I Never Run Out Of Mana – ตอนที่ 76. การเคลื่อนไหวของโกสต์ (2)

เป็นเวลา 3 วันแล้วตั้งแต่ที่ผมไม่ได้เข้าดันเจี้ยนเลเวล 25.

ผมของบันวอนจินชอยจากโฮจินมาอักหนึ่งและถือมันไว้.

เพราะว่าจุงโฮและโฮจินกำลังใช้แหวนบัลล็อคในการลงดัน พวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องการของที่เพิ่ม Str เป็นพิเศษ.

ผมรู้สึกว่าผมต้องได้ดาบพวกนั้นในไม่ช้า.

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมให้ยืมและขอคืน แม้ว่าผมจะเป็นเจ้าของมันตัวจริง แต่ผมก็ยังรู้สึกแย่.

บนรถแท็กซี่ที่กำลังไปยังดันเจี้ยนครั้งแรกของวัน ผมยังได้เห็นดันเจี้ยนเลเวลต่ำๆที่คุ้นเคยระหว่างทาง.

ทางเข้าดันเจี้ยนนั้นปลอดคนกว่าวันก่อนๆ.

อาจเป็นเพราะมีโรงเรียนหลายแห่งเริ่มเปิดหลังจากที่ปิดเทอม.

อเวคส่วนใหญ่ยังเป็นเด็กมัธยม ดังนั้นดันเจี้ยนเลเวลต่ำกว่าเลเวล 10 จึงเต็มไปด้วยอเวคเด็กๆ.

มีไม่กี่คนที่เป็นอเวคเมื่อปีก่อนๆ แต่ส่วนใหญ่จะถูกบังคับให้ไปโรงเรียนอย่างไม่มีทางเลือก.

เมื่อคิดถึงเรื่องพวกนี้แล้ว ก็เกิดความรู้สึกที่เหนือกว่าในเวลาสั้นๆ.

มันเป็นเวลากว่า 3 วันแล้ว แต่ประตูของดันเจี้ยนอันโนว์ก็ยังไม่ปรากฏออกมา.

ดันเจี้ยนลิซคิงและประตูสู่นรกก็ปรากฏหลังจากผ่านไปเกือบสองสัปดาห์ ดังนั้นจึงเร็วเกินกว่าจะรู้ว่านี่เป็นวิธีที่ผิด.

เรากำลังเครียร์ดันเจี้ยนอันโนว์ แต่ค่าประสบการณ์ที่เราได้รับมันก็ยังไม่ทำให้เราพึงพำใจ.

หลังจากที่เราได้รับ Exp 2 ล้านทุกๆการเครียร์ดันเจี้ยนของเลเวล 34.

นี่เป็นเหตุผลที่ผมไม่รู้สึกตื่นเต้นจากค่าExpที่ผมได้รับในตอนนี้.

อีกอย่างก็คือผมผมเลเวลได้ในเวลาสั้นๆและExpที่ผมได้รับมันต้องได้มากพอที่ผมต้องการ.

จากทฤษฏีที่จะทำให้ประตูปรากฏที่ผมเดากับจุงโฮ ผมหวังว่าทฤษฏีที่สองที่ดันเจี้ยนอันโนว์มีโอกาสต่ำที่จะปรากฏนั้นน่าจะถูกต้อง.

หากทฤษฏีสุดท้ายเรื่องการสังเวยเป็นเรื่องจริง…

ทำยังไงถึงทำให้คนจำนวนมาเข้ามาในดันเจี้ยน?

คุณต้องทำยิ่งกว่าคำสัญญาที่ว่าจะพาคนเครียร์ดันเจี้ยนขณะที่คุณต้องซ่อนตัวตนของคุณเอาไว้ด้วย.

แต่อย่างแรกสำหรับเหล่านี้ ผมจะสังหารคนบริสุทธิ์ได้อย่างไร.

มันเป็นอีกด้านของความคิด ว่ามันคงจะดีแค่ไหนถ้าการต่อสู้ที่ผมเคยทำกับกิลด์โนเบลสมาอยู่ในดันเจี้ยน.

ผมมี ID อเนกประสงค์จากโฮจินและ แมสสเลจูสึ ที่ทำให้ทุกคนไม่อาจมองเห็นผมได้.
(ต่อไปจะเป็น IDผี)

เดิมทีผมวางแผนไว้ว่าจะลองสักสามวันเพื่อหาดันเจี้ยนอันโนว์.

แต่ตอนนี้ผมเปลี่ยนใจแล้ว.

ด้วยการเลเวลอัพ ผมสามารถแข็งแกร่งได้ด้วยค่าสถานะ 5 แต้มต่อ 1 เลเวล.

แต่ถ้าผมยิ่งอัพได้เร็วขึ้นด้วย ค่าสถานะเหล่านั้นจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

อีกด้านผมก็คิดว่าการได้อาติแฟ็คเป็นอะไรที่น่าทึ่ง.

อย่างเช่น ดาบคู่อาชูร่า ที่โจ๊กเกอร์มี.

มันเป็นอาวุธที่ให้ Str-Dex มากกว่า 200 แต้มเกินกว่าที่บันวอนจินชอยให้อีก.

มันแข็งแกร่งแม้ว่ามันจะมีคุณภาพต่ำที่สุดหากมันดรอปลงมาก.

ผมจะได้รับสถานะเท่ากับ 80 เลเวลในครั้งเดียว.

ดันเจี้ยนอันโนว์คือคำตอบสำหรับผม.

มันปรากฏขึ้นมาและผมจะได้กลับบ้านหลังจากลงดันฯเสร็จ.

ชายที่โดดเดี่ยวที่กำลังเดินไปมาในดันเจี้ยน.

มันไม่ใช่วันนี้.

เป็นเวลาหลายวันแล้วที่ดูเหมือนว่าผมจะหาอยู่ในพื้นที่เดิมๆ.

ดูเหมือนว่าเขาจะต้องหาปาร์ตี้หรือพยายามลงดันฯต่อไป.

มันไม่พอสำหรับผมที่จะระวังเขา แต่ผมก็ไม่อาจเมิณเฉยต่อพฤติกรรมแปลกๆของเขาได้.

มันเกิดขึ้นขณะที่ผมใช้สเตลผ่านเขา.

ผมได้ยินเขาพูดพึมพำ

เวทย์ไซเรนจะดูดซับเสียงทั้งหมดที่ผมทำ แต่เสียงจากภายนอกเข้าได้เหมือนเดิม.

ผมไม่เห็นใบหน้าของเขาเนื่องจากเขาสวมหมวก แต่ผมสามารถฟังคำพูดของเขาได้อย่างแน่นอน.

“เขา….ที่นี่….เด็กน้อย….เด็ก”

ตัวของเขาสั่นราวลูกศิษย์ถูกด่าเหมือนกับใบไม้.

การเคลื่อนไหวร่างกายของเขาดูเหมือนอึดอัดราวกับว่าเขาไม่สบายใจ.

ผมคิดว่าเขาผิดแปลกบาบอย่างและพยายามพาตัวเองเข้าไปอยู่ในรูปแบบของเขา

อย่างไรก็ตามคำที่ผมได้ยินถัดไปทำให้ผมลังเล.

“โจ๊กเกอร์….ตาย…เด็กน้อย….เด็กนั่น…ฆ่า….เขา….ว่ะฮ่าฮ่าฮ่า!”

“เชี่ย!”

ผมสาบานอย่างไม่รู้ตัว.

ชายคนนี้พูดถึงโจ๊กเกอร์.

บางทีผมอาจจะมีปฏิกิริยามากเกินไป เพราะผมใส่ใจเกี่ยวกับโจ๊กเกอร์มากเกินไป.

แต่ถ้าคุณรวมในสิ่งที่เขาพูดถึงโจ๊กเกอร์ที่ว่าเขาได้ตายเพราะเด็กน้อย.

มันเกินกว่าที่จะเป็นเรื่องบังเอิญ.

‘เขามาจากพวกหัวรุนแรงงั้นหรอ? มันไม่ควรมีใครรู้จักตัวตนของผมนอกจากโจ๊กเกอร์…’

ผมตัดสินใจที่จะตรวจสอบเขาอีก.

มันจะเป็นการตัดสินว่าเขาเป็นคนบ้าหรือว่าเขาพยายามหาตัวผมหลังจากที่เขาระบุตัวตนของผมได้.

ผมต้องทำให้แน่ใจว่าเขาจะไม่เห็นผม.

เขาพูดคนเดียวของเขาต่อไปเป็นเวลานาน.

ทั้งหมดที่เขาพูดคือสิ่งที่ผมเคยได้ยินมาก่อน มันเป็นการพูดแบบเดียวซ้ำๆ.

มันเป็นอย่างนี้มาตลอดชั่วโมง.

ไม่มีคนอื่นดังนั้นผมคิดว่าผมอาจจะระแวงเกินไปและต้องการจากไป.

ทันใดนั้นเขาก็หายใจเข้าลึกๆและสั่นอย่างรุนแรง.

ดวงตาของเขาเริ่มจดจ่อและร่างกายของเขาเริ่มมั่นคง.

มันเกือบจะเหมือนกับนักแสดงมากพรสวรรค์ที่ทำทำการแสดงหน้ากล้องเสร็จ.

หลังจากที่สูดจมูก ชายคนนั้นพูด.

“ว้าว! เย็นจัง ฉันรู้สึกว่ามัน…แปลกๆ?”

ขณะที่เขาพูดอย่างนั้นดวงตาของเขาก็มองมาที่ผม.

มันเป็นแบบนั้น!

“อุฟฟ! เจอนายแล้ว อย่าซ่อนตัวอยู่อย่างนั้นเลย ออกมา!”

‘ห๊ะ? ไม่มีอะไรอยู่ด้านหลังเรา เพราะงั้นมันก็เป็นเรางั้นหรอ? ไม่มีทางที่เราจะเผยตัว!’

ผมรีบตรวจสอบตำแหน่งของผมหลังจากนั้นผมก็เปิดวาป.

ยิ่งไปกว่านั้นผมยังไม่พลาดที่จะดูการเคลื่อนไหวของเขา.

ในขณะที่มองมาที่ผม เขาก็พูดต่อ.

“อุฟฟ! ในหนังถ้าฉันพูดอะไรแบบนี้พวกเขาจะออกมา ฉันเดาว่าฉันเสียเวลาซะแล้ว.”

หลังจากที่ทำให้ผมกังวลอย่างนั้น เขาก็มองไปรอบๆเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะใช้วาป.

ผมแน่ใจว่าเขามาจากกลุ่มหัวรุนแรง.

พวกเขามักจะพูดกันว่าความเศร้าจากการทำงานนั้นไม่ผิด.

มันดูเหมือนกับว่าเขากำลังตามหาผมอย่างรีบร้อน.

ยิ่งกว่านั้น ความสามารถของเขาดูเหมือนจะไม่ห่างจากโจ๊กเกอร์.

เขาสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับการที่โจ๊กเกอร์ตายและที่อยู่ของผม.

‘เวรแล้ว ในที่สุดก็รู้แล้วว่าทำไมเรื่องมันได้เงียบหายไป….’

****

“ท่านซีคิล! การเตรียมการทั้งหมดพร้อมแล้ว.”

“ทำได้ดี ดาร์กเลดี้ ผมได้ยินมาว่าคุณได้เตรียมพอร์ทัลถึง 4 จุด.”

“ค่ะ ถูกต้อง มีสองที่ที่เลเวล 29 อีกสองที่คือเลเวล 30 และเลเวล 31 มันถูกเตรียมพร้อมแล้ว”

“ดี…หนึ่งชั่วโมงหลังจาก 20.00 น. ในระเบิดพวกมันพร้อมกัน.”

“ค่ะ!”

“นอกจากนี้ให้ประธานสมาคมชอยมันซูหาตำแหน่งดันเจี้ยนที่เลเวลใกล้ๆ 40 และเริ่มจัดการที่นั่น.”

“…..”

“ทำให้คุณต้องกังวลแล้ว ดาร์กเลดี้?”

“ม…ไม่ค่ะ ท่านซีคิล!.”

“เป้าหมายแรกของเราคือการทำให้ประเทศนี้ถูกขับไล่จากองค์กรอของอเวค มอนเตอร์ที่ออกมาหลังจากระเบิดจะถูกจัดการทีหลังเมื่อปัญหาต่างๆจัดการเสร็จแล้ว ความเสียหายที่สมาคมโดนจะพยายามหยุดเองมันจะเป็นผลดีกับพวกเรา.”

“ค่ะ เข้าใจแล้ว ฉันจะเรียกชอยมันซูเตรียมพร้อมให้เร็วที่สุด.”

“ดี….”

ซีคิลยังคงจิบชาของต่อไป.

เขามีการแสดงออกทางใบหน้าอย่างพอใจเพราะนี่คือสิ่งที่เขาจะได้ยิน.

หลังจากนั้นเขาก็พูดกับโกสต์ที่นั่งอยู่ถัดจากดาร์กเลดี้.

“โกสต์….”

“ครับ.”

“ผมได้ยินว่าคุณไปที่ดันเจี้ยนเลเวล 25 ในชอยแดงนัม จริงหรือเปล่า?”

“อืม…คุณรู้ได้ไง? ถูกต้อง ผมไปมา.”

“เหตุผลคือ? มันเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณไม่ได้มาสองสามวันี้ บางทีมันอาจจะเกี่ยวข้องกับโจ๊กเกอร์….”

“เฮ้…ทำไมโจ๊กเกอร์ต้องไปดันเจี้ยนเลเวล 25 ผมรู้สึกว่ามีบางคนมีความสามารถ เพราะงั้นผมจึงคิดที่จะค้นหาเขา.”

“สถานะตอนนี้ไม่เหมือนปกติ คุณก็รู้ ช่วยเหลือโปรเจ็คของดาร์เลดี้.”

“ครับ.”

เหมือนกับเด็กที่ถูกคุณครูดุ โกสต์ตอบด้วยสีหน้าเศร้า.

เขาเป็นคนที่ไม่อาจคาดเดาได้.

เขาดื่มชาของเขาอีกครั้ง ซีคิลพูดด้วยสีหน้าจริงจัง.

“โจ๊กเกอร์…ยังไม่ได้ข่ายของโจ๊กเกอร์อีกหรอ?”

“ค่ะ….”

“เดาว่าดันเจี้ยนอันโนวคงจะสนุดสุดๆเลย? ผมเลยไม่อาจรั้งเขาเอาไว้ได้.”

ดาร์กเลดี้เอื้อมไปหยุดโกสต์ไม่ให้พูดกับเจ้านายของเธอ.

โกสต์กำลังพูดกับหัวหน้าใหญ่ซีคิล เพราะว่าเธอก็เป็นหนึ่งในผู้ติดตาม ไม่ว่าทางไหนมันก็ยังไม่ใช่ทางที่เหมาะสม.

ดาร์กเลดี้จ้องมองไปที่โกสต์อย่างรุนแรง.

ด้วยการที่เข้าใจความหมายที่อยู่เบื้องหลัง เขามองหน้าเธอก่อนที่จะพยักหน้าอย่างโง่งม.

“โกสต์ คุณก็ไม่รู้ว่าโจ๊กเกอร์อยู่ไหนงั้นหรอ?”

“ครับ มันไม่หายไปเลย ผมสงสัยว่าเขาตายไปแล้วจริงๆหรือเปล่า อาจเป็นไปได้ว่าเขาจะซ่อนตัวจากพวกเราเหมือนกัน.”

“อวดดี! ไอ้โจ๊กเกอร์….แล้วกลุ่มที่โจ๊กเกอร์จัดการใครเป็นผู้นำ?”

“ตอนนี้มีรองหัวหน้าที่มีสองคลาสกำลังทำหน้าที่แทนเขา.”

“ถ้าเขาไม่ปรากฏตัวมาจนกว่าจะเกิดการระเบิดพอร์ทัลครั้งต่อไป ผมขอสั่งให้เขามาที่นี่ มันเหลืออีกไม่นานจนกว่าเราจะทำธุระเสร็จ เราคงไม่อาจให้เขาทำหน้าที่เป็นหัวหน้าชั่วคราวไปตลอดได้.”

“ครับ เข้าใจแล้ว.”

“คุณจะไปเมื่อไหร่?”

“ผมหวังว่าความวุ่นวานจะมาถึงในไม่ช้า.”

จบคำพูดของเขา ร่างของเขาก็หายไป.

ดาร์กเลดี้ที่อยู่ในออฟฟิศคนเดียวถาม.

“คำพูดที่คุณพูดครั้งสุดท้าย มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”

“ห๊ะ? งั้นเราจะไปกินอะไรที่กังวอนดี? แน่นอน! เมื่อไหร่? คุณจะไปเมื่อไหร่?”

ดาร์กเลดี้หยิบอาวุธออกมาเล่มหนึ่งอย่างเงียบๆ มันเป็นดาบสั้น.

หลังจากนั้นเธอก็ถามคำถามเดิม.

เมื่อเห็นว่ากำลังอยู่ในอารมณ์ที่จริงจัง โกสต์พูด.

“หิม…เดาว่าผมคงไม่ได้ออกได้อย่างจำใจ.”

****

บางทีมันอาจจะเป็นลางร้ายหรือลางดี ชายคนที่อยู่ด้านหน้าดันเจี้ยนไม่อาจมองเห็นได้อีกต่อไป.

หลังจากนั้นผมก็วิ่งไปดันเจี้ยนเลเวล 25 มาสองวันแล้ว แต่ประตูก็ยังไม่เปิด.

มันจะแตกต่างไปอย่างมาก หากว่าผมไม่รู้ แต่อย่างไรผมก็ไม่อาจเสียเวลาได้อีกต่อ.

ผมปล่อยเรื่องดันเจี้ยนอันโนว์ชั่วคราวและมุ่งแน่นไปยังแผนสองของผมที่จะทำให้ผมได้รับประโยชน์มากที่สุด จากดันเจี้ยนเลเวล 34.

มันเป็นเพราะแก่นอเวคแตกและอาติแฟ็คอาจจะดรอปลง.

ส่วนอีกเรื่องที่ผมกังวลก็คือ ชายก่อนหน้าคนนั้นอาจจะมาหาผมอีกครั้ง.

เหมือนกับตอนดันเจี้ยนเลเวล 25 เขาอาจจะปรากฏตัวที่ดันเจี้ยนเลเวล 34 อีกครั้ง.

ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมจะฆ่าเขา.

ไม่มีทางที่พวกเหล่านั้นจะเป็นคนดี.

ถ้าผมมีหลักฐานว่าเขาเป็นกลุ่มหัวรุนแรงอย่างชัดเจนตั้งแต่ที่เจอกันครั้งแรก ผมอาจจะฆ่าเขา.

ผมพยายามจะมุ่งหน้าไปดันเจี้ยนเมื่อมันเกิดขึ้น.

-ครี่กก. ครี่กกกกก!

“อะไร? แผ่นดินไหว?”

แม้แต่แท่นขุดเหมืองที่อยู่ด้านในก็ยังสั่นอย่างรุนแรง.

ผมคิดว่ามันเป็นแผ่นดินไหวที่เกิดจากอาฟเตอร์ช็อค.

-ครึ่นๆๆ ครึ่กๆๆ!

ผมไม่คิดว่านั่นจะเป็นเสียงของแผ่นดินไหว.

อย่างไรก็ตามมันใช่เวลาไม่นานก่อนที่ผมจะรู้ เพราะมันไม่ได้เกิดเพียงครั้งเดียว.

เสียงที่ผมได้ยินตอนนี้คือเสียงของความหวาดกลัวต่อมอนเตอร์.

เนื่องจากมันเป็นสถานที่ที่ไม่มีคนอาศัย เดาได้ว่ามันต้องเป็นเสียงของสัตว์ป่า แต่ผมมั่นใจว่านี่เป็นเสียงโหยหวนของมอนเตอร์

“พอร์ทัลอีกอันระเบิด?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset