Chapter 148 – รอบปฐมทัศน์
Columbia ตัดสินสใจที่จะปล่อยฉาย Running Out of Time ตามตารางเวลาที่วางเอาไว้เพราะผู้บริหารส่วนมากเชื่อว่าการเลื่อนเวลาออกไปนั้นเสี่ยงที่จะชนกับ Batman มากกว่า แน่นอนว่าตัวเลือกที่ เอริค เสนอมาก็มีส่วนสำคัญอย่างมาก
ในบ้านที่เบเวอรี่ฮิลล์ เอริค ยืนอยู่ตรงหน้ากระจก นิโคล ที่ซึ่งใส่สูทให้กับเขาเสร็จแล้วตอนนี้กำลังผูกเนคไทให้เขาอยู่และเตียงข้างๆก็มี ดรูวส์ นอนอยู่โดยเธอสวมผ้ากันเปื้อนสีขาวและกระโปรงยีนส์ ส่วนที่ยังไม่พัฒนาของเธอนั้นเผยออกมาเล็กน้อยพร้อมกับเอวคอดกิ่วของเธอและขาที่ส่ายไปมา เธอเอามือจับคางแล้วมองไปที่ นิโคล ที่กำลังแต่ตัวให้กับ เอริค แม้ว่าเธออยากจะทำแบบนั้นเองแต่โชคร้าย….ที่เธอทำไม่ได้
“ เอริค ให้ฉันไปเดินงานพรมแดงกับนายนะ “ – ในตอนที่ผูกเนคไทเสร็จและสวมสูทเข้าไป ดรูวส์ ก็ขอออกมาด้วยเสียงอ้อนๆ
“ ไม่ มันถูกเตรียมเอาไว้แล้ว เธอต้องเข้าไปกับ นิโคล “
“ โอ้ ทำไมฉันต้องไปกับเธอด้วย ? “ – ดรูวส์ ไม่ได้ปิดบังความชอบและไม่ชอบต่อหน้า นิโคล เลย ตั้งแต่เริ่มต้นวันหยุดหน้าร้อน ดรูวส์ ก็ยังคงไม่พอใจมาตลอดแต่ไม่ได้หาเรื่องอีกฝ่ายแล้ว แทนที่เธอจะไปเล่นด้านนอกตามปกติแต่นี่เธอกลับอยู่บ้านทั้งวัน เอริค เข้าใจว่า ดรูวส์ น่ะอคติกับ นิโคล อย่างตอนนี้เพราะมันเป็นงานเปิดตัวหนังและ เอริค ต้องการที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า นิโคล เลยต้องมาช่วย ดังนั้นยัยเด็กน้อยจึงโผล่มาจับตาดูทั้งคู่เอาไว้
ในตอนที่เธอได้ยินคำพูดของ ดรูวส์ นิโคล ก็อดไม่ได้ที่จะยักคิ้วแต่ ดรูวส์ เห็นสีหน้าของ นิโคล และตอบกลับมาทันที – “เอริค เอริค นายเห็นมั้ย เธอยักคิ้วและมีแผนในใจ ดูสิ ไล่เธอออกไปเลย “
สุดท้าย นิโคล ก็ทนไม่ไหว – “ ดรูวส์ เธอพูดต่อหน้าฉันไม่ใช่รึไง ฉันแสดงความไม่พอใจไม่ได้เลยรึไง ? “
“ อย่าเรียกฉันว่า ดรูวส์ เธอควรเรียกฉันว่า คุณแบรี่มอร์ “
“ ได้ คุณแบรี่มอร์ “- นิโคล เหมือนหมดหนทาง เมื่อรู้ว่าถ้า เอริค ไม่อยู่ที่นี่ ดรูวส์ ก็คงไม่อยู่เช่นกัน ดรูวส์ ทำลายแผนของเธอและกว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเธอก็ไม่ได้ก้าวหน้ากับ เอริค เลย แม้ว่าเธอจะคอยทำทุกอย่างในบ้านตามคำสั่งและดูแลชีวิต เอริค อย่างดีแต่หลังจากที่วันหยุดของ ดรูวส์ เริ่มขึ้น ทั้งสองคนก็แทบไม่มีเวลาอยู่ด้วยกันตามลำพังซึ่งหมายความว่าเธอไม่ได้มีโอกาสเปิดฉากรุกเลย
“ ถึงฉันจะไม่เต็มใจแต่ฉันจะเป็นสาวใช้ของนายเอง ดังนั้น เอริค ไล่เธอไปซะ …”
เอริค ใส่สูทพร้อมกับยิ้มแล้วลูบหัว ดรูวส์ – “ อย่าสร้างปัญหาจนให้ฉันต้องไล่เธอออกไป ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว “
เด็กสาวจำใจต้องเดินออกจากห้องไป
ในตอนที่ เอริค ลงจากรถ พื้นที่ตรงหน้าโรงหนังไชนีสแกรนด์เทียนเธอร์ก็เต็มไปด้วยผู้คน มีนักข่าวรออยู่ทั้งสองฝั่งของพรมแดงและมีแฟนคลับจำนวนมาก
เอริค เห็นเด็กสาวมากมายที่ถือโปสเตอร์ Running Out of Time และมันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่มีชื่อของ ครูส เขียนเอาไว้
ในส่วนให้เครดิต เอริค ถูกวางไว้ในรายชื่อผู้กำกับ แม้ว่าเขาจะโผล่อยู่ใน 17 Again และได้รับชื่อเสียงมากมายในตอนนั้นแต่หลังจากที่เขาเริ่มเข้าสู่เส้นทางนี้จริงจัง ชื่อเสียงที่เพิ่มขึ้นมานั้นก็เริ่มช้าลง อีกอย่างแล้วหนังต่างๆของเขาก็ไม่ได้มีรูปแบบเดียวและเขาเองก็ยังทำตัวไม่ให้โดดเด่น ดังนั้นมันจึงไม่แปลกที่เขาจะมีแฟนคลับไม่มากเท่าไหร่
แฮงค์ เสียเปรียบในเรื่องหน้าตา แม้ว่าเขาจะดังอย่างมากแต่เขาก็ถือว่าเป็นนักแสดงที่ดีคนหนึ่งและอาชีพนักแสดงของเขาก็ยังคงก้าวหน้าต่อไป เขาจึงไม่ได้รับผลอะไรกับสิ่งที่ เอริค ทำในชีวิตนี้
ครูส ต่างออกไป จากตอนเปิดตัวจนถึงตอนนี้ ครูส อยู่บนเส้นทาไอดอล ภาพลักษณ์ของเขาในใจผู้คนและความคิดนั้นถือว่าสูงส่งอย่างมาก ก่อนที่เขาจะหย่ากับ คิดแมน ภาพลักษณ์ของ ครูส นั้นสุดแสนจะสมบูรณ์แบบ
เอริค ไม่ได้สนท่าทีของแฟนคลับ เป้าหมายของเขาชัดเจนอยู่แล้ว เขาไม่คิดเรื่องจะเป็นไอดอลแต่ต้องการมีอำนาจเบื้องหลังฮอลลีวูด งานเปิดตัวหนังเริ่มขึ้นมาพร้อมกับมีดาราที่คอยมาสมทบ ตามกฎปกติแล้ว พวกคนสำคัญจะมาถึงหลังจากนี้ ดังนั้น เอริค จึงเดินตรงเข้างานทีเดียวไม่ได้ เขาจึงต้องไปที่เขตรอซึ่งตรงนั้นก็มีคนมากมายไปรวมตัวกันอยู่
“ เอริค ยินดีด้วย “
หลังจากที่ แฮงค์ เห็นเขา แฮงค์ ก็ได้ยิ้มทักทายและพบว่า เอริค มีท่าทีสับสน แฮงค์ อธิบายออกมา – “ ฉันได้ยินมาว่านายได้กำไรครึ่งหนึ่งของ Home Alone และ Pretty Woman ที่จะจบการฉายอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่วัน รายได้ส่วนอเมริกาเหนือคือ 210 ล้านและทั่วโลก 530 ล้าน มันถือว่าเป็นตัวเลขที่ทำให้หลายคนตกใจ ยิ่งนับรวมกับรายได้ทั่วโลกของ Home Alone รายได้ที่นายทำได้นั้นสูงถึง 1 พันล้านดอล จำนวนคนที่ทำรายได้ถึง 1 พันล้านกับรายได้ทั่วโลกนี้นับด้วยมือเดียวได้เลย ไม่ใช่ว่านายควรจะยินดีงั้นเหรอ ? “
“ มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร “- เอริค ยิ้มและชี้ไปที่ ครูส ที่ยืนอยู่ข้างๆ – “ รายได้ทั่วโลกของหนังที่ ครูส เล่นนั้นเกิน 1 พันล้านไปแล้ว “
ครูส ได้ยินคำพูดของ เอริค แต่ไม่ได้แสดงท่าทีมั่นใจออกมา เขาแค่ทำตัวแบบเดิม เขาหัวเราะอย่างถ่อมตัวและพูดขึ้น – “เอริค ฉันจะไปเทียบกับนายได้ยังไง “ – เขาแสดงหนังทำรายได้ถึงหนึ่งพันล้านแต่ถ้าเทียบกับรายได้ของหนังแล้ว ครูส รับรายได้แค่เล็กน้อยเท่านั้น ตอนนี้ทรัพย์สินของ ครูส นั้นอยู่ที่ 10 ล้านและหนังสองเรื่องของ เอริค Home Alone และ Pretty Woman ก็น่าจะทำเงินให้มากกว่า 200 ล้านต่อผู้กำกับ ครูส ตอนนี้เห็นข่าวเรื่อง เอริค ในหนังสือพิมพ์แล้วอดไม่ได้ที่จะอิจฉาในโชคขจอง เอริค ในเวลาเดียวกันเขาก็ตัดสินใจที่จะพัฒนาบทบาทของตัวเองในฐานะโปรดิวเซอร์ ระหว่างนี้บริษัทที่ ครูส ก่อตั้งขึ้นมาก็เริ่มหาบทหนังแล้ว
สำหรับคู่ที่จัดมาให้กับ เอริค โดยผู้จัดในวันนี้ หลังจากที่ เอริค โผล่มา บรูกชีลล์ ก็ได้มาหาเขาและได้ยินเนื้อหาที่ทั้งสามพูดคุยกัน เธอเสียใจอย่างมาก เธอเตือนตัวเองว่าเคยโดน เอริค ปฏิเสธมาแล้วหนึ่งรอบ สายตาของเธอที่มองไปที่ เอริค นั้นเริ่มดูดุดัน ประสบการณ์ในตอนเด็กและโตขึ้นมานั้นทำให้เฑอบูชาและรักเงินอย่างผิดปกติ ถ้าเธอมีเงินพอ เธอก็จะใช้ชีวิตอย่างผู้หญิงชั้นสูงได้โดยไม่จำเป็นต้องการสายเลือดของคนชั้นสูงเลย แทนที่จะขายภาพโป๊เปลือยเพื่อแลกกับเงินแค่ไม่กี่ร้อยดอลลาร์ตอนอายุสิบกว่าปีและเข้าร่วมในหนัง Pretty Baby ในตอนอายุ 22 นี่ไม่ต้องพูดถึงการโฆษณากางเกงยีนส์รัดๆเลย
ในตอนที่พนักงานบอกให้พวกเขาเดินเข้าไปในพรมแดงได้ บรูกชีลล์ ก็เดินไปหา เอริค แล้วจับแขนของเขาไว้ วันนี้เธอรู้สึกผิดกับการใส่ส้นสูงมาเพราะมันทำให้เธอสูงกว่า เอริค เพราะเธอสูงกว่า ทั้งสองจึงดูไม่เข้ากัน
เอริค ไม่ได้สนเรื่องนี้ มือของเขารู้สึกได้ถึงความนุ่มจากหน้าอกของเธอ แม้ว่ามันจะสบายแต่เขาก็ยังเตือนเธอ – “ บรูกกี้ เธอจับแน่ไปแล้ว เธอช่วยปล่อยหน่อยได้มั้ย ? “
“ โอ้ โทษที เอริค ฉันกังวลเกินไปหน่อย “ – เด็กสาวค้านกลับมาแล้วคลายมือเล็กน้อย
เอริค ยิ้มและคิดว่าเธอโกหก เธอโตมาต่อหน้ากล้องตั้งแต่ยังเด็ก เธอจะมากังวลได้ยังไง ? แต่เขาก็ขี้เกียจจะเอามาคิดติดใจและพาเธอเดินเข้างานไป