Chapter 104 – การแข่งขันของผู้กำกับ
หลังจากที่ไปส่ง เอมี่ แล้ว เอริค ก็ได้พา โจนาธานเดม ไปที่ร้านกาแฟใกล้ๆ หลังจากที่สั่งกาแฟสองแก้วและขนมแล้ว เอริค ก็ได้เริ่มพูดขึ้นมาก่อน – “ โจนาธาน อย่างแรกมาคุยว่านายเข้าใจบทของ The Others ยังไง “
โจนาธานเดม นั้นเหมือนกับนักเรียนที่กำลังเข้าสอบ เขาบอกออกมาตรงๆ – “ เทียบกับหนังที่ต้องมีความรุนแรง,เลือดและเสียงแปลกๆหรือการแต่งหน้าที่ทำให้ผู้ชมต้องกลัว The Others ไม่ต้องเดาเลยว่าต้องเป็นหนังสยองขวัญแบบใหม่ บทนี้เต็มไปด้วยความลับและแม้ว่าเนื้อเรื่องจะไม่ได้ซับซ้อนแต่หนังเรื่องนี้ต้องทำให้ผู้ชมสงสัยได้และสุดท้ายในตอนจบ ในตอนที่ความจริงเรื่องผีเปิดเผยออกมา เนื้อเรื่องจะหักหมุมในตอนจบและน่าแปลกใจกว่าเดิม…เอริค หลายคนรู้สึกว่าความสำเร็จของนายตอนนี้นั้นเป็นเพราะนายได้รับพรจากพระเจ้าแต่ถ้าพวกเขาได้เห็นบทที่นายเขียนยมา ฉันเชื่อว่าไม่มีใครที่จะคิดแบบนั้น พรสวรรค์ของนายนี่น่าประหลาดใจจริงๆ “
ตอนสุดท้าย โจนาธาน ก็อดไม่ได้ที่จะชมเขา เอริค เห็นว่าคำชมแบบนี้มาจากใจจริงๆและมันก็ไม่ได้ทำให้เขาพอใจเท่าไหร่ เขายิ้มแล้วพูดขึ้นมา- “ ขอบคุณที่ชม ความเข้าใจบทของนายน่ะพอได้เลยแต่มันไม่พอที่ฉันจะให้หนังเรื่องนี้กับนาย แม้ว่าฉันจะไม่ได้มีเวลาสนใจการตอบกลับของอีกสองคนแต่ฉันเชื่อว่าอีกสองคนก็ต้องสนใจหนังเรื่องนี้ นายคิดว่าข้อดีของนายคืออะไรเมื่อเทียบกับอีกสองคนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญหนังสยองขวัญ นายคิดว่าจุดแข็งของนายคืออะไร ? “
“ ความยืดหยุ่น “ – โจนาธาน ตอบกลับโดยไม่ลังเล – “เอริค ฉันปรับตัวได้ง่ายกว่าอีกสองคน “
เอริค มองไปที่ชายวัยกลางคนตรงหน้าที่ซึ่งอายุมากกว่า 40 ปีและสงสัยขึ้นมา – “ ยืดหยุ่น ? “
โจนาธาน อธิบายออกมาอย่างใจเย็น – “ ใช่ เอริค นี่คือข้อดีที่สุดของฉันคือฉันไม่เคยกำกับหนังสยองขวัญ ฉันอยู่ในธุรกิจสายนี้มาเกือบ 20 ปี ฉันเชื่อว่าระดับความเชี่ยวชาญในฐานะผู้กำกับของฉันน่ะโอเค ฉันสามาถถ่ายหนังตามคอนเซ็ปของนายที่เขียนในบทได้ แต่ถ้านายเอาหนังนี้ให้กับสองคนนั้น สองคนนั้นต้องถ่ายหนังตามแบบของตัวเองแน่ มันอาจจะไม่ใช่ความคิดของพวกเขาแต่เป็นนิสัย ผลก็คือพวกเขาจะเปลี่ยน The Others เป็นหนังสยองขวัญแบบ The Exorcist รึไม่ก็ A Nightmare on Elm Street หนังนี้จะมีเอฟเฟ็คที่น่ากลัวแต่มันจะทำให้ความรู้สึกในหนังนั้นอ่อนลงเพราะตอนจบของหนัง “
หลังจากที่ โจนาธาน พูดจบ สีหน้าของ เอริค ก็ดีขึ้น เขารีบเอากระดาษที่เขาเตรียมไว้ออกมาจากกระเป๋าแต่ไม่ได้ส่งมันให้กับ เอริค เขารู้ว่าถ้าเขาทำแบบนั้น อีกฝ่ายอาจจะไม่มีความอดทนพอที่จะอ่านข้อมูลทั้งหมด เขาเลือกส่วนที่สำคัญแล้วส่งให้กับ เอริค แทน
“ เอริค นายดูนี่ นี่คือความคิดของฉันในการถ่ายหนัง The Others และมันก็ยังมีบางฉากที่ฉันจะปรับ ฉันคิดว่าการถ่ายหนังต้องเน้นไปที่สร้างความสงสัยให้ผู้ชม นี่จะปิดจุดอ่อนของหนังและจะไม่ทำให้ผู้ชมต้องสับลน ฉันคิดว่าเราควรโฟกัสไปที่การสร้างบรรยากาศ ฉันว่าเราต้องเน้นไปที่ความกดดัน ไม่ใช่ความรู้สึกที่เกิดจากการกระตุ้น “
เอริค มองไปที่กระดาษนั้นแล้วค่อยๆดูแบบร่างๆ นิ้วของเขาเริ่มเคาะไปมาหลายครั้งที่โต๊ะอย่างไม่รู้ตัว
โจนาธาน รู้ว่าตอนสำคัญที่สุดได้มาถึงแล้ว มือขวาของเขาที่อยู่ใต้โต๊ะนั้นกำหมัดแน่น
… …
เทียบกับ เอริค ผู้กำกับที่ได้รับการอวยพรจากพระเจ้าซึ่งมีเส้นทางที่ราบรื่น เส้นทางของ โจนาธาน นั้นยากลำบาก เขาได้แสดงความสนใจในการถ่ายหนังตั้งแต่ยังเด็ก แม้ว่าเขาจะเรียนมหาลัยในด้านสัตวแพทย์แต่เขาก็ไม่ได้ทิ้งเส้นทางนี้ แทนที่เขาจะเลือกไปเป็นสัตวแพทย์ เขากลับเลือกมาอยู่ในฮอลลีวูดแทน
จนกระทั่งถึงอายุได้ 30 ปี เขาก็ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานผลิตหนังทุนต่ำในปี 1977 ในที่สุด โจนาธาน ก็ได้โอกาสในการกำกับหนัง แม้ว่าหนังสองเรื่องแรกของเขาจะได้รับความสนใจและได้รับคำวิจารณ์ที่ดีแต่รายได้นั้นไม่ได้ดีเท่าไหร่
เอาให้แม่นยำคือมันไม่ได้เข้าอันดับบ็อกออฟฟิศ โจนาธาน ให้คนน่ะสนุกกับงานของเขา เขาต้องใช้เงินของตัวเองเพื่อให้หนังของเขาได้ฉายในนิวยอร์คแต่ก็มีคนดูหนังเขาแค่ไม่กี่คน
นี่ทำให้ โจนาธาน ต้องช็อกไปถึง 3 ปีและในปี 1980 งานอีกชิ้นของ โจนาธาน ก็ได้รางวัลไปสองอย่าง นี่ได้พิสูจน์อาชีพของเขาแต่จนถึงตอนนี้ งานของเขาก็ยังไม่ได้มีค่าทางการค้า รายได้ของหนังเขานั้นก็แค่ไม่กี่ล้านและรายได้สูงสุดที่เขาทำได้ก็แค่ 10 ล้าน
ในฮอลลีวูด เพื่อจะได้รู้จักในฐานะผู้กำกับ หากไม่ได้มีรายได้ที่ดีมันก็เป็นไปไม่ได้ ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาศึกษาการทำงานของ เอริค โจนาธาน พบว่าหนังทั้งสามเรื่องของ เอริค นั้นทำรายได้ได้ดีและทั้งหมดแล้ว เอริค น่ะเขียนบทเองทั้งหมด
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ชัดเจนว่าทำไม เอริค ถึงได้ส่งคำเชิญให้กับเขาในเรื่อง The Others แต่มันก็ไม่ได้กันให้เขาคว้าโอกาสนี้
หลังจากที่ได้รับคำเชิญ โจนาธาน ก็ต้องอดนอนทั้งคืนเพื่ออ่านบทอยู่หลายครั้ง เขาอึ้งกับตอนจบอยู่หลายรอบ วันต่อมาในตอนเช้าเขาก็ได้ส่งคำตอบไปให้ เจฟฟี่แฮนสัน โดยแสดงว่าเขาต้องการที่จะกำกับหนังเรื่องนี้
แต่ โจนาธาน ไม่ได้ยอมแพ้ แม้ว่าหนังที่เขาเคยทำมานั้นไม่ได้ดีเท่าไหร่แต่มุมมองของเขานั้นไม่ได้แย่ เขารู้สึกว่าถ้า The Others นั้นถ่ายทำโดยเขา การได้รับรายได้ที่ดีและรางวัลนั้นคงไม่ใช่ปัญหา ดังนันเขาจึงอยากที่จะคว้าโอกาสนี้ให้ได้มากกว่าเดิม
เขาใช้เวลาไม่กี่วันในการคิดหาคำพูดมากล่อม เอริค ในเวลาเดียวกันเขาก็ทำการวิเคราะห์บทและทำการเตรียมตัวอยู่หลายอย่าง…เพื่อให้ประหยัดเวลาและกันไม่ให้คนเขียนบทได้ตัดสินใจไปก่อน โจนาธาน จึงนอนไม่เกิน 3 ชม.ต่อวันมามากกว่า 1 อาทิตย์แล้ว
เหตุผลว่าทำไมเขาจึงดูมีแรงเมื่อนั่งอยู่ต่อหน้า เอริค และพูดคุยแบบนี้ได้ก็เพราะเขาดื่มกาแฟไปเยอะในตอนเช้า เขารู้ว่าอีกไม่นานร่างกายเขาต้องทรุดแน่ๆ
… …
เอริค ไม่ได้เห็นท่าทีอึดอัดของ โจนาธาน หลังจากที่เคาะโต๊ะอยู่หลายครั้งแล้ว เขาก็เงยหน้าขึ้นแล้วพูดขึ้นมา – “ โจนาธาน นายรอสักเดี๋ยวได้มั้ย ฉันจะโทรศัพท์ “
“ ได้ ไม่มีปัญหา “- โจนาธราน ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรแต่เขาก็ได้แต่พยักหน้า
เอริค ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่เคาเตอร์ หลังจากที่คุยกับเด็กเสิร์ฟ เขาก็หยิบโทรศัพท์ที่เคาเตอร์ขึ้นมาและโทหา เจฟฟี่
“ เจฟฟี่ ฉันเอง…..มีบางอย่างที่ฉันลืมถาม มันเกี่ยวกับเรื่องผู้กำกับ The Others …ใช่ เวสคาเวิร์น กับ วิลเลียมเฟรดกิ้น ตอบกลับมารึยัง ? …ใช่…ใช่….โอเค เข้าใจแล้ว….โจนาธานเดม มาหาฉันเป็นการส่วนตัว ฉันคิดว่าเขามีความคิดที่ดีและเขาก็ได้แสดงความสนใจในหนัง ฉันคิดว่าเราให้โอกาสเขาได้….ใช่ …ปฏิเสธเขาซะ…..ฉันจะว่างแล้ว…..ฉันรู้ ไม่ต้องกังวล ฉันเข้าใจเรื่องนี้แล้ว “
เมื่อวางสาย เอริค ก็เดินกลับไปที่นั่ง
โจนาธาน รู้ว่าตอนสำคัญมาถึงแล้ว เขาจึงอดไม่ได้ทีจะนั่งหลังตรงแล้วมองไปที่ เอริค ด้วยความคาดหวัง
“ โจนาธาน ตอนที่เราส่งคำเชิญให้กับนาย เราบอกว่าตัวเอกของหนังได้ถูกกำหนดแล้ว นายโอเคเรื่องนี้มั้ย ?”
โจนาธาน อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา เขารู้ว่าที่ เอริค ถามนั้นเหมือนกับเขาได้หนังเรื่องนี้ – “ ไม่ ฉันไม่มีความเห็นอะไร ตัวเลือกของนักแสดงนั้นขึ้นอยู่กับโปรดิวเซอร์ “ – เขาลังเลไปสักพักก่อนจะถามขึ้นมา – “ เอริค ตัวหลักนั้น….ใช่แฟนนาย เจนนิเฟอร์อนิสตัน รึเปล่า ? “
เอริค ส่ายหน้าและพูดขึ้น – “ ไม่ “
โจนาธาน กังวลว่า เอริค จะเลือกแฟนตัวเอง เขาคงต้องยอมรับมันแม้ว่าจะเป็น เจนนิเฟอร์อนิสตัน….แต่หลังจากที่ เอริค ปฏิเสธ เขาก็รู้สึกโล่งอก โจนาธาน น่ะกังวลว่า เอริค จะพูดเงื่อนไขนี้เพื่อปั้นแฟนของตัวเองขึ้นมา
แต่ผู้หญิงคนนั้นเด็กเกินไปที่จะเล่นบทแม่ แม้ว่าเธอจะแต่งหน้าแต่มันก็ยากที่จะทำให้ผู้ชมเชื่อว่าเธอเป็นแม่ที่มีลูกสองคน
สำหรับความสัมพันธ์ของตัวเอกของหนังกับ เอริค แล้ว เขารู้สึกว่าเขาไม่ควรมาสนใจเรื่องนี้
“ งั้น เอริค ฉันได้งานแล้วงั้นเหรอ ? “
เอริค พยักหน้า – “ ใช่ โจนาธาน นายได้โอกาสในการกำกับหนัง วิลเลียมเฟรดกิ้น จะไปกำกับหนังเรื่องอื่นแล้วปฏิเสธคำเชิญของฉัน เวสคาเวิน ได้แสดงความสนใจในบทนี้แต่เขายังมีความกังวลเรื่องตัวเอกอยู่ ….บวกกับคำพูดและความคิดของนายได้แสดงให้ฉันเห็นว่านายน่ะเชื่อในบท ดังนั้นฉันจึงบอก เจฟฟี่ ว่าให้ปฏิเสธเขาไป “