Chapter 131 – มุมมองตะวันออก
เอริค เปิดดูเอกสาร เคียร์สเต็นดันสต์ และเห็นรูปของเด็กวัย 7 ปีที่เหมือนกับตุ๊กตาผมทอง,หน้ากลม,ชุดขาวและหมวกที่ดูน่ารักอีกทั้งหน้าผากที่ดูงดงามของเธอ
น่าเสียดายที่ เอริค รู้ว่าเธอนั้นจะแย่ลงไปอีกในอนาคต หลังจากที่โตขึ้นมาเธอจะดูแตกต่างจากที่เธอเป็นในตอนนี้
บางทีในสายตาของคนตะวันตก เธอไม่ได้อวบเกินไปแต่ด้วยมุมมองของชาวตะวันออก เขาได้เห็นความสวยของเธอเลย
ดังนั้นเขาจึงเปิดผ่านและไม่ได้เลือกเพียงแค่ความสวยแต่เพราะเธอไม่ได้มีแววโดดเด่นในด้านการแสดง ถ้าไม่ใช่เพราะบทใน Spider-Man บางทีอาจจะไม่มีใครจำเธอได้
ในชีวิตที่แล้วของเขา หลังจากจบหนังเรื่อง Spider Man สามภาคแล้ว อาชีพนักแสดงของ เคียร์สเต็นดันสต์ ก็จบลงและเธอเกือบที่จะหายไปจากสายตาของผู้คน
ผู้หญิงอีกคนที่เขาจำได้คือ ซาราร์มิเชลล์เกลลาร์ เทียบกับ ซาราร์ จากความทรงจำของเขาแล้ว ซาราร์ คนนี้มีใบหน้าที่กลม แม้ว่าเธอจะอายุได้ 12 ปี ดังนั้นเธอจึงดูน่ารักอย่างมาก เธอเล่นเป็นเด็กสาววัย 10 ปีได้ไม่มีปัญหา เขาเดาว่านี่เป็นเหตุผลว่าทำไม ซาราร์ ถูกเลือก
เทียบ เคียร์สเต็น ที่เล่นหนังมาแค่เรื่องเดียว เอกสารของ ซาราร์ มีชื่อของหนังหลายเรื่อง แม้ว่าจะไม่ใช่หนังดังแต่พวกมันก็ถูกนับว่ามีประสบการณ์
“ โจนาธาน นายประทับใจคนไหน ?” -เอริค ถามออกมาและส่งเอกสารของ ซาราร์ ให้ โจนาธาน
โจนาธาน รับไปดูละนึกถึงฉากที่สัมภาษณ์เธอ – “ เด็กคนนี้เริ่มแสดงหนังตอนเธออายุแค่ 4 ปี ฉันการันตีได้ว่าข้อมูลในเอกสารนี้เป็นจริง ตอนที่เราสัมภาษณ์ ฉันเห็นว่าเธอรู้ถึงวิธีการแสดง เธอเก่งและไม่ได้กลัวเวทีเลย ตอนที่ฉันคุยกับเธอ เธอน่ะดูสดใสและน่าเชื่อถือ แม้ว่าเธอจะดูผอมแต่เธอก็อายุได้ 12 ปีแล้วและเธอยังฉลาดเท่ากับเด็กวัย 14 ปี เทียบกับเด็กคนอื่นๆที่อายุ 10 ปีแล้ว การทำงานกับเธอน่ะง่ายกว่า “
เมื่อได้ยินความเห็นของ โจนาธาน เอริค ก็ได้ตัดสินใจ – “ งั้นเอาบทให้เธอและอย่างเช่นเคย เธอต้องเซ็นกับ UTA ด้วย “
แม้ว่า เอริค จะบอก คาปัวร์ ว่าไม่ต้องการขยาย UTA ในสองสามปีนี้แต่เขาจะไม่ปล่อยนักแสดงที่จะแสดงในหนังเขาไปง่ายๆให้กับเอเจนซี่อื่น
เพราะบทความที่เขาเขียนไปเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อน เอเจนซี่หลายที่เริ่มที่จะปรับระบบเดิมของตัวเอง แม้ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ที่พวกนั้นจะเลียนแบบ CAA ได้แบบสมบูรณ์ก็ตาม
หลังจากที่แผนธุรกิจของ CAA โดนเปิดเผยแล้ว CAA ก็ไม่ได้เหนือกว่าคนอื่นอีกต่อไป ในอนาคตมันจะมีคู่แข่งมากมายในหมู่เอเจนซี่ ผลก็คือ UTA นั้นสามารถที่จะก้าวหน้าได้อย่างมั่นคงและไม่ต้องกังวลเรื่องอำนาจของ CAA
เมื่อเห็น เอริค เปิดเอกสารดูต่ออย่างรวดเร็ว โจนาธาน ก็คิดว่า เอริค นั้นเปิดผ่านๆและกำลังตัดสินใจว่าจะให้บทกับใคร เพราะมันดูเหมือนว่า เอริค แค่มองดูแต่ไม่ได้อ่านมัน โจนาธาน ก็อดไม่ไหวแล้วถามออกมา – “เอริค ไม่ใช่ว่านายต้องจัดการออดิชันอีกรอบเหรอ ?”
“ นายคิดว่าฉันเร่งไปงั้นเหรอ ? “ – เอริค ถามด้วยรอยยิ้ม
โจนาธาน เกาหัวแล้วพูดขึ้นมา – “ ไม่ใช่ว่าอย่างน้อยต้องดูเทปของคนสมัครรึไง ? “
เอริค วงชื่อนักแสดงด้วยปากกาแล้วพูดขึ้น – “ ไม่ โจนาธาน ฉันเชื่อว่าคนที่นายเลือกมาจากคนสมัครนับพันนี้ นายต้องไม่เพิ่มคนที่เข้ามา ฉันไม่จำเป็นต้องทำอะไรที่ไม่จำเป็น บวกกับเราไม่มีเวลาไม่มาก นายต้องเริ่มถ่ายหนังให้เร็วที่สุด เราจะถ่ายเสร็จก่อนงานเทศกาลคานส์กับเบอร์ลิน แต่ฉันหวังว่าเราจะทันช่วงเวนีสในเดือนกันยายน
“ ฉันจะบอกทีมงานให้เร็วที่สุด “ – โจนาธานพูดพร้อมกับก้มหน้าลง
มันน่าเสียดายสำหรับนักแสดงที่ถูกเลือกเข้ามาในรอบนี้ บางทีพวกเขาทุกคนอาจจะตื่นเต้นสำหรับการออดิชันในรอบถัดไปแต่พวกเขากลับต้องเจอความผิดหวัง มันดูไม่ยุติธรรมนิดๆแต่นี่คือฮอลลีวูด เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอยู่ตลอด บอกได้ว่าฮอลลีวูดนั้นคือที่ไม่ยุติธรรมที่สุดในโลก
เอริค ช่วยเก็บเอกสารที่โต๊ะและถามออกมา – “ ที่ถ่ายหนังยังใช้ได้อยู่ใช่มั้ย ?”
โจนาธาน พยักหน้า แล้วอธิบายออกมา – “ ฉันได้ตกลงกับเพื่อนจากอังกฤษแล้วให้หาแมนชั่นบนเกาะเล็กๆมาแต่ฉันคิดว่ามันจำเป็นที่ฉันจะไปที่นั่นด้วยตัวเองเพื่อตรวจสอบ ฉันต้องไปคุยกับเจ้าของเป็นการส่วนตัว นายก็รู้บ้านเก่าๆส่วนมากในอังกฤษเป็นของพวกชนชั้นสูง พวกนั้นจะตายกันอยู่แล้วแต่ยังคงทำท่าหยิ่งอีก ดังนั้นฉันต้องไปหาพวกนั้นแต่ละคน บางทีถ้าพวกนั้นรู้สึกว่าได้รับความเคารพ พวกนั้นอาจจะยอมง่ายๆก็ได้ “
จากนั้นเขาก็ได้พูดต่อ – “ จริงๆแล้ว เอริค ถ้านายไปด้วยได้ เรื่องน่าจะราบรื่นกว่านี้ นายเป็นคนอังกฤษและสื่ออังกฤษมากมายก็ถือว่านายเป็นฮีโร่ของพวกเขา ถ้านายไปด้วย ฉันมั่นใจว่าพวกชนชั้นสูงนั้นต้องคิดว่านายเป็นแขกและบางทีพวกนั้นอาจจะยอมให้ใช้บ้านโดยไม่คิดเงินเลยสักนิด “
เอริค ส่ายหน้า – “ ลืมไปได้เลย มันนานแล้วตั้งแต่ที่ฉันออกจากอังกฤษ ฉันลืมสำเนียงไปแล้วบวกกับที่ฉันทิ้งทีมงานไม่ได้และบางทีฉันคงจะยุ่งกับการถ่ายหนังของฉันในสองสามเดือนนี้ “
—- —-
ไม่กี่วันต่อมาการถ่ายหนังก็เป็นไปอย่างราบรื่น ยังไงซะพวกเขาก็ไม่ได้ออกสตูดิโอ ดังนั้นพวกเขาเลยไม่ได้มีข้อจำกัดเรื่องสถานที่ ทอมครูส เองก็ได้แสดงทักษะนักแสดงชั้นนำออกมา ถ้าไม่เพราะเขาพยายามที่จะท้าทายอำนาจผู้นำของ เอริค งั้น เอริค คงร่วมงานกับชายคนนี้ได้ในอนาคต
แต่มันก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะทำงานด้วยกันไม่ได้อีก ด้วยบุคลิกของ ครูส บางทีคงมีแค่ผู้กำกับระดับ สปีลเบิร์ก เท่านั้นที่ทำงานร่วมเขาได้โดยไม่เสียอำนาจผู้นำ สปีลเบิร์ก ยังคงควบคุมทีมงานตัวเองได้และแม้แต่ตอนที่ค่ายหนังใหญ่ร่วมงานกับ ครูส พวกนั้นก็ไม่ได้ให้เขามาเกี่ยวข้องด้วย
“ บรูก อย่าคิ้วขมวดตอนเห็น แอนดี้ อ้วกเลือดออกมา เธอต้องแสดงท่าทีตกใจและกังวลไม่ใช่รังเกียจ “ – เอริค พูดขึ้นมาและยกมือขึ้นก่อนเคาะไปที่นาฬิกา – “ ถ้าเธอพลาดจุดเดิมอีก งั้นเราก็ต้องหยุด เรามาเสียเวลาไม่ได้ “
บรูกชีลล์ ที่ยืนอยู่ตรงหน้า เอริค ทำตาละห้อย เธอทำบางอย่างผิดไป เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอตกอยู่ในสถานการณ์นี้ เธอจะทำแบบนี้ออกมาซึ่งทำให้ผู้กำกับนั้นโกรธน้อยลงแต่หลังจากที่ทำแบบนี้ 4-5 ครั้งแล้ว เอริค ก็ไม่สนใจและเริ่มที่จะด่าเธอ
“ ขอโทษ เอริค ฉัน….ฉันคิดว่าฉันทำไม่ได้ “
เอริค ถอนหายใจแล้วพูดขึ้นมา – “ งั้นก็ลองอีกรอบ ทุกคน ! เตรียมพร้อม เราจะเริ่มกันในอีกหนึ่งนาที “
บรูกชีลล์ พยักหน้าแล้วกลับไปที่นั่งของตัวเอง ฉากนี้คือตอนที่ แอนดี้ กับเธอเจอกันเป็นครั้งที่สองในร้านอาหาร เอริค ยังเลือกถ่ายฉากนี้ในสตูดิโอแต่ไม่ใช่เพื่อประหยัดงบแต่เพราะการถ่ายหนังในสถานที่ในร่มในที่จริงนั้นเป็นเรื่องยาก แค่การจัดแสงก็ถือว่าเป็นฝันร้ายแล้วและเขาแค่ต้องการถ่ายฉากในร่มเสร็จให้เร็วที่สุด ยิ่งกว่านั้นสตูดิโอของ Columbia ก็มีสิ่งที่เขาต้องการ ถ้าเขาต้องการถ่ายในร้านอาหาร งั้นทีมงานก็สร้างให้เขาได้และแม้ว่าด้านนอกจะเป็นตอนบ่ายแต่ด้านในสตูดิโอก็สามารถสร้างฉากตอนกลางคืนได้อยู่ดี
“ ไม่ต้องรีบ คุณชีลล์ สบายๆ ฉันไม่คิดว่ามันเป็นปัญหาของเธอ เอริค ยังเด็กเกินไป “
ในตอนที่ทีมงานกำลังเตรียมตัว ครูส ก็ได้เริ่มพูดคุยกับ บรูกชีลล์
ถ้า บรูกชีลล์ ทำแย่ในหนังที่ ครูส สร้าง เขาคงหงุดหงิดไปแล้วแต่นี่เขาหวังว่าเธอจะแสดงออกมาได้แย่เพื่อหวังว่าเขาจะได้เห็น เอริค พ่ายแพ้บ้าง ในเวลาเดียวกันเขาก็ยังรักษาภาพลักษณ์ของชายสุดแสนสุภาพเอาไว้
“ ขอบคุณที่ปลอบนะ คุณครูส “ – บรูกชีลล์ พูดขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม
“ เย็นนี้เธอว่างรึเปล่า ฉันจะถือว่าเป็นเกียรติอย่างมากถ้าได้กินข้าวเย็นกับเธอ ? “
บรูกชีลล์ ที่ซึ่งคิ้วกระตุกเล็กน้อยหันไปมอง เอริค ที่ยืนอยู่ไม่ไกล เธอหวังว่าจะได้รับคำเชิญแบบนี้จาก เอริค ไม่ใช่จากคนที่แต่งงานแล้วอย่าง ทอมครูส
แต่ผู้กำกับหนุ่มนั้นอ่อนกว่าเธอเกือบ 6 ปี สัญชาตญาณผู้หญิงของเธอบอกเธอว่า เอริค สนใจในตัวเธอแต่โชคร้ายที่ผู้กำกับหนุ่มนั้นยังไม่ทำอะไรเลย
“ คุณครูส ฉันให้คำตอบตอนบ่ายได้รึเปล่า ? ฉันไม่มั่นใจว่าจะมีอะไรมั้ยตอนเย็น “ – บรูก บอกปัดแต่เธอไม่ได้ปฏิเสธมัน