ในสกิลที่อ่อนแอ.

จากนั้นผมก็ได้ค้นหาทางเว็บไศต์ออนไลน์อย่างเป็นทางการมันก็ไม่มีขาย

อย่างไรก็ตามผมคิดว่าพวกเขาพยายามหาซื้อจากตลาดใต้ดินก็เป็นได้.

บัน(ผูกมัด)จะมีรากออกมาจากพื้นและมัดมันไว้

เมื่อโกเลมคว้าหินอยู่ในมือของมันก็ที่มันจะคว้างผมจะผูกมันไว้กับขาของเป้าหมาย.

เมื่อเลเวลของสกิลเพิ่มขึ้นระยะเวลาและความแรงของมันจะเพิ่มขึ้นและสามารถมัดเป้าหมายได้มากขึ้น

เวทย์ที่สอง โฮล(ยึด) เป็นสกิลที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถเคลื่อนไหวได้.

มันก็เหมือนกับบันที่ระยะเวลาของมันขึ้นอยู่กับเลเวลและเป้าหมาย แต่จะเป็นอย่างไรถ้าผมสามารถบดขยี้พวกเขาด้วยสกิลระดับสูงอย่างไม่น่าเชื่อ?

มัดเท้าของมันด้วยบันจากนั้นก็ใช้โฮลเพื่อป้องกันไม่ให้มันขยับมือ ผมสามารถทำให้พวกเขากลายเป็นตุ๊กตาที่ยังมีลมหายใจเท่านั้น.

ทั้งสองสกิลมีไว้สำหรับอาชีพพรีส

พรีสก็เปรียบได้กับรถถังที่มีเวทย์รักษาและสนับสนุนอยู่ในแนวหลัง.

ตั้งแต่ที่เน้นเรียนไปที่เรื่องสุขภาพและความคล่องตัว โฮลและบันเป็นสกิลที่ไม่มีประสิทธิภาพ.

* * *

เราออกจากดันเจี้ยนและCEOกำลังหลับอยู่ในรถ

“โปรดเอาได้ตัวนี้มาที่นี่.”

แทนที่จะรีบตอบพวกเขาวิ่งเข้าไปในรถ

มันผ่านไปประมาณ2นาทีได้มั้ง?

ทันใดนั้นCEOได้โดนตบเข้าที่แก้ม

แต่ก่อนพวกนั้นมักจะเป็นฝ่ายทำคนอื่น…

คนที่ถูกตบคว้าไปที่ต้นขาและกระแทกกับพื้น

“โอ้โห?”

เจ้านายถูกลากมาที่นี่ด้วยลูกน้องของเขา.

“คุณได้ยิน ใช่มั๊ย?”

“…..”

“คุณยังไม่รู้สิ่งที่เกิดขึ้น?อย่างไรก็ตามส่งมอบเอกสาร.”(ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นเอกสารแต่เขาใช้ charter ที่แปลว่า เอกสิทธิ์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เลยคิดว่าน่าจะเป็นสัญญากู้ยืม)

“…..”

บอสเงียบและดึงเอกสารออกมาจากกระเป๋าของเขาด้วยมือที่สั่นเทา.

ผมฉกเอกสารนั่นออกมาและโยนขึ้นไปบนอากาศก่อนที่จะใช้ท่าดาบเจาะฟันเข้าไปจนมันกลายเป็นฝุ่น.

เมื่อเห็นความสามารถของผมตาของเขาก็เบิกกว้าง

“มันควรจะมีเอกสารว่าผมเป็นคนจ่ายหนี้แล้วถูกมั๊ย? เพื่อที่คุณจะไม่สามารถพูดอย่างอื่นลับหลังผมได้.”

“ใช่…..”

“แต่เนื่องจากผมได้เรียนรู้ว่าการเคารพกฎที่พวกคุณพูดเสมอผมจึงไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงไม่จ่ายเงินให้กับคุณได้.”

“…..”

“มีอะไรผิดไปหรอ? การแสดงออกของคุณดูไม่ดี.”

“ไม่มีอะไร….ไม่มีอะไรทั้งนั้น”

“งั้นเราก็เอาเอกสารนั่นมาสักที อ่า! ตั้งแต่ที่ผมขอหนังสือสกิลที่เป็นคำขอพิเศษให้พวกเขาหามาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โอเค๊?”

* * *

สักครู่ต่อมา

ไหล่ของพวกเขาตกและก็หายตัวออกไป

ในที่สุดผมก็แก้ปัญหานี้ได้.

ผมได้ให้ไอ้โง่ทั้งสองซ้อมCEOอย่างรุนแรงเพื่อที่จะทำให้แน่ใจว่าเขาจะไม่ทำอะไรอย่างอื่น.

อ่า ที่ผมพูด หมายถึงอันตรายทางร่างกายอย่างแน่นอน.

ขณะที่นั่งรถแท๊กซี่กลับบ้านผมได้จัดระเบียบความคิดของผม

คุณไม่สามารถทำอะไรได้โดยปราศจากอำนาจ.

แต่ด้วยอำนาจเหล่านี้ ผมสามารถจัดการมันได้อย่าง่ายดาย.

ผมต้องแข็งแกร่งขึ้น

ต้องแข็งแกร่งและหยาบก้านพร้อมๆกัน

ผมไม่ได้มีความติดที่จะผดุงความยุติธรรม

มันไม่ว่างพอที่จะอยู่กินและมรชีวิตด้วยตัวเองบนโลกใบนี้

* * *

“ขอบคุณมาก.”

หลังจากที่มาถึงหน้าบ้าน ผมก็ลงจากรถแท็กซี่

ในขณะที่กำลังอาบแสงแดดในตอนเช้าผมก็มุ่งหน้าเข้าไปที่บ้าน.

ตอนนั้นเอง.

[ประกาศจากกิลดิ์]

รอบที่สองกับกิลดิ์เอ็มไพร์

เวลา: xxxx ปี xx เดือน xx วัน

สมาชิกกิด์ต้องมาเข้าร่วม

ข้อความจากกิลดิ์โนเบลส

“รอบสองกับเอ็มไพร์? นี่มันต้องเป็นเรื่องตลกแน่ๆ.”

ผมคิดอยู่ในกิลด์นี้เนื่องจากดาบที่ผมได้รับมาจากเขา.

ด้วยเงินทั้งหมดที่ผมมีผมสามารถซื้อดาบเล่นนี้และยังเหลือเงินอีก

แม้ว่าผมจะซื้อดาบที่ต่ำกว่านี้และเมื่อคำนวนเงินที่จะต้องย้ายบ้านไปยังที่ปลอดภัย แต่คนอย่างผมที่มีแต้มสกิลอย่างไม่น่าเชื่อมันก็แตกต่าง.

มองไปที่ข้อความผมมีเรื่องที่ต้องแก้อีกปัญหาเกี่ยวกับมันอีก.

ผมพึมพัมขณะที่ฮังโดอยู่ที่เอวของผม

“เดาว่านี่คือจุดจบระหว่างคุณกับผม.”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset