Immortal and Martial Dual Cultivation – ตอนที่ 183 เจ็บสาหัส – Novelza

ตอนที่ 183 เจ็บสาหัส

 

“ฮ่ะ!”

 

เกิดเสียงระเบิดขึ้นพร้อมกับกระบี่หยวนหยางซัดเข้าไปที่เพดานของอุโมงค์ เซี่ยวเฉินมองเห็นร่างเลือนลางเลื่อยผ่านไปในกําแพงอย่างรวดเร็ว

 

หนอนสูบวิญญาณ! เซี่ยวเฉินเข้าใจในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นเขาไม่ได้ตาฝาดไป ดวงตาสีเขียวที่เขาเห็นก็คือดวงตาของหนอนสูบวิญญาณ

 

ตอนที่เขาเข้ามา,มันดําลงไปในรูปบนกําแพง เมื่อเขาหันหลังกลับ,มันก็แสดงตัวออกมาต้องการจะลอบโจมตีเขา

 

ช่างบังเอิญ.มู่ซินหยามองเห็นสถานการณ์และจู่โจมในทันทีนางไม่มีเวลาให้อธิบาย นางอยากจะช่วยเซี่ยวเฉิน ผู้ที่ไม่รู้ว่ากําลังจะเกิดอะไรขึ้น

 

มู่ซินหยาถือกระบี่หยวนหยางอีกเล่มไว้ในมือขวาและดึงมันกลับเล็กน้อย มีละลอกคลื่นที่มองไม่เห็นกระจายไปในอากาศ,กระบีหยวนหยางอีกเล่มที่ติดอยู่บนเพดานสันไหวและลอยกลับมาที่มือของมู่ซินหยา

 

“พี่ชายเย่เจ้าเป็นเช่นไร?” มู่ซินหยาถามเซี่ยวเฉินอย่างเป็นกังวล

 

เซี่ยวเฉินสํารวจร่างกายของเขาและพบว่ามีของเหลวสเขียวเล็กน้อยซึมอยู่บนเสื้อผ้าของเขา ของเหลวเข้าไปในร่างกายของเขาผ่านรูขุมขนและผิวหนังของเขาก่อนที่จะเข้าไปผสมกับเลือดของเขาอย่างรวดเร็ว

 

เลือดโลหิตที่ผสมเข้ากับกรดเหลวสีเขียวไหลเวียนไปในร่างของเขา ไม่นานนัก,เซี่ยวเฉินก็รู้สึกเวียนหัวนี่เป็นสัญญาณว่าเขาถูกพิษเข้าแล้ว

 

เซี่ยวเฉินรีบหยิบเม็ดยาขับพิษออกมาจากแหวนห้วงจักรวาลของเขา จากนั้นเขาก็นั่งลงขัดสมาธิและหมุนเวียนพลังปราณของเขาอย่างรวดเร็วให้กระจายพลังยาออกไป

 

เซี่ยวเฉินไม่คาดคิดว่าเม็ดยาขับพิษที่เขานํามาจะมีประโยชน์มากมายที่นี่ เม็ดยาเริ่มละลายอย่างรวดเร็วและขับพิษออกจากเลือดของเขา

 

ผ่านไปครู่หนึ่งเซี่ยวเฉินสามารถสัมผัสได้รสหวานในปากของเขาเขาพ้นของเหลวสีเขียวออกมาทันที เซี่ยวเฉินลืมตาขึ้นและรู้สึกดีขึ้นในทันที ความรู้สึกวิงเวียนเมื่อครู่ถูกลบหายไป

 

พิษของหนอนสูบวิญญาณช่างดุร้าย เพียงแค่สัมผัสเพียงเล็กน้อยก็ส่งผลร้ายแรงถึงเพียงนี้ หากว่าเขาไม่ได้เตรียมเม็ดยาขับพิษมาล่วงหน้า,เขาคงตกตายลงตรงนี้

 

เซี่ยวเฉินลุกขึ้นและเห็นมู่ซินหยาที่มีสีหน้าเป็นกังวลอย่างที่สุด เขายิ้มและพูดขึ้น “ข้าไม่เป็นไร ข้าขับพิษออกไปเรียบร้อยแล้ว ขอบคุณมาก!”

 

มู่ซินหยายิ้มขึ้นเมื่อนางได้ยินคําของเซี่ยวเฉิน จากนั้นนางก็พูดขึ้น “ไม่เป็นไร ไปกันเถอะ ใครจะรู้ว่าหนอนนั้นอาจจะออกมาอีก”

 

เซี่ยวเฉินส่ายหัวของเขา “มีห้าแต้มสะสมอยู่ตรงนี้ นอกจากนั้น,มันยังทําร้ายข้า ข้าจะปล่อยมันไปง่ายๆได้เช่นไร”

 

ตั้งแต่ที่เซี่ยวเฉินรู้ว่ามีหนอนสูบวิญญาณอยู่ที่นี่เขาจะไม่ยอมปล่อยมันไปง่ายๆ ตราบใดที่เขาระวังตัวและไม่โดนลอบโจมตี,มันก็ไม่เป็นปัญหาอะไร หนอนสูบวิญญาณแข็งแกร่งเทียบเท่าระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธ

 

เซี่ยวเฉินขยายสัมผัสวิญญาณของเขาออกไปและส่งมันเข้าไปในอุโมงค์ สัมผัสวิญญาณของเขาติดตามร่องรอยพลังฉีที่หนอนสูบวิญญาณทิ้งเอาไว้และไล่ตามมันไป

 

เจ้าตัวซ่อนแอบ! พอคิดว่ามันอยู่ใกล้เพียงแค่นี้ สัมผัสวิญญาณของเขาหันกลับคืน เซี่ยวเฉินมองไปยังรูบนหัวของเขา และอดไม่ได้ที่จะอุทานขึ้นในใจ,หนอนสูบวิญญาณมันอยู่บนหัวของพวกเรานี่เอง!

 

“ปัง!” เท้าของเซี่ยวเฉินดีดออกจากพื้นดินและเขาก็ชักกระบี่เงาจันทร์ออกจากฝึก กระบี่เรืองแสงสายฟ้า,สว่างขึ้นในอุโมงค์ที่มืดมิด

 

“ฟุ่วฟิ่ว!”

 

กระบี่เงาจันทร์ที่รุ่งโรจน์แทงเข้าไปที่เพดานพร้อมกับเสียง “ซวบ” มีเสียง “กี กี” ออกมาให้ได้ยินมันเป็นเสียงร้องโหยหวนของหนอนสูบวิญญาณ มีของเหลวสีเขียวไหลออกมาจากตัวหนอน

 

เซี่ยวเฉินรู้ซึ้งถึงความน่ากลัวของของเหลวนี้ เขาส่งพลังปราณเล็กน้อยไปที่คมกระบี่และทําให้มันสั่นสะเทือน เขาเหวี่ยงพิษเหลวทั้งหมดออกไปในทันที ในจังหวะต่อมาเขาสามารถสัมผัสได้ถึงสิ่งมีชีวิตกําลังดิ้นอยู่บนคมกระบีของเขา

 

“อยากจะหนี? สายไปแล้ว!” เซี่ยวเฉินหัวเราะอย่างเย็นชาพร้อมกับระเบิดพลังปราณของเขาและถล่มเพดานเหนือหัวของเขาลงมาในทันที หนอนสูบวิญญาณร่วงลงมาพร้อมกับก้อนดินหิน

 

มีเสียงดังกึกก้องในอุโมงค์พร้อมกับหินที่ร่วงลงมาอย่างต่อเนื่อง พวกเขาทั้งสองเคลื่อนตัวออกไปด้านข้างเพื่อหลบก้อนหิน หลังจากที่ความสงบกลับมาอีกครั้ง,พวกเขาก็เริ่มไล่ล่าหนอนสูบวิญญาณที่กําลังลากร่างกายที่บาดเจ็บของมันลงไปในพื้นดิน

 

เมื่อมันออกมาจากพื้นดิน

 

หนอนสูบวิญญาณตัวนี้สูญเสียกําลังต่อสู้ไปกว่าครึ่งบวกด้วยอาการบาดเจ็บที่ได้รับจาดเซี่ยวเฉิน,หนอนสูบวิญญาณตัวนี้ถูกฟันขาดครึ่งหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง

 

ห้าแต้มสะสมเข้ามาอยู่ในกระเป๋าแล้ว มู่ซินหยาสับสนงุนงงดังนั้นนางจึงได้ถามขึ้น “พี่ชายเยเจ้าพบมันได้อย่างไร?”

 

เหมือนปกติ,เซี่ยวเฉินไม่สามารถบอกมู่ซินหยาได้ถึงเหตุผลที่แท้จริง ดังนั้น เขาจึงต้องสร้างเรื่องขึ้นมา เซี่ยวเฉินขุดเอาแก่นกลางออกมาจากร่างของหนอนสูบวิญญาณ

 

เป็นเพราะมันกินแร่ดิบหินวิญญาณมาเป็นเวลานาน,พื้นผิวของแก่นกลางจึงเรียบลื่นอย่างไม่น่าเชื่อ พลังงานจิตวิญญาณที่บรรจุอยู่ภายในเทียบเท่าได้กับแก่นกลางสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 5

 

เซี่ยวเฉินเก็บแก่นกลางของหนอนสูบวิญญาณอย่างระวังและยิ้มขึ้น “พวกเราได้รับห้าแต้มสะสม พวกเราจะแบ่งคันละครึ่ง”

 

มู่ซินหยายิ้มอย่างอ่อนโยน “พวกเราแบ่งเป็นสามกับสองก็ได้ แต้มสะสมไม่ได้มีประโยชน์กับข้ามากนัก”

 

แต้มสะสมไม่มีประโยชน์สําหรับเจ้า? เซี่ยวเฉินมองไปที่ซินหยาอย่างสับสน หากแต้มสะสมไม่ได้มีประโยชน์ไฉนเจ้าถึงได้รับภารกิจนี้มาทํา?

 

มู่ซินหยาดูเหมือนตระหนักได้ว่านางได้ใช้คําผิดไป นางยิ้มและพูดขึ้น “อย่าได้เข้าใจผิด ข้าหมายถึงแต้มสะสมเล็กน้อยไม่ได้สร้างความแตกต่างมากนักสําหรับข้า เจ้าเป็นคนที่พบหนอนสูบวิญญาณ, สองแต้มสะสมเพียงพอแล้วสําหรับข้า”

 

นางหมายความเช่นนี้นั้นเอง เซี่ยวเฉินยิ้มและไม่ได้คุยอะไรต่อ พวกเขาทั้งสองออกมาจากอุโมงค์นั้นและเดินลาดตะเวนต่อไปตามที่ระบุไว้ในแผนที่

 

มันช่างสงบสุขไม่ได้มีเหตุการณ์สําคัญอะไรเกิดขึ้นอีกตลอดทาง, พวกเขาพบหนอนสูบวิญญาณอีกสองสามตัว แต่น่าเสียดาย,พวกมันช่างรวดเร็วและดําลงพื้นหนีไปได้ไกล

 

เมื่อถึงเวลาค่ำคืน,ถึงเวลาพักของคนเหมืองงานของเซี่ยวเฉินและมู่ซินหยาก็จบลงด้วยเช่นกัน เซี่ยวเฉินเดินทางไปหาเย่เหวินและรายงานเหตุการณ์ประจําวัน

 

หลังจากที่เขาส่งแก่นกลางของหนอนสูบวิญญาณให้เย่เหวินและบันทึกลงไป เขาสามารถแลกห้าแต้มสะสมได้ที่โถงคุณความชอบ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นตลอดทางกลับ เซี่ยวเฉินคิดว่าไม่ต้องรีบกลับไปที่ห้องเพื่อพักผ่อน

 

หนึ่งในเส้นทางตัน,เซี่ยวเฉินพบพื้นที่กว้างขว้างและชักกระบี่เงาจันทร์ของเขาออกมาฝึกฝนทักษะกระบี่ แม้ว่าเขาไม่สามารถซึมซับพลังงานจิตวิญญาณเพื่อบ่มเพาะพลังได้,เขายังสามารถฝึกฝนทักษะกระบี่ของเขาได้เขาอดไม่ได้ที่จะนิ่งเฉย

 

ในตอนต้น,เขาฝึกฝนแปดกระบวณท่ากระบีพื้นฐานสองชั่วโมง ทําให้ทักษะกระบี่ที่เขาฝึกฝนมาถึงระดับสมบูรณ์ขั้นต้นเสถียรยิ่งขึ้น หลังจากนั้นเขาก็ฝึกฝนทักษะกระบี่สายฟ้าฉับพลัน,มโนภาพสามกระแสเมฆา,และทักษะกระบีอื่นๆ อีกหนึ่งครั้ง

 

ผ่านไปสี่ชั่วโมงเซี่ยวเฉินก็อบอุ่นร่างกายเสร็จ เขาพักหายใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะเริ่มฝึกมนทักษะกระบี่สับวายุใส เขาได้จดจํารูปแบบการหมุนเวียนของสับวายุใสจนขึ้นใจเมื่อคืนนี้

 

เซี่ยวเฉินค่อยๆใช้ออกสับวายุใส กระบี่ร่ายรําไปในอากาศและทันใดนั้นก็สร้างสายลมเย็นขึ้นมา กระบี่เคลื่อนไหวไปท่ามกลางสายลมและร่ายรําไปทุกที่

 

เซี่ยวเฉินฝึกฝนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและใช้ออกสับวายุใสนับร้อยครั้ง เซี่ยวเฉินนั่งลงบนพื้นและครุ่นคิดถึงหลักการเบื้องหลังของทักษะนี้

 

อย่างที่เขาพูดกัน,อาจารย์ชี้ประตูให้เจ้าที่หรือขึ้นอยู่กับตัวเจ้าเอง หลักการที่ใช้,หลิวหรูเย่สามารถบอกได้เพียงแก่นแท้ของสับวายุใสเพื่อที่เขาจะได้ไม่เดินไปผิดทาง อย่างไรก็ตาม,มันก็ขึ้นอยู่กับความเข้าใจของเซี่ยวเฉิน

 

แม้ว่าผู้อื่นจะบอกเขาถึงความเข้าใจของพวกเขาและเปิดทางให้เขาขึ้นไปถึงระดับสมบูรณ์ขั้นต้น,หากว่าเขาไม่สามารถเข้าใจมันได้ด้วยตัวเอง เขาก็ไม่สามารถฝึกฝนจนไปถึงระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยมได้

 

เนื่องจากเขาไม่กล้าซึมซับพลังงานจิตวิญญาณที่อยู่โดยรอบ,เซี่ยวเฉินจึงหยิบหินวิญญาณระดับตําออกมาจากแหวนห้วงจักรวาลของเขา เซี่ยวเฉินดูซับพลังงานจากหินวิญญาณและเติมเต็มพลังปราณของเขาในทันที

 

เซี่ยวเฉินลุกขึ้นและฝึกฝนสับวายุใสอีกครั้ง มีสายลมเย็นไหลเวียนภายในอุโมงค์แห่งนี้ ขณะที่เซี่ยวเฉินเร็วขึ้นและเร็วขึ้น,สายลมก็ยิ่งรุนแรงขึ้น

 

เซี่ยวเฉินยังคงสงบภายในสายลมรุนแรง ทันใดนั้น,แรงบันดาลใจปะทุขึ้น;เขาใช้ออกทักษะมังกรฟ้าเมฆาทะยาน เขาทะยานขึ้นไปราวกับมังกรคะนองในสายลมที่โหมกระหน่ำ

 

สับวายุใสแต่เดิมเป็นทักษะลับแบบเดี่ยว,มันไม่ได้มาประกอบกับทักษะเคลื่อนไหว ผู้ใดที่ใช้มันออกมา

 

พวกเขาพวกเขาต้องพึ่งความสามารถของพวกเขาเพื่อปรับใช้ทักษะนี้ไม่สามารถใช้ออกขณะที่เคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็ว

 

อย่างไรก็ตาม,ทักษะมังกรฟ้าเมฆาทะยานของเขานั้นกลับเข้ากันได้ดีกับสับวายุใส แม้ว่ามันจะเป็นการทดลองใช้งานครั้งแรกของเขาเซี่ยวเฉินก็ประสบความสําเร็จใช้ออกสับวายุใสกลางอากาศได้

 

เซี่ยวเฉินมีความสุขราวกับว่าเขาได้ค้นพบแผ่นดินใหม่ เขาใช้ออกสับวายุใสขณะที่ถอยกลับหลัง,ขณะที่เขากําลังตีลังกา,ขณะที่เขากําลังหมุนตัวไปมาในเวลาไม่นาน,เขาก็ใช้สับวายุใสออกมาในทุกท่วงท่าทุกมุมองศาที่เป็นไปได้

 

การใช้มังกรฟ้าเมฆาทะยานพร้อมกับทักษะลับเผาผลาญพลังปราณมากกว่าที่เขาได้จินตนาการไว้ ครั้งนี้ เซี่ยวเฉินใช้ออกสับวายใสได้ประมาณยี่สิบครั้งก่อนที่จะหมดสิ้นพลังปราณ

 

เนื่องจากสับวายุใสยังไม่ได้ขึ้นมาถึงระดับสมบูรณ์ขั้นต้น เขาจึงไม่สามารถปกปิดเจตนาฆ่าฟันของเขาได้ อย่างไรก็ตามเซี่ยวเฉินก็ไม่ได้ผิดหวังนักเมื่อเขาพบว่าเขาสามารถใช้มันร่วมกับทักษะมังกรฟ้าเมฆาทะยาน

 

เซี่ยวเฉินไม่ได้ฝึกฝนต่อหลังจากที่เขาพักไปครู่หนึ่ง ฝึกฝนแบบไม่คิดจะไม่ก่อให้เกิดผลแม้ว่าเขาจะฝึกฝนต่อไปอีกร้อยปี

 

นอกจากนั้น,สภาพแวดล้อมภายในอุโมงค์ไม่เหมาะสมสําหรับการฝึก การพึ่งหินวิญญาณในการเติมพลังปราณของเขาจะทําให้เขาอ่อนไหวกับพลังงานจิตวิญญาณ

 

การซ่อนเจตนาฆ่าฟันของเขาเป็นก้าวแรกของการใช้ออกสับวายุใส เซี่ยวเฉินไตร่ตรองถึงปัญหานี้ เขาจักซ่อนเจตนาฆ่าฟันท่ามกลางสายลมที่ไร้ตัวตนได้อย่างไร?

 

เมื่อเซี่ยวเฉินกลับมาที่ห้องหิน,เขาประหลาดใจที่พบว่ามู่ซินหยาไม่ได้กําลังนอนอยู่ที่เตียง เป็นไปได้ว่านางจะออกไปฝึกฝนมักษะกระบีเหมือนอย่างที่ข้าทํา? แต่ตอนนี้มันก็ดึกมากแล้ว ทําไมนางถึงยังไม่กลับมา?

 

เซี่ยวเฉินมีคําถามมากมายผุดขึ้นในหัวของเขาและเขาไม่อาจไปใส่ใจ เขาควรสนใจเพียงเรื่องของเขา เซี่ยวเฉินเข้าไปในห้องน้ำและแช่ตัวลงในอ่างน้ำอยู่นานก่อนที่จะกลับออกมา

 

ในเช้าวันต่อมาเมื่อเซี่ยวเฉินตื่นขึ้น,เขาพบว่ามู่ซินหยาได้ล้างหน้าล้างตาเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้วนางกําลังรอ เขาเพื่อเริ่มงานลาดตะเวน

 

“พี่ชายเย่ เจ้าไปที่ไหนมาเมื่อคืน? ข้าไม่เห็นเจ้ากลับมานานแล้ว” มู่ซินหยายิ้มไปที่เซี่ยวเฉินขณะที่พวกเขาออกมา

 

เมื่อเซี่ยวเฉินได้ยินดังนั้นเขาก็ตกตะลึง เขาไม่คาดคิดว่ามู่ซินหยาจะเริ่มต้นหัวข้อนี้ เขายิ้มและพูดขึ้น “ข้าไม่ชินกับการนอนเร็วดังนั้นข้าจึงออกไปฝึกฝนกระบี่”

 

มู่ซินหยายิ้มและพูดขึ้น “ไปกันเถอะ จากนั้นข้าจะได้ชมทักษะต่อสู้ที่เจ้าได้ฝึกฝนมาอย่างหนักในการต่อสู้ของวันนี้”

 

เซี่ยวเฉินยิ้มขึ้นและไม่ได้พูดอะไร ต่อมา, พวกเขาก็เริ่มงานลาดตะเวนที่น่าเบื่ออีกครั้ง พวกเขาทั้งสองได้เสร็จสิ้นงานลาดตะเวนมาแล้วเมื่อวาน ในครั้งนี้,พวกเขาคุ้นเคยกับเส้นทางเรียบร้อยแล้ว

 

คนเหมืองกลุ่มแรกที่พวกเขาพบนําโดยหัวหน้าสี่คนก่อนหน้านี้ เมื่อหัวหน้าลี่มองเห็นพวกเขาทั้งสองกําลังมาถึงเขารีบเข้ามาทักทายอย่างสุภาพ เซี่ยวเฉินโบกมือเพื่อบอกเขาว่าไม่ต้องพิธีรีตอง

 

Immortal and Martial Dual Cultivation

Immortal and Martial Dual Cultivation

เซี่ยวเฉินได้ซื้อ ‘ตำราบ่มเพาะพลัง’ มาจากเถาเป่าพร้อมกับเม็ดยาเซียนที่จะทำให้เซี่ยวเฉินเข้าสู่โลกแห่งเซียนได้ ถึงกระนั้นเขาได้เขาได้ฝึกฝนตามตำรามากว่าสามปีแต่กลับไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะกินเม็ดยาเซียนเข้าไปและมันทำให้เขาข้ามภพไปเกิดในร่างของเด็กหนุ่มที่มีชื่อเดียวกับเขา ไปสู่โลกทวีปเทียนหวู่ไปสู่โลกที่ถูกปกครองด้วยศิลปะการต่อสู้ไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ของเขา ผู้แต่ง : 月如火 Reach the peak of immortal cultivation and become able to run amok without fear! Use the power of martial arts to rule the world and defeat heroes! The weather changes at the whim and wave of a palm. He who cultivates both immortal techniques and martial arts, who could possibly defeat him! Xiao Chen is a shut-in who purchased a ‘Compendium of Cultivation’. Soon after, he crossed over into the Tianwu World, a world ruled by martial arts. He then refined pills, drew talismans, practiced formations, crafted weapons and cultivated the Azure Dragon Martial Soul that had not been seen for thousands of years. This is a story that tells of an exciting and magnificent legend!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset