Immortal and Martial Dual Cultivation – ตอนที่ 125 การต่อสู้แย่งชิงสมบัติ : ต่อสู้ดุเดือดระหว่างยักษ์

 

ตอนที่ 125 การต่อสู้แย่งชิงสมบัติ : ต่อสู้ดุเดือดระหว่างยักษ์

 

ฉู่เฉาหยุ่นรู้ว่าเขากําลังคิดอะไรอยู่,เขาพูดขึ้น “ข้าก็มาถึงไม่ได้ช้าไม่ได้เร็วไปกว่าเจ้า หากข้าไปเปิดฝาโลงเจ้าก็ต้องได้ยิน”

 

ทันใดนั้น,ต้วนมู่ฉิงเดินตรงเข้าไปที่ฝาโลง,ที่วางราบอยู่บนพื้น ฝาโลงศพสีทองปกคลุมไปด้วยตัวอักษะจากยุคโบราณ

 

** ตวนมู่ฉิง เปลี่ยนเป็น ต้วนมู่ฉิง

 

นางหยิบเอากระดาษและพู่กันออกมาอย่างรวดเร็ว,จดบันทึกรายละเอียดของมันทุกอย่าง นี่มันคือทักษะต่อสู้ของมหาปราชญ์ แม้ว่านางไม่อาจทราบว่ามันเป็นเช่นไร,แต่มันน่าจะมีอะไรพิเศษ

 

“ปัง!”

 

ภายใต้สายตาอันตกตะลึงของทุกคน,เซียวเฉินและกลุ่มของเขากระโดดขึ้นมาบนแท่นหินจากบันไดขั้นสุดท้าย เมื่อพวกเขามาถึงแท่นหิน,ม่านพลังที่ค่อยปกป้องพวกเขาอยู่แตกออก,มลายหายไป

 

เจ้าหมูเป็นคนแรกที่รู้สึกได้ว่ามีอะไรบ้างอย่างผิดปกติ “ให้ตายเถอะ,พวกเราไม่อาจหมุนเวียนพลังหรือใช้จิตวิญญาณยุทธได้ที่นี่”

 

เซียวเฉินลองดู,และพบว่าเป็นอย่างที่เจ้าหมูพูด จิตวิญญาณยุทธบริเวณจุดตันเทียนถูกจํากัด ไม่ว่าเขาจะทําเช่นไร,ก็ไม่มีการตอบสนอง และยังไม่อาจหมุนเวียนพลังปราณได้

 

จีชางคงมองไปที่เซียวเฉินด้วยสายตาเย็นชา เขากระโดดขึ้นไปในอากาศและปล่อยหมัดลงไปที่เซียวเฉินโดยไม่มีบอกกล่าว

 

เซียวเฉินตกตะลึงในตอนแรก,แต่หลังจากนั้นมุมปากของเขาก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นชา เห็นได้ชัดว่าผู้คนที่อยู่ที่นี้ต่างใช้พลังปราณไม่ได้ ด้วยความแข็งแกร่งทางกายของเซียวเฉิน,เขาไร้เทียมทานที่แท่นหินแห่งนี้

 

“บูม!”

 

เซียวเฉินปล่อยหมัดออกไปต้อนรับเขา เมื่อกําปั้นของทั้งสองปะทะกัน เกิดเป็นเสียงแตกหัก นิ้วทั้งห้าของมือของจีชางคงแตกหัก

 

จีชางคงถอยกลับไปห้าก้าว เขามองไปที่บาดแผลบนมือของเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ นิ้วที่เชื่อมต่อไปที่หัวใจ เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดมหาศาล,และใบหน้าชักกระตุก

 

** นิ้วเชื่อมต่อไปที่หัวใจ,เหมือนเป็นแบบการแพทย์ของจีนโบราณ แต่ละนิ้วจะเชื่อมต่อกับอวัยวะภายในแต่ละส่วนและส่งผลต่อกัน

 

ขุนนางกุยยี่จับหอกยาวของเขาไว้มั่นเมื่อเขาเห็นเซียวเฉินกระโดดขึ้นมา เขากวาดคนของตระกูลฮวาไปด้านข้างด้วยหอกของเขาและพุ่งไปที่เซียวเฉิน เพียงชั่วพริบตาเดียวเขาก็ขึ้นมาถึงตรงหน้าของเซียวเฉิน

 

“ฮ่ะ! ฮ่ะ! ฮ่ะ!”

 

หอกเป็นชุดแทงออกมาตรงหน้าของเซียวเฉิน,ราวกับดอกไม้ ขุนนางกุยยี่ชํานาญการใช้หอกเป็นอย่างมาก แม้จะไม่มีการเสริมพลังปราณ,หอกของเขาก็ยังแทงออกมาได้ หนักแน่นเหมือนเช่นเดิม

 

เซียวเฉินถอยสองก้าวและขุนนางกุยยี่ก็รุกตาม หอกยาวไล่ตามติดเซียวเฉินราวกับตังเม ไม่ว่าเขาจะหลบหลีกเช่นไร,เขาก็ไม่อาจหลบการโจมตีได้พันอย่างหมดจด

 

“ปุ!” เท้าของเซียวเฉินเหยียบลงไปบนอากาศว่างเปล่า,เขาได้ล่าถอยจนไปถึงขอบของแท่นหิน หากเขาเหยียบลงไปอีกหนึ่งก้าวเขาจะตกถูกผลักตกลงจากแท่นหินไป

 

พิจารณาถึงลักษณะพิเศษของแท่นหินแห่งนี้ หากเซียวเฉินตกลงไปเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน ขุนนางกุยยี่ก็หวังให้เป็นเช่นนั้น เขาผลักมือขวาออกไปข้างหน้าส่งหอกยาวไปที่หน้าอกของเซียวเฉินอย่างรุนแรง

 

“ฟุ่ว!”

 

ทันใดนั้นกระบี่เงาจันทร์ก็ปรากฏขึ้นในมือของเซียวเฉิน เซียวเฉินเบี่ยงหอกออกไปอย่างเรียบง่าย เป็นเพราะขุนนางกุยยี่ใส่แรงทั้งหมดลงไปในการโจมตีครั้งนี้ เขาก้าวขึ้นหน้าไปหนึ่งก้าว คมกระบี่รูดไปตามด้ามของหอกยาว

 

ไม่ช้า,คมกระบี่ก็ได้มาถึงมือขวาของขุนนางกุยยี่ เขารีบปล่อยมันออกไปทันที,และหอกยาวสีทองได้ตกลงไปที่พื้น

 

เบี่ยงร่างกระแทก!

 

เซียวเฉินเบี่ยงร่างกายของเขาและพุ่งชนตรงไปข้างหน้า ความแข็งแกร่งทางกายทั้งหมดของเขารวมไปที่ไหล่ขวา ร่างกายของเขา,ที่เสริมบํารุงมาด้วยอัสนีสวรรค์และบุปผาเจ็ดกลีบ,ทันใดนั้นก็ระเบิดพลังน่ากลัวออกมา

 

ขุนนางกุยยี่ถูกซัดลอยไปเสียงดังปัง เขากระอักเลือดออกมาเต็มปากขณะที่ลอยไปกลางอากาศ เมื่อเขาตกมาถึงพื้น,เขายังกลิ้งกระดอนต่อไป,และเขาเกือบจะตกลงไปจากแท่นหิน

 

“โจมตีพร้อมกัน,พลังกายของเจ้าหมอนี่มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว!” ฮวาหยุ่นเฟยตะโกนขึ้นมาเสียงดังเมื่อเขาเห็นขุนนางกุยยี่ถูกซัดคว่ำลงภายในพริบตาเดียว เขารู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

 

เหล่าผู้บ่มเพาะพลังต่างพึ่งพาพลังปราณจนมากเกินไป ถึงแม้ร่างกายของพวกเขาจะถูกฝึกฝนและแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดาทั่วไป แต่มันก็ยังไม่อาจไปเทียบเคียงกับเซียวเฉินได้

 

“ปัง!”

 

เซียวเฉินเก็บกระบี่กลับไปและใช้เพียงกําปั้นของเขา,พร้อมกับพุ่งเข้าใส่นักบ่มเพาะพลังตระกูลที่ด้านหน้าของเขา คนที่ถูกซัดลงไปกองกับพื้น,พวกเขาไม่อาจลุกขึ้นมา ได้อีก,และบางคนถึงขั้นกระดูกแตกหักไปหลายส่วน

 

เซียวเฉินตะโกนขึ้นเสียงดัง,เขาราวกับเป็นหมาป่าท่ามกลางฝูงแกะ เขาใช้เพียงทักษะกําปั้นธรรมดาสามัญที่เขาได้เรียนมาในอดีต,การเคลื่อนไหวช่างสามัญและเรียบ

 

ง่าย,แต่มันทั้งแม่นยําและหนักแน่น เมื่อรวมเข้ากับพลังกายอันแข็งแกร่งจนน่ากลัวของเขาไม่มีใครสามารถต่อกรกับเขาได้

 

เซียวเฉินมองไปที่ฮวาหยุ่นเฟย ท่ามกลางฝูงชน,ฮวาหยุ่นเฟยตกตะลึง,และเร่งรีบถอยกลับ เซียวเฉินยิ้มอย่างเย็นชา “มาดูว่าเจ้าจะหนีไปไหนได้!”

 

เซียวเฉินกดเท้าลงบนพื้นและกระโดดขึ้นไปในอากาศ เขากวาดเท้าของเขาและเตะไปที่หัวของฮวาหยุ่นเฟย

 

“ปุ!” ฮวาหยุ่นเฟยพ่นเลือดคายฟันออกมาจากปากของเขา เมื่อเขาลงมาถึงพื้น,เขาหลับหมดสติไปในทันที

 

เซียวเฉินจอดลงบนพื้นเบาๆ ก่อนที่เขาจะลงถึงพื้น,เขาได้ส่งลูกเตะออกไปด้วยความรวดเร็วอีกสองสามครั้ง เกิดเป็นเสียงร้องน่าเวทนา และคนเหล่านั้นต่างถูกซัดลงไปกองกับพื้น

 

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง,นอกจากกลุ่มสามคนของเซียวเฉินและฉู่เฉาหยุ่น ทุกคนล้วนนอนลงไปกับพื้น,ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับมองไปที่เซียวเฉินอย่างหวาดกลัว

 

เจ้าหมูอุทานขึ้นอย่างประหลาดใจ “ช่างเป็นพลังกายที่แข็งแกร่ง! เจ้าหมอนี่ฝึกขึ้นไปถึงขั้นนี้ได้เช่นไร?”

 

ซู่เสี่ยวเสี่ยวไม่ได้ประหลาดใจอะไรนัก,นางพูดขึ้นอย่างเฉยเมย “หากเจ้าใช้เวลา 15 ปีเพื่อเสริมสร้างพลังกายเจ้าก็คงขึ้นไปถึงระดับนั้นได้เช่นกัน”

 

เซียวเฉินเหลือบไปมองฉู่เฉาหยุ่นพร้อมกับเดินตรงไปหา,ทีละก้าว เขาราวกับเป็นมีดที่กดลงมาบนใบหน้า,เจตนาฆ่าฟันแผ่ออกมาจากร่างของเขา,แสดงออกถึงพลังของเขา

 

เมื่อฉู่เฉาหยุ่นเห็นเซียวเฉินเดินเข้ามา เขาไม่ได้ตื่นตระหนก เขาหยิบเอาแก่นกลางวิญญาณสีทองขนาดเท่าลูกบาสเกตบอลออกมาและโยนมันให้กับเซียวเฉิน เขายิ้มขึ้นบางเบา “ดูเหมือนข้าจะได้ตัดสินใจผิดพลาดไป,ข้าไม่ควรปล่อยให้เจ้าเข้ามาถึงที่นี่”

 

เซียวเฉินรับเอาแก่นกลางวิญญาณของราชันย์สิงโตทองคําและวางมันลงไปในแหวนห้วงจักรวาล เซียวเฉินมองลึกไปที่ฉู่เฉาหยุ่น, แต่ท้ายที่สุดเขาก็ไม่ได้ลงมืออะไร

 

แม้เซียวเฉินจะได้เปรียบ เขาก็ไม่อาจมองคนผู้นี้ได้ทะลุปรุโปร่ง เซียวเฉินยังสัมผัสได้ถึงอันตรายจากฉู่เฉาหยุ่นเหมือนเช่นเคย

 

เซียวเฉินหันไปรอบๆและมองไปที่เหล่าสานุศิษย์นระกูลชั้นสูงที่กําลังนอนกลิ้งไปกับพื้น เขาเดินไปที่ฮวาหยุ่นเฟยและปลดเอาแหวนห้วงมิติของเขาออกมา จากนั้นเขาก็หยิบดาบสีชาตของฮวาหยุ่นเฟยใส่ลงไปในแหวนห้วงจักรวาล

 

** แหวนห้วงอวกาศ เปลี่ยนเป็น แหวนห้วงมิติ

 

แหวนห้วงมิติของทวีปเทียนวู่แตกต่างจากสมบัติเวทย์มนต์ที่เซียวเฉินสร้างขึ้น ตราบใดที่แหวนห้วงมิติถูกปลดออกมาไม่ว่าใครก็สามารถเข้าถึงของที่อยู่ข้างในได้

 

จากนั้นเซียวเฉินก็เดินช้าๆตรงไปที่จีชางคง จีชางคงหน้าเทา,พร้อมพูดขึ้นอย่างลุกลน “เซียวเฉิน,หากเจ้ากล้าแตะต้องข้า,ข้าจะทําให้เจ้าแน่ใจว่าชีวิตของเจ้าจะเลวร้ายยิ่งกว่าความตายหลังจากที่เจ้าออกไปจากที่นี่”

 

เซียวเฉินกระทืบลงไปที่ใบหน้าของจีชางคงอย่างไร้ความปราณี “เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยเจ้าไป? หลังจากนี้สามปี,ข้าจะทําให้เจ้ายอมรับความพ่ายแพ้อย่าหมดรูป”

 

หลังจากที่เซียวเฉินปลดเอาแหวนห้วงมิติของจีชางคง,เขาก็เตะจีชางคงอย่างรุนแรงอีกครั้ง ระดับขอบเขตนักบุญที่อยู่ด้านหลังของเขาไม่อาจทนดูได้อีกต่อไป,คํารามออกมาเสียงดัง,พุ่งเข้าใส่เซียวเฉิน

 

“ปัง!”

 

เซียวเฉินเตะเขาลอยตกไปจากแท่นหิน ทันทีที่ระดับขอบเขตนักบุญคนนั้นหลุดออกไปจากแท่นหิน,ร่างของเขาระเบิดกลายเป็นชิ้นเนื้อนับไม่ถ้วนในทันที ทุกคนที่อยู่บนแท่นหินมองไปอย่างหวาดกลัว

 

เซียวเฉินเก็บเอาหอกยาวของขุนนางกุยยี่เก็บลงไปในแหวนห้วงจักรวาลก่อนที่จะรูดทรัพย์ของในแหวนห้วงมิติของขุนนางกุยยี่ จากนั้นเซียวเฉินก็หันไปมองที่ต้วนมู่ฉิง

 

ต้วนมู่ฉิงสีหน้ากลายเป็นเย็นชา มองไม่เห็นอารมณ์ในดวงตาของนาง “คริ่ง!” นางโยนแหวนห้วงมิติของนางลงไปที่แท่นหินและพูดขึ้นอย่างเย็นชา “ของบางสิ่งที่ไม่ได้เป็นของเจ้า ต่อให้เจ้าได้มันไป,เจ้าก็ต้องเสียมันไปอยู่ดี”

 

เซียวเฉินยิ้มอย่างเย็นชา “เจ้ากําลังบรรยายถึงตัวเอง? หลังจากเห็นจิ้งจอกวิญญาณของข้าเจ้าก็เข้ามาวอแว,อยากได้อยากดี เมื่อข้าปฏิเสธ,เจ้าก็ส่งคนมาเพื่อสังหารข้า มีคนไร้ยางอายเช่นนี้อยู่บนโลกได้เยี่ยงไร?”

 

ต้วนมู่ฉิงสีหน้าปั่นปวน,พร้อมกับเหมือนนางอยากจะกล่าวอะไรออกมา ถึงอย่างนั้น ท้ายที่สุด,นางก็ไม่ได้กล่าวอะไร

 

เซียวเฉินไม่อาจไปใส่ใจนางอีก เขาหันไปรอบๆและเห็นเจ้าหมูกําลังพยายามเอาฝาโลงศพใส่ลงไปในแหวนห้วงมิติ เส้นสีดําปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เจ้าหมูช่างไร้สาระ,เขาอยากได้แม้กระทั่งฝาโลงศพ

 

เมื่อเจ้าหมูมองเห็นเซียวเฉินกําลังมองมาที่ตัวเองอย่างเหยียดหยันเขาหัวเราะหึ “อย่าได้มองข้าเช่นนั้น ฝาโลงศพนี้หลอมมาจากทองเพลิงโลหิตทมิฬ เพียงแค่ชิ้นเล็กๆมันก็มีค่าถึงหลายล้านเหรียญทอง

 

“นอกจากนั้น,มหาปราชญ์ได้สลักคัมภีร์ต่อสู้โบราณลงไป มันบรรจุไปด้วยเต๋าสวรรค์และสามารถใช้เป็นอาวุธได้ มันสามารถเทียบได้กับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ แน่นอน,ข้าจะให้สําเนาคัมภีร์โบราณกับเจ้า”

 

เซียวเฉินรู้สึกละอายในใจ,คงมีเพียงเจ้าหมูที่กล้าใช้ฝาโลงศพเป็นอาวุธ เขาเรียกเจ้าหมูเข้ามา,และพวกเขาก็เข้าไปที่ตรงกลาง,ตรงจุดที่โลงศพมหาปราชญ์ตั้งอยู่

 

เจ้าหมูมองไปที่จักรพรรดิในชุดม่วงที่กําลังนอนอย่างสงบภายในโลง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความงุนงงพร้อมกับพูดขึ้น “โลงศพของมหาปราชญ์เห็นชัดว่ามีอักษรโบราณสลักเอาไว้ ทําไมถึงมีจักรพรรดิเทียนวู่มานอนอยู่? แล้วร่างของมหาปราชญ์ที่นอนอยู่หายไปไหน?”

 

เซียวเฉินงุนงงเช่นกัน พวกเขาวิ่งผ่านร่างศพมหาปราชญ์มามากมาย,พวกเขาทั้งหมดไร้หัว เห็นได้ชัดว่าเป็นฝีมือขอ งคนคนเดียวกัน หรือว่านี่จะเป็นฝีมือของคนคนนั้นเช่นกัน

 

อย่างไรก็ตาม,ช่องว่างระหว่างเวลามันมากเกินไป ราชวงศ์เทียนวู่ถูกทําลายไปมากกว่าห้าพันปี แต่คนที่อยู่ตามบันไดหินนั้นเป็นผู้คนจากเมื่อหนึ่งพันปีก่อน นอกจากนั้นพวกเขายังมาจากช่วงเวลาเดียวกัน

 

“บึ้ม!”

 

ขณะที่เซียวเฉินกับเจ้าหมูกําลังขบคิด,ขอบเขตเล็กแห่งนี้ทันใดนั้นก็สั่นไหว ทันใดนั้น,ภูเขาที่อยู่เหนือพระราชวังใต้ดินก็แตกร้าว

 

ยอดภูเขาสูงพันเมตรร่วงลง ก้อนหินนับไม่ถ้วนยิงออกไปที่ป่าอํามหิต,สายฝนก้อนหินสาดลงมา

 

ก่อนหินขนาดใหญ่ลอยลงมาไม่รู้จบ สัตว์อสูรวิญญาณประเภทบินบางตัวไม่อาจหลบได้ทันและถูกชนเข้า,พวกมันร่วงหล่นลงมาพร้อมกับกรีดร้องอย่างน่าเวทนา

 

เซียวเฉินและคนที่เหลือรู้สึกได้เพียงมึนงง ฉากเบื้องหน้าของพวกเขาหายไป และแสงอาทิตย์จ้าฟ้าเมฆสีขาวปรากฏขึ้นเหนือหัวของพวกเขา แสงแดดสาดฉายลงมาที่แท่นหิน 

 

เซียวเฉินรู้สึกตกตะลึง เขามองไปรอบๆและพูดขึ้น “ทําไมแท่นหินโผล่ขึ้นมาเหนือพื้นดินแล้วตอนนี้? ฉิบหาย!พลังปราณใช้ได้แล้ว”เขา

 

ทันใดนนสีหน้าของเขาเปลี่ยน คนของตระกูลชั้นสูงที่ยืนอยู่บนแท่นหินล้วนแต่อยู่ที่ระดับขอบเขตนักบุญขึ้นไปทั้งนั้น ตอนนี้พวกเขาฟื้นคืนพลังปราณ,พวกเขาคนใดก็ตามสามารถล้มเซียวเฉินได้อย่างง่ายดาย

 

เซียวเฉินใช้คาถาแรงโน้มถ่วงและลอยขึ้นไปในอากาศ,รีบพุ่งหนีไปให้ไกล “ชี!” มีเสียงฟีนิกซ์โห่ร้อง,ต้วนมู่ฉิงกลายร่างเป็นฟีนิกซ์น้ำแข็ง นางสยายปีกบินไล่ตามเซียวเฉิน

 

จีชางคงสาปด่าและกลายร่างเป็นตายหาง ทิ้งสายเปลวเพลิงไว้ข้างหลังและออกไล่ตามเซียวเฉินไปอย่างรวดเร็ว

 

เมื่อเหล่าตระกูลชั้นสูงเห็นว่าพวกเขาสามารถใช้พลังปราณได้แล้ว พวกเขาทั้งหมดกระโดดลงจากแท่นหินและไล่ตามทิศทางของเซียวเฉินไป ขอบเขตเล็กๆรอบแท่นหินพังลง และเมื่อพวกเขากระโดดลงไป,พวกเขาไม่ได้ตัวระเบิดตายเหมือนกับคนก่อนหน้านี้

 

ซู่เสี่ยวเสี่ยวและจินต้าเป่าเป็นกังวลเกี่ยวกับเซียวเฉิน

 

และไล่ตามเขาไปเช่นกัน ภายในพริบตา,มีเพียงฉู่เฉาหยุ่นถูกทิ้งยืนนิ่งอยู่บนแท่นหิน

 

ฉู่เฉาหยุ่นมีสีหน้านิ่งสงบ เมื่อทุกคนได้จากไป,เขามองไปที่ฮวาหยุ่นเฟยที่หมดสติและเตะเขาร่วงลงไปจากแท่นหินสูงนับพันเมตร

 

Immortal and Martial Dual Cultivation

Immortal and Martial Dual Cultivation

IMDC, 仙武同修
Score 6.4
Status: Ongoing Type: Author: , , Released: 2008 Native Language: Chinese
เซี่ยวเฉินได้ซื้อ ‘ตำราบ่มเพาะพลัง’ มาจากเถาเป่าพร้อมกับเม็ดยาเซียนที่จะทำให้เซี่ยวเฉินเข้าสู่โลกแห่งเซียนได้ ถึงกระนั้นเขาได้เขาได้ฝึกฝนตามตำรามากว่าสามปีแต่กลับไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะกินเม็ดยาเซียนเข้าไปและมันทำให้เขาข้ามภพไปเกิดในร่างของเด็กหนุ่มที่มีชื่อเดียวกับเขา ไปสู่โลกทวีปเทียนหวู่ไปสู่โลกที่ถูกปกครองด้วยศิลปะการต่อสู้ไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ของเขา ผู้แต่ง : 月如火 Reach the peak of immortal cultivation and become able to run amok without fear! Use the power of martial arts to rule the world and defeat heroes! The weather changes at the whim and wave of a palm. He who cultivates both immortal techniques and martial arts, who could possibly defeat him! Xiao Chen is a shut-in who purchased a ‘Compendium of Cultivation’. Soon after, he crossed over into the Tianwu World, a world ruled by martial arts. He then refined pills, drew talismans, practiced formations, crafted weapons and cultivated the Azure Dragon Martial Soul that had not been seen for thousands of years. This is a story that tells of an exciting and magnificent legend!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset