Chapter 120 – บทสัมภาษณ์ของริชาร์ดเกียร์
ในวันที่ 17 มีนาคม นี่เป็นอาทิตย์แรกของช่วงอีสเตอร์ หนังใหม่หลายเรื่องถูกปล่อยออกมาในวันนั้น นี่รวมไปถึงหนังที่ได้รับการคาดหวังไว้สูงอย่าง Road House สำหรับหนังเรื่องนี้ United Artists ได้ใช้โรงหนังกว่า 1927 โรงในการฉายในวันหยุด มากกว่าจำนวนที่ใช้ฉาย Pretty Woman กว่าหลายสิบโรง United Artists ได้ใช้เงินไปจำนวนมากกับนักวิจารณ์เพื่อให้พวกนั้นชมหนังแต่ในวันต่อมาหลังจากรอบปฐมทัศน์ หนังก็ได้รับการวิจารณ์จากทุกคน
———–
“ ตัวพระเอกนี่ถูกตั้งมาแปลกๆ เขาเป็นสุดยอดมนุษย์และเขาเองก็เชี่ยวชาญทักษะต่อสู้แต่เขายอมทำงานเป็นคนคุมบาร์บวกกับแต่งตัวอย่างกับคาวบอยและจากนั้นผู้กำกับก็สร้างให้เขาเป็นยอดฮีโร่แต่ก็ไม่ได้มีสิทธิเป็นฮีโร่เต็มตัว เขาฆ่าลูกน้องได้โดยไม่สนใจอะไรแต่เขากลับเมตตาให้กับคนร้ายที่เขาเกลียดที่สุด เอาสั้นๆนะ มันเป็นหนังที่มีเนื้อเรื่องไร้สาระ “ – Chicago Tribune
“ หนังนี้เต็มไปด้วยความสับสน, ไร้กฎหมาย,การทำลายล้างและความรุนแรง มันเป็นเรื่องตลกชัดๆ” – นิตยาสาร Movie Guide
“ ฉันเห็นเห็นแค่ถังเหล้ากับขวดเบียร์และกลุ่มสาวอกโตแล้วก็เลือดปลอมที่กระจายไปทั่ว เรื่องนี้น่ะไม่มีอะไรเด่น ริชาร์ดเกียร์ ก็แสดงทื่อๆ เขาน่ะไม่ได้อยู่ระดับเดียวกับคนร้ายเลยด้วยซ้ำ “- นิตยาสารหนัง Montreal
“ เป็นหนังที่ตลกและเสียงดัง “- Reel Movie Review
“ เอานักแสดงนำออกเลยก็ได้และเนื้อเรื่องก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร คนร้ายต้องการคุมเมือง เขาเลยทำเรื่องป่าเถื่อนอย่างการเริมสู้, ฆ่าคนและจากนั้นก็พลเมืองก็ทนไม่ไหวแล้วไปฆ่าคนร้ายแล้วก็ลูกน้อง ฉันล่ะไม่เชื่อว่า ริชาร์ดเกียร์ จะปฏิเสธหนังของ เอริควิลเลียม อย่าง Pretty Woman เพื่อหนังแบบนี้ ฉันไม่รู้ว่าเขาจะนอนหลับมั้ยคืนนี้ “ – The Hollywood Journal
“ หนังนี่มี่ค่าอะไรเลยนอกจากเพลง “ – Rolling Stone Magazine
———-
เพราะความเห็นของผู้คน ในวันแรกของการฉาย 1927 โรงนั้นมีคนเข้าไปดูกว่า 70% แต่ด้วยคำวิจารณ์ด้านเดียวหลังจากที่หนังฉายไป ผู้ชมก็ลดลงอย่างรวดเร็ว
สามวันต่อมา รายได้ของหนังก็เริ่มลงดลงพร้อมกับอาทิตย์แรกของช่วงอีสเตอร์ที่จบลง นี่เองก็เป็นอาทิตย์ที่หกของ Pretty Woman และไม่แปลกใจเลยว่า Pretty Woman ทำรายได้ไปมากกว่าอาทิตย์ที่แล้ว 2.4 ล้านขึ้นเป็น 11.27 ล้านได้อันดับแรกของบ็อกออฟฟิศ ใน 6 อาทิตย์ หนังก็ทำรายได้ไปถึง 97.69 ล้าน เอริค เชื่อว่าก่อนอาทิตย์หน้า หนังของเขาคงทำรายได้เกิน 100 ล้าน เดือนหนึ่งก่อนที่เขาจะฉลองวันเกิดอายุ 19 ของเขา ผลลัพธ์นี้จะกลายเป็นกระแสในสื่ออีกครั้ง
แม้ว่า Road House นั้นจะออกฉายเกือบสองพันโรงแต่หลังจากวันแรกผู้ชมก็ลงลงไปอย่างรวดเร็ว หนังทำรายได้ไปแค่ 5.25 ล้านในอาทิตย์แรกได้อันดับสองของบ็อกออฟฟิศไปซึ่งไม่ถึงครึ่งที่ Pretty Woman ได้ไป
Universal Pictures ได้ส่งหนัง Fletch Lives มาอันดับสามโดยทำรายได้ไป 5.04 ล้านด้วยการออกฉาย 1400 โรง
เพราะทาง Columbia เพิ่มการสนับสนุน Home Alone ที่ปล่อยออกมาเมื่อ 18 อาทิตย์ก่อนนั้นก็ยังคงทำรายได้ไป 4 ล้าน รวมแล้วมันเข้าใกล้ 300 ล้าน เป็นเวลา 12 อาทิตย์ติดต่อกันที่รายได้ของ Home Alone นั้นติดอันดับ มากกว่า 4 เดือนที่ม้ามืดตัวนี้ทำให้ผู้คนต้องช็อกซ้ำแล้วซ้ำเล่า
บางทีสักวันไม่นานหลังจากที่รายได้ของ Home Alone นั้นเกิน 300 ล้านไป เขามั่นใจว่ามันต้องสร้างกระแสในหมู่สื่ออีกแน่
…. ….
อาทิตย์ต่อมา เอริค ได้ทำการออดิชันนักแสดงของ Running Out of Time จนเสร็จ สำหรับ The Others และ Scent of a Woman เขาจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้กำกับทั้งสองคน เขากำลังจะเริ่มออกเดินทางรอบ LA เพื่อเลือกที่ที่เขาจะถ่ายหนัง
แม้ว่า Running Out of Time นั้นจะไม่ได้มีฉากข้างนอกมากมายนักแต่มันก็มีหลายฉากที่เขาต้องปิดถนนเพื่อถ่ายทำ การหาที่ที่เหมาะที่สุดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
ในเวลาเดียวกัน เอริค ก็ได้พบว่าเขาขาดเส้นสาย เพราะเป็นฐานของฮอลลีวูด ตำรวจ LA จึงสนับสนุนพวกค่ายหนังแต่มันไม่ได้หมายความว่าทีมงานจะทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ หลายฉากนั้นต้องได้รับการอนุญาตจากหน่วยงานก่อน แม้ว่าจะอรุ่มอร่วยให้กันแต่ขั้นตอนนั้นมันก็ยังยากอย่างมาก
ยิ่งกว่านั้นการมีเส้นสายก็เป็นเรื่องจำเป็น ตอนนี้ เอริค น่ะดังแล้ว แต่เทียบกับผุ้กำกับแถวหน้าที่โด่งดังมาหลายปี เขาน่ะยังคงถือว่าเป็นตัวเล็กๆอยู่ ถ้าผู้กำกับคนอื่นที่มีชื่อเสียงพอๆกับเขา ด้วยการโทรเพียงครั้งเดียว เขาก็จะจัดการทุกอย่างเสร็จได้แต่ เอริค ต้องโทรหาเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง
โชคดีทีหนังนี้สำคัญกับทาง Columbia อย่างมาก ดังนั้นเพื่อให้ เอริค เริ่มถ่ายหนังได้เร็วที่สุด พวกนั้นจึงส่งโปรดิวเซอร์ที่มากประสบการณ์มาช่วย เอริค ในการจัดเตรียมซึ่งถือว่าช่วยลดเวลาที่ใช้ไปอย่างมาก
— —
ในตอนที่ เอริค พยายามหาว่าที่ที่จะถ่ายหนัรง เรื่องใหญ่อีกเรื่องก็เกิดขึ้น
พายุเกิดขึ้นตอนที่ ริชาร์ดเกียร์ ที่ซึ่งอายุเกือบ 40 ปีเห็นรายได้อาทิตย์แรกของ Road House เขาเริ่มรู้สึกขมขื่นกับการยกเลิกบทใน Pretty Woman เขารู้ว่าเขาได้พลาดโอกาสหายากไปในการเป็นนักแสดงชั้นนำ เขาจึงเริ่มไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะหลังจากรายได้ที่ล้มเหลวของ Road House
หลังจากที่ล้มเหลวอีกครั้ง ริชาร์ดเกียร์ ก็หมดหวังในการพลิกทุกอย่างกลับมา เขารู้สึกว่า CAA นั้นต้องรับผิดชอบและต้องช่วยเขา ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องความแค้นส่วนตัวของ ไมเคิลโอวิทซ์ เขาคงไม่ต้องยอมทิ้งบทใน Pretty Woman
หลังจากที่เขาถ่าย Road House เสร็จ นายหน้าของเขา ออเนอร์วิลลี่ ก็แนะนำหนังสยองขวัญทุนต่ำให้กับเขา แม้ว่าเขาจะคิดว่ามันเป็นหนังชั้นกลางที่ทำขึ้นโดย CAA เพื่อ Universal Picture แต่ ริชาร์ด ก็ไม่ได้ขออะไรมากนัก แต่ ออเนอร์วิลลี่ นั้นไม่สามารถเอาบทนั้นมาให้เขาได้ เขารู้ว่าทำไมเขาถึงถูกปฏิเสธหลังจากที่เห็นรีวิวของ Road House CAA นั้นไม่ยอมเสียงเงินทำหนังให้กับนักแสดงที่ชื่อเสียงตกต่ำไปมากแบบนี้
ออเนอร์วิลลี่ นั้นเป็นหนึ่งในพวกตัวแทนกลุ่มแรกๆ เขาสามรถคิดว่าเป็นนายหน้าชั้นทองก็ได้ แม้แต่ดาราชั้น A ก็ยังต้องสุภาพกับเขาซึ่งทำให้เขาเกิดอีโก้ขึ้นมา ในตอนที่ ริชาร์ดเกียร์ ทำผิดพลาดในการปฏิเสธในการแสดงใน Pretty Woman ริชาร์ด ได้โทษทุกอย่างไปที่ CAA และด้วยการเพิ่มความโกรธแค้นในใจบวกกับ ออเนอร์วิลลี่ ปฏิเสธที่จะสู้เพื่อบทนั้น ทุกอย่างได้เพิ่มความโกรธไปถึงขีดสุด
ทั้งสองได้เกิดเรื่องทะเลาะกันครั้งใหญ่ในออฟฟิศของ ออเนอร์วิลลี่ ถ้าไม่ใช่ว่าคนอื่นนั้นมาแยกทั้งสองได้ทัน ทั้งสองคงต่อยกันไปแล้ว
หลังจากเรื่องนี้ ริชาร์ดเกียร์ ก็ตัดสัมพันธ์กับทาง CAA ในวันที่สามหลังจากที่เกิดเรื่อง ด้วยคำแนะนำของเพื่อน ริชาร์ด ได้เข้าเอเจนซี่ใหม่ที่ชื่อ William Morris Agency ซึ่งรู้จักกันในชื่อ WMA
เรื่องการย้ายค่ายเกิดขึ้นนับไม่ถ้วนในฮอลลีวูด แม้แต่ใน CAA ที่ซึ่งบอกว่ามีระบบที่สมบูรณ์แบบที่ห้ามไม่ให้นักแสดงออกได้นั้นก็ไม่อาจหยุดเรื่องนี้ไม่ให้เกิดขึ้นกับตัวเองได้
CAA ได้กันไม่ให้นายหน้าทำงานให้กับค่ายหนังลาออก ผู้ก่อตั้งทั้งห้า ไมค์โรเซนฟิลด์, ไมเคิลโอวิทซ์, โรนัลเมเยอร์, วิลเลียมฮาเบอร์และโรแลนด์เพอกินส์แต่เดิมแล้วทำงานที่ WMA พวกเขารู้ถึงอันตรายจากการปล่อยให้พวกที่มีพรสวรรค์ที่พวกเขาดูแลมาหลายปีออกไป ดังนั้นพวกจึงได้ตั้งระบบมาตั้งแต่เริ่มเพื่อกันไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น สำหรับดาราชั้นนำ พวกเขาไม่ได้มีข้อห้ามอะไรมากนัก พวกนั้นสามารถออกได้หากต้องการ สำหรับนักแสดงชั้นสองและสาม ตราบใดที่เต็มใจจ่ายค่าเสียหาย พวกเขาก็ออกไปได้ แต่ตอนนี้ค่ายหนัง CAA และเครือข่ายอุตสาหกรรมทีวีนั้นใหญ่อย่างมาก ดาราส่วนมากจึงไม่ได้ถูกบริษัทอื่นดึงตัวไป
ยิ่งกว่านั้น เพราะ CAA ได้หยุดข่าวลือเรื่อง ออเนอร์วิลลี่ และ ริชาร์ดเกียร์ ที่มีเรื่องกันไม่ให้รั่วไหล พวกเขาคิดว่าเรื่องนี้มันจบแล้วแต่พวกเขาลืมไปว่า ริชาร์ดเกียร์ คือหนึ่งในคนที่เกี่ยวข้องกับการสู้ครั้งนี้ด้วย
เพื่อที่จะเอาคืน CAA เขาก็ได้ไปให้สัมภาษณ์กับทางThe Hollywood Reporter ริชาร์ด บอกว่าตัวเองเป็นเหยื่อและทำการดิสเครดิตของทาง CAA
วันต่อมาหลังจากที่สัมภาษณ์ หัวข้อเรื่อง ‘ ริชาร์ดเกียร์ : ทำไมถึงได้เสียบทในหนัง Pretty Woman ไป ‘ ก็ได้ปรากฏใน The Hollywood Reporter
—————
“ ไม่นานมานี้นักแสดงชื่อดัง ริชาร์ดเกียร์ ซึ่งหวังว่าจะได้แสดงในหนังของ เอริควิลเลียม อย่าง Pretty Woman อยู่ๆก็ได้ออกจาก CAA เขาได้ทำงานกับที่นั่นมาหลายปี ในสัมภาษณ์กับนักข่าวของเรา ริชาร์ด ได้บอกเราว่าทำไมถึงได้ปฏิเสธในการแสดง Pretty Woman
ตามคำพูดของ ริชาร์ดเกียร์ : ตอนที่เห็นบท Pretty Woman ฉันคิดว่านี่คือหนังที่ยอดเยี่ยมและตัวละครเองก็เข้ากับภาพลักษณ์ของฉัน ฉันถึงกับทำการเตรียมพร้อมสำหรับบท และแม้ว่า เอริค จะยังเด็กมากแต่หลังจากที่ดูงานสองงานของเขาไป ฉันก็พบว่าเขาเป็นคนหนุ่มที่มีพรสวรรค์แต่เมื่อฉันนัดกับเขา ออเนอร์วิลลี่ ที่เป็นตัวแทนของฉันก็เสนอให้ฉันปฏิเสธข้อเสนอไป
ตอนแรกฉันก็สงสัย จากนั้น ออเนอร์วิลลี่ ก็ได้บอกฉันว่าเป็นเพราะ เอริค นั้นซื้อเอเจนซี่ของ คาปัวร์ และเริ่มทำงานกับ คาปัวร์ คุณไมเคิลโอวิทซ์ ที่ซึ่งมีเรื่องบาดหมายกับ คาปัวร์ นั้นไม่อนุญาตให้ฉันร่วมงานกับ เอริค เขาได้ทำให้ฉันเข้าใจว่า ไมเคิลโอวิทซ์ นั้นอยากที่จะแบน เอริค
จากนั้นเพื่อปลอบใจฉัน CAA ได้ให้หนัง Road House ให้กับฉัน ตอนฉันเห็นบทตอนแรก ฉันบอกกับ ออเนอร์วิลลี่ว่าตัวละครนี้ไม่เหมาะกับฉัน แม้ว่าฉันจะเคยเล่นหนังแอ็คชั่นมาก่อนแต่บทนี้มันรุนแรงเกินไปสำหรับฉันและบางทีการหาคนที่กำยำกว่าฉันน่าจะเหมาะกับบทนี้กว่า
ออเนอร์ บอกว่าฉันไม่มีทางเลือกและฉันต้องรับบทนี้ เพื่อให้เข้ากับบท ฉันถึงกับต้องออกกำลังกายอยู่หลายเดือนแต่หนังก็ยังล้มเหลวในที่สุด
เหตุผลว่าทำไมฉันถึงบอกเรื่องพวกนี้ตอนนี้คือฉันคิดว่า CAA ได้ลืมไปว่าพวกเขาเป็นใคร เพราะพวกเขามีทรัพยากรมากมาย พวกเขาจึงบ้าอำนาจทำทุกอย่างตามใจอยาก เพราะความบาดหมางเล็กน้อยและเพื่อแสดงอำนาจว่าพวกเขาเป็นใคร พวกเขาถึงกับทำราวกับอาชีพนักแสดงนั้นเป็นเรื่องตลก CAA ถึงกับเริ่มใช้ค่ายหนังเล็กๆเป็นเหมือนเบี้ยที่ใช้เล่นตามต้องการ นี่คือสิ่งที่น่ากลัว บริษัทนายหน้าควรที่จะดูแลนักแสดงของตัวเองและควรที่จะสนใจผลประโยชน์ของคนพวกเขาก่อน นี่เป็นแค่วิธีเดียวที่บริษัทนายหน้าจะอยู่ต่อได้เป็นเวลานานแต่ตอนนี้ CAA เริ่มทำราวกับนักแสดงเป็นเบี้ย งั้นไม่นานหรอกพวกเขาคงจะทำลายตัวเอง “