I Never Run Out Of Mana – ตอนที่ 30. My Way (2)

30. My Way (2)

คืนสุดท้ายของเดือนสิงหาคม

มันเป็นวันสุดท้ายของการๆโรงเรียน

3เดือนต่อจากนี้ไป! ผมสามารถโฟกัสไปที่การล่ามอนเตอร์ได้อย่างเต็มที่.

เริ่มต้นด้วยการหยุดภาคฤดูร้อนาสองเดือนและสองเดือนนั้นการล่ามอนเตอร์ในขณะที่เรียนไปด้วยมันก็สามารถทำให้มีการเติบโตด้วยเหมือนกัน

มองไปที่ดวงจันทร์ที่มีดาวเต็มท้องฟ้าในยามค่ำตืนผมรู้สึกว่านี่เป็นการคาดเดาว่าการเจริญเติบโตของผมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

หลังจากออกจากกิลด์ มันก็ยังไม่ได้มีความแตกต่าง ผมยังคงล่าอยู่เช่นเคย

ผมยังบอกจุงโฮเกี่ยวกับสถานกาณ์นี้ด้วย

ขณะนี้ความสงสัยเกี่ยวกับตัวเขา(จุงโฮ)ได้หายไปหมดแล้วราวกับว่าไม่มีเวลามาใส่ใจ

เป็นเวลาหลายวันที่เราไดเมาพบกันและพูดคุยเรื่องต่างๆมากมาย

จุงโอมักจะพูดถึงหัวข้อ ‘การดูแลตัวเองด้วยตัวคนเดียว’.

การพูกคุยกับเขาส่วนใหญ่เป็นการโต้แย้งเกี่ยวกับเรื่องนี้.

เพราะว่ามันเป็นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่คุณได้ออกจากกิลด์ ถ้าพวกเขาทำร้ายคุณกิลด์ของเขาจะโดนติฉินนินทาไปสู่กิลด์ของเขา ตอนนี้พวกเขากำลังรออยู่.

อาจเป็นไปได้ว่าพวกเราสงสัยเขาโดยไม่มีหลักฐาน.(แต่คุณมีอยู่แล้ว … จาก ผู้เขียน)  1

แต่ความปลอดภัยมันยังดีกว่าจะต้องมานั่งเสียใจ ผมได้รับนิสัยนี้ในการเก็บโล่ของผมและรอจนมาคูลดาวเสร็จหลังจากออกจากกิลด์.

‘สำหรับการเข้าร่วมกิลด์ผิดเพียงกิลด์เดียวมันทำให้ผมเพิ่มความหวาดกลัว.’

หน้าตึกลีราห์โต้ จุงโฮได้โทรมาหาผม.

มันเป็นการหาซื้อบ้านในพื้นที่ปลอดภัย

ผมได้ทำให้แม่ผมประหลาดใจหลังจากที่ผมบอกไปเพียง5วัน

“ฮยอง ตอนนี้คุณอยู่ไหน?”

“ฉันกำลังรอตรงทางแยกก่อนจะเลี๊ยวซ้าย รอฉันสักแปปนึง.”

“โอเคร.”

มันไม่ได้ใช้เวลานานกว่าที่จุงโฮจะมาถึง แฟชั่นกีฬา มันทำให้ผมประหลาดใจอีกครั้ง.

“ว้าว…วันนี้ฮยอง มีอะไรบางอย่าง.”

“ตั้งแต่ที่ฉันกลับมาจากการประชุมฉันก็พยายามอย่างมาก.”

“บางทีคุณอาจจะแค่คอสเพลย์? คุณไปเจอเสื้อผ้าเหล่านี้จากที่ไหน? ผมรู้ว่าผมพูดแบบนี้ทุกครั้งแต่ได้โปรดเอาเสื้อสีขาวของคุณออกไป! ฮยองคุณเหมือนกับลูกเกด…ฮ่าฮ่า เราไปกันเถอะ.”

“ไอ้เด็กนี่กำลังพูดถึงเรื่องอะไร เสื้อสีขาวกับยีนน้ำเงินเป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนโยน.”

‘ถ้ามันเป็นเพียงแค่เชิ๊ตขาวผมก็จะปล่อนมันไป แต่คุณจะทำอย่างไรกับแหวนหัวกะรโหลกบนนิ้วของคุณและโซ่ที่คล้องกางเกงยีนส์ของคุณอีก ผมถอนหายใจ.’ ผมเก็บคำพูดเหล่านั้นไว้แต่กระตุ้นให้มันเดินหน้าต่อไปแบบเกร็งๆ.

ภายในอาคารลีราห์โต้ ผมได้ตรวจสอบภายในสำนักงานหากมันมีที่ไหนขายบ้าง

ต้องขอบคุณอย่างยิ่งมีอาคารที่อยู่ในราคาที่เหมาะสมและใกล้กับสถานที่ของเราในปัจจุบัน

ตอนนี้หลังจากที่ผมบอกเรื่องนี้แล้วเขาก็จะดำเนินการซื้อขายกับพวกเขาภายในหนึ่งสัปดาห์

“ฮยอง คุณรู้ไหมว่าตอนนี้ผมกำลังล่ามอนเตอร์ด้วยมีดกุหลาบตลอดเวลา?”

“ใช่ นายบอกอย่างนั้นหลังจากเอาดาบไปคืน?”

“ถูก ตอนนี้ผมยังเหลืออัญมณีสำหรับฝังก่อนหน้านี้ ฮยอง ในฐานะที่เรารู้จักกันมานานคุณสามารถไปพร้อมกับผมเพื่อช่วยเลือกมันได้หรือไม่?”

“อาวุธ! ถ้าอย่างนั่น…ให้ฉันใส่เชิ๊ตขาว!”

‘คุณกำลังจะก่อภัยพิบัติอีครั้ง!’ มันปรากฎขึ้่นมาทางสีหน้าและผมก็โบกมือไปรอบๆ.

“ขากลับระวังด้วย ฮยอง แล้วเจอกันทีหลัง!”

“มันโหดร้าย! คุณจะจ่ายเท่าไร?”

“ตั้งแต่ที่ผมซื้อบ้านหลังใหม่ผมเหลือ2แสนหรือมากกว่า อ๊า! ดัวยหินเลือดของแมนติคอร์ผมยังมีเหลืออีก3แสน.”(ตรงนี้ไม่ได้บอกว่าเป็นวอนหรือดอล แต่คิดว่าเป็นดอล/ไรต์)

“โอ้โห เอ้ย นี่มันมากกว่าดาบเล่มเดิมของนายอีก แต่นายสามารถใช้งานมันได้หรอ? มันต้องการความแข็งแกร่งถึง100สถานะถึงจะใช้ได้”

“มีเกราะหรืออาวุธแบบไหนที่ลดคูลดาวน์ให้ผมหรือไม่?”

“นี่แกกำลังเล่นเกมส์ออนไลน์? ส่วนอเวคเป็นเรื่องตลกสำหรับนาย!โอ๊ะ!?”

ใครกันที่มีพลังที่จะหยุดชายคนนี้ได้.

ราวกับว่าเขาเห็นมันเหมือนกับภารพยนต์และตะโกนใส่ผมด้วยการแสดงออกที่น่าเกลียดและน่าอึดอัด.

“การแสดงออกนั่น!”

“งั้นไปเลยเดี๋ยวนี้.”

“แต่มันสิ้นเปลืองจริงๆที่จะซื้อดาบมาห้อยไว้เฉยๆ มันเหมือนกับเสียเงินฟรีๆ ฉันรู้สึกเสียดายจัง.”

“ถ้าคิดว่ามันสิ้นเปลื้องงั้นก็กลับไปล่าให้มันได้เยอะๆขึ้น.”

“มีดาบที่พอๆกับฮังโดบ้างไหม?”

“เยอะแยะ! ดาบที่มนุษย์ไม่สามารถที่จะทำมันได้เหมือนกันกันได้แม้ว่าจะมีทักษะที่สูง มันจะดรอปจากดันเจี้ยนที่สูงมากก็เถอะ แต่ราคามันก็แบบจะฆ่าตัวตายได้เลย.”

“ความแข็งแกร่งของมันต้องการเท่าไร? ถ้าคุณบอกว่า10หรือ20ล้านผมจะตุ๊ยท้องคุณ.”

หลังจากที่เขาได้ยินคำพูดผม จุงโฮพยายามที่จะยิ้มและพูด

“ล้าน? … คุณรู้ไหมว่ามนุษย์สามารถทำดาบได้มากสุดแค่แรงค์S? ดาบเล่มนั้นซื้อได้ด้วยเงิน แต่อาวุธที่ดรอปจากมอนเตอร์จะมีMตรงหน้าชื่อของดาบมันมาจากคำย่อที่ว่า มอนเตอร์ดังนั้นการซื้ออาวุธที่ดรอป M/S ก็ไม่สามารถซื้อได้แม้ว่าจะมีเงินเป็นล้าน แม้แต่ฉันก็ไม่ขาย.”

ก่อนหน้านี้ผมไปที่ร้านค้าหน้าด้นเจี้ยนแมนติคอร์และซื้อาวุธแรงค์SAมันก็ดีมากแล้ว

หนึ่งในนั้นคือ ‘ไม้เท้าของราชาลิซ’. ไม้เท้าที่ผมถืออยู่มันเหมือนกับอยู่หน้าประตูแห่งความตายตลอดเวลา.

ถ้ามันให้สถานะของมานาในการเพิ่มความแรงมันก็สามารถเป็นอาวุธคล้ายกับฮังโดได้

มันเป็นเพียงอาวุธในแรงค์ M/B แต่ราคาของมันก็แพงกว่าหลายสิบล้าน

ฮังโดที่ผมปล่อยมันกลับไปที่กิลด์ของจากที่ผมออกมา มันอาจจะมีราคาเท่ากัน

‘มันแย่มาก..ทำไมฉันต้องมาฟังที่จุงโฮ แม้ว่าจะมาซื้อบ้านแต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมสะเทือนเท่ากไรนัก.’ (TL: มันเป็นการแสดงออกของเงิน/บ้านเราเรียกว่าขนหน้าแข้งไม่ร่วง/ไรต์.)

การที่ผมจะสามารถโยนความเสียใจของผมทิ้งไปได้ผมต้องถามจุงโฮ

“แล้วM/BหรือM/a มันดรอปที่ไหน?”

“ดันเจี้ยนชั้น18 แต่ไม่ใช่จากมอนเตอร์ธรรมดา ถ้าคุณชนะบอสลับมันมีโอกาศที่จะดรอปลง.”

‘ห๊ะ?’

ดันเจี้ยนเลเวล18 สำหรับผมแล้วมันง่ายมากที่ตะเครียร์

แต่บอสลับที่เหมือนกับ‘แคลวาคอร์’และมีการดรอปที่ต่ำลง?

ผมยากจะตะโกนความเสียใจของผมออกไปดังๆ ‘ความยุติธรรม….. ได้โปรดส่งดาบทมิฬมาแล้วฉันจะไม่โทษคุณ.’

มันเกือบจะเหมือนกับว่าผมยังเป็นคนโง่อยู่จนถึงตอนนี้ ‘ปาร์ค ฮยอนเป็นคนดีจริงๆ…..’

เพื่อที่จะแก้ไขในส่วนที่เสียไปแล้วผมพูด้วยความจริงจังมากขึ้น

“ดันเจี้ยนเลเวล 18 มันต้องการเวเวลอย่างน้อย150 ใช่มั๊ย?”

“ถูกต้อง เลเวล150ขึ้นไปอย่างน้อย5-6คน ทำไม? อะไรทำให้นายจริงจัง นายกำลังวางแผนที่จะเข้าไปตอนนี้หรือบางเวลา งั้นเราก็ไปซื้ออาวุธแรงค์CหรือM/Dด้วยเงินสามแสนของนาย.”

“สำหรัยตอนนี้ต้องเอามันก่อน กอ่นผมจะไป ฮยอง! ไปทานอาหารค่ำพร้อมกับแม่ผมบางครั้งผมต้องการร้านอาหารที่ดีๆ มันเป็นการทำตามหน้าที่ของผม.”

“เฮ้ มินชอย! ฉันอยากจะบอกอะไรในกรณีนี้ แต่ก็ไม่ควรไปไหนมาไหนอย่างประมาท ดูแลตัวเองด้วย.”

“ครับ ฮยอง.”

ดันเจี้ยนเลเวล18

เลเวล13-15เป็นมอนเตอร์ที่มีการป้องกันทางเวทย์มนต์มาก เลเวล16-18 มีการป้องกันทางกายภาพมาก

งั้นสิ่งที่ผมต้องทำตอนนี้คือ…

เงินที่จ่ายไปเพื่ออาวุธและต้องลงทุนกับหลังสือสกิลอีก

ด้วยมานาที่ไม่มีวันหมดของผม ผมสามารถขว้างเวทย์ได้ตลอดเวลา ด้วยสกิลของผมมันคงจะเพิ่มระดับอย่างบ้าคลั่ง?

ด้วยเวทน์มนต์ที่รุนแรงที่สุดของผม ‘การวิตี้เลเซอร์’ และ ‘ไฟช๊อค’ ที่ผมได้สั่งพวกคนแคระเหล่านั้นไปเมื่อไม่กี่วันก่อนผมวางแผนที่จะแเวคสกิลของผมสักสองสามสกิลก่อนที่ไปไฟว้กับชั้น18.

นั่นคือความสำคัญของมัน

มันโชคดีที่ผมไม่ได้ใช้แก่นแท้อเวค ไปกับดาบเจาะ

สกิลที่ผมต้องการอเวคนั้นมันสำคัญเป็นอันดับหนึ่งแต่ดันเจี้ยนที่ผมต้องเข้าไปคือชั้น18ซึงการโจมตีทางกายภาพไม่ส่งผล การวิตี้เลเซอร์เลยกลายมาเป็นสกิลต้นๆที่ผมจะใช้

บางทีผมอาจจะโชคดีที่ได้อาวุธระดับM/ฺฺBอย่างที่จุนโฮพูดถึง

มีดกุหลาบผมคิดว่ามันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะใช่ก่อนที่ผมจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น.

‘อย่างน้อยก็อีก1สัปดาห์…ฉันไม่คิดว่าคุณจะตัดแครอทเท่านั้น ขอโทษ.’

เป้าหมายคือการลงไปในดันเจี้ยนเลเวล18และอเวคสกิลเวทย์2สกิล!

“มันจะใช้เวลาไม่นาน ลุยกันเลย!”

* * *

จากการสั่งซื้อร้อนๆผมก็ได้หนังสือสกิลที่ผมต้องการ แบนและไฟช๊อค

ทั้งสามไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าผมจนจบ ผมไม่สามารถที่จะไม่หัวเราะออกมาได้.

ในอนาคตถ้าผมต้องใช้เส้นทางใต้ดินมากขึ้นผมมั่นใจว่าจะได้เจอพวกเขาอีกครั้ง.

[คุณต้องการเรียนทักษะไฟช๊อคหรือไม่?]

เสียงบรรยายมันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้น

ผมเลือกใช้หนังสือในมือโดยไม่ลังเลเลย

“หืมม….แบนและโฮลจะเพิ่มทีหลังตอนนี้ เป็นคิวไฟช๊อค!”

ไฟช๊อคคือการส่งเปลวเพลิงเป็นจำนวนมากรอบๆตัวผม

มันไม่ใช่สกิลที่ใช้มานาอย่างต่อเนื่องเพราะอย่างนั้นมันจึงมีคูลดาวน์

มันใช้เวลา3นาที

อาจจะบอกว่ามันมากกว่า3นาที

อย่างไรก็ตามระยะเวลาของแสดงผลของมันคือ10วืนาทีและรอ3นาทีเพื่อ10วินาที มันเป็นสกิลที่แสดงประสืธิถาพน้อยมากเมื่อเทียบกับตาพายุ.

แม้ว่าเลเวลจะเพิ่มขึ้น แต่ระยะเวลาก็ไม่เพิ่ม ที่้เพิ่มมีแค่ความเสียหายเท่านั้น

แน่นอนว่าคุณไม่สามารถเปรียบเทียบกับสกิลที่ไม่เหมาะสมกับสกิลหลักและสกิลรองได้

ระยะของมันคือ15เมตรจากจุดร่าย ทั้งช่วงเวลาและระยะความเสียหายมันน่าร้องไห้นักเมื่อเทียบกับราคา.

แล้วเพราะอะไรผมถึงต้องใช้เงินจ่ายกับสกิลขยะแบบนี้ทั้งหมด?

คำตอบคือความเสีบหายมันจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อไปถึงเลเวล100.

แต่มันก็เกือบจะไม่มีใครที่จะใช้เวลาและความพยายามกับความสามารถแบบนี้.

หลังจากที่ทดลองไฟช๊อคก็ความร้อนมากพอที่จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามทั้งหมดถูกโจมตีภาย10นาที.

มันไม่มีเพลิงเผาไหม็

ราวกับว่ามันเป็นความรักของวิญญาณ วินญาณที่บอกผ่านคนแล้วรู้สึกร้อนๆหนาวๆ

มันเหมือนกับมีกระแสความร้อนไหลเข้าสู้เป้าหมายและระเบิดออกมา

แต่น่าเสียดายที่มันไม่ได้สร้างความเสียหายมากพอจยกว่าจะแลเวล100 ดังนั้นส่วนใหญ่จึงไม่ได้พยายามยกระดับของมัน และหลังสือสกิลก็ไม่ได้ดรอปออกมาง่ายๆเ่วย มันเหมือนกับสกิลของผี.

ผมวางแผนที่จะอเวคสกิลนี้เหมือนกัน!

“ดูเหมือนว่าฉันต้องมีแก่นแท้แเวคมากๆ ….ดูท่าแล้วฉันต้องไปหาคนแคระบ่อยๆ?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset