Chapter 112 -จูบ
เอริค ขับแลมโบกินีสีม่วงมาหยุดตรงหน้าโรงแรมที่ เจนนิเฟอร์คอนเนลลี่ อยู่ ในตอนที่เขาลงมาจากรถ เขาก็เห็น เจนนิเฟอร์ ที่ใส่ชุดสีฟ้าซีดๆยืนอยู่ด้านนอกโรงแรมพร้อมกับชายวัยกลางคนอีกคนที่รอเขาอยู่
ในตอนที่ลงจากรถ ทั้งสองคนก็พบเขาและรีบเดินเข้ามาทักทายเขา เจนนิเฟอร์ ยิ้มให้กับ เอริค ส่วนชายวัยกลางคนรีบยื่นมืออกมาแล้วแนะนำตัวเอง – “สวัสดี คุณวิลเลียม ผมเป็นตัวแทนของ คุณคอนเนลลี่ คุณพร้อมจะไปรึยัง ผมได้จองร้านอาหารเอาไว้แล้ว “
เจนนิเฟอร์ รู้สึกว่าสาตาและน้ำเสียงของ เอริค นั้นดุดันราวกับว่าเขาถือว่าเธอนั้นเป็นของของเขา เธอไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง เธอจึงให้ตัวแทนของเธอมาช่วย
เธอเริ่มเปิดตัวในตอนอายุ 13 ปี เพราะหน้าตาที่สวยของเธอ มันจึงมีมากกว่าครั้งหนึ่งที่ผู้ชายอยากได้ตัวเธอแต่ก็ไม่มีใครกล้าทำแบบเปิดเผยเหมือนที่ เอริค ทำ เธอรู้สึกว่าถ้าเธอไปกับเขาแบบสองต่อสอง ทุกวิธีที่เธอใช้กับชายคนนี้คงไม่ได้ผล
เอริค มองตาม จิมเลสเตอร์ ที่ยืนอยู่ข้างๆเธอ – “ คุณเลสเตอร์ นายจะไปกับเราด้วยงั้นเหรอ ? “
เลสเตอร์ ไม่กล้ามองไปที่ เจนนิเฟอร์ ร้องขอให้ช่วย เขายิ้มและส่ายหน้า – “ แน่นอนว่าไม่ คุณวิลเลียม ฉันจะไปรบกวนการเดตของคุณสองคนได้ยังไง? “ – เมื่อพูดถึงตรงนี้ ชายวัยกลางคนก็ถามขึ้นมาอย่างลังเล – “ คุณวิลเลียม นายช่วยบอกฉันทีได้มั้ยว่าการออดิชันของ เจเน็ต วันนี้เป็นยังไง ?”
มันรู้สึกแปลกที่ได้ยินชายคนนี้เรียกเธอว่า เจเน็ต ชื่อเล่นนี้ไม่ได้เหมาะกับเธอเลย
เขาสลัดความคิดพวกนั้นแล้วพูดเข้าประเด็น – “ ถ้าไม่มีอะไรไม่คาดฝัน ! บทนี้ก็จะเป็นของเธอ “
แม้แต่ เจนนิเฟอร์ ก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่เขาด้วยความแปลกใจซึ่งรวมไปถึงตัว เลสเตอร์ เองด้วย
ในฐานะผู้ชายแล้วและยังเป็นตัวแทนของเธอ เขารู้ว่า เอริค ต้องการได้ตัว เจนนิเฟอร์ ดังนั้นเขาจึงมั่นใจว่า เอริค ต้องรักษาคำพูดแน่ๆ
เขารู้ว่าเมื่อ เอริค พบนักแสดงดีๆ เขาจะพยายามเอาตัวคนนั้นมาในบริษัทของเขาในฐานะตัวแทนของนักแสดงชั้นสาม เลสเตอร์ รู้ว่าถ้าเขาไม่คว้าโอกาสนี้ เขาคงไม่มีทางได้พบโอกาสแบบนี้อีก
“ คุณวิลเลียม ฉันคิดว่า UTA เป็นเอเจนซี่ที่ดูเติบโตได้ดี ฉันอยากที่จะเข้าไปอยู่ด้วยกับนักแสดงของฉัน คุณคิดว่าไง ?”
เจนนิเฟอร์ มองไปที่ตัวแทนของเธอด้วยความแปลกใจ เลสเตอร์ ไม่เคยพูดเรื่องนี้กับเธอมาก่อนซึ่งมันทำให้เธอไม่พอใจกับการตัดสินใจของเขา แต่เธอก็เลือกที่จะไม่ถกเถียงกับนายหน้าของเธอต่อหน้า เอริค
ในเวลาเดียวกันเธอก็มองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างกังวล เธอรู้ว่า UTA นั้นเป็นเอเจนซี่ของ เอริค ดังนั้นเมื่อ เอริค ตกลง เธอก็จะไม่มีทางปฏิเสธได้ นอกซะจากว่าเธอจะไม่ต้องการบทหนังใน Running Out of Time แต่ลึกๆลงไป เธอปฏิเสธที่จะเข้าร่วม UTA ไม่ใช่เพราะเธอไม่เห็นค่าของ UTA แต่เพราะ เจนนิเฟอร์ รู้สึกว่าเธอจะกลายเป็นลูกแกะที่เข้ารังสิงโต
เอริค เองก็เห็นว่า เจนนิเฟอร์ นั้นแปลกใจและมีสีหน้ากังวล ดังนั้นเขาจึงได้มองไปที่ชายวัยกลางคนตรงหน้า
หลังจากที่คิดสักพัก เขาก็ได้พูดขึ้นมา – “ คุณเลสเตอร์ นายน่ะเป็นคนฉลาด นายรู้ที่จะคว้าโอกาสไว้และนายได้ตัดสินใจได้ถูกในการเข้าร่วม UTA “
เขาไม่ได้คิดที่จะฝัง เจนนิเฟอร์ เข้ากับ UTA แต่เขาคิดที่จะให้ คาปัวร์ ดูแลเธอ
แต่เนื่องจากตัวแทนของเธอพูดเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน เอริค จึงรับมันอย่างเต็มใจและเนื่องจาก เลสเตอร์ ต้องการที่จะดูแลเธอต่อไป เขาก็จะปล่อยให้อีกฝ่ายทำ ยังไงซะ เอริค ก็ไม่สามารถให้ทุกคนอยู่ภายใต้การดูแลของ คาปัวร์ ได้ บวกกับตอนนี้ คาปัวร์ ก็แทบจะจัดการหลายๆอย่างไม่ทันแล้วและถ้า เลสเตอร์ พิสูจน์ตัวเองไม่ได้ในอนาคต เขาก็จะไล่อีกฝ่ายออก
“ แล้วนายมีนักแสดงตอนนี้กี่คน ? “ – เอริค ถามเมื่อจำที่ เลสเตอร์ บอกได้
“ 4 รวม เจเน็ต แล้ว “ – เลสเตอร์ ตอบกลับทันที เขากำลังจะเริ่มแนะนำนักแสดงอีก 3 คนแต่ เอริค ก็ขัดขึ้นมาซะก่อน – “ เลิกสนใจ 3 ตนนั่น ตอนนี้ UTA นั้นดูแลได้แค่ คุณคอนเนลลี่ เท่านั้น “
เลสเตอร์ คิดสักพัก เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับอีกสามคน หนึ่งนั้นเป็นน้องของเพื่อนเขาซึ่งบอกให้เขาดูแลเป็นพิเศษแต่เมื่อคิดถึงอนาคตของตัวเองแล้ว เลสเตอร์ ก็รีบตัดสินใจ – “ ไม่มีปัญหา คุณวิลเลียม “
หลังจากที่จัดการเรื่องนี้แล้ว เลสเตอร์ ก็ขอตัวกลับแล้วปล่อยให้ เจนนิเฟอร์ อยู่กับ เอริค
… …
เอริค สตาร์ทรถแล้วมองไปที่เด็กสาวที่นั่งอยู่เบาะข้างๆและอยู่ๆก็โน้มเข้าไปหา
เจนนิเฟอร์ เห็นท่าทีของ เอริค และยกมือขึ้นมาก่อนจะถามออกมาด้วยความกลัว – “ นาย ! ….นายจะทำอะไร ?”
“ ทำไมเธอต้องกลัวด้วย “ – เอริค พูดพ้อมกับมือที่ยื่นผ่านตัวเธอไปก่อนจะถึงเข็มขัดให้ – “ ฉันขับรถคันนี้ดีๆไม่ได้ มันจะปลอดภัยกว่าถ้าเธอคาดเข็มขัดเอาไว้ “
“ฉันจะทำเอง “- เธอพูดขึ้นพร้อมเอื้อมมือไปจับเข็มขัดแต่แทนที่จะจับสายเข็มขัด เธอกลับจับไปที่มือ เอริค แทน เธอช็อกแล้วรีบดึงมือกลับมาราวกับว่าเธอจับไฟ
หลังจากที่รัดเข็มขัดให้เธอแล้ว เอริค ก็ได้กลับมาที่นั่งของตัวเองแต่ไม่ได้ออกรถทันที เขาเอียงหน้าไปมาและมองไปที่เด็กสาวที่นั่งข้างเขาอยู่หลายครั้ง
“ เธอกลัวฉันรึเปล่า ?” – หลังจากนั้นสักพัก เอริค ก็ถามขึ้นมา
เจนนิเฟอร์ พยักหน้าแต่หลังจากที่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไป เธอก็รีบส่ายหน้าทันที – “ คุณวิลเลียม ฉัน…ฉันไม่ได้หมายถึงแบบนั้น “
“เธอเรียกฉันว่า เอริค ก็ได้ “
เธอรีบมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วพยักหน้า
“ มาสิ มองมาที่ฉันนี่ “ – น้ำเสียงของ เอริค ดูนุ่มนวลลง ดังนั้นเธอจึงหันกลับมาและมองเขาด้วยสายตาสงสัย
อยู่ๆ เอริค ก็ยื่นมือไปด้านหลังหัวของเธอและโน้มตัวเข้ามาจูบปากของเธอ
การเข้ามาของ เอริค ทำให้เธอตกใจ เธอยกมือวางไปที่อกของเขาแต่เธอลืมที่จะผลักเขาออกไป รู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายดูดลิ้นของเธอและลิ้นของเขาก็พยายามเข้ามาในปากของเธอ หลังจาก เอริค ปล่อยเธอตอนที่จูบเสร็จ ตาของเธอก็มีน้ำตาปริ่มออกมา
“ นายทำแบบนี้ได้ยังไง ? “ – ท่าทีแรกของเธอคือการตบ เอริค และจากนั้นก็จะลงจากรถแต่ก็พบว่าเธอไม่อาจที่จะขยับได้
เธอพยายามปลดเข็มขัดออกแต่ เอริค ก็เหยียบคันเร่งแล้วขับออไปแต่เธอก็ยังพูดขั้นมา – “ คุณวิลเลียม นายช่วยจอดที ฉันอยากจะลง “
“ ไม่เอาน่า เป็นเด็กดีหน่อยแล้วก็รัดเข็มขัดด้วย “
“ ไม่ ! …..ฉันอยากลง ! “ – เธอพูดขึ้นมาดังกว่าเดิม
เอริค กำลังจะพูดบางอย่างให้เธอใจเย็นในตอนที่เบนซ์คันหนึ่งขับเข้ามาใกล้ เอริค เริ่มด่าและบีบแตรใส่ พวกนั้นเกือบขับมาชนรถของเขา บางทีเพราะคนในรถเห็นสาวสวยในรถของเขา รถพวกนั้นอยู่ใกล้รถของเขาและเริ่มที่จะผิวปากให้กับเธอ เขาเหยียบคันเร่งด้วยความโกรธและขับออกไปเร็วยิ่งกว่าเดิม
หลังจากที่รถเบนซ์หายไปจากกระจกมองหลัง เอริค ก็พบว่าตัวของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ เมื่อมองไปที่เด็กสาวข้างๆ เอริค ก็พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง – “ รัดเข็มขัดซะ “
เจนนิเฟอร์ ไม่ได้ต่อต้านอะไรในตอนนั้น เธอไม่อยากคิดว่าชีวิตเป็นเรื่องตลก เธอจึงรัดเข็มขัดอย่างเชื่อฟังแต่เธอก็ยังหันหน้าหนีและไม่คิดที่จะมองกลับไปที่เขา
… …
10 นาทีต่อมา แลมโบกินีคันสีม่วงก็ได้มาหยุดที่หน้าร้านอาหารอิตาลีในเบเวอรี่ฮิลล์ เมื่อพนักงานเห็นรถสุดหรู เขาก็รีบเดินออกมาแล้วเปิดประตูรถให้
เอริค ลงจากรถแล้วส่งกุญแจกับทิปให้กับพนักงานและจากนั้นเขาก็เปิดประตูให้กับ เจนนิเฟอร์ บางทีเธออาจจะใจเย็นลงเพราะเธอได้ใช้เวลาทั้งหมดในตอนเดินทางนั้นเมินเขา เธอยื่นมืออกมาอย่างเชื่อฟังและตามเขาเข้าไปในร้าน
“ ทำไมผู้หญิงต้องสั่งสลัดตลอดเลย ทำไมไม่สั่งอย่างอื่น ?” – เอริค อดถามไม่ได้หลังจากที่ได้ยินที่เธอสั่ง
เจนนิเฟอร์ มองไปที่เด็กเสิร์ฟข้างๆและพูดขึ้นมาเบาๆ – “ ฉันไดเอตอยู่ “
เขาไม่คิดที่จะซักไซ้เธอต่อ เขาได้สั่งอาหารเย็นของเขากับไวน์ขวดหนึ่งก่อนจะยื่นเมนูกลับไปให้เด็กเสิร์ฟ
หลังจากที่เด็กเสิร์ฟเดินออกไปแล้ว เอริค ก็ได้พูดขึ้น – “ เอาล่ะ สาวน้อย ยิ้มหน่อยสิ เธอทำฉันรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำนะ “
“ ฉันไม่เชื่อนายหรอก “ – เธอจ้องโกรธๆมาที่ เอริค และพูดขึ้น – “ และหยุดพูดเหมือนนายแก่กว่าฉันได้แล้ว นาย…นายแก่กว่าฉันแค่ไม่กี่เดือนเอง “
“ ถือว่าเป็นเกียรตินะที่เธอรู้ว่าฉันเกิดตอนไหน ฉันมั่นใจว่าเราคงเข้ากันได้ดีในอนาคต ฉันเองก็จำวันเกิดเธอได้ 12 ธันวาคม ใช่มั้ย ? “
คำพูดของ เอริค ทำให้เธออึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย – “ นายรู้วันเกิดฉันได้ยังไง ? “
“ จากเอกสารเธอไง “ – เขายิ้มแล้วโกหกเธอไปเพื่อทำให้เธอผ่อนคลาย – “ ฉันรู้เรื่องเธอเยอะ หนังเรื่องแรกของเธอคือ Once Upon a Time in America ที่ออกฉายปี 1984 ตอนฉันเห็นเธอในหนังเรื่องนั้น ฉันก็ตกหลุมรักเธอ จนวันนี้เด็กสาวที่ฉันฝันถึงก็ได้มาปรากฏัวต่อหน้าฉัน “
ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่ชอบเรื่องความรักที่โรแมนติค นี่ไม่ต้องนับว่ามันมาจากผู้กำกับหนุ่มผู้โด่งัดง เธอก้มหน้าด้วยความอายไม่กล้ามองไปที่ตาของเขา เธอลืมไปทันทีว่าเขาแอบจูบเธอในรถมาแล้ว