I Never Run Out Of Mana – ตอนที่ 59. เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด การระเบิดของพอร์ทัล.

มันถูกตะโกนไปยังอเวคด้านหน้า

เจ้าของเสียงคือ ยูนจองซัน

สายตาของเขาจ้องไปที่มอนเตอร์ที่เส้นขอบฟ้าเท่านั้น

ไม่ต้องกังขา เขามีความกล้าหาญและเสียสละ

อาจเป็นเพราะอุปกรณ์ของเขาที่มีอยู่

แม้แต่อเวครอบๆตัวเขาก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างจากรอบๆตัวของเขา.

กลิ่นอายที่เอานำออกมามันค่อนข้างพิเศษ

เขาแข็งแกร่งเหมือยกับลมบ้าหมู แต่ก็อ่อนโยนเหมือนกับดวงอาทิตย์

รอบเขา มีฮิวเลอร์อยู่สองคน

มันมีทั้งบัฟความแข็งแรงและป้องกัน เหมือนกับซับพอตคนอื่นๆที่ช่วยให้เขาฟื้นฟูมานาแม้เพียงเล็กน้อย.

มองไปที่ภาพเหล่านี้ อเวคเริ้มกระซิบกันเอง

มันเหมือนกับว่าเขาเจอครดัง

ชายคนนหึ่งปรากฏตัวให้กับทางTVและก็รายงานข่าวเกียวกับพอร์ทัลเลเวล 29 ระเบิดออกมา

“นั่นคือยูน… ยูนจองซัน?”

“ไม่มีทาง… นั่นไม่อาจเป็นไปได้…”

“ผมมั่นใจว่าเป็นเขา เขาเป็นนักเวทย์ที่มีระดับ ยูนจองซัน.”

ราวกับตอบรับท่ามกลางเสียงกระซิบ เขาก็หันกลับมาและพูดอย่างใจเย็น

“ผมไม่แน่ใจว่าชายแก่คนนี้จะช่วยอะไรได้มากน้อยแค่ไหน แต่ผมจะหยุดพวกมัน เพื่อครอบครัวและเพือนของเรา รวมทั้งบ้าน.”

“อา… ฟู่.”

“เขาเป็นคนจริง?”

คำพูดที่ดูเหมือนกับออกมาจากนิยาย

เหล่าอเวคประหลาดใจเมื่อได้รับการยืนยันว่าเป็นยูนจองซันจริงๆ

มันกินเวลาอยู่ครู่เดียว เสียงของพวกเขาก็ดังกระหึ่มราวกับมีคนมาชุมนุมกันนับพัน

เหล่าอเวคทั้งหลายอดไม่ได้ที่จะพูดถึงความรู้สึกของกิลตัวเอง

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเหล่า 5% ของกิลด์ระดับสูง แต่มอนเตอร์ที่ออกมาจากพอร์ทมัลเลเวล 29 ก็ยากที่จะดูแคลน

แต่ละคนอาจจะมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้

พอร์ทัลเลเวล 29 ไม่เคยระเบิดมาก่อนเลย

แต่เมื่อยูนจองซันปรากฏออกมา แรงค์เกอร์ชาวเกาหลีรู้ว่า เขานี่แหละที่จะคอยปกป้องพวกเขา

จากคำพูดและการปรากฏตัวของเขาเพียงคนเดียว ผู้คนรอบๆก็กลับมามีกำลังใจเต็มเปี่ยม

ยูนจองซุนมองไปรอบๆ หลังจากที่มีสายตาของความสงสัย บัดนี้ได้เปลี่ยนเป็นดวงตาแห่งความมุ่นมั่นแทน

ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา เขามองไปที่มอนเตอร์ที่กำลังบินอยู่

เลเวลของเขาไม่ได้ถูกเปิดเผนต่อสาธารณชน แต่คากว่าเลเวลของเขาจะอยู่ที่ 500-600

ตัวแทนของเกาหลีระดับท็อปแรงค์ แต่เขาก็ไม่มีคลาสรองเช่นกัน

เขามาถึงจุดสูงสุดของด้วยเพียงแค่คลาสนักเวทย์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

เนื่องจากสปอนต์เซอร์ เขาได้รับการว่าจ้างจากองค์ยักษใหญ่ ในช่วงเวลานั้นเขาก็เป็นดั่งราวกับว่าเขาเป็นคอรัปชั่นที่แสวงหาเพียงแค่เงิน

อย่างไรก็ตามเขาใช้พลังของเขาเพื่อช่วยเหลือประเทศและผู้ของเขาเท่านั้น

ความชอบธรรมเหล่านี้ทำให้ผู้คนรู้จักเขามากอย่างเป็นวงกว้าง.

มอนเตอร์บินมาด้วยความดุร้าย.

ประเภทของมันทำให้เกือบจะมองเห็นด้วยตาเปล่า

ใบหน้าของยูนจองซันยังคงสงบและดูเหมือนจะกลัวน้อยๆ

ร่ายไซเรน เขาพูดกับฮีลเลอร์ของเขาที่อยู่ด้านข้าง

“พวกคุณไม่เคยเห็นพวกมอนเตอร์เลเวล 29 มันไม่ใช่แบบนี้.”

ฮีลเลอร์ทั้งสองไม่อาจหาอะไรที่พิเศษเกี่ยวกับลักษณ์ของมอนเตอร์ได้พงกเขาจึงพูดเรียบๆออกมา

พวกเขาทั้งสองมองไปยังมอนเตอร์ข้างหน้าและไม่อาจซ่อนความประหลาดใจออกมาได้

“มีบางอย่างผิดปกติ นายพล มันอาจจะมีความต่างกันของขนาดมอนเตอร์ในดันเจี้ยน.”

“ถูกต้อง ดูเหมือนว่าพวกมันจะใหญ่กว่าปกติประมาณ 1.5 เท่า.”

“มันเป็นเรื่องยากที่จะต่อสู้….เตรียมตัวให้พร้อม”

“ครับ!”

“ครับนายพล.”

หยุดร่ายไซเรน เขาก็หันกลับมามองรอบๆ

มีเหล่าอเวคมากกว่า 100 คนยืนอยู่เบื้องหน้าของเขา

เขาไม่อาจปล่อยให้จิตใจของเขาตกต่ำได้.

นั่นเป็นเหตุที่เขาร่ายเวทย์ไซเรนเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาได้ยิน

ส่วนใหญ่อาจไม่เคยแม้กระทั่งเข้าไปในดันเจี้ยนเลเวล 29

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะออกล่า แต่เขาก็ไม่อาจได้รับประสบการณ์เพียงพอที่จะเทียบกับยูนจองซัน

มองไปที่พวกเขาในเวลาสั้นก่อนที่เขาจะพูด

“ชายแก่คนนี้มีแผนที่จะออกคำสั่ง…พวกคุณต้องการทำตามไหม?”

ไม่มีใครไม่เห็นด้วย

หลังจากที่พวกเขาหวังว่าจะกลับบ้านไปอย่างปลอดภัยเนื่องจากมียูนจองซัน

เขาพูดกับพวกเขาอีกครั้ง

“นักเวทย์จากสมาคมอาจจะมาถึงล่าช้าเนื่องจากเวทย์วาปติดคูลดาวน์และจะมีเข้าร่วมกับพวกเขาในอีกครึ่งชั่วโมง เราต้องต้านไว้ให้ได้.”

การระเบิดของพอร์ทัลเลเวล 29

ไม่มีทางที่สมาคมจะอยู่นิ่งๆได้

เพราะไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในทุกวินาที อย่างไรก็ตามยูนจองซันยังไม่ได้ใช้เวทย์วาปของเขา เขาเตรียมพร้อมเสมอ

เวทย์วาปมีเวลาคูลดาวน์ถึง 12 ชั่วโมง

และมันก็เหมือนกับเวทย์บลิ้ง มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเลเวลสกิล เนื่องจากมันไม่ได้ลดเวลาคูลดาวน์เลย

เขาเก็บมันเอาไว้เพื่อให้แน่ใจว่า เขาจะออกไปจากสถานที่เหล่านี้ตราบเท่าที่ความช่วยเหลือมาถึง

อย่างไรก็ตามเขาเป็นคนเดียวที่จะได้ไปหากว่าทำเช่นกัน สำหรับคนอื่นๆมันไม่อาจทำให้ใจของเขาเร่าร้อนที่เต็มไปด้วยความชอบธรรมได้

เว้นเสียแต่ว่าแรงค์เกอร์จะเป็นคนออกคำสั่ง พวกเขาเพียงแค่เคลื่อนไหวไปตามผลประโยชน์

“ได้.”

“ให้คุณเป็นคนออกคำสั่ง.”

“ผมจะเป็นโล่ให้คุณ คุณก็ได้โปรดเป็นหอกให้ผม.”

“คุณหมายความว่าไง…”

“อย่างที่คุณรู้ มอนเตอร์ที่กำลังบินเข้ามาหาเราเป็นการ์กอย”

“….”

“จากสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่มนุษย์ได้ต่อสู้มา มันเป็นสัตว์ประหลาดที่มนุษย์อย่างพวกเราจะสังหารมันออกมาได้ ถ้งคุณปล่อยให้มันโจมตีโดยพวกคุณ คุณอาจจะกลายเป็นหิน”

“หา….”

กลุ่มคนเริ่มกระวนกระวายและพึมพำออกมารอบๆ

เขาไม่พูดอะไรอีก

“การกลายเป็นหินอาจจะมีโอกาส 50% และแม้ว่าคุณจะไม่เป็นอะไรแต่มันก็ยังอยู่เหนือจิตสำนึกของพวกคุณ ด้วยสถานะทางร่างกายของพวกคุณ มันอาจจะยากเล็กน้อยที่จะทำให้พวกคุณถูกฉีกเป็นชิ้นๆ”

“…”

“อย่างไรก็ตาม ผมมีไททันบู๊ท มันสามารถป้องกันไม่ให้ร่างกายของผมเป็นหิน ผมสามารถรับการโจมตีของพวกมันได้ทั้งหมด ถ้าคุณสามารถโจมตีตามคำสั่งของเราแล้ว เราทุกคนจะได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย.”

“รับทราบ.”

“ครับ.”

“มันฟังดูดีสำหรับผม.”

ด้วยคำพูดนิดๆหน่อยๆของเขา เขาก็จ้องมองไปยังมหาสมุทรอีกครั้ง

และจากนั้น.

“อร่าาาา!”

-ฉึบ!

ขณะที่เขากำลังยกไม้เท้าขึ้นมากลางอากาศ ก็มีพลังแสงปล่อยออกมา.

ทันใดนั้นมันก็เหมือนกับว่าการ์กอยกำลังมุ่งหน้ามาหาเขาเพียงคนเดียวและรีบพุ่งมาทางเขา

สกิลนี้ถูกเรียนกว่า โคร คราวน์(Crowd Clown.)

มันเป็นสกิลที่ทำให้มอนเตอร์ทั้งกลุ่มเล็งไปที่เขาเพียงคนเดียว

การ์กอยกว่าครึ่งของทั้ง 500 ตัวที่ชื่อ เมจการ์กอย(Mage Gargoyles) ได้รุมโจมตีมาที่เขาคนเดียว.

-แซบบ!

-แกร๊กๆๆ.

ไลนิ่งบอลขนากลูกฟุตบอลถูกทุบโดยยูนจองซัน

เขาร่ายเวทย์ชิลด์อย่างรวดเร็ว เขาป้องกันการโจมตีของมันได้

ฮีลเลอร์ทั้งสองก็เริ่มที่จะร่ายเวทย์บัฟและชิลด์ให้กับเขา

หลังจากที่ป้องกันการโจมตีของมันแล้ว เขาก็ตะโกน

“ฟร์อส! ใช้เวทย์Aoe(วงกว้าง)แช่แข็งมันซะ!”

-ฟุสสสช.

หลังจากคำสั่งของเขา นักเวทย์ทั้งหมดก็ร่ายเวทย์ทั้งหมดที่มีของพวกเขาออกไป

แต่ละคนมีสกิลเป็นของตัวเอง แต่ทุกอย่างที่ร่ายก็มีคุณสมบัติเป็นน้ำแข็ง มันราวกับเป็นแสงสีฟ้าที่งดงาม

ด้วยการหน่วงเวทย์เพื่อรอคำสั่ง พวกเขาต้องเตรียมพร้อมเสมอหลังจากที่ได้รับคำสั่ง

“ไปด้านหลังของเมจการ์กอย! เดี๋ยวนี้!”

* * * *

ทุกครั้งหลังจากที่เครียร์ดันเจี้ยนแล้ว จะมีข้อความส่งมาทุกๆสามครั้ง.

การใช้ข้อมูลที่ถูกส่งมาจากดันเจี้ยนที่ถูกเครียร์เข้ามาที่ฐาน ระบบได้กำหนดให้สำหรับคนที่เป็นประโยชน์และส่งข้อความไปให้พวกเขารับ.

มันก็เหมือนกับอเวคทุกคนที่นี่.

เหล่าผู้คนที่เตรียมที่จะเข้าไปในดันเจี้ยนอีกครั้งก็มีเสียงเตือนออกมาจากโทรศัพ์ดังอย่างต่อเนื่องราวกับเป็นสัญญาณเตือนภัย

พอร์ทัลระเบิกมาตอนเลเวล 3 ทุ่ม

ดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่ได้ถูกดูแลแม้ว่ามันจะใกล้ถึง 00.00น.

ซึ่งความแตกต่างนี้มันแตกต่างจากพอร์ทัลซัคคิวบิ ซึ่งถูกจัดการไปภายในหนึ่งชั่วโมง ดูเหมือนว่าจะมีการต่อสู้ที่ยากลำบากกำลังเกิดจากพอร์ทัลนี้เป็นอย่างมาก.

เมื่อเสร็จสิ้นการล่าทั้ง 16 ชั่วโมงแล้ว ผมก็เข้าไปในพอร์ทัลเบื้องหน้าของผม เหมือนกับที่ผมมาก่อนหน้านี้

การใช้วาปครั้งแรก มันทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะต้องประหลาดใจ

หลังจากที่ผมเดินเข้าไปในเกต ผมก็เหมือนกับถูกดูดเข้าไป

สิ่งของต่างๆแว่บผ่านตาของผมและมันก็ได้เปลี่ยนเป็นสำนักงานของพวกคนแคระ

‘ใครจะรู้ว่ามันประโยชน์อย่างนี้.’

ผมรู้สึกโง่ที่ไม่ได้ใช้มันก่อนหน้านี้

อย่างน้อยการบริเวณที่ล่าก็ไม่ได้อยู่ไกลจากตัวผม

ออกจากสถานที่ๆว่างเปล่า ผมก็โบกรถแท็กซี่.

มันคือการมุ่งหน้ากลับบ้าน.

มันไม่ได้ใช้เวลานานมากที่จะมาถึง

แม่ดูTVอยู่ที่ห้องนั่งเล่น

“เธอกลับบ้านแล้ว?”

“ใช่ ผมกลับมาแล้ว”

“กินข้าวยัง?”

“ผมกินที่นั่นไปแล้ว.”

“โอ้ลูกรัก อย่างน้อยแกก็ควรที่จะกินอาหารที่บ้านวันละครั้ง.”

เมื่อได้ยินแม่ผมที่กำลังบ่นอยู่ ผมไม่ได้ใสใจและจ้องมองไปที่TV.

มันเกี่ยวกับพอร์ทัลเลเวล 29 ที่ระเบิดมาวันนี้

หลังจากที่ผมจ้องมอง เธอก็พูด

“ไม่ว่าฉันจะเปลี่ยนเป็นช่องไหน มันก็เป็นเหมือนกันทั้งหมด.”

“แล้วมันเป็นไงบ้าง?”

“แกไม่ได้รับข้อความงั้นรึ?”

“ได้ แต่มันก็ไกลเกินกว่าที่ผมจะไปได้…”

“ยุนจุงซุน หรือ ยูนจองซัน อะไรนี่แหละ เห็นได้ชัดว่าเขาอยู่แถวหน้าเพื่อสกัดกั้นมอนเตอร์.”

‘ยูนจองซัน… ที่ฉันได้เคยเห็นเมื่อตอนดันเจี้ยนลอร์เวอร์และไกวดอน.’

“เห็นได้ชัดว่านี่เป็นครั้งแรกที่พอร์ทัลเลเวล 29 ระเบิดออก มันอาจจะยากลำบากนิดหน่อย.”

“ผมรู้…”

“ไปอาบน้ำและนอน เธอทำงานมาหนักมากแล้ววันนี้.”

“ครับ มันดึกแล้ว แม่ก็พักด้วยหล่ะ.”

แม้กระทั่งหลังจากที่แม่ของผมกลับไปที่ห้องนอนแล้ว ผมก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่TV

หลังจากที่พอร์ทัลระเบิด เจ้าหน้าที่ระดับสูงได้มาที่สำนักงานสมาคมอย่างรวดเร็ว.

ผู้สื่อข่าวนับไม่ถ้วนล้อมหน้าล้อมหลังเขาพร้อมกับด้วยแสงแฟลชี่กระพริบใส่ตาของเขา

ใบหน้าของคิมโอจินก็ปรากฏมาเหมือนกัน.

“แน่นอน คนเหล่านี้มาจากสมาคม.”

* * * *

พวกเขารวมตัวกันี่สำนักงานใหญ่ของสมาคม

จากที่หัวหน้าแผนก รวมไปถึงเขาทั้งหมดได้ถูกรวมกันไว้หลังจากที่พอร์ทัลนี้ระเบิดออกมา

ประธานสมาคม ชอยมันชอ พูดกับชายคนหนึ่งขณะฉายโปรเจคเตอร์.

“เริ่มต้นการสรุป.”

“ใช่ นี่เป็นครั้งแรกที่พอร์ทัลเลเวล 29 ระเบิดออก ตอนนี้ยูนจองซันได้เป็นผู้นำในการดำเนินการต่างๆ ในเวลา 10 นาทีนี้นักเวทคนอื่นๆรวมถึง…”

ก่อนที่ประธานจะพูดจบ ผู้คนก็เดือพล่าน.

“นี่ เรารู้ทั้งหมดอยู่แล้ว ผมถามว่ามีข้อมูลใหม่ๆไหม! ถ้าเราไม่ได้รับข้อมูลอย่างถูกต้องจากการระเบิดของพอร์ทัลนี้ สมาคมจะต้องถูกยกเลิกและเราจะทำทุกอย่างให้เสร็จสิ้น!”

“ใช่ นี่มาจากบางส่วนของสมาชิกสมาคมที่กำลังทำงานอยู่ตอนนี้ มอนเตอร์ทั้งหมดที่ปรากฏตัวออกมาอยู่ที่เกาะเจบุช ดูเหมือนว่าจะเป็นการ์กอย จากดันเจี้ยนเลเวล 29 แต่ดูเหมือนว่ามันจะมีขนาดใหญ่กว่า 1.5 เท่า.”

“หา? มันเป็นเรื่องจริงสิ?”

“ใช่ แรงค์เกอร์ยูนจองซันก็คิดอย่างนั้น มันจึงถูกต้อง.”

“โหย หัวหน้าวิจัย เกิดอะไรขึ้น?”

ทุกคนในห้องหันหน้าไปยังประธานวิจัยจุดอ่อนของมอนเตอร์,และจัดอัดดับของพวกมัน และเขาก็ต้องคิดกลยุทธ์ในการต่อสู้กลับด้วย.

หลังจากที่ดันแว่นให้เข้าที่ เขาก็ตอบ

“ผม…มันไม่เคยมีรายงานนี้มาก่อน.”

“คุณทำอะรได้บ้าง? คุณต้องการถูกขยี้จากประชาชนหรอ?”

“มีสิ่งหนึ่งที่ผมสงสัย…”

หัวหน้านักวิจัยก็ได้สูดลมหายใจก่อนที่จะพูดอย่างระวังไปยังประธานหลังจากที่เขาเปิดปาก

Comment

Options

not work with dark mode
Reset