ตอนที่ 177 กระบี่บินโกลาหล
นอกจากนั้นเซี่ยวเฉินพบว่าทักษะต่อสู้นี้พิเศษอย่างมากกระบี่สั้นที่กวัดแกว่ง,ยิ่งมากจํานวนยิ่งเร็วขึ้นกว่าเดิมใน ตอนที่เขายังมีกระบี่สองเล่ม,มันช้ากว่าในตอนปัจจุบันมากกว่าครึ่ง
“นี้คือทักษะลับของยอดเขาว่านเหริน-กระบีบินโกลาหล ว่ากันว่าเมื่อฝึกฝนถึงจุดสูงสุด,มันสามารถควบคุมกระบุได้ถึงสิบแปดเล่ม สามารถควบคุมกระบี่สั้นสี่เล่มได้อย่างง่ายดาย,สมชื่อศิษย์แก่นกลางของยอดเขาว่านเหริน”
“ด้วยระดับพลังขอบเขตปรมาจารย์ยุทธขั้นสูงสุดของเขา พร้อมด้วยพลังของทักษะลับ,หยางฉีสามารถประมือกับขอบเขตนักบุญขั้นต้นได้ ไม่น่าจะมีปัญหาที่จะรับมือกับระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธขั้นต้น”
“สิ่งที่สําคัญที่สุดคือเขาปล่อยให้หยางฉีชิงความได้เปรียบไปแล้ว ด้วยสถานการณ์ตอนนี้เขาไม่มีโอกาสที่จะพลิกกลับมาได้ หลังจากที่กระบี่บินโกลาหลใช้ออกมา,ความเร็วของมันมีแต่จะเพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าเขาจะมีทักษะ ต่อสู้ที่จะงดออกมาพลิกสถานการณ์,เขาก็ไม่มีแม้แต่โอกาสจะใช้มันออกมา”
“มันผู้นี้เหิมเกริมเกินไป แม้จะมาตัวคนเดียว เขายังกล้าทําร้ายสานุศิษย์ยอดเขาว่านเหรินหลายคนในโถงคุณความชอบ หยางฉีไม่ใช่ศิษย์แก่นกลางเพียงคนเดียวของยอดเขาว่านเหริน นอกจากนั้นยังมีศิษย์สืบทอดอยู่เบื้องหลังของพวก เขาที่ยังไม่ปรากฏตัวออกมาเขามันบ้าบินอย่างแท้จริง”
การต่อสู้เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆและสถานการณ์ของเซี่ยว เฉินน่าเป็นห่วงผู้คนโดยรอบออกความเห็นเกี่ยวกับเชียวเฉิน,อย่างไรก็ตามเขาเป็นเพียงระดับขอบเขตปรมาจารย์ ยุทธขั้นต้นเมื่อเขาเผชิญหน้ากับหยางฉีที่แข็งแกร่งกว่าเขา จะไม่มีแม้แต่โอกาส”
เซียวเฉินยังคงนิ่ง กระบี่เงาจันทร์ในมือขวาของเขาวูบไหวราวกับสายน้ํา,ปัดป้องกระบี่สั้นในมือของหยางฉี มือซ้ายของเขาถือฝักกระบี่กวัดแกว่งไปมา เขาป้องกันกระบี่สั้นที่ หมุนอยู่ในอากาศไปทีละเล่ม
“ฟว จิ๋ว!”
หยางฉีหยิบกระบี่ที่คาดอยู่ตรงเอวของเขาออกมาอีกสอง เล่ม ทันใดนั้น,กระบี่ที่เขาควบคุมอยู่ก็กลายเป็นหกเล่มความเร็วของมันกลายเป็นเร็วขึ้นและแสงกระบี่หมุนวนราวกับเงาล่องลอย
เสียงเหล็กกระทบดังกึกก้องไม่หยุด แขนของเซี่ยวเฉินมีแผลจากกระบี่เพิ่มขึ้นอีกสองสามแห่ง
แม้ว่าเซียวเฉินจะไม่ได้อยู่ในจังหวะได้เปรียบ,หัวใจของเขาก็ยังคงนิ่งสงบดุจสายน้ํา,เขาไม่ได้ตื่นกลัวแม้แต่น้อยเปลวเพลิงเริ่มเผาไหม้ในดวงตาของเขาอย่างช้าๆ มันสะสมพลังขณะเตรียมตัวที่จะปลดปล่อยออกมา
มันยังไม่ถึงเวลา, นี่ยังไม่ถึงขีดจํากัดของเขา,เซี่ยวเฉินครู่นคิดกับตัวเอง ลักษณะเฉพาะของกระบี่บินโกลาหลคือความต่อเนื่องของมันจํานวนกระบี่ที่ใช้ ยิ่งต้องการความต่อเนื่องที่แข็งแกร่ง
ดังนั้น การเพิ่มจํานวนกระบี่เป็นสิ่งที่ต้องฝืนทํา หากความเร็วของมันตกลงและจํานวนของกระบีเพิ่มขึ้น,ความต่อเนื่องก็จะถูกทําร้ายลง
หากมันเหมือนกับสายพานที่อยู่ในรถ หากมันช้าลง,ความเร็วของรถก็จะช้าลงตามไปด้วย หรือแม้กระทั่งหยุดทํางานหากสายพานขาด, จะเกิดอะไรขึ้นกับรถ? หากรถกําลังวิ่งไปด้วยความเร็วสูงจากนั้นสายพานก็ขาดลงอย่างฉับพลัน,รถ คันนั้นก็ไม่ต่างไปจากขยะ
เซี่ยวเฉินกําลังรอคอยโอกาส เมื่อความเร็วของหยางฉีขึ้นจนถึงขีดจํากัดของเขา,กระบวณท่าของเขาก็จะพังทลายลง,ปล่อยให้เขาพ่ายแพ้อย่างง่ายดายภายในหมัดเดียว ตราบใดที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เซี่ยวเฉินก็สามารถทนรับไว้ได้
“ฟว นิ้ว!” แขนขวาของเซี่ยวเฉินปรากฏเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งแผลเลือดไหลทะลัก เซี่ยวเฉินกัดริมฝีปากและรักษาความเด็ดเดี่ยวเขาไม่เผยความเจ็บปวดแม้แต่น้อยบนใบหน้าของเขา
เหงื่อของหยางฉีผุดขึ้นมาที่หน้าผากของเขาอย่างต่อเนื่องและหยดลงพื้น เขารู้สึกเป็นกังวลอย่างมากเพราะกระบีบินโกลาหลนี้เผาผลาญพลังปราณอย่างรวดเร็ว
เขาได้ควบคุมกระบี่ถึงหกเล่มแต่เขายังไม่สามารถล้มเชี่ยวเฉินลงได้ หากเขายังฝืนต่อไป ก่อนที่เชี่ยวเฉินจะล้มลง,หยางฉีคงจะต้องพ่ายแพ้ไปเพราะเผาผลาญพลังปราณจนหมด
“ฆ่า!”
สีหน้าของหยางฉีกลายเป็นเย็นชาและกัดฟันแน่น กระบี่สั้นสองเล่มทันใดนั้นก็ปรากฏขึ้นมาจากแขนของเขา กระ
หมุนวนอย่างต่อเนื่อง,สร้างอากาศไหลพร้อมกับลอยไปหาหน้าอกของเซี่ยวเฉิน
เซียวเฉินได้เตรียมตัวเอาไว้แล้วและทันใดนั้นเขาก็โน้มตัวกลับหลัง กระบี่สั้นสองเล่มลอยผ่านหน้าของเขาไปจากนั้นเขาก็เตะออกไปด้วยเท้าหนึ่งข้าง,หมายจะกดดันให้ห ยางฉีถอยกลับไป
อีกเท้าหนึ่งของเซี่ยวเฉินกดลงพื้นและปลดปล่อยทักษะมังกรฟ้าเมฆาทะยานเขาทะยานขึ้นไปในอากาศทันที
หลังจากที่เชี่ยวเฉินลงถึงพื้น,เขาพุ่งออกจากพื้นอีกครั้งและปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของหยางฉี ระเบิดความเร็วของทักษะมังกรฟ้าเมฆาทะยาน,เขาสามารถหลบหนีจากการโจมตีต่อเนื่องของหยางได้สําเร็จ
หยางฉีไม่ได้เชื่องช้าเช่นกันและถอยกลับอย่างรวดเร็วก่อนที่เชี่ยวเฉินจะได้ถึงพื้น,เขากระโดดตีลังกาไปด้านข้างและเซี่ยวเฉินก็มาอยู่ตรงหน้าของเขาอีกครั้ง
ในวูบแรก,กระบี่สั้นที่กําลังหมุนในอากาศดูราวกับกระบี่ที่กําลังตัดผ่านอากาศ มันสร้างแรงดันอากาศอันแข็งแกรง,ก่อเกิดเป็นพายุหมุน
ตอนนี้ จะต้องเป็นขีดจํากัดของเจ้าแล้ว!
ดวงตาของเซี่ยวเฉินยกขึ้นพร้อมกับพลิกผักกระบี่ในมือซ้ายของเขาไปทั่ว กระบี่สั้นที่กําลังบินเข้ามาทางเขาไถลไปกับผักกระบี่โดยตรง
เขาเผยรอยยิ้มบางเบาพร้อมกับกระโดดออกด้านข้างเพื่อหลีกเลี่ยงจุดสําคัญ,ยอมให้กระบี่ปักเข้าไปที่ไหลซ้าย ของเขาเลือดไหลออกมาในทันทีและความเจ็บปวดวูบผ่าน ใบหน้าของเซี่ยวเฉิน
อย่างไรก็ตาม,มือของเซียวเฉินก็ไม่ได้หยุดนิ่งเขาโยนฝึกกระบี่ออกไปด้วยความเร็วสายฟ้าและจับเอากระบี่สั้นอีกเล่มที่บินเข้ามาด้วยมือเปล่าเป็นผลให้เกิดแผลเลือดไหลออกมาจากฝ่ามือของเขา
กระบี่บินโกลาหลของหยางฉีถูกตีขัดในทันที มีกระบี่สั้น เพียงสามเล่มที่กําลังบินอยู่บนท้องฟ้า เซี่ยวเฉินตะโกนออ กมา “ฟาดฟันประกายแสง!”
ประกายแสงสีม่วงพร้อมกับกระแสไฟฟ้าถูกยิงออกมาแสงสายฟ้าระเบิด เกิดเป็นคลื่นกระแทกในอากาศ กระบี่สั้นสามเล่มถูกดีดออกในทันที
“กระบีบินโกลาหลถูกทําลายลงไปเช่นนั้น!” มีเสียงร้องตกตะลึงดังขึ้นมาจากฝั่ง เชี่ยวเฉินใช้วิธีแลกเลือดเพื่อทําลายกระบี่บินโกลาหลของหยางฉี, ที่ได้ขึ้นถึงขีดสุดของมันแล้ว
ทันทีที่กระบี่บินโกลาหลถูกทําลาย
ง,พลังปราณที่กําลังไหลอย่างราบลื่นในร่างของหยางฉีกลายเป็นปั่นป่วน กระแสพลังของเขากลายเป็นไม่มั่นคงพร้อมกับถอยกลับหลังไปอย่างรวดเร็ว
เจ้าอยากจะหนีแต่จะหนี้ได้ทัน? เซียวเฉินยิ้มอย่างเย็นชาและตะโกนขึ้น “เพลิงแท้อัสนีม่วง! ยิง!”
เปลวเพลิงหนานแน่นที่กําลังลุกไหม้ในดวงตาของเซี่ยวเฉินทันใดนั้นก็รวมเป็นเสาแสงก่อนที่จะยิงออกไปนี่คือสิ่งที่ ซี่ยวเฉินได้เข้าใจมาจากเส้นสายน้ําแข็งของลิงน้ําแข็งที่เขาเคยต่อสู้ด้วย
เนื่องจากพลังฉีสามารถรวมตัวกลายเป็นเส้น สาย,จากนั้นด้วยหลักการเดียวกัน,เปลวเพลิงก็สามารถทําได้เช่นกัน
เพลิงแท้อัสนีม่วง,ที่เชี่ยวเฉินได้ใช้เวลานานสะสมพลังมา,ทันใดนั้นก็เจาะทะลุหน้าอกของหยางฉีแผลข นาดหนึ่งนิ้วมือปรากฏขึ้นเลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง
หยางฉีสะดุดและล้มลงไปที่พื้น เขากุมมือไปที่หน้าอกของเขา,พยายามจะห้ามเลือด อย่างไรก็ตาม มันโดนเข้าที่เส้นเลือด,มันช่วยไม่ได้แม้แต่น้อย
เซียวเฉินเมินเฉยเขาและโยนกระบี่สั้นในมือของเขาทิ้งไปจากนั้นเขาก็ดึงกระบี่สั้นที่ไหล่ซ้ายของเขาออกมาและเก็บกลับผักกระบีของเขา
หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆเดินไปที่ทางออกของโถงคุณความชอบ ฝูงชนเปิดทางให้เขาโดยอัตโนมัติเซียวเฉินเดินไป ที่ทางออกทีละก้าวทีละก้าวเช่นนี้
“ช้าก่อน!”
ในที่สุด,สานุศิษย์แก่นกลางของยอดเขาว่านเหรินคนอื่นก็อดไม่ได้ที่จะเรียกเสี่ยวเฉิน สามศิษย์แก่นกลางของยอดเขาว่านเหรินเดินตรงไปที่เซี่ยวเฉิน
เป็นเพราะพวกเขาต้องรักษาหน้าตาของหยางฉี,พวกเขาจึงไม่ได้เข้าไปช่วยลุมเซี่ยวเฉินในการต่อสู้เมื่อก่อนหน้านี้อย่างไรก็ตามเขาได้ล้มสานุศิษย์ชั้นในของยอดเขาว่านเหรินไปมากมายก่อนหน้านี้ ตอนนี้เขาล้มได้แม้กระทั่งศิษย์แก่นก ลางหยางฉี หากเขาปล่อยให้เซียวเฉินเดินออกจากโถงคุณธรรมไปอย่างภาคภูมิเช่นนี้ ยอดเขาว่านเหรินจะสูญเสียงความน่าเกรงขามทั้งหมด
เชี่ยวเฉินยิ้มบางๆ “พวกเจ้าสองสามคนมีอะไรจะแนะนําข้า?”
“เจ้าทําร้ายศิษย์ยอดเขาว่านเหรินไปมากมายและเจ้าจะเดินเฉิดฉายออกไปเช่นนั้น?”
เซี่ยวเฉินพบว่ามันน่าขบขันและยิ้มขึ้นบางเบา “หากเจ้าไม่ลงมือและโจมตีกับเยาะเย้ยข้าก่อนเข้าจะทําร้ายสานุศิษย์ยอดเขาว่านเหรินทําไม?”
“เมื่อเป็นเช่นนั้น ศิษย์พี่หยางฉีเพียงถามคําถามเจ้า,ทําไมเจ้าถึงได้ลงมือก่อนและทําร้ายเขา?”
ใบหน้าของเซี่ยวเฉินกลายเป็นเย็นเฉียบพร้อมกับตอบกลับไปด้วยน้ําเสียงที่เย็นกว่า “มันไม่จบไม่สิ้น ฝีมือของเจ้าเป็นรองกว่าคนอื่นและเจ้ายังมีทัศนคติเลวทราม หากเจ้าอยากจะมาขวางทางข้าเช่นนั้นก็ทําให้ชัดเจน, หนึ่งต่อหนึ่งห รือเข้ามาพร้อมกัน? เจ้าอยากได้แบบไหน”
พวกเขาทั้งสามคนคิดเป็นเช่นเดียวกัน หากไปแบบหนึ่งต่อหนึ่ง,ข้าไม่มั่นใจว่าจะรับมือกับเข้าได้อย่างไรก็ตาม,หาก พวกเขาทั้งสามคนบุกเข้าไปพร้อมกันต่อหน้าทุกคนที่อยู่ที่นี่,พวกเขาจะเสียหน้าไม่น้อย นี่เป็นสถานการณ์ที่ให้เป็นไป ไม่ได้, พวกเขาจะทําเช่นไรดี?”
“ข้าตารางงานแน่น หากเข้าไม่เข้ามาตอนนี้เจ้ามาหาข้าเวลาอื่นข้าก็ไม่ขัด ข้าจะเป็นเพื่อนเล่นให้พวกเจ้าเอง!” เซียวเฉินสามารถเดาความคิดของทั้งสามคนเพียงมองแว่บเดียวเขาไม่อยากไปวอแวกับพวกเขาอีกหลังจากที่เขาพูดจบ,เขา ก็เดินออกไปในทันที
เซียวเฉินตารางเวลาแน่นอย่างแท้จริง,เขาไม่มีเวลาให้มาอ้อยอิ่งอยู่ที่นี่ภารกิจเฝ้ายามเส้นโลหิตวิญญาณกําลังจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้เขามีเวลาเพียงหนึ่งคืนเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมภารกิจเฝ้ายามเส้นโลหิตวิญญาณฟังดูง่ายดายแต่ เมื่อมันกลายเป็นภารกิจนิกายระดับและรางวัลสูงถึงเพียง นี้ จะต้องมีอันตรายรออยู่เป็นแน่ถึงอย่างไร,คนที่จัดการภารกิจนิกายไม่ใช่คนโง่งม;พวกเขาคงไม่แจกแต้มสะสมง่า ยด่ายเช่นนี้
เซียวเฉินตัดสินใจที่จะไปยังตลาดในฐานส่องสวรรค์แห่งนี้แต่เดิมเขามีหินวิญญาณมากกว่าหนึ่งพันก้อนเล็กน้อย เพิ่มด้วยที่เขาได้รับมาจากเฉินม่านจวิน,เขามีหินวิญญาณเกือบ 2000 ก้อน
ด้วยหินวิญญาณมากมายเช่นนี้มันเกินพอสําหรับการบ่มเพาะพลังของเขา หากเขาแบกพวกมันไว้เฉยๆไม่หยิบมาใช้จ่ายมันก็ค่อนข้างจะเสียของ
เซี่ยวเฉินกลืนเม็ดยาหวนคืนโลหิตและรับมือกับอาการบาดเจ็บบนร่างการของเขา หลังจากที่เซียวเฉิน,ถามถึงที่ตั้งของตลาด,เขาก็ค่อยๆออกเดินไปอย่างช้าๆ
นอกจากแผลลึกตรงไหล่ของเขา, อาการบาดเจ็บส่วนอื่นก็เป็นเพียงรอยข่วน เมื่อพลังงานยาของเม็ดยาหวนคืนโลหิตกระจายออกไปและเขาพักสักหนึ่งคืน,ก็ไม่เป็นปัญหาอะไรมากมาย
หลังจากเดินหามาเป็นเวลานาน,เชี่ยวเฉินก็พบทางเข้าตลาดของฐานส่องสวรรค์ ก่อนที่จะเข้าไป.ผู้นั้นจะต้องจ่ายผ่านทางเป็นหินวิญญาณหนึ่งก้อน
การสนับสนุนสานุศิษย์ชั้นในธรรมดาทั่วไปเป็นเพียงนวิญญานเดือนละสิบห้าก้อน หากพวกเขาไม่มีช่องทางราย ได้อื่น,พวกเขาจะต้องรู้สึกปวดใจที่ต้องใช้หินวิญญาณนี้
ในตลาดช่างจอแจ ในสถานที่แห่งนี้ ศาลากระบี่สวรรค์สามารถขายหรือแลกเปลี่ยนสิ่งของได้ที่นี่ พวกเขามีแม้กระทั่งร้านค้าทางการเขาขายสินค้าทุกประเภท เช่นทักษะต่อสู้เอาวุธวิญญาณ,ชุดเกราะศึก,ทักษะบ่มเพาะพลัง….ทุกสิ่งอย่างที่ ต้องการสามารถหาเจอได้ที่นี่
อย่างไรก็ตาม,ในสถานที่แห่งนี้ สินค้าทุกอย่างแลกเปลี่ยนด้วยหินวิญญาณ เงินของโลกมนุษย์ไม่ได้มีประโยชน์มากที่นี่อย่างไรก็ตาม มันมีสถานที่ที่สามารถนําเงินของโลกมนุษย์ไปแลกเปลี่ยนเป็นหินวิญญาณ
ในตอนที่เซียวเฉินปล้นสมบัติที่สะสมมากว่าร้อยปีของตระกูลเจียง,เขาได้มาทั้งหมด 30,000,000 เหรียญทองเขาใช้ 20,000,000 เหรียญทองไปที่คฤหาสน์หิมะล่องลอย,มีอีก10,000,000 เหรียญทองอยู่ในแหวนห้วงจักรวาลของเขา
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง,เซี่ยวเฉินตัดสินใจจะนํามันทั้งหมดไปแลกเปลี่ยนเป็นหินวิญญาณในอดีต,เจ้าหมู จินได้เผยออกมาอย่างไม่ตั้งใจว่าสุดยอดงานประมูลของทวีปเทียนหวี่ทั้งหมดจะใช้หินวิญญาณในการแลกเปลี่ยน
เหรียญทองนั้นไร้ค่าที่นั่น แทนที่ที่จะปล่อยให้มันนอนเน่าอยู่ในแหวนห้วงจักรวาลของเขา เขาน่าจะใช้โอกาสนี้แลกเปลี่ยนมันทั้งหมด