I Never Run Out Of Mana – ตอนที่ 70. ของที่เหลือจากโจ๊กเกอร์(?)

70. ของที่เหลือจากโจ๊กเกอร์(?)

เมื่อผมโทรหาจุงโฮเสร็จ ผมใช้เวลาครู่หนึ่งเพื่อจัดระเบียบความคิดของผมใหม่.

ผมมาถึงอาคารสองชั้นของสมาคมยังพย็มองในตอนดึก.

หลังจากที่ต่อสู้กับโจ๊กเกอร์เสร็จมันก็มืดค่ำแล้ว.

ท้องฟ้าที่สดใสไร้เมฆ.

มันไม่ใช่ฤดูหนาว แต่ลมหายใจที่พ่นออกมาของผมเต็มไปด้วยหมอก.

“เราควรจะกลับแล้วไหม?”

ผมใช้วาปไปที่ออฟฟิศของคนแคระได้.

สกิลวาปนั้นมีประโยชน์มาก มันเชื่อมต่อกับสถานที่เราต้องการไป.

นอกเหนือจากความจริงที่ว่าคุณไม่อาจย้อนกลับไปหลังจากที่ใช้ไปแล้วครั้งนึง มันอาจถือได้ว่าเป็นทักษะที่ดีที่สุด.

จุงโฮน่าจะมาถึงที่นั่นแล้ว.

แม้ว่าระหว่างที่เขาโทรมาหาผม มันฟังดูเหมือนว่าเขาพร้อมที่จะออกมาได้ตลอด.

เก็บของที่ผมได้รับมาจากโจ๊กเกอร์ ผมใช้วาปและเข้าไปอยู่ในวงเวทย์.

****

ผมออกมาจากวงเวทย์วาปที่อยู่ในห้องเก็บของข้างๆห้องน้ำ.

ความรู้สึกที่ได้ใช้วาปมันเป็นแบบนี้นี่เอง.

มันรู้สึกเหมือนกับว่าคุณเพียงเดินปกติและเพียงก้าวเดียวคุณก็มาปีนเขาหรือเดินขึ้นบันได

มันรู้สึกแปลกและเวียนหัว ซึ่งยากที่จะอธิบาย.

และในมุมมองของก็เปลี่ยนไปตามที่ผมอยากจะไป.

คนแคระรู้สึกถึงตัวตนของผมและพูดกับจุงโฮ.

“ดูเหมือนว่าเขาจะมาแล้ว?”

“มันเป็นห้องนั้น?”

“ใช่ ถูกแล้ว.”

-คลิ๊ก

จุงโฮไม่สามารถรอได้และเปิดประตู.

สายตาของเขานั้นไม่ได้เหมือนกับที่เขากลับมาจากยังพย็อง.

ที่นี่ชุดเกราะของผมไม่ได้ปกคลุมร่างกายของผมอีกต่อไป มันเต็มไปด้วยรอยแผล.

ผมรักษาบาดแผลด้วยเวทย์ฮีลระดับต่ำ แต่มันไม่อาจรักษาได้หมดจรด.

เหนือสิ่งอื่นใด ชุดเกราะลิซคิงที่แต่เดิมเป็นสีดำ มันได้ส่องแสงสีแดงราวกับว่ามีคนมาผนึกมันด้วยเลือด.

อาจเป็นเพราะเลือดที่ไหลของโจ๊กเกอร์และอวตารที่ไหลรดผม.

ผมล้างเลือดส่วนใหญ่ที่อยู่บนใบหน้าและร่างกายของผมแล้ว.

อย่าไรก็ตามสายตาของจุงโฮนั้นเต็มไปด้วยความเศร้าและเสียใจ เมื่อเขามองมาที่ผม.

จุงโฮไม่อาจสบตากับผมได้.

เขาปิดตาด้วยมือของเขาและพูดว่า.

“เวรเอ้ย…นายลำบากมากแล้ว.”

“ทำไม? ผมไม่ได้อยู่ดีหรอกหรอ?”

“ไม่…แกดูปกติ มันดีจริงๆ บาดแผลเหล่านั้นทำให้นายเจ็บบ้างไหม?”

“ใช่ แต่มันไม่ใช่เลือดจากบาดแผล แต่…..”

ผมดึงถุงมือออกจากมือของผม.

เพราะเลือดยังทันแข็งตัวมันเลยค่อยข้างเหนียวหนืด.

ผมชักมือออกพร้อมกับเสียงหยดเลือดที่ข้นหนืด.

นิ้วโป้งและนิ้วชี้ถูกฟันขาด.

ยิ่งกว่านั้นหลังมือของผมเป็นหลุมที่ดูราวกับปล่องภูเขาไฟจนมองเห็นกระดูกและกล้ามเนื้อสีชมพู มันแทบจะดูไม่เหมือนมือ.

ตอนที่ผมแทงดาบไปที่โจ๊กเกอร์และผลักเขาออกไป มือที่อยู่ใกล้ที่สุดก็ถูกตัดออกไป.

ผมโชว์มือซ้ายของผมให้จุงโฮเห็นและผมก็ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วม.

“อย่างไรก็ตามมันเลยกลายมาเป็นแบบนี้?”

“…..”

“เพราะงั้นที่คือสิ่งที่เกิดขึ้นหนึ่งอย่างหลังจากใช้สกิล Status Negation(*) นี่คือที่ผมถาม?”

“ไม่ต้องกังวล เพิ่งออกไปรับ ฮซอกหยู่.”

“อืม! ผมเดาว่ามันจะใช้เวลาเพียง 10 นาที?”

“นั่นหมายความว่าไม่ได้อะไร ฉันบอกเขาแล้วว่าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาและให้เขาใช้เพียงแค่ฮีล เพราะงั้นมันต้องรออีกหน่อย.”

“ขอบคุณฮยอง”

“ฟิ้วว ฉันไม่อาจมองแกได้ เนื่องจากที่นี่มีน้ำร้อน แกควรไปอาบ ในขณะที่ทุกอย่างที่เหลือฉันจะจัดการเอง ฉันจะไปเรียกพวกเขา.”

“ได้.”

****

“ออฟฟิศแบบไหนมีห้องอาบน้ำ?”

ในขณะเดียวกับที่ผมกำลังบ่นกับตัวเองก็กำลังอาบน้ำ.

ชุดเกราะที่ผมสวม,เกราะของโจ๊กเกอร์และดาบคู่ของโจ๊กเกอร์ที่ผมยึดมา.

ผมไม่คาดหวังอะไรมากมายกับพวกมัน โจ๊กเกอร์สามารถรับดาบไร้รูปได้ด้วยร่างกายของเขา.

สภาพของชุดเกราะควรจะเลวร้ายที่สุดเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันถูกฟันและแทงเข้าไปนับไม่ถ้วน.

อย่างไรก็ตามเพื่อพิสูจน์ว่าผมคิดถึง เกราะมันไม่มีแม้กระทั่งรอยชีดข่วนสักขีดเดียว.

มันราวกับว่าเพราะมันสามารถซ่อนแซมตัวมันเองได้.

ผมวางเกราะและดาบอยู่ที่มุมหนึ่งของห้องอาบน้ำ.

หลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าที่จุงโฮเอามาให้แล้ว ผมก็กลับไปเข้าไปในออฟฟิศ.

“อาบเสร็จแล้ว?”

“ใช่ ผมรู้สึกดีมากตอนนี้.”

-ติ้ง! เครื่องที่วางอยู่ที่โต๊ะสั่น ครืดๆ~

“รอแปป”

ผมเข้าไปนั่งแทนที่จุงโฮ ขณะที่เขาออกไปรับสาย คนแคระก็ถามผม.

“คุณมีบาดแผลรุนแรงที่ไหนอีกไหม?”

“อา ตอนที่ผมออกไปล่า มานาผมหมด.”

“โอ้โฮ…นั่นมันไม่เลวจริงๆ.”

“ใช่…ถูกต้อง”

“ไม่ว่าคุณจะฟื้นฟูเร็วแค่ไหน คุณต้องระวัง.”

“คราฟ ครับ.”

หลังจากที่ตอบแบบครึ่งๆกลางๆ ผมก็ไม่พูดอะไรกับคนแคระอีก.

จุงโฮคุยโทรศัพท์อยู่ขณะที่มาหาผม.

“ครับ ครับ ตอนนี้คุณมาได้แล้ว.”

จากที่ผมฟัง ผมสามารถบอกได้ว่าจะมีอีกคนมาที่นี่.

‘ซอกยู่กลับมาแล้ว?’

คำถามของผมก็อยู่ได้ไม่นาน.

จากทางเดินผมได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งเข้ามา.

ประตูเปิดออกและโฮจินก็เข้ามา.

มองไปที่ใบหน้าของเขา ผมรู้สึกว่าผมมีความสามารถที่จะได้พบเจอแต่คนที่ดีๆ

จุงโฮและโฮจินสองคนนี้ควรรู้จักอาวุธและเกราะของโจ๊กเกอร์พอสมควร ไม่งั้นแล้วจะเป็นใครได้อีก

มีโอกาสสูงที่ทัง้สองจะมีข้อมูลเกี่ยวกับมุกโปร่งแสง

ดีหล่ะ ผมสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับดาบและเกราะโดยการใส่พวกมันด้วยตัวเอง

สิ่งที่ผมอยากรู้จริงๆคือไข่มุกที่โจ๊กเกอร์พยายามควานหาในยามที่เขาสิ้นหวัง.

มันเห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างที่พิเศษเกี่ยวกับมัน

หลังจากที่เขาเข้ามาเขาก็มองก่อนที่จะเข้ามาคุยกับผม.

และผมก็เดาว่าเขาสามารถอ่านสถานการณ์ได้ เพราะเขามองเห็นแล้วว่าคนแคระและคนของเขาอยู่ที่นี่.

เขานั้งโซฟาใกล้ๆผมและโฮจินก็พูด.

“การล่าเป็นไงบ้าง?”

“ครับ ก็เรียบร้อยดี ผมจัดการหมดเลยและก็เอาของที่ดรอปทั้งหมดมาด้วย.”

“ดูจากบาดแผลของนาย ฉันเดาว่ามันคงไม่ใช่ดันเจี้ยนง่ายๆ.”

“ครับ ผมยังรู้สึกตกใจเลยที่กลับมาอย่างมีชีวิต.”

“นายต้องเจอเรื่องหนักแน่ๆ.”

“ครับ ตอนนี้ผมคิดว่าผมรับมันไว้ด้วยความภาคภูมิใจ.”

“อะ! ส่วนID?”

“ครับ คุณเอามาด้วยไหม?”

“แน่นอน!”

โฮจินหยิบID ออกมาจากกระเป๋าด้านในของเขา.

และพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง ขณะที่เขามอบให้ผม.

“นี่.”

“ผมดีใจที่สามารถรับสิ่งเหล่านี้ได้.”

“เหอะๆ! นายทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่สำเร็จแล้ว.”

“ผมแค่เครีย์ดันเจี้ยนเท่านั้น มันจะอะไรอีก.”

-ติ๊ก

ในขณะที่ผมกำลังพูดอยู่กับโฮจินอยู่ ซอกหยู่มีเอาสกิล Status Negation ไปก็กลับมา.

มันดูเหมือนว่าเขาจะไม่รับหนังสือสกิลได้.

ชายคนนหนึ่งกำลังเดินนำเข้ามา.

ชายคนนั้นมองไปที่อาคาร.

แม้ขณะที่กำลังจับมือฮซอกหยู่เขาก็ยังเอามืออีกข้างคลำไปที่กำแพง

“หลังจากวันเปิดตลาดมันเลยไม่มีไอเทมไหนอยู่ในตลาด ดังนั้นฉันจึงให้คนนำมาส่งแทน.”

“ขอโทษที่โทรหาคุณดึกดื่น มันคงเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับคุณ.”

“โอ้ ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวล”

ฮีลเลอร์ ฮซอกหยู่ เข้ามาขณะที่พูด.

“ใครที่จะถูกรักษา?”

“อ๊ะ! นั่นผมเอง.”

“บาดเจ็บแค่ไหนแล้ว?”

“อืม…ราวๆ 4 ชั่วโมงก่อน.”

“อย่างที่บอกทางโทรศัพท์ ผมไม่อาจมองเห็นได้ ดังนั้นมันจึงเป็นการยากที่จะให้ผมรักษาอาการบาดเจ็บพิเศษ ด้วยเหตุนี้ผมจะร่ายStatus Negationในช่วงเวลาที่คุณได้รับบาดเจ็บหนัก มันจะไม่เป็นไร?”

“ครับ มันไม่สำคัญกับผมเท่าไร.”

“งั้น…..”

****

Status Negation สามารถใช้ได้ทุกๆ 24 ชั่วโมง.

ด้วยการที่มีคูลดาวน์ที่ยาวนาน ผลที่ได้ก็เป็นที่น่าพอใจ.

เหมือนกับที่ผมได้รับรักษาจากปาร์คฮยอนก่อนหน้านี้ ร่างกายของผมจะคืนสภาพเดิมเมื่อ 4 ชั่วโมงก่อน.

เมื่อเห็นว่าหน้าที่ของเขาลุล่วงแล้ว คนแคระและคนของเขาก็ออกจากออฟฟิศไปพร้อมกับมอบกุญแกให้กับผม.

คนแคระมีเซ้นที่ดีจึงให้ทุกคนออกไปพร้อมกับเขา โดยสังเกตเห็นว่าคนเหล่านั้นมีบางอย่างที่อยากจะพูดอะไรมากกว่านี้อีก.

ออฟฟิศตอนนี้เหลือเพียง จุงโฮ,โฮจินและผมเท่านั้น.

ผมวางอาวุธและเกราะที่ผมได้จากโจ๊กเกอร์ไว้บนโต๊ะพร้อมกับเดาะลิ้น.

คาดว่าพวกเขาคงแปลกใจมากเมื่อพวกเขาอธิบายรายละเอียดของไอเทมเหล่านี้ให้ผม.

แต่.

“นี่คือ? เกราะ?”

“นี่คือสิ่งที่นายเอามาจากโจ๊กเกอร์?”

‘หืม? นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผมหวังเอาไว้?’

พวกเขาถามผมด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าพวกเขาไม่เคยเห็นไอเทมเหล่านี้มาก่อน.

“นี่เป็นครั้งแรกที่พวกคุณเห็นมันมาก่อนหรอ?”

“ช่ายยย.”

“ใช่.”

“ดี ผมจะหาคำตอบได้หลังจากที่ผมลองใส่มัน แล้วอันนี้หล่ะ?”

ผมวางลูกแก้วลงบนโต๊ะ.(TL:ตอนก่อนๆผู้แต่งใช้คำว่ามุก แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นลูกแก้ว)

มองกลับมาที่มันอีกครั้งหลังจากที่อยู่ในที่ที่มีแสงสว่าง ลูกหินนั้นโปร่งใสมากจนเกือบที่จะไม่เห็นมัน เว้นแต่ว่ามันจะเรืองแสงออกมา

สายตาของทั้งสองจ้องมองไปยังลูกหิน.

อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้พูดอะไรออกมา.

“นี่มันดี…มันเป็นครั้งแรกที่คุณเห็นสิ่งนี้?”

“ฉันคิดว่าพวกมันมีขายมากมายในร้านเครื่องเขียนหรือร้านชำ.”

“เหอะๆ ฉันเคยดีดมันสมัยยังเด็กๆ ความทรงจำดีๆที่ฉันได้หวนคิดถึง”

‘ไม่! คนอย่างพวกคุณนี่ ผมไม่ได้เอาสิ่งนี้มาเพื่อให้พวกคุณรำลึกถึงความหลัง!’

“ฮยอง คุณไม่รู้หรอ? และคุณด้วย ก็เป็นเหมือนกัน?”

จุงโฮดีดลูกหินขณะพูด.

“มันก็แค่ลูกแก้ว.”

“เหมือนกัน ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีอะไรมากไปกว่านี้.”

ดูเหมือนว่าผมจะไม่ได้รับข้อมูลใดๆเพิ่ม.

ผมยืนขึ้นใส่เกราะขณะที่ผมอธิบาย.

“นี่เป็นลูกแก้วที่ผมเอามาจากโจ๊กเกอร์ เขาควานหามันตอนที่เขากำลังจะตาย…ว้าว!”

“ห๊ะ? ทำไมนายถึงเป็นอย่างนั้น?”

“นี่คือ!”

“เกิดอะไรขึ้น?”

เมื่อใส่เกราะแล้วผมไม่อาจทำอะไรได้นอกจากความแปลกใจ.

มันเป็นเพราะความสามารถของชุดเกราะ.

ผมอดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปยังหน้าต่างสถานะของผมอย่างว่างเปล่า.

Level: 301

Exp: [11%]

Class: เมจิคเชี่ยน

คุณลักษณ์พิเศษ: มานาไม่มีวันหมด.

Strength(ความแข็งแกร่ง): 610+300

Mana(มานา): ∞

Dexterity(ความแม่นยำ): 10+300

Stamina(ความอดทน/ทนทาน): 910+300

ดาเมจทั้งหมดที่ได้รับลดลง 40%.

“มะ-ไม่มีทาง.”

ดูไอ้เกราะบ้านี่ซิ.

ไม่เพียงแต่เพิ่มสถานะทั้งหมด 300 แต้ม ยังลดดาเมจทั้งหมดที่ได้รับถึง 40%.

มันไม่เหมือนกับว่าผมได้ใส่เกราะครบเซ็ต แต่สิ่งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ผมใส่เพียงชิ้นเดียว.

แม้ว่าจะถูก Fire Shock’s แผดเผา เกราะนี้ก็ยังคงอยู่ ในขณะที่ทุกสิ่งทุกอย่างละลายหายไป

แต่ถึงกระนั้นมันก็เป็นของดี.

มันมีความสามารถเทียบเท่ากับเซ็ตลิซคิงที่รวมไปถึง เกราะหัว+เกราะเต็มตัว.

‘หากนี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของเซ็ตเกราะ ผมต้องเอามันมาให้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น.’

ถ้าผมใช่เกราะที่ไม่รู้จักนี้ของโจ๊กเกอร์พร้อมกับเกราะหัวจากเซ็ตลิซคิงและยังเพิ่มไปด้วยกันเล็ตลิซาร์ดแมน?

มันจะเท่ากับว่าผมมีความต้านทานทางกายภาพ+เวทย์มนต์ถึง 80%.

นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้โจ๊กเกอร์สามารถยืนได้นานแม้ว่าจะเพิ่มค่าสถานะทั้งหมดลงไปที่ความแข็งแกร่ง มันอาจจะเป็นเพราะความสามารถที่น่าทึ้งของเกราะตัวนี้.

เย็นไว้ก่อน ผมพูด.

“ฮยอง,คุณโฮจิน”

“ว่า? ว่าไง?”

“การฟื้นฟูไม่เป็นไปตามแผน?”

“เกราะนี้ +ค่าสถานะ 300 แต้มทั้งหมดและยังลดดาเมจที่ได้รับลงถึง 40%.”

“เฮ้ย! แกยังมีเวลาที่จะมาล้อเล่นอีกในเวลานี้แม้พึ่งจะเอาชีวิตรอดกลับมาได้ แกนี่มันเอาแต่ตลกจริงๆ!”

“แม้ว่าฉันจะทำงานให้กับสมาคมเป็นเวลาถึง 20 ปี แต่ฉันก็ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับไอเทมที่ทรงพลังขนาดนี้”

“ผมก็เชื่อยากเหมือนกัน แต่มันเป็นความจริง.”

****

เมื่อพวกเขาไม่เชื่อผมตั้งแต่ต้นจนจบ ผมก็เลยให้เขาลองสวมเกราะกันเอง.

หลังจากนั้น โฮจินและจุงโฮก็อ้าปากค้างด้วยความสยิว.

อย่างที่คาดหวังไว้เหมือนกันส่วนหนึ่งของเซ็ตเกราะ ผมถือดาบคู่เอาไว้.

แต่แม้ว่าจะถือดาบคู่ของโจ๊กเกอร์เอาไว้ แต่ก็ไม่มีค่าสถานะเพิ่มขึ้น.

มันไม่ให้แค่ผมคนเดียว แต่ทั้งสองก็เป็นเหมือนกัน.

มันเหมือนกับว่าผมต้องพยายามเรียนทักษะที่เหนือกว่าระดับแรงค์และมันก็ไม่ตอบสนองใดๆ.

ผมขอให้จุงโฮและโฮจินหาข้อมูลเกี่ยวกับดาบคู่และลูกแก้ว.

ด้วยทั้งสองอย่างนี้หากพวกเขาจะหาข้อมูลพวกเขาต้องหาบางอย่างที่มีอะไรคล้ายๆกับสิ่งเหล่านี้.

ผมโชคดีที่ฆ่าโจ๊กเกอร์ได้อย่างรวดเร็ว ผมเลยได้เกราะนี้มา.

ตามที่ผมได้สัญญาไว้กับตัวเองก่อนหน้านี้ เมื่อผมแก้ไขปัญหาของผม ผมจะแข็งแกร่งให้มากที่สุด จนสามารถท้าทายชะตาของผมได้.

ผมเพิ่งจะข้ามภูเขาที่เรียกว่าโจ๊กเกอร์มาในตอนนี้.

ด้วย ID นี้ผมจะไปได้ทุกที่และไม่มีแมลงวันคอยมารอบกวน ผมสามารถมุ่งเน้นที่จะล่าในดันเจี้ยนได้

“จากพรุ่งนี้ไป ได้เวลาลงดันเจี้ยน!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset