Immortal and Martial Dual Cultivation – ตอนที่ 173 แต้มสะสม

ตอนที่ 173 แต้มสะสม

 

เซี่ยวเฉินยิ้มขึ้นพร้อมกับเดินตรงเข้าไปหา “ทําไมเจ้าแสดงใบหน้าน่าเกลียดเช่นนี้? ถูกหักอกมาหรือไร?”

 

หลิวสุยเฟิงยิ้มอย่างขมขึ้น “ไม่มากก็น้อย… ยัยเด็กเหลือขอเซียวดึงผ้าคลุมของข้าออก แล้วก็หัวเราะเยาะหัวหมู ของข้าแถมยังหัวเราะอยู่นานอีกด้วย นั้นยังไม่เท่าไหร่ นางยังเรียกแม่นางซินอขึ้นมาอีก”

 

“ภาพลักษณ์ของข้าถูกทําลายย่อยยับ เจ้าคิดว่าแม่นางซินอวินยังสนใจข้าอยู่อีกหรือ?”

 

สหายผู้นี้อยากจะไล่จีบหญิงสาว แต่เขายังไม่ยินดีที่จะละทิ้งความภาคภูมิใจของเขา… เซี่ยวเฉินรู้สึกดูแคลนเขาอยู่ในใจ เขาไม่ต้องการจะพูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อนี้อีกต่อไป เขาจึงพูดขึ้น “ข้าได้รับสมุนไพรที่ข้าต้องการมาแล้ว ข้าจะกลับไป และสกัดเม็ดยาให้พี่สาวของเจ้าก่อน”

่ 

เมื่อหลิวสุยเฟิงได้ยินดังนั้นเสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นจริงจัง “ไม่คิดว่าบรรพบุรุษอาจารย์หญิงจะยินดีช่วยเหลือเจ้าจริงๆ เจ้าทําได้อย่างไร?”

 

“ข้าขอติด 500 แต้มสะสมโดยบรรพบุรุษอาจารย์หญิงเป็นผู้รับประกัน ข้ากล่าวไว้ว่าจะจ่ายคืนให้ภายในหนึ่งเดือน” เซี่ยวเฉินตอบไปตามจริง

 

TLเปลี่ยนจากแต้มสนับสนุนเป็นแต้มสะสมนะครับ ดูตรงตัวกว่า

 

เมื่อหลิวสุยเฟิงได้ยินดังนั้น,เขาอุทานขึ้นอย่างตกตะลึง “เจ้าจบแล้ว… แม้แต่ข้ายังไม่สามารถสะสมได้ถึง 50 แต้ม ภายในหนึ่งเดือน ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะสามารถสะสมได้ถึง 500 แต้มภายในหนึ่งเดือน”

 

เมื่อเหี่ยวเฉินได้ยินดังนั้นใบหน้าของเขากลายเป็นสีซีด เป็นไปได้ว่า 500แต้มสะสมจะเป็นจํานวนมากถึงขนาดนั้น? ทําไมศิษย์พี่เฉินไม่เตือนข้าแม้แต่น้อย?

่ ่

อันที่จริง เซี่ยวเฉินได้เข้าใจเฉินม่านจวินผิดไป เฉินม่านจวินไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับภารกิจของนิกายมามากกว่าหนึ่งร้อยปี แล้วเจตคติเกี่ยวกับมูลค่าของแต้มสะสมของนางยังติดอยู่ในช่วงเวลาก่อนหน้านี้

 

ดังนั้น,นางจึงไม่ได้รู้สึกว่ามันจะยากเย็นอะไรที่จะสะสม 500 แต้มภายในหนึ่งเดือน หากนางรู้เกี่ยวกับมัน,นางจะต้องขยายเวลาในการจ่ายคืนให้

 

“จะเกิดอะไรขึ้นหากข้าไม่สามารถจ่ายคืนได้ทันกําหนด?” เซี่ยวเฉินถามขึ้น

 

หลิวสุยเฟิงเกาหัว “มันก็พูดยากมันไม่เคยมีเรื่องแบบนี้มาก่อน อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับกฎของแต้มสะสมของนิกาย นั่นสําคัญที่สุดในศาลากระบี่สวรรค์ เจ้าจะเข้าใจเองในอนาคต

 

“หากเจ้าไม่สามารถทําได้ตามกําหนด,คนจากโถงคุณความชอบคงจะไม่ปล่อยเจ้าไปง่ายๆ เป็นเพราะพวกเขาไม่อาจปล่อยให้มันเกิดเป็นแบบอย่างได้”

่ ่

เซี่ยวเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและรู้สึกว่าที่หลิวสุยเฟิงกล่าวมามันก็สมเหตุสมผล ทําเรื่องเช่นนี้มันก็ขัดกับกฎของนิกายอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หากเขายังล้มเหลวในการปฏิบัติตามข้อตกลงอีก,ผลที่ตามมาต้องใหญ่หลวง

 

หากพิจารณาจากมุมมองของคนอื่น ถ้าหากเซี่ยวเฉินเป็นคนระดับสูงของโถงคุณความชอบ เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของโถงคุณความชอบ,เขาก็ยินดีที่จะเชือดไก่ให้ลิงดูเพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นมาดูแคลน

 

หลิวสุยเฟิงกล่าวขึ้น “เย่เฉิน,ทําไมเจ้าไม่ขอให้ท่าบรรพบุรุษอาจารย์หญิงยืดเวลาเส้นตายออกไปอีก?”

 

ขณะที่คนทั้งสองกําลังพูดคุยกัน,มีฝูงนกฝูงใหญ่โฉบลงมาจากท้องฟ้า พวกนกช่างเลือกเวลาได้เหมาะเจาะ ในจังหวะที่หลิวสุยเฟิงกําลังเผลอพอดิบพอดี

 

หลิวสุยเฟิงที่กําลังอารมณ์เสียอยู่แล้ว เมื่อเขาเห็นเช่นนั้น,เขาสาปแช่ง “ไอ้พวกนกเวร! พวกเจ้าจะจบได้หรือยัง!”

 

“ซวบ! ซวบ!”

 

หลิวสุยเฟิงดีดนิ้วของเขาและก้อนหินหลายก้อนถูกยิงออกไป ทันใดนั้น,พวกนกก็ร่วงลงมาจากท้องฟ้า มีเสียง “ซวบ” อีกสองสามครั้งและพวกนกก็กลัวแตกหนีไป

 

“ทักษะนิ้วชั้นยอด! ศิษย์พี่! พวกเราได้นกเป็นมื้อค่ําแล้ว! เหะเหะ!” มีเสียงที่ร่าเริงและเบิกบานดังขึ้นมา นั้นคือเซียวยู่ฮ่วนก็พูดขึ้นมาอย่างดีอกดีใจและเก็บนกที่อยู่บนพื้นขึ้นมา

 

มองดูเซียวยู่ฮั่วนที่ยังกล้าโผล่หน้าออกมา,หลิวสุยเฟิงวิ่งไล่และสาปด่านางอย่างรวดเร็ว “เจ้าเด็กเหลือขอ! เจ้ายังกล้าโผล่หน้ามาให้ข้าเห็น? ข้าจะทุบตีเจ้าให้ตายคามือ”

 

“ศิษย์พี่ไม่มีอะไรต้องเป็นกังวล หัวหมูของเจ้าเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ไม่แน่,ศิษย์พี่ชินอนอาจจะค้นพบความไม่เหมือนใครนี้ และตกหลุมรักเจ้าก็ได้”

 

มองดูทั้งสองคนวิ่งไปวิ่งมา, เซี่ยวเฉินก็ยิ้มขึ้น จากนั้นเขาก็หันหลังและเดินกลับไปที่ศาลาของเฉินม่านจวิน เขายังคงรู้สึกว่ามันจะเป็นการดีที่สุดหากไปหาเฉินม่านจวินและขอให้นางขยายเวลาเส้นตาย

 

“อะไรนะ? บรรพบุรุษอาจารย์หญิงออกไปแล้ว? แล้วนางจะกลับมาอีกเมื่อใด?” เมื่อเซียวเฉินเร่งรีบกลับมาที่ศาลาของเฉินม่านจวิน,สาวใช้ที่หน้าทางเข้าบอกเขาว่าเฉินม่านจวินได้ออกไปหลังจากเขาได้ไม่นาน

 

“ข้าเองก็ไม่ทราบ อาจจะหนึ่งวันหรือสองวัน หรืออาจจะสามเดือนหรือสี่เดือน บรรพบุรุษอาจารย์หญิงนางไปๆมาๆ ไม่ค่อยเป็นเวลา”

 

เซี่ยวเฉินต้องเดินลงมาจากยอดเขาสตรีหยกอย่างหมดหนทาง สานุศิษย์จากสารพัดยอดเขายังคงรอคอยอยู่ตรงตีนเขา เซี่ยวเฉินไม่ไปสนใจพวกเขาและมุ่งหน้ากลับยอดเขาฉิงหยุนทันที

 

สิ่งที่สําคัญที่สุดในตอนนี้คือการสกัดเม็ดยาบํารุงโฉม จากนั้น เขาค่อยไปคิดหาทางเก็บแต้มสะสมให้ครบ 500 แต้ม ภายในหนึ่งเดือนก่อนที่เขาจะมีปัญหา

 

ระหว่างทางนั้นเอง, ทันใดนั้นเซี่ยวเฉินก็หยุดเท้าลง เขาหันกลับไปแต่ก็ไม่พบใคร ทันใดนั้นเข้าก็พูดขึ้น “สหาย ได้เวลาแสดงตัวแล้ว หลังจากที่เจ้าลอบตามข้ามาเป็นเวลานาน!”

 

ไม่มีการตอบรับเซี่ยวเฉันคิดอย่างสงสัยในใจของเขา เป็นไปได้ว่าข้ารู้สึกไปเอง? ตั้งแต่ที่ออกมาจากยอดเขาสตรีหยก,ขารู้สึกว่ามีใครบางคนกําลังตามข้ามา

 

เซี่ยวเฉินใช้สัมผัสวิญญาณของเขาตรวจหาสองสามครั้ง,แต่ก็ไม่พบอะไร อย่างไรก็ตามเขาไม่กล้าที่จะเชื่อใจสัมผัสวิญญาณของเขาอีกต่อไปแล้ว ในตอนที่เขาอยู่ในหุบเขาสายลมอสูร,เขาไม่สามารถตรวจจับระดับขอบเขตนักบุญที่แอบตามเขามาได้

 

หลังจากที่เขากล่าวย้ําอีกครั้งก็ไม่มีผู้ใดแสดงตัว เซี่ยวเฉินไม่สามารถไปสนใจได้อีกต่อไป ตอนนี้,ทุกคนต่างรู้ว่าท่า

 

นเจ้ายอดเขาคนก่อนยังคงอยู่ที่ยอดเขาฉิงหยุน คงไม่มีใครมาสร้างปัญหาให้เขาแล้วในครั้งนี้

 

ขณะที่เซียวเฉินกําลังหมุนตัวกลับ,มีร่างกระโดดลงมาบนพื้นอย่างมั่นคง เซียวเฉินเตรียมรับมือและหันกลับมาอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาเห็นได้ชัดว่าเป็นใคร เขารู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมา

 

หากคนผู้นี้อยากจะสร้างปัญหาให้กับเขาจริงๆ ไม่มีความจําเป็นที่คนผู้นี้จะต้องเกรงกลัวท่านเจ้ายอดเขาฉิงหยุนแต่อย่างใด คนผู้นี้ยืนตรงจ้องมองมาที่เซียวเฉิน และเซียวเฉินไม่อาจบอกได้ว่าคนผู้นี้กําลังคิดอะไรอยู่

 

บรรยากาศดูแปลกประหลาด เซียวเฉินเห็นว่าเหลิงหลิวซู ดูเหมือนนางจะไม่ได้กําลังจะลงมือกับเขา ช่างต่างไปจากลักษณะนิสัยของนาง

 

พวกเขาทั้งสองจ้องมองกันอยู่เป็นเวลานาน ในที่สุด,เหลิ่งหลิวซูไม่อาจทนได้อีกต่อไปและถามขึ้น “เย่เฉิน,ตอบคําถามของข้า เป็นเจ้าที่ช่วยข้าจากเงื้อมือของเหลิ่งเทียนเยว่ในวันนั้น?”

 

แม้ว่าเขาจะสงสัยอยู่เล็กน้อยว่านางรู้ได้เช่นไร แต่ก็เป็นเรื่องดี มันอาจจะช่วยแก้ไขความเข้าใจผิดระหว่างพวกเขา เซี่ยวเฉินกล่าวอย่างเฉยเมย “เจ้าว่าเช่นนั้นก็ได้”

 

“เจ้าช่วยเหลือข้าทําไม?”

 

เซี่ยวเฉินยิ้มบางเบา, “ก่อนหน้านั้นเจ้าช่วยข้าไว้จากพลังฉีแตกคลั่งในสระน้ํา เจ้าบังเอิญช่วยข้าไว้ครั้งหนึ่ง และข้าก็ช่วยเจ้าไว้ครั้งนึง พวกเราหายกันแล้ว”

 

เมื่อเหลิ่งหลิวซูได้ยินเช่นนั้น นางยิ้มขึ้น “แม้ว่าเจ้าจะช่วยข้าไว้ ทําไมเจ้าถึงฉวยโอกาสในสถานการณ์เช่นนั้นและจูบข้า ดูเหมือนว่าข้าจะไม่ได้เข้าใจผิดที่เจ้าเป็นสารเลวมากตัณหา”

 

ฉิบหาย! ข้าถูกจับได้แล้ว เซี่ยวเฉินพูดขึ้นอย่างเลิ่กลั่ก “ข้าทํา? ข้าจําไม่เห็นได้ บางทีเจ้าอาจจะเข้าใจผิดไปเอง”

 

“หรือว่าข้าจะอัปลักษณ์? พอคิดว่าเจ้าไม่กล้าจะยอมรับว่าได้จูบข้า” การแสดงออกของเหลิ่งหลิวซูเปลี่ยนไปพร้อมกับพูดด้วยน้ําเสียงขุ่นเคือง

 

เซียวเฉินทําได้เพียงถอนคําพูดของเขา “เจ้าไม่ได้อัปลักษณ์,ข้าจูบเจ้าจริงๆ”

 

“อะ!”

 

ทันใดนั้น,เหลิ่งหลิวซูพุ่งเข้าใส่เซียวเฉินและชักกระบี่ของนางออกมาจากฝักพร้อมกับเสียง “ชะเว้ง” กระบี่แสงนั้นทําให้ดวงตาพล่ามัว,มันก่อให้เกิดลมแรงพร้อมกับฟันตรงไปที่เซียวเฉินอย่างรุนแรง

 

นางยังดูดีอยู่เมื่อครู่ ตอนนี้นางชักกระบี่ไล่ฟันเขาแล้ว เซี่ยวเฉินไม่เข้าใจอย่างแท้จริง เขาใช้ออกมโนภาพสามกระแสเมฆาและเปลี่ยนไปเป็นมหาสมุทร กระบี่เคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวล,ราวกับละอองน้ํา

 

น้ํานิ่งสมบูรณ์,มันส่งผลสําหรับหลายๆอย่างและไม่อาจเทียบเคียงพวกมันได้ แม้ว่ามันจะเหมือนไม่ได้ปะทะ,แต่มันปะทะโดยไม่ปะทะ ไม่ว่าพลังจะเข้ามาแข็งแกร่งถึงเพียงใด,มันก็ไม่ได้ทําให้เกิดละลอกคลื่น น้ํานิ่งสมบูรณ์ มันส่งผลกับหลายสิ่งแต่ไม่ได้ทําให้พวกมันแตกสลาย มันดูเหมือนว่าไม่ได้ทําให้แตกสลาย,แต่ก็แตกสลายไปโดยไม่แตกสลาย ไม่ว่าพลังจะแข็งแกร่งถึงเพียงใด,มันก็ไม่สามารถสร้างคลื่นกระเพื่อมขึ้นมา

 

แม้ว่ามันจะเกิดคลื่นกระเพื่อม,มันก็กลับมาสงบอย่างอย่างรวดเร็ว เจ้าอาจจะใช้กองทัพพันม้าหมื่นคนผ่าภูเขาแยกทะเลเข้ามา,ข้าก็ยังคงไม่ไหวนิ่ง,ทําให้แตกสลายโดยไม่ทําให้แตกสลาย

 

นี้คือมโนภาพสามกระแสเมฆาที่แท้จริง เพื่อจู่โจมในขณะที่ตั้งรับ;เพื่อรับมือกับหมื่นพันท่วงท่าโดยไม่เปลี่ยนแปลง

 

“เครั้ง!”

 

เหลิ่งหลิวซูถอยกลับไปหนึ่งก้าวมีความตกตะลึงบนใบหน้าของนาง สามเดือนก่อน,นางสามารถเตะเซียวเฉินบินลอยไปอย่างง่ายดาย แม้ว่าตอนนี้นางจะอยู่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นต้น,นางก็ไม่อาจทําให้เขาถอยกลับได้

 

เหลิ่งหลิวซูตบเท้าออกจากพื้นและแทงกระบี่ของนางตรงไปที่เซียวเฉิน เซียวเฉินคิ้วขมวดเล็กน้อยและชักกระบี่ของเขากลับออกมาพร้อมเสียง “ชะเว้ง” ในครั้งนี้เขาไม่ได้หลบกระบี่ของนาง

 

การโจมตีของเหลิงหลิวซูไม่ได้แฝงเจตนาฆ่าฟัน หากพวกเขาเข้าต่อสู้กัน,มันจะใช้เวลายาวนานกว่าจะจบลงเซียวเฉิน ไม่มีเวลาให้เสียอย่างแท้จริงและสามารถทําได้เพียงลองเสี่ยง

 

แน่นอน,กระบี่ของเหลิงหลิวซูหยุดลงห่างจากหน้าผากของเซียวเฉินเพียงครึ่งนิ้ว ทันทีที่กระบีหยุดลง,สายลมรุนแรงเป้าไปที่ใบหน้าของเซียวเฉิน,ทําให้ผมของเขาปลิวไปด้านหลัง

 

“เจ้าไม่เกรงกลัวว่าข้าจะสังหารเจ้า?” เหลิ่งหลิวซูกล่าวอย่างเย็นชา “มีอาจารย์หลายคนให้เลือกเจ้ากลับเลือกหลิวหรูเยว่”

 

สีหน้าของสีหน้าเปลี่ยนเป็นเย็นชาเนี่คือสิ่งที่เขาไม่อยากจะได้ยิน เขากล่าวอย่างเฉยเมย “เป็นอิสระของข้าที่จะเลือกอาจารย์ของตัวเอง ข้าเชื่อว่ามันควรแยกออกจากความคับข้องใจ ข้าให้โอกาสเจ้าได้สังหารข้าแล้ว แต่เจ้าก็ไม่ได้ลงมือเช่นนั้น ข้าก็ขอตัวก่อน”

 

หลังจากถอยหลังมาสองสามก้าว,เซี่ยวเฉินก็หมุนตัวกลับ และใช้ออกทักษะมังกรฟ้าเมฆาทะยาน จากนั้นเขาก็ทะยานไปตามพื้นและในไม่ช้าก็หายลับไปจากสายตาของเหลิ่งหลิว

 

ขณะที่เหลิ่งหลิวซูมองดูเซียวเฉินจากไป,นางก็ยิ้มนุ่มนวลขึ้น “จากไปหลังจากที่ทําเรื่องเช่นนั้น ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าอาหารฟรี หลิวหรูเยว่มาดูกันว่าเจ้าจะประชันกับข้าได้เช่นไรในครั้งนี้”

 

หลังจากที่เซียวเฉินกลับมาถึงยอดเขาฉิงหยุน,เขาไม่อยากคิดถึงเรื่องของเหลิ่งหลิวซูอีกต่อไป เขาตระเตรียมสิ่งของเพื่อสกัดเม็ดยาบํารุงโฉม แม้ว่าระดับของเม็ดยา จะไม่สูงมากนัก แต่ส่วนผสมที่ต้องการนั้นหายากเป็นอย่างมากและขั้นตอนยุ่งยากในการสกัด

 

ในบรรดาส่วนผสม,สมุนไพรจะน้องมีอายุที่แน่นอน เพื่อป้องกันความล้มเหลว,เขาได้เตรียมส่วนผสมมาทั้งหมดห้าชุด นี่เป็นเหตุผลว่าทําไมสมุนไพรถึงได้แพงนัก

 

เมื่อเซี่ยวเฉินหยิบเอาหม้อปรุงยามังกรฟ้าออกมา,ร่างของเฟิงเฟยเสวี่ยปรากฏขึ้นในใจของเขา เขาเผยรอยยิ้มอ่อนโยนพร้อมกับรวบรวมความคิดของเขา “ดูเหมือนว่าข้าจะไม่ได้สกัดเม็ดยาใหม่มาเป็นเวลานานแล้ว ขาสงสัยว่าอัตราความสําเร็จจะเป็นเช่นไร”

เซี่ยวเฉินหยิบเอาสมุนไพรในแหวนห้วงจักรวาลออกมาทีละชุดและจัดเรียงลงบนโต๊ะ จากนั้นเขาก็หลับตาลงและนึกถึงขั้นตอนการสกัดเม็ดยาบํารุงโฉม

 

ไม่นานหลังจากนั้น เซี่ยวเฉินก็ค่อยๆลืมตาขึ้นใบหน้าของ เขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ เขาดีดนิ้วและสายเปลวเพลิงหกเส้นแยกออกไปประมาณครึ่งเมตร,เปลี่ยนไปเป็นลูกบอลเพลิงลอยอยู่รอบตัวของเซี่ยวเฉิน

 

ตอนนี้, ระดับการบ่มเพาะพลังของเขานั้นสูงกว่าในตอนที่อยู่ในเมืองม่อเหออย่างมาก, เขาย่อมไม่ไปกังวลเกี่ยวกับพลังปราณไม่เพียงพอ หรือไม่ต้องไปกังวลเกี่ยวกับการขาดการควบคุมและควบคุมเปลวเพลิงได้เพียงหนึ่งเท่านั้น

 

ในทันทีที่เขายิงเปลวเพลิงออกมาเขาตบมือซ้ายลงไปบนโต๊ะ,ส่งสมุนไพรทั้งหกชนิดลอยขึ้นไปอย่างคล่องแคล่ว แต่ละชนิดส่งเข้าไปในเปลวเพลิงแต่ละลูก

 

“ฟู! ฟู!”

 

เพียงเซียวเฉินนึกคิด,แก่นกลางจิตวิญญาณของเขาก็เข้าไปในเปลวเพลิง มันเข้าในด้านในของสมุนไพรในทันที และพบแก่นกลางของพวกมันอย่างรวดเร็ว

 

จากนั้นเซี่ยวเฉินก็เร่งเปลวเพลิงให้ขดวน เปลวเพลิงทั้งหกหมุนวนไปรอบตัวเซียวเฉินอย่างรวดเร็ว สมุนไพรเริ่มหลอมละลายภายในเปลวเพลิง

 

เซี่ยวเฉินประสานการเคลื่อนไหวอย่างที่เขาวางขวดหกขวดลงบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว และส่งยาเหลวลงไปในขวดโดยไม่ให้หกสักหยด

 

จากนั้นเขาส่งสมุนไพรชุดใหม่เข้าไปในเปลวเพลิงโดยทันที กองสมุนไพรบนโต๊ะหายไปแทนที่ด้วยขวดยาที่เพิ่มขึ้น ในไม่ช้า,การกลั้นของเหลวยาก็เสร็จสมบูรณ์

 

ขั้นแรกของการสกัดเม็ดยาเสร็จสิ้น เซี่ยวเฉินหายใจด้วยความโล่งอก เขาเหยียดนิ้วชี้ของเขาออกไปและเปลวเพลิงก็มารวมตัวกัน พร้อมกับเสียง โซว” พวกมันก็เข้าในอยู่ในหม้อปรุงยามังกรฟ้า

 

Immortal and Martial Dual Cultivation

Immortal and Martial Dual Cultivation

IMDC, 仙武同修
Score 6.4
Status: Ongoing Type: Author: , , Released: 2008 Native Language: Chinese
เซี่ยวเฉินได้ซื้อ ‘ตำราบ่มเพาะพลัง’ มาจากเถาเป่าพร้อมกับเม็ดยาเซียนที่จะทำให้เซี่ยวเฉินเข้าสู่โลกแห่งเซียนได้ ถึงกระนั้นเขาได้เขาได้ฝึกฝนตามตำรามากว่าสามปีแต่กลับไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะกินเม็ดยาเซียนเข้าไปและมันทำให้เขาข้ามภพไปเกิดในร่างของเด็กหนุ่มที่มีชื่อเดียวกับเขา ไปสู่โลกทวีปเทียนหวู่ไปสู่โลกที่ถูกปกครองด้วยศิลปะการต่อสู้ไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ของเขา ผู้แต่ง : 月如火 Reach the peak of immortal cultivation and become able to run amok without fear! Use the power of martial arts to rule the world and defeat heroes! The weather changes at the whim and wave of a palm. He who cultivates both immortal techniques and martial arts, who could possibly defeat him! Xiao Chen is a shut-in who purchased a ‘Compendium of Cultivation’. Soon after, he crossed over into the Tianwu World, a world ruled by martial arts. He then refined pills, drew talismans, practiced formations, crafted weapons and cultivated the Azure Dragon Martial Soul that had not been seen for thousands of years. This is a story that tells of an exciting and magnificent legend!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset