ตอนที่ 255 ล้มเหลว
เกิดเสียงขบเคี้ยวและแม่ทัพปีศาจโลหิตทะลวงผ่านร่างของมือกระบี่คนนั้น มีเสียงเปราะแประพร้อมกับคนผู้นั้นร้องออกมาอย่างน่าสังเวช ผ่านไปครู่หนึ่งเขาเป็นเพียงถุงที่ถูกสูบเลือดออกจนหมดและโยนทิ้งไปด้านข้าง
แม่ทัพปีศาจโลหิตกลับคืนสู่ร่างมนุษย์อีกครั้งพร้อมกับหัวเราะคัก “เลือดมนุษย์เลิศรสอย่างที่เคยเป็นมันทิ้งกลิ่นรสเอาไว้ในคอแม่จะกลืนลงไป”
สีหน้าสู่เฉินกลายเป็นเย็นชา มือกระบีหลายคนที่ใช้ออกทักษะปีศาจโลหิตกลืนกายตกตายไปแล้วเหลือรกเพียงไม่กี่คนให้ใช้ออกแม่น้ําฟ้าคลั่ง พลังของมันจะลดลงไปอย่างมาก
“ศิษย์พี่หรูเยวพวกเรายืดเยื้อต่อไปอีกไม่ได้แล้ว เร่งหาโอกาสเปิดใช้แม่น้ําฟ้าคลั่ง” สู่เฉินเรียกออกมาเสียงดังพร้อมกับเขาฟันไปที่แม่ทัพปีศาจโลหิต
แม่ทัพปีศาจโลหิตรู้ถึงพลังของแม่น้ําฟ้าคลั่ง ดังนั้นมันมใช้ออกหอกมรณะปีศาจโลหิตอยู่เรื่อยๆ ไม่เปิดโอกาสให้กับพวกเขา หอกยาวที่แฝงฤทธิ์กัดกร่อนบินผ่านอากาศอย่างรวดเร็ว
ทุกคนล้วนประจักษ์ถึงพลังของหอกมรณะปีศาจโลหิต พวกเขาไม่ตั้งรับและพากันหลบเลี่ยง
.
“ปัง! ปัง! ปัง!”
ในไม่ช้า, เหลือเพียงเสาหินสิบต้นที่ตั้งอยู่ภายในห้องโถงใหญ่แห่งนี้ เสาหินล้มลงทีละต้นๆ,ตบฝุ่นควันมหาศาลขึ้นมาในอากาศ สมรภูมิกลายเป็นโกลาหลในทันทีท่ามกลางความโกลาหล,แม่ทัพปีศาจโลหิตแปลงกายเป็นของเหลวสีแดง,ไล่จู่โจมพวกเขาไม่จบสิ้น
สู่เฉินและคนอื่นๆต้องหลบเลี้ยงเสาหินที่ล้มลงมาและพะวงกับการสอบโจมตีของแม่ทัพปีศาจโลหิตไปพร้อมกัน พวกเขาไม่มีโอกาสได้ลงมือ พวกเขาในตอนนี้เต็มกลืนแล้ว
มู่หลงชงมองไปที่หลังคาของราชวัง สีหน้าของเขาเปลี่ยนพร้อมกับกล่าวขึ้น “ไม่ดีแล้ว,ราชวังกําลังจะถล่มลงมา”
ราชวัง,ที่เสาถล่มลงมาแล้วยี่สิบต้น,สั่นคลอนอย่างไม่หยุดหย่อน ก้อนหินแตกร้าวและร่วงลงมาจากด้านบน
.
สิ้นเสียงของมู่หลงชง,เกิดเสียงดังขึ้น หลังคาทั้งผืนถล่มลงและก้อนหินนับไม่ถ้วนร่วงหล่นลงมา
สู่เฉินตะโกน “ออกไปเร็ว!”
“บูม!”
คนที่ยังเหลืออยู่ควบรวมกระบี่แสงขึ้นบนกระบี่ของพวกเขาและเคลื่อนไหว,ฟาดฟันก้อนหินที่กําลังร่วงลงมา
สีหน้าขแงเซี่ยวเฉินไม่เปลี่ยนแปลง เขาวูบไหวผ่านอากาศและใช้ออกสลักร่างพยัคฆ์มังกรทุกครั้งที่เขาปล่อยหมัดออกไป,มันบรรจุพลังหกพันกิโลกรัม,ชกก้อนหินกลายเป็นผุยผง
หยุ่นเข่อซินขึ้นนําสบัดฝุ่น, เคลื่อนไหวไปตามสายลม ในไม่ช้า,นางก็หลบออกไปได้
เมื่อฝุ่นลอยตัวลง,มหาราชวังหรูร่าได้กลายเป็นซาก
ท่ามกลางซากปรักหักพัง, แสงสีแดงระเบิดออก ฝุ่นควันถูกตบลอยขึ้นอีกครั้งและภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องเขาก็ปรากฏตัวขึ้น
เสียงอ่อนแรงของแม่ทัพปีศาจโลหิตเจือความโมโห “ไอ้เด็กโง่เขลา กล้าดียังไงถึงได้มาฟังราชวังของข้า! จะไม่มีใครได้เดินออกไปเป็นๆในวันนี้”
มีสายลมเย็นพัดผ่านสมรภูมิร่างของหลิวหรูเยวพลันจางหายไปในสายลม ในจังหวะต่อมา,บาดแผลปรากฏขึ้นบนหน้าอกของแม่ทัพปีศาจโลหิตสายเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วทุกที่
ขณะที่หลิวหรูเยาวูบไหวผ่านร่างของแม่ทัพปีศาจโลหิต,เขาร้องออกมาอย่างเจ็บปวดเขา ยื่นมือออกมาเพื่อจะคว้าจับตัวนาง,แต่เขาคว้าเอาไว้ได้เพียงความว่างเปล่ากลับกันอีกหนึ่งบากแผลปรากฏขึ้นที่หลังของเขา
ลู่เฉินกล่าวอย่างเร่งรีบ “โอกาสดีเตรียมตัวจู่โจม!”
เส้นสายลมเย็นพัดผ่านรอบตัวของแม่ทัพปีศาจโลหิต หลิวหรูเยวปรากฏตัวขึ้นและจางหายไปรอบตัวเขา,ทิ้งเอาไว้เพียงบาดแผล
แม่ทัพปีศาจโลหิตหมุนเวียนพลังงานของเขาและเคลื่อนตัวไปรอบๆอย่างรวดเร็ว,เปลี่ยนกลายไปเป็นแสงสีแดงวูบไหว อย่างไรก็ตาม,สายลมตามติดตัวเขาไปอย่างหนาแน่นไม่ว่าแม่ทัพปีศาจโลหิตจะซ่อนกายหรือแปรเปลี่ยนไปเป็นอะไร,กระบี่แสงยังทิ้งบาดแผลไว้บนร่างของเขา
“ให้ตาย!”
แม่ทัพปีศาจโลหิตตบมืออย่างแรง,เกิดเป็นคลื่นระเบิด ร่างของเขาปลดปล่อยแสงสีแดงพลุ่งพล่านออกมา
ภายในแสงสีแดงส่องสว่าง,หลิวหรูเยว่ ผู้ที่ได้ซ่อนกายอยู่ในสายลม,ถูกเผยตัวออกมาแม่ทัพปีศาจโลหิตเผยรอยยิ้มชั่วร้ายพร้อมกับกล่าวขึ้น “พบตัวเจ้าแล้วตายซะ! หมัดมรณะปีศาจโลหิต!”
“อัสนีหลบเลี่ยง!”
มีเส้นสายฟ้าวูบผ่านและเซียวเฉินปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของหลิวหรูเยว่ กระดูกในร่างของเขาส่งเสียงแตกกราวพร้อมกับเขาตั้งท่ามังกรด้วยมือซ้ายและตั้งท่าพยัคฆ์ด้วยมือขวา
พยัคฆ์และฆังกรผสานเข้าสู่ร่างของเขาพร้อมกับภาพร่างพยัคฆ์มังกรเกี่ยวพันเข้าด้วยกัน
“พยัคฆ์หมอบมังกรซ่อน!”
“ปัง!”
กําปั้นอันน่าหวาดกลัวของแม่ทัพปีศาจโลหิตซัดเข้าที่แขนทั้งสองข้างของเซียวเฉิน พลังอะนนาหวาดกลัวเกิดเป็นเสียงอันดัง รอยแตกปรากฏขึ้นที่พื้นดินให้เท้าของเซี่ยวเฉิน
มีสายลมรุนแรงเปาขึ้นมาจากรอยแตก ก่อนหินใหญ่รอบกายของเซียวเฉินถูกเปาลอยขึ้นและหมุนวน
อย่างไรก็ตาม, เซียวเฉินไม่ได้เคลื่อนตัวเขาหมุนเวียนสลักร่างพยัคฆ์มังกรอย่างต่อเนื่อง,สะสมพลังงานอย่างรวดเร็ว มังกรไม่ได้ร้องคํารามและพยัคฆ์ไม่ได้ขู่ข่มพยัคฆ์หมอบมังกรซ่อน… ปล่อยให้คู่ต่อสู้หยิ่งผยองก่อน
ในจังหวะต่อมา, เซี่ยวเฉินคํารามอย่างเกรี้ยวกราดและร่างของเขาเอี้ยวตัวเล็กน้อยพร้อมกับปล่อยหมัดออกไปมังกรร่องคํารามและพยัคฆ์ขู่ข่มขวัญออกมาอย่างต่อเนื่อง
สายฟ้าแตกคํารามดังออกมาให้ได้ยินบนท้องฟ้าสีแดงดํา,ชั้นเมฆเกิดปั่นปวน,เส้นสายฟ้านับไม่ถ้วนแตกตัวร่ายรําในหมู่เมฆ
ภาพร่างพยัคฆ์มังกรที่ด้านหลังของเซี่ยวเฉินผสานเข้ากับร่างของเขา พลังงานที่พยัคฆ์หมอบมังกรซ่อนได้สะสมเอาไว้ระเบิดออกมาพร้อมกับกําปั้นนี้
นี่เป็นกระบวณท่าที่สามของหมัดพยัคฆ์มังกร ใช้พยัคฆ์หมอบมังกรซ่อนสะสมพลังและปลดปล่อยออกมาพร้อมกับพยัคฆ์ข่มมังกรคําราม!
แม่ทัพปีศาจโลหิตไม่ได้คาดคิดว่าเขียวเฉินจะสามารถรับหมัดของเขาเอาไว้ได้ ยิ่งกว่านั้นเขาไม่คาดคิดว่าเซี่ยวเฉินจะโจมตีสวนกลับได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้
ช่างเป็นกําปั้นที่ทรงอํานาจแบกพลังมากกว่า 7,500 กิโลกรัม มันชัดเข้าที่หน้าอกของแม่ทัพปีศาจโลหิต
หลังจากที่กําปั้นซัดโดน,มีแสงสีแดงออกมา รูขนาดเท่าหัวปรากฏขึ้นที่หน้าอกของแม่ทัพปีศาจโลหิต ที่อีกด้านหนึ่งของบาดแผล, มีกระแสไฟฟ้าแตกตัว,หยุดการฟื้นฟูของบาดแผล
เซี่ยวเฉันอดทนต่อและโลหิตที่กําลังพลุ่งพล่านในร่างของเขา เขากดเท้าดีดตัวออกจากพื้นและเปลี่ยนไปเย็นแสงสีม่วงวูบไหว,ถอยกลับไปอย่างน้อยหนึ่งร้อยเมตร
หลิวหรูเยวพุ่งตรงเข้ามาและถามขึ้นอย่างเป็นกังวล “เย่เฉินเจ้าเป็นเช่นไร?!”
พลังของหมัดมรณะปีศาจโลหิตทรงพลังยิ่งกว่าหอกมรณะปีศาจโลหิต เซียวเฉินเข้ารับกําปั้นนั้นโดยตรง:เขาจะต้องไม่ได้อยู่ดีอย่างที่เห็นแน่นอน
เขี้ยวเฉินกลืนเม็ดยาหวนคืนโลหิตและกล่าว “ข้าบาดเจ็บภายในเล็กน้อย,ข้ายังไหวอยู่เจ้าไม่ต้องใส่ใจ”
“แม่น้ําฟ้าคลั่ง!”
สายน้ําสีแดงพลุ่งพล่านไหลหลากตรงไปที่แม่ทัพปีศาจโลหิต,ผู้ที่วางแผนจะเอาคืนเซี่ยวเฉินสายแม่น้ําระเบิดและสาดขึ้น,บรรจุไปด้วยพลังงานอันไร้ขอบเขต
“ให้ตาย!” แม่ทัพปีศาจโลหิตหยุดมือลงและยื่นมือไปด้านหน้าของเขา ลูกบอลสีแดงห่อหุ้มร่างของเขาเอาไว้อย่างสมบูรณ์
เฉินมีสีหน้ามืดมัวพร้อมกับโยนกระบี่ของเขาออกไป กระบีได้กลายร่างเป็นนกอินทรีและบินตรวไปที่ลูกบอลสีแดงเขาร้องตะโกนขึ้น “สลายไปซะ “
“แครั้ง!”
นกอินทรีจิกเข้าที่ผิวของลูกบอลสีแดงและเกิดกระบี่แสงวูบผ่าน รอยแตกเล็กๆปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของลูกบอลสีแดง
อย่างไรก็ตาม,ก่อนที่ลู่เฉินจะมีเวลาได้เบาใจ,สายโลหิตพลุ่งพล่านเคบื่อนเข้ามาอัดรอยแตกเอาไว้ในทันที
ในจังหวะต่อมา,สายแม่น้ําสีแดงปะทะเข้ากับลูกบอลสีแดง ลูกบอลสีแดงเลือดทนอยู่ได้ไม่ นานนัก:ภายใต้สายน้ําที่จู่โจมเข้ามาอย่างไร้ปราณี,มันแตกสลายอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าการป้องกันของแม่ทัพปีศาจโลหิตจะพังทบายลง,พลังอํานาจของสายน้ําสีแดงก็ลดลงไปไม่น้อยเมื่อมันซีดเข้าที่ร่างของแม่ทัพปีศาจโลหิต,มันเกิดระเบิดรุนแรงมีสายเลือดโผรยเป็นฝนและแสงสีแดงฉายออกมา
เมื่อแสงสีแดงจางหายไป,มันเผยร่างของแม่ทัพปีศาจโลหิตที่ไม่ได้ตกตายไปเหมือนกับครั้งก่อนมีกองเลือดเป็นแอ่งอยู่กับพื้น,กําลังพยายามจะคืนสู่ร่าง
“เงาจันทราไร้พ่าย!”
มู่หลงชงตัดสินใจเคลื่อนไหวและชักกระบี่ของเขาออกมา จันทร์เสี้ยวมั้งสองบนกระบี่ของเขาไขว้กันสองจันทร์เสี้ยวหมันวนและเปลี่ยนกลายเป็นดวงจันทร์สีเลือดที่ด้านหลังของมู่หลงชง
จันทร์สีเลือดแปลกประหลาดสองตัวผรากฏขึ้นบนท้องฟ้า ภายใต้จันทร์เต็มดวงเรืองแสงสือแดงถูกจุดขึ้นบนกระบื่อขงมู่หลงชง
มู่หลงชงส่งประกายแสงออกไปด้วยกระบีของเขา,รูปทรงของมันคล้ายกับจันทร์เสี้ยว,ตรงไปที่แม่ทัพปีศาจโลหิต
“ชุมนุมพญาอินทรี!”
สู่เฉินยื่นมือออกไปและกระบี่ของเขาก็ลอยกลับมา ในจังหวะเดียวกัน, นกอินทรีนับไม่ถ้วนที่ก่อตัวขึ้นมาจากกระแสพลังของเขาบินตรงเข้ามาเติมเต็มไปในอากาศ
เขาโบกสะบัดกระบี่ของเขาและนกอินทรีทั้งหมดบนท้องฟ้าเร่งรีบเข้ามารวมตัวกันผสานกลายเป็นหนึ่งเดียวและส่องแสงสีทองเรืองออกมา
นกอินทรีสยายปีกของมันออกและเชส่งดสียงร้องออกมา มันโฉบผ่านอากาศและก่อเกิดเป็นคลื่นกระแทกออกมาพร้อมกับมันพุ่งลงตรงไปที่กองเลือดบนพื้น
“ปัง! ปัง!”
นกอินทรีและจันทร์เสี้ยวซัดเข้าที่กองเลือดพร้อมกันและเกิดระเบิดขึ้น หลุมลึก,กว้างขนาดมหมาปรากฏขึ้นที่พื้นรอยแตกนับไม่ถ้วนขยายออกไปทั่วพื้นที่
กระแสพลังของแม่ทัพปีศาจโลหิตจางหายไปจากการรับรู้ของพวกเขาอีกครั้ง ลู่เฉินถอนกระบี่ของเขาและเก็บกลับเข้าฝัก
เมื่อลู่เฉินมองเห็นมือกระบี่ที่เหลือกลายเป็นศพเหี่ยวแห้งจากการที่ผลของทักษะปีศาจโลหิตกลิ่นกายหมดลง,สีหน้าของเขากลายเป็นเย็นยะเยือก
“ฉัวะ!”
เขาหยิบเอาเครื่องรางเพลิงศักดิ์สิทธิ์ออกมาและปาออกไปที่หลิวหรูเยว่ จากนั้นเขาก็หยิบออกมาอีกอันหนึ่ง ตั้งใจจะกลับออกจากมิติแห่งนี้
หลิวหรูเยว่ยื่นมือของนางออกไปรับเอาเครื่องรางเพลิงศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ จากนั้นนางก็กล่าวขึ้น “สู่เฉิน,แม่ทัพปีศาจโลหิตจะต้องยังไม่ตกตายลงอย่างแน่นอน”
สู่เฉินกล่าวอย่างเฉยเมย “ข้ารู้ แต่อย่างไรก็ตาม,พวกเขาไม่เหลืออะไรให้ใช้แล้วผู้อาวุโสหนึ่ง,เจียงชื่อได้รายงานกับกองทัพจักรวรรดิมังกรของตระกูลราชวงเรียบร้อยแล้ว นี่มันเกินมือ ของพวกเราไปแล้ว”
หลังจากที่เขากล่าวจบ,เครื่องรางเพลิงศักดิ์สิทธิ์เริ่มเผาไหม้และตัวเขาเปลี่ยนกลายไปเป็นลูกบอลเพลิง,จางหายไปจากสายตาของทุกคน
ณ ฐานส่องสวรรค์,ศาลากระป์สวรรค์,ที่เทือกเขาหลิงหยุน
คนของสภาสูงกําลังรอค่อยอย่างเป็นกังวล
“ฟูเ”
ลูกบอลเพลิงปรากฏขึ้นต่อหน้าของทุกคน เมื่อลูกบอลเพลิงเผาไหม้จนหมดสิ้น,สู่เฉินปรากฏตัวขึ้นมา,สวมสีหน้าเย็นยะเยือก
เมื่อมองเห็นสีหน้าของอู่เฉิน,หัวใจของคนจากสภาสูงจมดิ่งและความมืดมัวปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา
ผู้อาวุโสสองที่มองโลกในแง่ดีพร้อมกับถามขึ้น “ลู่เฉิน,ภารกิจเป็นเช่นไร?”
สู่เฉินส่ายหัว “ล้มเหลว แต่แม่ทัพปีศาจโลหิตน่าจะบาดเจ็บหนัก การพังทลายของผนึกน่าจะยืดระยะเวลาออกไป”
“ล้มเหลว?” ผู้คนด้านข้างถามขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ “เป็นไปได้อย่างไร? แม้ว่าความแข็งแกร่งของแม่ทัพปีศาจโลหิตจะทรงพลังและเทียบเท่ากับระดับขอบเขตปราชญ์ยุทธขั้นกลาง,แต่เขาก็เป็นเพียงภาพเสมือนในมิติย่อย”
“ความแข็งแกร่งของเขาน่าจะลดลงไปเทียบเท่ากับระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธยิ่งกว่านั้นยังมีสานุศิษย์อื่นที่ช่วยเจ้าล่อปีศาจโลหิตตนอื่นที่เหลืออกไป”
“พึ่งพาการระเบิดพลังสิบเท่าจากทักษะปีศาจโลหิตกลืนกาย,ผนวกเข้ากับแม่น้ําฟ้าคลั่ง,ที่เทียบเท่าได้กับทักษะต่อสู้ระดับสวรรค์ขั้นต่ํา:มันไม่ควรจะเกิดปัญหาอะไร”
สู่เฉินอธิบาย “มันไม่ง่ายดายเช่นนั้น ภายในมิติแห่งนั้น,มันมีดวงจันทร์สีเลือดแปลกประหลาดอยู่บนท้องฟ้า ทุกครั้งที่พวกเราสังหารแม่ทัพปีศาจโลหิตลงได้,ดวงจันทร์สีแดงนั้นชุบชีวิตของแม่ทัพปีศาจโลหิตขึ้นมา”
“หลังจากรอบที่สาม,สานุศิษย์ที่ใช้ออกทักษะปีศาจโลหิตกลืนกายก็หมดสิ้นพลังชีวิตข้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากถอยกลับมา”