Chapter 122 – การเปิดโปง CAA
เพราะ ไมเคิลโอวิท ยืนกรานว่า CAA นั้นเป็นบริษัทส่วนตัว แม้ว่าบริษัทนี้จะพัฒนาขึ้นเป็นยักษ์ใหญ่แล้วก็ตามแต่มันก็ยังคงไม่อยู่ในรายชื่อ ดังนั้นแม้ว่าจะมีเรื่องแย่ๆถาโถมเข้ามาแต่ตราบใดที่มีวิธีที่เหมาะสมในการรับมือ พายุนี้ก็ไม่ได้สร้างอันตรายอะไรมากให้กับ CAA แต่บริษัทนั้นจะยังได้รับผลเพียงไม่กี่เดือน แม้ว่านักแสดงชั้น 2 และ 3 จะออกไปหาเอเจนซี่อื่นๆแต่มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับ CAA จำนวนของนักแสดงที่ CAA มีนั้นสูงถึง 6 พันคน แค่นักแสดงไม่กี่สิบคนที่ออกไปนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
แต่ดาวดังออกไปนั้นก็เป็นอีกเรื่อง โดยเฉพาะดาราระดับ ทอมครูส เขามีผลอย่างมากในบรรดานักแสดงคนอื่นๆ การออกไปของ ทอมครูส แน่นอนว่าต้องส่งสัญญาณให้กับดาราดังคนอื่นๆด้วย
การตอบสนองของ ไมเคิลโอวิท นั้นรวดเร็วอย่างมาก ในวันที่ ทอมครูส ลาออก พวกนายหน้าของ CAA , ตัวแทนและนักแสดงต่างก็ได้รับจดหมายที่เขียนโดย ไมเคิล เองโดยประกาศถึงว่าทำไม ครูส ถึงได้ออกไปและยังเพิ่มเติมคำพูดของความสำเร็จที่ CAA มีมาตลอดหลายปีอีกทั้งยังการเปลี่ยนแปลงที่ CAA ได้สร้างให้กับนักแสดงและหวังว่าทุกคนจะไม่ได้รับผลกระทับจากความเห็นของคนทั่วไปและอนาคตของ CAA ก็จะสดใสยิ่งกว่าเดิม
แต่จดหมายนั้นไม่ได้กันปัญหาที่เข้ามา สามวันหลังจากที่ ทอมครูส ลาออกไป นักแสดงดังหลายคนได้พากันออกจาก CAA ด้วยเหตุผลต่างๆ
นักแสดงเหล่านั้นเข้า CAA ก็เพราะแผนการของ ไมเคิลโอวิท ซึ่งทำให้พวกเขามีรายได้เพิ่มขึ้นแต่การที่มีรายได้เพิ่มขึ้นมานี้เป็นเรื่องธรรมดาของเหล่าดาราไปแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะออกจากเอเจนซี่ไป พวกเขาก็ยังได้ค่าตัวที่สูงอยู่ดี บวกกับเมื่อ ครูส ได้ออกไปจาก CAA ดังนั้นนี่จึงถือว่าเป็นเวลาที่ดีที่สุด ข่าวการออกไปของดาราคนอื่นๆจาก CAA เริ่มเป็นที่รู้กันในหมู่ดารามากขึ้นเรื่อยๆ
ไมเคิลโอวิท ที่ซึ่งโดนพายุปัญหานี้ถาโถมอย่างหนัก เขาด่า ทอมครูส และเริ่มไล่ติดต่อนักแสดงดังที่ต้องการจะออก เขาไม่เคยทำเรื่องแบบนี้มานานแล้ว
— —
และในอีกมุมหนึ่งของเมือง เอริค ที่ซึ่งได้ประโยชน์จากเรื่องนี้มากที่สุดกำลังหัวเราะ เขาไม่ได้สร้างปัญหาพวกนี้ขึ้นมาแต่เขาคงไม่ปล่อยโอกาสแบบนี้ไปแน่ โอกาสดีๆในการหยุด CAA จากการควบคุมฮอลลีวูดได้อีกกว่าสิบปีเหมือนกับที่พวกนั้นเคยทำในชีวิตที่แล้วของเขา
“ เอริค ทำไมนายถึงตามหาฉัน ฉันบอกไว้แล้วว่างานยันยุ่ง 4 คนนี่คือเต็มที่แล้ว ฉันไม่อยากให้นายส่งคนไปอีก “
คาปัวร์ นั้นกำลังหัวหมุนตอนที่เขาเดินเข้าไปในห้องของ เอริค ในตอนที่ CAA ได้เจอกับเรื่องโชคร้ายพวกนี้ เขาก็แสร้งว่าเขาไม่ได้ดีใจแต่จริงๆแล้วเขาน่ะดีใจจนหัวล้านของเขาเป็นประกายเลยทีเดียว
เอริค พิงไปที่เก้าอี้และพูดขึ้นมา – “ แล้วถ้ามันเป็น ทอมแฮงค์ ล่ะ ? “
“ ใครนะ ? “ – คาปัวร์ ตั้งใจพังและโน้มตัวเข้ามาหา
“ ทอมแฮงค์ “ – เอริค พูดซ้ำ
คาปัวร์ เผยรอยยิ้มออกมาและพูดขึ้น – “ เอริค นายแน่ใจนะ ถ้าเขาตกลง งั้นฉันก็จะรับกระสุนแทนเขาได้เลย ! “
“ รับกระสุน ? ถ้าฉันไม่เห็นรอยยิ้มนั่นของนาย ฉันคงสงสารนายไปแล้ว “ – เอริค หยอก
คาปัวร์ ไม่ได้สนคำพูดของ เอริค และถามออกมา – “ เอริค นายแน่ใจนะว่านายเอาตัว แฮงค์ มาได้ ? “
เอริค ส่ายหน้า – “ ไม่ แต่ฉันจะลองดู ฉันนัดกินข้าวเย็นกับ แฮงค์ เอาไว้แล้วและเขาก็ตกลงด้วย “
คาปัวร์ มั่นใจว่า เอริค ต้องทำได้ ชายหนุ่มคนนี้ได้สร้างเรื่องแปลกใจให้กับเขามากมายแล้ว – “ เอริค บางทีนายน่าจะเอาตัว ทอมครูส มา UTA ด้วย เขาน่ะยังไม่มีเอเจนซี่เลย “
“ อย่าคิดเลย ครูส เป็นคนทะเยอทะยาน ฉันได้ยินว่าเขาต้องการเป็นโปรดิวเซอร์ คาดว่าไม่นานเขาต้องเริ่มค่ายหนังของตัวเอง “
เอริค ไม่คิดว่าเพราะการปรากฏตัวของเขาในตอนนี้จะทำให้ ทอมครูส นั้นแยกตัวออกมาก่อนล่วงหน้าถึง 7 ปี ในตอนนี้ ครูส เลือกที่จะแยกตัวออกมาและหวังแค่เพียงกำไรจากหนังที่ขายดีของเขา
หลังจากที่ออกจาก CAA มา ครูส ได้ให้ตัวแทนของเขา พอลล่าวากเนอร์ ติดต่อมายัง Firefly เพื่อเริ่มเจรจาเรื่องค่าตัวทันที
เงื่อนไขของ ครูส นั้นไม่ได้เกินไปเหมือนกับของ CAA เขาขอค่าตัวแค่ 5 ล้านบวกกับกำไร 10% ซึ่งมีเหตุผลมากกว่าของ CAA แต่รูปแบบการแบ่งกำไรนี้ยังไงซะก็เพิ่งปรากฏขึ้นมา ความต้องการของ CAA นั้นเกินไป สำหรับเงื่อนไขของ ครูส แล้วมันยังมีช่องว่างให้พูดคุยกันได้อีก หลังจากที่คิดดูแล้ว เอริค ก็ตัดสินใจให้ส่วนแบ่งกำไรกับ ครูส เพียงแค่ 5%
และเขารู้สึกว่าอัตราความสำเร็จของเรื่องนี้ก็สูงอย่างมากเพราะข่าวล่าสุดที่เขาได้มาคือ ทอมแฮงค์ ยอมรับปากว่าจะไม่เอาส่วนแบ่งกำไรและเขาจะรับเงินเหมือนที่เขาเคยทำ
ตอนนั้น ทอมครูส ถือว่าดังกว่า แฮงค์ แต่มันก็ไม่ได้ต่างอะไรกันมาก เมื่อข่าวเงื่อนไขของแฮงค์ได้เปิดเผยไป เขามั่นใจว่า ครูส ต้องยอมอ่อนข้อให้ แม้ว่า ครูส จะเคยได้ส่วนแบ่งกำไรจากหนัง Rain Man มาแต่ในยุคนี้ไม่มีใครเอาส่วนแบ่งกำไรเข้ามาคิด Rain Man นั้นเป็นเหมือนกรณีพิเศษมากกว่า ก็อย่างที่บอกไป ครูส สามารถได้ส่วนแบ่งกำไรใน Rain Man เพราะทุนการสร้างหนังที่ไม่เพียงพอ ดังนั้น ครูส จึงลดค่าตัวเพื่อให้หนังถ่ายต่อได้และเพราะ Rain Man นั้นทำรายได้ได้ดี เขาจึงสามารถได้เงินมากกว่าการที่เขารับค่าตัวเสียอีก
ในตอนที่ เอริค ได้ยินว่า แฮงค์ จะยอมยกเลิกส่วนแบ่งกำไร เขาก็รู้สึกว่านี่คือเวลาที่ดีที่สุดที่จะเอาตัว แฮงค์ มา CAA ได้สัญญากับ แฮงค์ ว่าจะให้ส่วนแบ่งกำไรกับเขาแต่อยู่ๆเขาก็โดนสั่งว่าให้ยอมยกเลิกไป เอริค มั่นใจว่า แฮงค์ ต้องไม่พอใจกับ CAA คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจแต่ เอริค รู้ถึงตัวตนของ แฮงค์ อีก 10 ปีจะเป็นช่วงสูงสุดของอาชีพ แฮงค์ ไม่ใช่แค่ทำรายได้ถึงพันล้านแต่เขายังได้รางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมสองอันจากออสการ์อีกด้วย
แม้ว่าเขาจะบอก คาปัวร์ ว่าเขาไม่มั่นใจว่าจะเอา แฮงค์ มาได้ แต่อันที่จริงแล้ว เอริค รู้สึกว่าเขามีโอกาส 90% ที่จะได้ตัว แฮงค์ มา หากเทียบ CAA แล้ว เขาน่ะดูน่าสนใจมากกว่า
“ งั้นไม่ต้องพูดถึง ทอมครูส อันที่จริงฉันเรียกนายมาเพราะเรื่องอื่น “ – เอริค พูดขึ้น เขาได้ใช้เวลาหลายคืนในการเขียนข้อมูลต่างๆ เขาได้ส่งเอกสารให้กับ คาปัวร์ – “ ช่วยฉันสรุปนี่ทีได้มั้ย ?”
คาปัวร์ รับเอกสารและอ่านหัวข้อ < การเปิดเผยของ CAA : เอเจนซี่ยักษ์ใหญ่เกิดขึ้นมาได้ยังไง >
เมื่อเปิดดู คาปัวร์ ก็ค่อยๆอ่านมันทีละหน้าๆ ยิ่งเข้าอ่านมากเท่าไหร่สีหน้าเขาก็ดูจริงจังมากเท่านั้น ตอนที่อ่านจบเขาค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาและมองมาที่ เอริค ราวกับว่ามองสัตว์ประหลาดอยู่
บทนี้ยาวอย่างมาก มากกว่า 10 หน้าได้ ดูจากรายละเอียดที่อธิบายถึงห้าผู้ก่อตั้ง CAA ทำหลังจากที่ออกจากเอเจนซี่เก่ามา, การที่พวกเขาพัฒนาและรายการทีวีอย่าง Rhyme and Reason, Rich Little Showและ Jackson 5ive และวิธีที่พวกเขาพัฒนาระบบการขาย มันเป็นช่วงเวลาสั้นๆเพียง 15 ปี พวกเขาก็ได้สร้างธุรกิจใหญ่อันใหม่ขึ้นมาได้
เหตุผลว่าทำไม คาปัวร์ ได้ช็อกนั้นก็เพราะในนี้ได้บอกถึงเรื่องที่เขาคือนายหน้าของ CAA เขาไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไงแต่เมื่ออ่านไปแล้วเขาก็รู้ว่าเขาน่ะรู้เรื่องพวกนี้ดีที่สุดแต่เขาไม่ได้มีความสามารถในการที่จะสร้างระบบขึ้นมาให้จัดการกับบริษัทนายหน้าได้อย่างสมบูรณ์
และเขาเองก็สงสัยว่า เอริค รู้เรื่องทั้งหมดนี้ได้ยังไง ?
เหตุผลที่ CAA ไม่ได้ขึ้นเป็นบริษัทในรายชื่อก็เพราะ ไมเคิลโอวิท ไม่ต้องการให้ธุรกิจส่วนตัวต้องรั่วไหล เมื่อบริษัทขึ้นไปอยู่บนรายชื่อ ข้อมูลจำนวมากที่ CAA ต้องส่งต่อให้กับผู้ตรวจสอบ เมื่อ CAA ทำแบบนั้น ฝ่ายตรงข้ามอาจจะรู้เรื่องข้อมูลพวกเขาก็ได้
ห้ามบอกเรื่องระบบนี้กับใครเพราะเมื่อบริษัทนายหน้าอื่นรู้เรื่องระบบการทำงานนี้ ข้อได้เปรียบที่ CAA มีมากกว่า 10 ปีจะหมดไป
คาปัวร์ ยกเอกสารในมือขึ้นด้วยมือที่สั่นแล้วถามออกมา – “ เอริค นายเป็นคนเขียนงั้นเหรอ ?”
“ ฉันต้องการให้นายช่วยดูว่ามีอะไรผิดปกติมั้ยแต่นายจะมาค้านให้ฉันไม่ตีพิมพ์บทความนี้เนี้ยนะ ? “
คาปัวร์ รีบส่ายหน้าและหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น – “ ถ้าฉันมีความสามารถสรุปของพวกนี้ได้ ฉันคงตีพิมพ์มันขึ้นมาเองแล้ว เอริค ฉันไม่เข้าใจนายอีกต่อไปแล้ว ทฤษฎีที่นายพูดถึงในบทความนี้น่ะจริง แม้แต่ฉันที่ทำงานกับ CAA มาหลายปีก็ยังไม่รู้ว่าเรื่องพวกนี้เกิดขึ้น ถ้าฉันเขียนมันด้วยตัวเอง ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเริ่มจากตรงไหนกัน “
เอริค แค่ยิ้มและไม่ได้อธิบายอะไร ในสายตาของบริษัทอื่นๆ ระบบของ CAA นั้นเต็มไปด้วยความลึกลับ แม้แต่เมื่อดึงเอาคนของ CAA ไปก็ยังไม่ได้ข้อมูลที่สมบูรณ์ในด้านกลยุทธนี้มา
แต่คนอย่าง เอริค ที่ใช้ชีวิตอยู่ในยุคที่มีอินเตอร์เน็ตนั้นกลยุทธของ CAA ไม่ใช่เรื่องลึกลับเลย เมื่อนึกถึงอดีต เอริค พบว่าในปี 1996 CAA ที่ซึ่งเติบโตจนไม่อาจสั่นสะเทือนได้นั้นได้กลายเป็นจุดสนใจของนักข่าวคนหนึ่งเข้า นักข่าวได้ใช้เวลามากกว่าหนึ่งปีในการรวบรวมข้อมูลมากมายเกี่ยวกับ CAA และสุดท้ายเขาก็ไขความลึกลับนั่นได้ หลังจากนั้นในที่สุดผู้คนก็รู้ว่าทำไม CEO อย่าง ไมเคิลโอวิท ถึงได้ชื่อว่าเป็นผู้มีอำนาจที่สุดในฮอลลีวูด
แต่ตอนนั้น CAA ได้กลายเป็นสัตว์ประหลาดไปแล้ว แม้ว่าบริษัทอื่นจะใช้กลยุทธนี้ตามแต่สุดท้ายก็ต้องจบลงด้วยความหงุดหงิดของตัวเอง
นายหน้าของ CAA น่ะเป็นแค่หนึ่งในส่วนประกอบของเครื่องจักรที่ชื่อว่า CAA พวกเขาช่วย CAA ในการเดินหน้าแต่ถ้าเอาชิ้นส่วนหนึ่งออกไป งั้นเราคงไม่รู้ว่าทั้งเครื่องจักรนี้ทำงานยังไง สิ่งเดียวที่อธิบายได้ว่า CAA นั้นทำงานยังไงก็คือ ไมเคิลโอวิท และแน่นอน เอริค ที่มาจากอนาคตก็จดจำทุกอย่างได้