เป็นเวลา 3 วันแล้วตั้งแต่ที่ผมไม่ได้เข้าดันเจี้ยนเลเวล 25.
ผมของบันวอนจินชอยจากโฮจินมาอักหนึ่งและถือมันไว้.
เพราะว่าจุงโฮและโฮจินกำลังใช้แหวนบัลล็อคในการลงดัน พวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องการของที่เพิ่ม Str เป็นพิเศษ.
ผมรู้สึกว่าผมต้องได้ดาบพวกนั้นในไม่ช้า.
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมให้ยืมและขอคืน แม้ว่าผมจะเป็นเจ้าของมันตัวจริง แต่ผมก็ยังรู้สึกแย่.
บนรถแท็กซี่ที่กำลังไปยังดันเจี้ยนครั้งแรกของวัน ผมยังได้เห็นดันเจี้ยนเลเวลต่ำๆที่คุ้นเคยระหว่างทาง.
ทางเข้าดันเจี้ยนนั้นปลอดคนกว่าวันก่อนๆ.
อาจเป็นเพราะมีโรงเรียนหลายแห่งเริ่มเปิดหลังจากที่ปิดเทอม.
อเวคส่วนใหญ่ยังเป็นเด็กมัธยม ดังนั้นดันเจี้ยนเลเวลต่ำกว่าเลเวล 10 จึงเต็มไปด้วยอเวคเด็กๆ.
มีไม่กี่คนที่เป็นอเวคเมื่อปีก่อนๆ แต่ส่วนใหญ่จะถูกบังคับให้ไปโรงเรียนอย่างไม่มีทางเลือก.
เมื่อคิดถึงเรื่องพวกนี้แล้ว ก็เกิดความรู้สึกที่เหนือกว่าในเวลาสั้นๆ.
มันเป็นเวลากว่า 3 วันแล้ว แต่ประตูของดันเจี้ยนอันโนว์ก็ยังไม่ปรากฏออกมา.
ดันเจี้ยนลิซคิงและประตูสู่นรกก็ปรากฏหลังจากผ่านไปเกือบสองสัปดาห์ ดังนั้นจึงเร็วเกินกว่าจะรู้ว่านี่เป็นวิธีที่ผิด.
เรากำลังเครียร์ดันเจี้ยนอันโนว์ แต่ค่าประสบการณ์ที่เราได้รับมันก็ยังไม่ทำให้เราพึงพำใจ.
หลังจากที่เราได้รับ Exp 2 ล้านทุกๆการเครียร์ดันเจี้ยนของเลเวล 34.
นี่เป็นเหตุผลที่ผมไม่รู้สึกตื่นเต้นจากค่าExpที่ผมได้รับในตอนนี้.
อีกอย่างก็คือผมผมเลเวลได้ในเวลาสั้นๆและExpที่ผมได้รับมันต้องได้มากพอที่ผมต้องการ.
จากทฤษฏีที่จะทำให้ประตูปรากฏที่ผมเดากับจุงโฮ ผมหวังว่าทฤษฏีที่สองที่ดันเจี้ยนอันโนว์มีโอกาสต่ำที่จะปรากฏนั้นน่าจะถูกต้อง.
หากทฤษฏีสุดท้ายเรื่องการสังเวยเป็นเรื่องจริง…
ทำยังไงถึงทำให้คนจำนวนมาเข้ามาในดันเจี้ยน?
คุณต้องทำยิ่งกว่าคำสัญญาที่ว่าจะพาคนเครียร์ดันเจี้ยนขณะที่คุณต้องซ่อนตัวตนของคุณเอาไว้ด้วย.
แต่อย่างแรกสำหรับเหล่านี้ ผมจะสังหารคนบริสุทธิ์ได้อย่างไร.
มันเป็นอีกด้านของความคิด ว่ามันคงจะดีแค่ไหนถ้าการต่อสู้ที่ผมเคยทำกับกิลด์โนเบลสมาอยู่ในดันเจี้ยน.
ผมมี ID อเนกประสงค์จากโฮจินและ แมสสเลจูสึ ที่ทำให้ทุกคนไม่อาจมองเห็นผมได้.
(ต่อไปจะเป็น IDผี)
เดิมทีผมวางแผนไว้ว่าจะลองสักสามวันเพื่อหาดันเจี้ยนอันโนว์.
แต่ตอนนี้ผมเปลี่ยนใจแล้ว.
ด้วยการเลเวลอัพ ผมสามารถแข็งแกร่งได้ด้วยค่าสถานะ 5 แต้มต่อ 1 เลเวล.
แต่ถ้าผมยิ่งอัพได้เร็วขึ้นด้วย ค่าสถานะเหล่านั้นจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
อีกด้านผมก็คิดว่าการได้อาติแฟ็คเป็นอะไรที่น่าทึ่ง.
อย่างเช่น ดาบคู่อาชูร่า ที่โจ๊กเกอร์มี.
มันเป็นอาวุธที่ให้ Str-Dex มากกว่า 200 แต้มเกินกว่าที่บันวอนจินชอยให้อีก.
มันแข็งแกร่งแม้ว่ามันจะมีคุณภาพต่ำที่สุดหากมันดรอปลงมาก.
ผมจะได้รับสถานะเท่ากับ 80 เลเวลในครั้งเดียว.
ดันเจี้ยนอันโนว์คือคำตอบสำหรับผม.
มันปรากฏขึ้นมาและผมจะได้กลับบ้านหลังจากลงดันฯเสร็จ.
ชายที่โดดเดี่ยวที่กำลังเดินไปมาในดันเจี้ยน.
มันไม่ใช่วันนี้.
เป็นเวลาหลายวันแล้วที่ดูเหมือนว่าผมจะหาอยู่ในพื้นที่เดิมๆ.
ดูเหมือนว่าเขาจะต้องหาปาร์ตี้หรือพยายามลงดันฯต่อไป.
มันไม่พอสำหรับผมที่จะระวังเขา แต่ผมก็ไม่อาจเมิณเฉยต่อพฤติกรรมแปลกๆของเขาได้.
มันเกิดขึ้นขณะที่ผมใช้สเตลผ่านเขา.
ผมได้ยินเขาพูดพึมพำ
เวทย์ไซเรนจะดูดซับเสียงทั้งหมดที่ผมทำ แต่เสียงจากภายนอกเข้าได้เหมือนเดิม.
ผมไม่เห็นใบหน้าของเขาเนื่องจากเขาสวมหมวก แต่ผมสามารถฟังคำพูดของเขาได้อย่างแน่นอน.
“เขา….ที่นี่….เด็กน้อย….เด็ก”
ตัวของเขาสั่นราวลูกศิษย์ถูกด่าเหมือนกับใบไม้.
การเคลื่อนไหวร่างกายของเขาดูเหมือนอึดอัดราวกับว่าเขาไม่สบายใจ.
ผมคิดว่าเขาผิดแปลกบาบอย่างและพยายามพาตัวเองเข้าไปอยู่ในรูปแบบของเขา
อย่างไรก็ตามคำที่ผมได้ยินถัดไปทำให้ผมลังเล.
“โจ๊กเกอร์….ตาย…เด็กน้อย….เด็กนั่น…ฆ่า….เขา….ว่ะฮ่าฮ่าฮ่า!”
“เชี่ย!”
ผมสาบานอย่างไม่รู้ตัว.
ชายคนนี้พูดถึงโจ๊กเกอร์.
บางทีผมอาจจะมีปฏิกิริยามากเกินไป เพราะผมใส่ใจเกี่ยวกับโจ๊กเกอร์มากเกินไป.
แต่ถ้าคุณรวมในสิ่งที่เขาพูดถึงโจ๊กเกอร์ที่ว่าเขาได้ตายเพราะเด็กน้อย.
มันเกินกว่าที่จะเป็นเรื่องบังเอิญ.
‘เขามาจากพวกหัวรุนแรงงั้นหรอ? มันไม่ควรมีใครรู้จักตัวตนของผมนอกจากโจ๊กเกอร์…’
ผมตัดสินใจที่จะตรวจสอบเขาอีก.
มันจะเป็นการตัดสินว่าเขาเป็นคนบ้าหรือว่าเขาพยายามหาตัวผมหลังจากที่เขาระบุตัวตนของผมได้.
ผมต้องทำให้แน่ใจว่าเขาจะไม่เห็นผม.
เขาพูดคนเดียวของเขาต่อไปเป็นเวลานาน.
ทั้งหมดที่เขาพูดคือสิ่งที่ผมเคยได้ยินมาก่อน มันเป็นการพูดแบบเดียวซ้ำๆ.
มันเป็นอย่างนี้มาตลอดชั่วโมง.
ไม่มีคนอื่นดังนั้นผมคิดว่าผมอาจจะระแวงเกินไปและต้องการจากไป.
ทันใดนั้นเขาก็หายใจเข้าลึกๆและสั่นอย่างรุนแรง.
ดวงตาของเขาเริ่มจดจ่อและร่างกายของเขาเริ่มมั่นคง.
มันเกือบจะเหมือนกับนักแสดงมากพรสวรรค์ที่ทำทำการแสดงหน้ากล้องเสร็จ.
หลังจากที่สูดจมูก ชายคนนั้นพูด.
“ว้าว! เย็นจัง ฉันรู้สึกว่ามัน…แปลกๆ?”
ขณะที่เขาพูดอย่างนั้นดวงตาของเขาก็มองมาที่ผม.
มันเป็นแบบนั้น!
“อุฟฟ! เจอนายแล้ว อย่าซ่อนตัวอยู่อย่างนั้นเลย ออกมา!”
‘ห๊ะ? ไม่มีอะไรอยู่ด้านหลังเรา เพราะงั้นมันก็เป็นเรางั้นหรอ? ไม่มีทางที่เราจะเผยตัว!’
ผมรีบตรวจสอบตำแหน่งของผมหลังจากนั้นผมก็เปิดวาป.
ยิ่งไปกว่านั้นผมยังไม่พลาดที่จะดูการเคลื่อนไหวของเขา.
ในขณะที่มองมาที่ผม เขาก็พูดต่อ.
“อุฟฟ! ในหนังถ้าฉันพูดอะไรแบบนี้พวกเขาจะออกมา ฉันเดาว่าฉันเสียเวลาซะแล้ว.”
หลังจากที่ทำให้ผมกังวลอย่างนั้น เขาก็มองไปรอบๆเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะใช้วาป.
ผมแน่ใจว่าเขามาจากกลุ่มหัวรุนแรง.
พวกเขามักจะพูดกันว่าความเศร้าจากการทำงานนั้นไม่ผิด.
มันดูเหมือนกับว่าเขากำลังตามหาผมอย่างรีบร้อน.
ยิ่งกว่านั้น ความสามารถของเขาดูเหมือนจะไม่ห่างจากโจ๊กเกอร์.
เขาสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับการที่โจ๊กเกอร์ตายและที่อยู่ของผม.
‘เวรแล้ว ในที่สุดก็รู้แล้วว่าทำไมเรื่องมันได้เงียบหายไป….’
****
“ท่านซีคิล! การเตรียมการทั้งหมดพร้อมแล้ว.”
“ทำได้ดี ดาร์กเลดี้ ผมได้ยินมาว่าคุณได้เตรียมพอร์ทัลถึง 4 จุด.”
“ค่ะ ถูกต้อง มีสองที่ที่เลเวล 29 อีกสองที่คือเลเวล 30 และเลเวล 31 มันถูกเตรียมพร้อมแล้ว”
“ดี…หนึ่งชั่วโมงหลังจาก 20.00 น. ในระเบิดพวกมันพร้อมกัน.”
“ค่ะ!”
“นอกจากนี้ให้ประธานสมาคมชอยมันซูหาตำแหน่งดันเจี้ยนที่เลเวลใกล้ๆ 40 และเริ่มจัดการที่นั่น.”
“…..”
“ทำให้คุณต้องกังวลแล้ว ดาร์กเลดี้?”
“ม…ไม่ค่ะ ท่านซีคิล!.”
“เป้าหมายแรกของเราคือการทำให้ประเทศนี้ถูกขับไล่จากองค์กรอของอเวค มอนเตอร์ที่ออกมาหลังจากระเบิดจะถูกจัดการทีหลังเมื่อปัญหาต่างๆจัดการเสร็จแล้ว ความเสียหายที่สมาคมโดนจะพยายามหยุดเองมันจะเป็นผลดีกับพวกเรา.”
“ค่ะ เข้าใจแล้ว ฉันจะเรียกชอยมันซูเตรียมพร้อมให้เร็วที่สุด.”
“ดี….”
ซีคิลยังคงจิบชาของต่อไป.
เขามีการแสดงออกทางใบหน้าอย่างพอใจเพราะนี่คือสิ่งที่เขาจะได้ยิน.
หลังจากนั้นเขาก็พูดกับโกสต์ที่นั่งอยู่ถัดจากดาร์กเลดี้.
“โกสต์….”
“ครับ.”
“ผมได้ยินว่าคุณไปที่ดันเจี้ยนเลเวล 25 ในชอยแดงนัม จริงหรือเปล่า?”
“อืม…คุณรู้ได้ไง? ถูกต้อง ผมไปมา.”
“เหตุผลคือ? มันเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณไม่ได้มาสองสามวันี้ บางทีมันอาจจะเกี่ยวข้องกับโจ๊กเกอร์….”
“เฮ้…ทำไมโจ๊กเกอร์ต้องไปดันเจี้ยนเลเวล 25 ผมรู้สึกว่ามีบางคนมีความสามารถ เพราะงั้นผมจึงคิดที่จะค้นหาเขา.”
“สถานะตอนนี้ไม่เหมือนปกติ คุณก็รู้ ช่วยเหลือโปรเจ็คของดาร์เลดี้.”
“ครับ.”
เหมือนกับเด็กที่ถูกคุณครูดุ โกสต์ตอบด้วยสีหน้าเศร้า.
เขาเป็นคนที่ไม่อาจคาดเดาได้.
เขาดื่มชาของเขาอีกครั้ง ซีคิลพูดด้วยสีหน้าจริงจัง.
“โจ๊กเกอร์…ยังไม่ได้ข่ายของโจ๊กเกอร์อีกหรอ?”
“ค่ะ….”
“เดาว่าดันเจี้ยนอันโนวคงจะสนุดสุดๆเลย? ผมเลยไม่อาจรั้งเขาเอาไว้ได้.”
ดาร์กเลดี้เอื้อมไปหยุดโกสต์ไม่ให้พูดกับเจ้านายของเธอ.
โกสต์กำลังพูดกับหัวหน้าใหญ่ซีคิล เพราะว่าเธอก็เป็นหนึ่งในผู้ติดตาม ไม่ว่าทางไหนมันก็ยังไม่ใช่ทางที่เหมาะสม.
ดาร์กเลดี้จ้องมองไปที่โกสต์อย่างรุนแรง.
ด้วยการที่เข้าใจความหมายที่อยู่เบื้องหลัง เขามองหน้าเธอก่อนที่จะพยักหน้าอย่างโง่งม.
“โกสต์ คุณก็ไม่รู้ว่าโจ๊กเกอร์อยู่ไหนงั้นหรอ?”
“ครับ มันไม่หายไปเลย ผมสงสัยว่าเขาตายไปแล้วจริงๆหรือเปล่า อาจเป็นไปได้ว่าเขาจะซ่อนตัวจากพวกเราเหมือนกัน.”
“อวดดี! ไอ้โจ๊กเกอร์….แล้วกลุ่มที่โจ๊กเกอร์จัดการใครเป็นผู้นำ?”
“ตอนนี้มีรองหัวหน้าที่มีสองคลาสกำลังทำหน้าที่แทนเขา.”
“ถ้าเขาไม่ปรากฏตัวมาจนกว่าจะเกิดการระเบิดพอร์ทัลครั้งต่อไป ผมขอสั่งให้เขามาที่นี่ มันเหลืออีกไม่นานจนกว่าเราจะทำธุระเสร็จ เราคงไม่อาจให้เขาทำหน้าที่เป็นหัวหน้าชั่วคราวไปตลอดได้.”
“ครับ เข้าใจแล้ว.”
“คุณจะไปเมื่อไหร่?”
“ผมหวังว่าความวุ่นวานจะมาถึงในไม่ช้า.”
จบคำพูดของเขา ร่างของเขาก็หายไป.
ดาร์กเลดี้ที่อยู่ในออฟฟิศคนเดียวถาม.
“คำพูดที่คุณพูดครั้งสุดท้าย มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”
“ห๊ะ? งั้นเราจะไปกินอะไรที่กังวอนดี? แน่นอน! เมื่อไหร่? คุณจะไปเมื่อไหร่?”
ดาร์กเลดี้หยิบอาวุธออกมาเล่มหนึ่งอย่างเงียบๆ มันเป็นดาบสั้น.
หลังจากนั้นเธอก็ถามคำถามเดิม.
เมื่อเห็นว่ากำลังอยู่ในอารมณ์ที่จริงจัง โกสต์พูด.
“หิม…เดาว่าผมคงไม่ได้ออกได้อย่างจำใจ.”
****
บางทีมันอาจจะเป็นลางร้ายหรือลางดี ชายคนที่อยู่ด้านหน้าดันเจี้ยนไม่อาจมองเห็นได้อีกต่อไป.
หลังจากนั้นผมก็วิ่งไปดันเจี้ยนเลเวล 25 มาสองวันแล้ว แต่ประตูก็ยังไม่เปิด.
มันจะแตกต่างไปอย่างมาก หากว่าผมไม่รู้ แต่อย่างไรผมก็ไม่อาจเสียเวลาได้อีกต่อ.
ผมปล่อยเรื่องดันเจี้ยนอันโนว์ชั่วคราวและมุ่งแน่นไปยังแผนสองของผมที่จะทำให้ผมได้รับประโยชน์มากที่สุด จากดันเจี้ยนเลเวล 34.
มันเป็นเพราะแก่นอเวคแตกและอาติแฟ็คอาจจะดรอปลง.
ส่วนอีกเรื่องที่ผมกังวลก็คือ ชายก่อนหน้าคนนั้นอาจจะมาหาผมอีกครั้ง.
เหมือนกับตอนดันเจี้ยนเลเวล 25 เขาอาจจะปรากฏตัวที่ดันเจี้ยนเลเวล 34 อีกครั้ง.
ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมจะฆ่าเขา.
ไม่มีทางที่พวกเหล่านั้นจะเป็นคนดี.
ถ้าผมมีหลักฐานว่าเขาเป็นกลุ่มหัวรุนแรงอย่างชัดเจนตั้งแต่ที่เจอกันครั้งแรก ผมอาจจะฆ่าเขา.
ผมพยายามจะมุ่งหน้าไปดันเจี้ยนเมื่อมันเกิดขึ้น.
-ครี่กก. ครี่กกกกก!
“อะไร? แผ่นดินไหว?”
แม้แต่แท่นขุดเหมืองที่อยู่ด้านในก็ยังสั่นอย่างรุนแรง.
ผมคิดว่ามันเป็นแผ่นดินไหวที่เกิดจากอาฟเตอร์ช็อค.
-ครึ่นๆๆ ครึ่กๆๆ!
ผมไม่คิดว่านั่นจะเป็นเสียงของแผ่นดินไหว.
อย่างไรก็ตามมันใช่เวลาไม่นานก่อนที่ผมจะรู้ เพราะมันไม่ได้เกิดเพียงครั้งเดียว.
เสียงที่ผมได้ยินตอนนี้คือเสียงของความหวาดกลัวต่อมอนเตอร์.
เนื่องจากมันเป็นสถานที่ที่ไม่มีคนอาศัย เดาได้ว่ามันต้องเป็นเสียงของสัตว์ป่า แต่ผมมั่นใจว่านี่เป็นเสียงโหยหวนของมอนเตอร์
“พอร์ทัลอีกอันระเบิด?”