I Never Run Out Of Mana – ตอนที่ 31. My Way (3)

31. My Way (3)

ผมตัดสินใจเกี่ยวกับเป้าหมายของผมแล้วในปัจจุบันแล้ว.

ผมต้องอาวุธระดับ M/B หรือ M/A.

เหตุผลที่ผมต้องการอาวุธเพราะว่ามันอาจจะเจอดันเจี้ยนที่มีการต้านทานเวทย์มนตร์

สำหรับค่าสถานะของมานา ไม่ว่าจะเพิ่มเท่าไรมันก็ไม่ส่งผลต่อความแรงของเวทย์มนตร์

มันมีแค่เฉพาะค่ามานาและการฟื้นฟูเท่านั้น

แม้ว่าจะเลเวลของอเวคก็ไม่ส่งผลต่อความเสียหายของสกิล

ไม่ว่าเลเวลคุณจะอยู่สูงแค่ไหน

ถ้าคุณมีเลเวลและสกิลเหมือนกัน ความเสียหายที่คุณทำได้ก็เท่ากัน.

ถ้าหากมันมีความแตกต่างจากเลเวลของอเวค จากเลเวลมากหรือน้อยกว่า…

การเพิ่มสถานะของมานาคือการเพิ่มมานาที่จะใช้และทำให้มานาฟื้นฟูไวขึ้น และคุณก็สามารถใช้สกิลที่แข็งแกร่งได้อย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นสิ่งสำคัญของนักเวทย์คือ ‘เลเวลของสกิล’.

นั่นเป็นเหตุผลให้พวกเขาอยากจะเขาสู่ดันเจี้ยนเลเวล18.

ถ้าคิดว่ามันเป็นการหาอาวุธ แต่ผมข้ามจากเลเวล13ไป18ในครั้งเดียว

ค่าเฉลี่ยของอเวคที่ต้องการสำหรับการเข้าดันเจี้ยนเลเวล13คือ 65 จากปาร์ตี้4-5คน

อย่างไรก็ตามสำหรับดันเจี้ยนเลเวล18คุณต้องมีปาร์ตี้5-6คนและเลเวลแต่ละคนต้องสูงกว่า85หรือรวมทั้งกลุ่มแล้วเลเวลต้องเกิน150

มันต้องใช้เวลาอย่างน้อย4-5ปีในการพยายามใทำให้มันเป็นไปได้

และหากคุณลองคิดถึงจำนวนประสบการณ์และอุปกรณ์ที่เหมาะกับสมาชิกแต่ละคนพวกนี้มันมีช่องว่างที่ใหญ่มากสำหรับผมกับพวกเขา.

จำนวนแต้มประสบการณ์ที่คุณได้รับอาจจะอยู่ในระดับที่แตกต่างกัน.

ประสบการณ์ที่ผมได้รับจากดันเจี้ยนแมนติคอร์คืออยู่ที่12ล้านหรือมากกว่านั้น.

การกวาดล้างดันเจี้ยนของซัคคิวบิหนึ่งรอบก็ได้รับประสบการณ์ถึง80ล้านต่อครั้งเพียงแค่เลเวลของดันเจี้ยนเพิ่มขึ้นแค่1เท่านั้น.

แน่นอนว่ามันเหมือนกับเป็นการรังแกฝ่ายเดียวเนื่องจากว่าผมสามารถเอาชนะการฟื้นคืนชึพของบอสมันได้ในดันเจี้ยนเลเวล13.

ตอนนี้เลเวลของผมคือ95.

ผมสามารถทำในสิ่งที่ทุกคนต้องฝึกถึง3ปีใน3เดือน

พูดง่ายๆ ผมมีโอกาศเติบโตขึ้นเป็น12เท่าของคนอื่น.

การเตรียมหลังจากเป็นอเวคปกติจะต้องเป็นมากว่า1ปีแต่สำหรับผมมันแค่1เดือนเท่านั้น แต่นี่มันยังไม่จบสำหรับผม

มันเป็นเพราะช่องว่างที่มีแต่ผมเท่านั้นที่ออกมาจากตรงนั้นได้

สกิลและเลเวลของผมเติบโตขึ้นเป็น12เท่าหรือมากกว่าคนอื่นมั้ง?

ไม่ อย่างน้อยสิ่งที่ผมมั่นใจมากที่สุดเลยมันน่าจะเป็น50เท่า

มันหมือนกับสูตรโกงที่ขึ้นอยู่กับการต่อสู้และใช้ ‘ไพไซนิค สตร์อม’ ที่ ‘เทมพลา ขึ้นสูง’ ใช้มั้ง?

ผมไม่ได้มีความคิดโง่ๆแบบนี้เช่น ‘ฉันจะไปดันเจี้ยนเลเวล18เมื่อเลเวลของฉันตรงกับความต้องการของมัน’.

ผมจะต้องยกระดับเลเวลของการโจมตีและชิลให้อยู่ในเลเวล100! นั่นคือความต้องการขึ้นต่ำของผมสำหรับการที่ตะลงไปในดันเจี้ยนเลเวล18.

***

มันเป็นช่วงเวลาของคืนที่ยาวนานที่สุดของปีและก็มีลมหนาวที่พัดเข้ามาตั้งแต่เช้าถึงเย็น

เวลาผ่านไปจนถึงจุดที่ต้องพลิกกระดาษของปฎิทินขึ้นของเดือนตุลาคมที่ผ่านมา.

บ้านที่ปลอดภัยที่ผมและจุงโอหาร่วมกันมาก่อนหน้านี้มันสามารถเลื่อนเวลามาเป็นวันเกิดของเธอได้.

หลังจากที่ผมย้ายมาเพือนบ้านของผมก็มีปฎิกิริยาที่ต้อนรับที่ดีมาก พวกเขาได้เอาเค้กข้าวมาแสดงความยินดีต่อพวกเราอย่างกระตือรือล้น. (ของขวัญต้อนรับที่พบบ่อยๆเมื่อร่วมกันอยู่กับเพื่อนบ้านข้างๆ อย่าน้อยๆก็ตามเนื้อผ้า ผมคิดว่าประเพณีนี้เกือบจะตายไปแล้วยกเว้นชุมชนที่ร่ำรวยหรือไม่ก็คนแก่ๆ) 1

‘มีคนยังทำแบบนี้ได้อีกหรอ?’ หรือ ‘พวกเขาเข้ามาอยู่ที่นี่ได้เพราะถูกหวย,’มันเป็นเรื่องปกทั่วๆไป.

แต่ผมชอบบ้านที่มีความสงบและสามารถทำให้แม่อยู่ได้อย่างมั่นใจอย่างที่ใจของผมต้องการเสมอ.

ตั้งแต่ที่ผมมีรายได้มากเกินกว่าที่ผมจะคิดได้ มันถึงเวลาแล้วที่ผมจะได้เวลาพักผ่อนเพื่อตัวเอง.

ความสุขที่ผมได้มาจากความยากลำบาก

ผมไม่สามารถที่จะแอบซ่อนมันได้อีกแล้ว

ผมไม่สามารถปิดบังได้อีกต่อไป

ผมหวังว่าสักวัน วันนี้จะมาถึง

ในที่สุดวันนี้ ผมก็สามารถเพิ่มเลเวลของสกิลทั้งหมดเป็น100ได้สำเร็จคือ ‘ฟร์อส ออบ’, ‘ฮีล’, ‘โฮล’, และ ‘บัน’.

สำหรับ‘ตาพายุ’, มันเพิ่มขึ้นไม่มากนักหลังจากที่มันมาถึงเลเวล70แล้วมันก็หยุดอยู่ที่นั่น.

ผมได้ล่าอย่างต่อเนื่องและมันจบลงที่เลเวลของผมเพิ่มขึ้นเป็น 108

ถ้าจุงโฮได้ยินเรื่องนี้เขาอาจจะถอยหลังและกลัว.

เหตุผลเพียงอย่างเดียวที่ผมสามารถบรรลุผลลักพธ์ที่น่าพอใจนี้ได้มาจากความขยันของผม.

ผมสามารถจัดการความเมื่อยล้าและบาดแผลทางร่างกายของผมด้วยฮีล.

อย่างไรก็ตามมันยังมีอุปสรรคคือ ‘นอน[Sleep]’.

นี่คือสิ่งที่ฮีลไม่สามารถให้มันหายไปได้.(ตรงนี้มันจะบอกว่าฮีลเนี่ยมันเป็นเอเนกประสงค์ขจัดความเมื่อยล้าและรักษาแต่ไม่สามารถแก้อาการง่วงนอนจากการทำงานหนักของมันได้/ไรต์)

แต่ถึงแม้ว่าผมจะต้องนอน ผมก็ต้องรีบเติบโตอย่างรวดเร็ว.

ผมยังค้นหาเวทย์ที่สามารถทำให้นอนไม่หลับได้.

เวลาที่ผมสามารถใช้พักผ่อนคือ6ชั่วโมง

เวลาเหล่านี้ไม่เพียงพอนอกจากการนอนแล้วยังมีเวลากินและดื่มหรือขับถ่ายอีก.

นอกเหนือจากนั้นผมก็โฟกัสไปที่การล่า การล่าซัคคิวบิ 18 ชั่วโมงวัน.

มันเป็นการฝึกที่โหดมาก อย่างไรก็ตามในวันอาทิตย์ผมจะหยุดพักไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น.

ผมเติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งแต่ผมก็ไม่ละเลยความสุขที่ผมใช้ร่วมกับแม่ของผม.

หลังจากกลับมาจากการล่าผมได้เปิดตู้เซฟของผมตรงมุมห้องและเอาแก่นแท้อเวคมา.

โดยไม่ลังเล ผมได้อเวคสกิลการวิตี้เลเซอร์.

ผมได้จับหนังสือสกิลไว้ที่แกและคิดเกี่ยวกับการอเวคการวิตี้เลเซอร์.

จากนั้น.

[คุณต้องการอเวคการวิตี้เลเซอร์หรือไม่?]

ดูเหมือนกับว่าคำบรรยายนี้จะเหมือนที่นูน่าบอก.

ผมรู้ว่านี่เป็นไปไม่ได้ แต่ผมอยากจะเจอเธอสักวันนึงและพาเธอไปเลี้ยงข้าว.

“มันเยี่ยมมาก.”

หลังจากอเวคสกิลการวิตี้เลเซอร์เสร็จมันก็มีคำหน้ำหน้าว่า อเวค อยู่ด้านหน้าสกิลและเลเวลก็กลายเป็น1.

ประสบการณ์ที่ต้องการในเลเวลถัดไปคือ 98 ล้าน.

ก่อนที่จะอเวคสกิลการที่จะไปยังเลเวลต่อไปจากเลเวล1คือ100มันทำให้รู้สึกเหมือนกับความต่างชั้นมากเกินไป

การเตรียมพร้อมและการอเวคสกิลก็เสร็จสิ้นแล้ว ทั้งหมดก็เพื่อดันเจี้ยนเลเวล18.

***

ผมมาอยู่หน้าทางเข้าดนัเจี้ยนในนูวอน.(Nowon-gu, กรุงโซลประเทศเกาหลีใต้)  2

กูริ ที่ผมอาใส่อยู่ในตอนนี้ อยู่ห่างจากประตูทางเข้าไปแค่30นาที.(Guri-si, Gyeonggi-do.)  3

เนื่องจากว่าผมไม่สามารถหาที่อยู่ของดันเจี้ยนเล้วล18ในบริเวณใกล้เคียงได้ มันเลยทำให้ผมเสียเวลาไป1ชั่วโมงเต็มๆในวันนี้.

การเตรียมการเสร็จสิ้นแล้วและผมก็เห็นทางเข้าดันเจี้ยนก่อนที่ผมจะมองมันอีก.

“มันต้องมีความลังเลไหม?”

หลังจากเริ่มเข้ามาในดันเจี้ยน.

การตกแต่งภายในดันเจี้ยนนี้แต่ต่างจากดันเจี้ยนที่ผมเคยไปก่อนหน้ามากมายนัก.

มันเป็นทางลูกรังกว้าง5เมตร

ด้านข้างของมันมีแต่ความมืดที่ดูเหมือนกับจะกลืนกินแสงไปหมด เหมือนกับอยู่บนหน้าผา

ถ้าผมล้มลงมันคงเหมือนกับการตกนรก

ไม่ใช่เพียงหน้าผาเท่านั้น แม้แต่เพดานก็ถูกปกคลุมด้วยความมืด.

สิ่งเดียวที่ผมเห็นในตอนนี้คือทางลูกรังข้างหน้า.

‘ถ้าทางมันจะมืดขนาดนี้ฉันควรจะหาคนนำทางมาดีหรือป่าวนะ?’ นี่เป็นสิ่งที่ผมกำลังคิดอยู่.

แวะมาเที่ยวที่นี่

แล้วผมก็เริ่มวิ่งออกไปอย่างไม่ลังเล

ผมสงสัยว่ามันผ่านไปนานเท่าไรแล้ว

เมื่อเทียบกับทางเข้าที่ผ่านมามันเริ่มแคบขึ้นเรื่อยๆ.

ผมได้ยินเสียงร้องของมอนเตอร์ข้างหน้า

เมื่อผมมองไปทางต้นเสียงสิ่งแรกที่ผมเห็นคือ ‘นากา พิษ.’

เจ้าของเสียงที่ร้องคือ ‘กริฟฟอน.’

และข้างๆก็มีกลุ่มควันที่น่าสยดสยอง

มันเหมือนกับที่ผมได้เรียนมา

จนถึงตอนนี้ดันเจี้ยนทั้มหมดมีมอนเตอร์ชนิดเดียว

อย่างไรก็ตามหลังจากดันเจี้ยนเลเวล16ขึ้นไป จะมีมอนเตอร์2-5ชนิดแตกต่างกัน.

สำหรับเลเวล18ที่ผมเข้ามามีมอนเตอร์อยู่3ชนิด.

หากมีมอนเตอร์หลายประเภทมากขึ้นการป้องกันที่แตกต่างและการโจมตีก็เป็นเรื่องยากที่จะเจาะจงกับพวกมัน.

มอนเตอร์ระยะใกล้ระยะไกลและมอนเตอร์บางตัวที่มีการโจมตีที่พิเศษบางอย่าง

นี่คือเหตุผลที่ให้ปาร์ตี้นึงมี5-6คนเพื่อที่จะใช้กลยุทธ์ในการโจมตีจัดการกับมอนเตอร์ได้อย่างถูกต้อง.

แม้ว่าการโจมตีทางกายภายจะไม่ได้ผล แต่ตัวแท้งอย่างพาลาดินและนักรบหางมังกรยังมีความจำเป็นในการทำหน้าที่ของเขา.(ก่อนหน้านี้แปลว่า นักรบบากิ)  4

อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่ของอาชีพที่ทำหน้าที่แท้งหรือนักรบจะถูกแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้ากลุ่ม

หากไม่มีการเสียหายเกิดขึ้นมันก็จะไม่เติบโตได้.

แต่มันก็สำคัญจริงๆ

‘แม้ว่าวันนี้ฉันจะต้องทำมันด้วยตัวเอง!’

เมื่อกริฟอน ใช้ กลัว(น่าจะโจมตีระยะไกล)  5  ออกมา ผมก็ส่งการอเวควิตี้เลเซอร์ที่ยาวที่สุดออกไปและวิ่งเต็มสปีด.

มันเป็นสกิลที่จะทำลายทุกอย่างรอบๆในระยะ100เมตรโดยไม่จำกัดว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่.

ในขณะที่โจมตีผมสามารถบอกขนาดรูปร่างได้อย่างชัดเจน.

และเลเซอร์ก็ถูกยิงทุกทิศทุกทาง

ผมไม่สามารถช่วยได้ แต่ต้องประหลาดใจเมื่อผมปิดช่องว่างระหว่างผมกับพวกเขา.

“หืม?มันคือ?”

อเวคการวิตี้เลเซอร์มีสีและความหนาที่ต่างออกไป

ความหนาและความคมไม่สามารถเทียบได้กับก่อนหน้านี้.

แม้ว่ามันจะใกล้ถึงเลเวล100มันก็ยังไม่ได้แสดงความรุงแรงที่บดขยี้แบบนี้ได้

มันมีความหนาถึง3เท่าและมีสีแดงและผ้าผสมกันออกมา.

การอเวคสกิลมันเพิ่มพลังที่สามารถเห็นด้วยตาเปล่าได้อย่างชัดเจนต่อเลเวล

“เดาว่านี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมทุกคนให้ความสนใจกับเงินมากขนาดนี้ งั้นก็ไปฆ่ากันเถอะ!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset