Chapter 133 – มื้อเที่ยง part 1
ในร้านอาหารชั้นบน เอริค รีบสั่งอาหารของตัวเองแล้วยิ้มออกมามองดู จูเลีย ที่พูดคุยกับเด็กเสิร์ฟ
“ ทำไมนายถึงยิ้ม ?” – จูเลีย ที่ซึ่งรู้สึกถึงสายตาของ เอริค มองมาที่เธอถามออกมาด้วยความสงสัย
เอริค ส่ายหน้าและตอบกลับ – “ ไม่มีอะไร ฉันแค่นึกถึงครั้งแรกที่เจอเธอที่ร้านของ เจฟ ฉันคิดว่าเธอเปลี่ยนไปมาก “
จูเลีย ชัดแล้วว่าไม่ต้องการให้ เอริค ทำให้เธอนึกถึงช่วงเวลานั้น เธอจึงจ้องไปที่ตาของเขาแล้วพูดขึ้น – “ นายจะเอาเครดิตกับความสำเร็จของฉันรึไง ? “
“ แน่นอนว่าไม่ “ – เอริค หัวเราะออกมา – “ ฉันแค่คิดว่า….มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ เธอเป็นเหมือนซินเดอเรลล่า ในเสี้ยวพริบตาก็ได้กลายเป็นเจ้าหญิง “
“ อย่าพูดถึงซินเดอเรลล่าฮอลลีวูดกับฉันเลย ฉันเกลียดฉายานี้ “ – จูเลีย กรอกตา แม้ว่าฉายาที่สื่อให้นี้จะให้เพราะความชื่นชมแต่ส่วนมากแล้วมันเอาไว้ใช้ล้อเลียนมากกว่า
“ เอาล่ะ ทำไมเธอถึงกลับมาได้ ? “
“ ฉันรับงานมาถ่ายโฆษณาและ…และเพราะฉันกลับมา ฉันเลยตัดสินใจว่าจะมาดูว่านายเป็นยังไงบ้าง “ – เธอพูดขึ้นพร้อมหน้าแดงเล็กน้อย
อันที่จริงหลักๆแล้วเธอกลับมาเยี่ยม เอริค โฆษณานั้นก็แค่ข้ออ้าง ถ้าเธอต้องการจริงๆ การถ่ายที่หลุยเซียน่าก็ไม่ใช่ปัญหา ยังไงซะอุปกรณ์และคนก็ง่ายที่จะขนส่งโดยเฉพาะหากว่าเธอต้องการ
เอริค ไม่ได้สติมามากกว่า 10 ชม.และแม้ว่าเขาจะไม่เป็นไรแต่เรื่องนี้ก็ทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ในฮอลลีวูด ถ้าเธอไม่มาหาเขา งั้นเธอคงได้รับคำวิจารณ์อย่างมากแน่ ยังไงซะก็ต้องขอบคุณ เอริค ที่ทำให้เธอกลายเป็นดาราดังได้แบบนี้ ถ้าเธอไม่มาหาเขาหลังจากที่เขาออกจากโรงพยาบาลแล้ว งั้นสื่อก็คงด่าเธอว่าเธอไม่รู้จักบุญคุณ
เหตุผลว่าทำไมเธอถึงได้รอ เอริค อยู่ด้านนอกในวันนี้แทนที่จะไปเยี่ยมเขาส่วนตัวก็เพราะเธอต้องการได้รับความสนใจ
แม้ว่า Pretty Woman จะปล่อยไปแค่สองเดือนก่อน เพราะในเดือนที่แล้วเธอกำลังถ่ายหนัง Steel Magnolias ในเมืองห่างไกลที่หลุยเซียน่า เธอจึงไม่ได้รับความสนใจจากสื่อเลย
เพราะผู้กำกับ เฮอเบิร์ตรอส นั้นกังวลว่านักข่าวจะมารบกวนการถ่ายทำ เขาจึงเลือกสถานที่ที่หนังนั้นจะถูกถ่ายเป็นความลับและแม้ว่าจะมีนักข่าวหนึ่งรึสองคนที่นั่นแต่พวกนั้นก็ไม่อาจได้ข่าวดีๆไป
ในเวลาเดียวกัน จูเลีย กลัวการไปเยี่ยมเขาเป็นการส่วนตัว เธอมักจะคิดถึงตอนที่ เอริค ดุเธอซึ่งทำให้ให้เธอเกลียดเขาแต่ในเวลาเดียวกันมันก็ทำให้อยากเจอเขาอีก
“ ขอบคุณที่เป็นห่วง จูเลีย “ – เอริค ตอบกลับและถามออกมาอย่างสงสัย – “ แล้วโฆษณาแบบไหนที่เธอรับมา ?”
“ น้ำหอม Lancôme “- จูเลีย ตอบออกมาอย่างภูมิใจและเอานิ้วโบกไปมาตรงหน้า – “ หนึ่งปี ได้เท่านี้แหละ
“ ว๊าว นั่นมัน….เงินเยอะเหมือนกันนะ “ – เอริค ขี้เกียจจะแกล้งเด็กสาวที่ภูมิใจในตัวเอง เขาไม่ได้รังเกียจแต่ถ้าเธออยากอวด งั้นเธอก็ควรจะไปหาคนอื่น คนอื่นที่ไม่อยู่ในระดับเขา
“ ฉันรู้ว่านายไม่ทึ่งหรอก อย่าทำสีหน้าแบบนั้นเลย “ – จูเลีย ตอบกลับอย่างไม่พอใจ – “ ฉันเทียบนายไม่ได้ ฉันก็แค่เจ็บนิดๆ ทุกคนในอเมริการู้ว่านายเป็นใคร แม้แต่งานออสการ์นายก็ยังเด่น “
“ บอกว่าผู้จัดใช้ฉันเป็นโล่ ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน งานออสการ์ปีนี้คงได้รับคำวิจารณ์ “ – เขายักไหล่แล้วพูดต่อ – “ จริงๆแล้วพวกเขาน่าจะส่งคำขอบคุณมาให้ฉัน “
“ ฉันไม่แน่ใจเรื่องนั้นนะแต่ตอนฉันอยู่ในหลุยเซียน่า ฉันเห็นข่าวผู้กำกับออสการ์ อลันคาร์ ประกาศว่าเขาไม่ยอมรับคำเชิญไปเป็นผู้กำกับออสการ์อีกแต่มันคงไม่ได้แย่แบบที่นายบอกใช่มั้ย? “
“ มันแย่กว่าที่เธอคิดอีกแต่ฉันบอกเธอมากไม่ได้เพราะฉันกับพิธีกรคนอื่นๆได้เซ็นสัญญาเอาไว้ เพื่อให้แน่ใจว่าใน 20 ปีเราจะได้ไม่พูดถึงเรื่องภายใน ที่เธอไม่รู้คือ Disny นั้นได้ขู่ว่าจะฟ้องงานนี้ว่าใช้ธีมสของสโนไวท์โดยไม่ขออนุญาต ยังไงซะถ้ามันไม่ใช่เพราะฉันบาดเจ็บ งั้นพวกผู้จัดคงต้องทำการขอโทษกับสื่อไปแล้ว “
จูเลีย เบิกตากว้างในตอนที่ฟัง เอริค อธิบาย เธอไม่เคยเข้าร่วมงานออสการ์ ดังนั้นเมื่อได้ยิน เอริค พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เธอก็สนใจหัวข้อนี้อย่างมาก
และเพราะเธอถ่าย Steel Magnolias อยู่ในคืนนั้น เธอจึงไม่ได้ดูงานออสการ์ หลังจากที่รู้ว่า เอริค บอกเรื่องที่เกิดขึ้นมากไม่ได้ เธอจึงเปลี่ยนไปเรื่องอาการของ เอริค และสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น
“ ฉันไม่อยากคุยเรื่องที่เกิดขึ้นในรถแต่เมื่อเราอยู่เพียงลำพังแล้วก็คุยได้ ฉันไม่เชื่อว่าการตกบันไดแบบนี้จะต้องเป็นความลับด้วยเหรอ ? “
“ แต่สิ่งที่เกิดขึ้น “- เอริค ตอบกลับ
“ แน่นอนว่าไม่ “ – จูเลีย ยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา – “ ฉันอ่านหนังสือพิมพ์ไม่กี่วันก่อนมาว่าหลังจากที่นายบาดเจ็บ ดรูวส์แบรี่มอร์ กับแฟนนาย เจนนิเฟอร์อนิสตัน ได้ไปส่งนายที่โรงพยาบาล “
“ และจากนั้นล่ะ ?”
จูเลีย โน้มมาข้างหน้าและพูดออกมาเบาๆ – “ ฉันคิดว่าแฟนนายคงเข้าไปในบ้านตอนเช้าและพบว่า ดรูวส์ นอนอยู่บนเตียงแล้วหยิบแจกันฟาดใส่หัวนายใช่มั้ย ?”
มื้อเที่ยง part 2
เอริค แปลกใจกับการคาดการณ์ของเธอ แม้ว่า จูเลียโรเบิร์ต จะเดาห่างจากความจริงเยอะแต่มีสิ่งหนึ่งที่ถูก เจนนิเฟอร์ เจอเขานอนกับคนอื่น โชคดีที่ เวอร์จิเนีย ฉลาดพอที่จะซ่อนตัวที่ชั้นบนและค่อยออกมาตอนที่เรื่องทั้งหมดจบลงแล้วและอาการของเขาคงที่
จูเลีย เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยของ เอริค และเผยสีหน้าแปลกใจออกมา – “ ไม่มีทาง ฉันเดาถูกใช่มั้ย ?”
“ แน่นอนว่าไม่ ฉันสาบานเลย ..” – เอริค หัวเราะ – “ ฉันแค่บังเอิญตกลงมา เรื่องที่ว่าก็มีในหนังสือพิมพ์บอกแล้วนิ แน่นอนว่าเธอต้องเห็นมัน ฉันมีแผลเต็มไปทั่วตัว เธอคิดว่า เจนนิเฟอร์ ทำฉันเจ็บขนาดนั้นได้รึไง ?”
“ แน่นอนว่าไม่จำเป็นที่มันจะจริงเสมอไปหรอก “- เธอมองไปที่ เอริค ตั้งแต่หัวจรดเท้าราวกับคิดว่าเธอจะทำ เอริค เจ็บจากตรงไหนก่อนดี
“ ไม่ต้องคุยเรื่องแบบนี้หรอก มาคุยเรื่อง Steel Magnolias ดีกว่า ฉันคุยกับ รอส ไม่กี่ครั้งทางโทรศัพท์ ฉันเลยไม่รู้ว่าที่นั่นมันเป็นไงบ้าง “
จูเลีย ส่ายหน้า เธอไม่มั่นใจว่าทำไม เอริค ถึงอยากให้เธอไปเล่นหนังแบบนี้ เธอคิดว่า เอริค พยายามที่จะกดดันตัวเธอเพราะในมุมมองของเธอ หนังเรื่องนี้น่ะไม่ได้มีแก่นของเรื่องเลย หนังก็แค่อธิบายชีวิตประจำวันของแม่บ้านก็เท่านั้น
“ ฉันยังคิดว่าหนังนี้มันธรรมดาเกินไป…มันไม่มีจุดเด่นเลยรึไง ? “
เอริค กำลังจะตอบกลับแต่ก็หยุดเมื่อเห็นเด็กเสิร์ฟเดินเข้ามาและรอจนกว่าเด็กเสิร์ฟจะเติมไวน์ให้แล้วออกไปก่อนที่ เอริค จะถามขึ้นมา – “ จุดเด่นแบบไหนที่เธอคิดว่าหนังเรื่องนี้ควรจะมี ? “
จูเลีย จิบไวน์ในแก้ว เธอไม่รู้ว่าจะอธิบายมันยังไงได้พูดขึ้นมา – “ อย่างน้อย….อย่างน้อยก็น่าจะตื่นเต้นกว่านี้หน่อยไม่ใช่รึไง ?”
“ อย่างน้อยมันก็น่าจะมีเรื่องรักที่ไม่อาจลืมเลือนรึฉากใหญ่อย่างรถไล่ล่ากันและระเบิดแบบนี้เหรอ “
จูเลีย รีบพยักหน้า – “ ใช่ อย่างน้อยก็น่าจะมีของพวกนั้นไม่ใช่รึไง ?”
“ ฉันไม่วิจารณ์เธอในที่สาธารณะหรอกนะ ถ้าเธออยากรู้ว่าทำไมฉันถึงได้เลือกหนังเรื่องนี้ให้เธอเล่น งั้นก็ไปบ้านฉันคืนนี้ ฉันจะให้รายละเอียดวิเคราะห์หนังกับเธอ “ – เอริค พูดพร้อมกับส่งยิ้มให้
“ อ่ะ…ไม่ล่ะ ขอบคุณ “ – จูเลีย ผงะออกไปเมื่อเห็นรอยยิ้มของ เอริค และรีบปฏิเสธทันที เธอรู้ว่าถ้าเธอไปกับเขา เธอต้องควบคุมตัวเองไม่ได้
เอริค แค่แหย่เธอ เขารีบเก็บสีหน้าและทำหน้านิ่งดังเดิม – “ จริงๆแล้วมันจะสำเร็จรึล้มเหลวของหนังเรื่องแบบนี้น่ะก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้กำกับที่จะดึงความรู้สึกร่วมของผู้ชมไม่ใช่รึไง ? ฉันน่ะศึกษาหนังเรื่องนี้มอย่างดีแล้ว มันมีเนื้อเรื่องที่ดีที่สามารถทำให้ผู้ชมต้องหลั่งน้ำตาได้ “
จูเลีย แสดงสีหน้าไม่มั่นใจออกมาและถามสิ่งที่เธอกังวลที่สุดออกมา – “นายคิดว่าหนังเรื่องนี้จะทำเงินได้เท่าไหร่ ?”
“ เธอคิดว่าไง ? “ – เอริค ถามกลับ
จูเลีย ลังเลไปสักพักแล้วชูนิ้วออกมาสองนิ้ว ไม่นานเธอก็คิดว่ามันคงเกินไปหน่อยเลยเพิ่มไปอีกสองนิ้วก่อนที่จะลังเลเอาคืนหนึ่งนิ้ว
เธอคิดว่ามันคงดีถ้าหนังทำรายได้ถึง 30 ล้าน ด้วยจำนวนเงินทุนแล้วมันก็จะทำให้ Firefly ได้รายได้ขึ้นมานิดหน่อย
อันที่จริง จูเลียคิดว่าหากเธอได้แสดงหนังรักตลก งั้นเธอก็จะใช้ความดังที่เธอได้มาจาก Pretty Woman เพื่อช่วยให้หนังทำรายได้ได้ดีแต่สำหรับหนังเรื่องนี้แล้วเธอไม่มั่นใจว่าเธอจะช่วยมันได้รึเปล่า
“ เธอไม่เชื่อในตัวฉันรึไง ? “
“ ฉันแค่….ฉันแค่ไม่มั่นใจในหนังนี้ ! “ – จูเลีย พูดตามความจริง
เอริค เช็ดปากแล้วหัวเราะออกมา – “ เอางี้เป็นไง มาพนันกัน ฉันพนันว่าหนังเรื่องนี้ต้องทำรายได้เกิน 50 ล้าน “
“ พนันอะไร ? “ – จูเลีย ถามด้วยความสงสัย
เอริค แสดงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาและพูดขึ้น – “ ถ้าเธอแพ้ เธอจะทำงานเป็นสาวใช้ให้ฉัน 1 อาทิตย์และถ้าฉันแพ้ ฉันจะเป็นคนขับรถให้เธอ 1 อาทิตย์ “
ถ้า เอริค ไม่ได้เผยรอยยิ้มแบบนั้นออกมาในตอนที่บอกให้เธอไปเป็นสาวใช้ จูเลีย คงตกลงไปแล้ว เธอรู้สึกว่ามีโอกาส 70% ที่จะชนะบวกกับการทำงานเป็นสาวใช้นั้นก็ยังถือว่าเป็นอาชีพในยุคนี้อยู่แต่เมื่อเธอเห็นสีหน้าของ เอริค จูเลีย ก็รู้สึกว่าเธอคิดผิดและปฏิเสธทันที – “ ไม่ ฉันไม่อยากพนันกับนาย “
“ งั้น 60 ล้านเป็นไง ?”
จูเลีย ไม่หวั่นไหว เธอปฏิเสธหนักแน่นกว่าเดิม – “ ไม่มีทาง “
เพราะ เอริค ต้องกลับไปทำงาน พวกเขาจึงกินมื้อเที่ยงกันไม่นาน
“ เธอจะกลับไปหลุยเซียน่าตอนไหน ?” – เอริค ถามตอนที่อยู่ทางเข้าสตูดิโอ
“ ฉันจะขึ้นเครื่องกลับไปตอน 4 โมงเย็น “ – จูเลีย ไม่ได้ลงจากรถตอบกลับมา – “ เอริค ทุนหนังดูเหมือนว่าจะไม่พอ บางทีนายต้องเพิ่มไปอีกสัก 2 ล้าน “
“ รอส บอกเธอเรื่องนี้เหรอ ? “
จูเลีย พยักหน้า รอส ไม่รู้ว่า เอริค รู้เรื่องทุนหนังที่เริ่มขัดสนและถึงกับเตรียมตัวที่จะจ่ายให้เพิ่มแต่ก่อนที่ รอส จะร้องขอ เขาก็ได้ใช้ จูเลีย มาเพื่อดูว่า เอริค จะมีท่าทียังไง
ยังไงซะนี่ก็แค่หนังทุนต่ำ ถ้าเพิ่มอีก 2 ล้าน งั้นเงินลงทุนก็จะเพิ่มเป็น 10 ล้าน การกู้ทุนคืนต้องทำรายได้อย่างน้อย 30 ล้าน แม้ว่าจะมี จูเลีย เล่นด้วยแต่ รอส เองก็ไม่มั่นใจว่าหนังจะทำรายได้ถึง 30 ล้านรึเปล่า
“ ไม่มีปัญหา “ – เอริค พยักหน้าแล้วพูดขึ้น – “ บอก รอส ให้ถาม เจฟฟี่ เรื่องเงิน “
“ .งั้นฉันจะขอบคุณนายในนามของ รอส “ – จูเลีย ยิ้มและบอกลา เอริค ก่อนที่รถของเธอจะขับออกไป
—- —-
ในตอนบ่าย เอริค ได้กลับมาถ่ายฉากเดิมต่อที่ แอนดี้ และ โยโย่ อยู่ด้วยกันที่ร้านอาหาร เขาไม่รู้ว่าทำไมแต่หลังจากมื้อเที่ยง บรูกชีลล์ นั้นกลับมาทำผิดพลาดแบบเดิมที่เธอทำในตอนเช้าอีก แม้ว่าเธอจะขอโทษเขาและทำสีหน้าอ้อนวอนแต่ เอริค ก็อดไม่ได้ที่จะโกรธและสาบานว่าจะไม่ร่วมงานกับเธอในงานอื่นอีก
การทำงานกับสาวสวยนี่มันน่าหงุดหงิดจริงๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงได้รางวัลนักแสดงยอดแย่มาเยอะนัก
ในเวลาเดียวกัน เอริค เองก็ยอมทิ้งความคิดที่ว่าจะเริ่มมีความสัมพันธ์กับเธอ ยังไงซะฮอลลีวูดก็ใหญ่อยู่แล้ว มันมีสาวสวยมากมายให้เขาเลือก
หลังจากที่ใช้เวลาไปอีกครึ่งชั่วโมง ฉากในร้านอาหารก็เสร็จสิ้นสักที
“ เอริค ฉันขอโทษ ฉันเสียใจ “ – บรูกชีลล์ ขอโทษเขาหลังจากที่ถ่ายฉากนั้นเสร็จ เธอแต่งตัวกำลังจะกลับ ยังไงซะนี่ก็เป็นฉากในร่มของเธอทั้งหมดแล้ว
เธอใส่กางเกงยีนส์รัดๆและเสื้อเข้าในกางเกงแสดงให้เห็นถึงส่วนโค้งเว้าและขาที่ยาวของเธอ
ทีมงานส่วนมากถึงกับมองไปที่ตัวเธอ พวกเขาต่างก็คิดว่าเธออาจะได้เป็นพรีเซนเตอร์ของกางเกงยีนส์และพากันคิดถึงสิ่งที่อยู่ใต้กางเกงยีนส์ที่เธอใส่อยู่
แม้ว่า เอริค จะทิ้งความคิดที่จะยุ่งกับเธอแต่เขาก็ไม่รังเกียจที่จะจับเธอกิน เขาชื่นชมในความสวยและรูปร่างของเธอ สีหน้าของเขาดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย – “ ช่างเถอะ บรูก ฉันหวังว่าเธอจะศึกษาบทตอนกลับไป เราจะต้องถ่ายฉากนอกสตูดิโออีก ถ้าเราเสียเวลามากเกินไป มันจะส่งผลต่อตารางการถ่ายทำและใช้เงินเพิ่มขึ้นไปอีก “
“ ฉันสัญญา ฉันจะพยายาม “ – บรูกชีลล์ พยักหน้าและเผยท่าทียั่วเล็กน้อยแต่เธอพบว่า เอริค ไม่ได้สนใจเธอ
เมื่อเห็นว่าเขาจะไม่เชิญเธอไปกินมื้อเย็น เธอก็ก้มหน้าแล้วพูดขึ้นมา – “ งั้นฉันไปล่ะ เอริค “
“ อืม ฉันจะให้คนแจ้งเธอตอนที่ไปถ่ายฉากต่อไป “ – จากนั้นเขาก็ได้หันกลับไปและเริ่มคุยกับผู้ช่วย
บรูกชีลล์ เงียบไปสักพัก จากนั้นก็ได้เดินออกไป เธออ่อยเขาแล้วแท้ๆแต่ เอริค ไม่สนใจเลยซึ่งทำให้เธอหงุดหงิดขึ้นมา
“ ใช้เวลานานแค่ไหนกว่า ทอมแฮงค์ จะมาถึง ?”- เอริค ไม่ได้สนใจการกลับไปของ บรูกชีลล์ เลย แม้ว่าเขาจะเห็นว่าเธออ่อยแต่เนื่องจากเขาตัดสินใจแล้ว เขาจะไม่เปลี่ยนใจง่ายๆ ในฮอลลีวูดถ้าอดทนกับเรื่องแบบนี้ไม่ได้ งั้นก็จะต้องเจอกับปัญหามากมาย
“ 10 นาที “- อลัน พูดขึ้นมา
“ ดี เร็วเข้า บอกทีมงานทำความสะอาดและย้ายไปฉากต่อไป “
ฉากเดี่ยวของ ทอมครูส นั้นหมดแล้ว ดังนั้นฉากต่อไปเขาต้องถ่ายฉากที่เจอกับ แฮงค์ ในผับ วันนี้จะเป็นการต่อสู้ครั้งแรกของนักแสดงหลักทั้งสอง เมื่อนึกถึงในชีวิตที่แล้วของเขา ดาราดังทั้งสองมักจะควบคี่กันอยู่ตลอด ดังนั้นเขาจึงคาดหวังอย่างมากที่จะเห็นว่าดาราทั้งสองจะสร้างความมหัศจรรย์แบบไหนออกมา