Immortal and Martial Dual Cultivation – ตอนที่ 35 ชายชุดดำ

ตอนที่ 35 ชายชุดดำ

ในขณะนี้ ในที่สุดเซียวเฉินก็ตื่นขึ้นมาหลังจากหลับไหลอย่างลืมวันลืมคืน หลังจากที่พยายามอย่างมากในการลืมตาขึ้นมา เซียวเฉินก็พบว่าเขากำลังนอนอยู่บนเตียงไม้

หลังจากที่สำรวจบริเวณโดยรอบ เซียวเฉินก็พบว่าตัวเองกำลังอยู่ในกระท่อมไม้ แสงอาทิตย์จากภายนอกส่องลงมาเติมเต็มภายในกระท่อมไปด้วยความอบอุ่น

ไม่ไกลจากเขา บนโต๊ะมีช่อกุหลาบและข้างๆก็มีอาหารที่ปรุงแล้ววางไว้ มันเป็นอาหารมังสวิรัติทั้งหมดแต่ก็ยังส่งกลิ่นหอบหวลที่ทำให้ใครต่อใครก็อยากอาหารขึ้นมา

ที่นี่ที่ไหน? ทำไมข้าถึงมาอยู่ที่นี่? เซียวคิดอย่างสงสัย

เขาจำได้เพียงว่าเขาบาดเจ็บสาหัสและหมดสติไปหลังที่เขาได้รับจี้หยกสีแดงในวันที่เขาเรียกมังกรหวนกลับออกมา ทำไมเขาถึงมาโผล่ที่นี้?

เขาถูกบางคนช่วยไว้หรือถูกบางคนจับตัวไว้?

ช่างประไร! ลุกก่อนค่อยว่ากัน

เซียวเฉินผลักผ้าห่มออกเผยให้เห็นร่างกายที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผล มีกลิ่นหอมจางๆของยาลอยออกมาจากผ้าพันแผลและเขายังรู้สึกได้ว่าผิวของเขาคันและนุ่ม นั้นเป็นสัญญาณว่าแผลของเขากำลังสมานตัว

ลุกขึ้นนั่ง เซียวเฉินเข้าสู่สภาวะบ่มเพาะพลังหลังจากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมา เขาจมจิตสำนึกของเขาลงไปและหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์อย่างช้าๆ และเข้าได้พบกับบางสิ่งที่เขาไม่ได้คาดคิดมาก่อน เส้นลมปราณของเขาที่ความจริงควรจะได้รับความเสียหายรุนแรง ปรากฎว่าสมานตัวจนเกือบจะหายดีแล้ว

นี่อาจจะเป็นผลมาจากการใช้เม็ดยา ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น ไม่เพียงแต่คนคนนั้นจะพาเขามาที่นี้และทำแผลให้กับเขา ยังได้ใช้เม็ดยารักษาเขาอีกด้วย

หลังจากนั้น เซียวเฉินก็ออกจากสภาวะบ่มเพาะพลังและปลดผ้าพันแผลออกทีละชั้น ขณะที่เขาปลดมันออกหน้าของเขาก็แดงขึ้นช้าๆ แม้แต่พื้นที่ลับของเขายังมีผ้าพันแผลอยู่สองสามชั้น หากคนที่ทำแผลให้กับเขาเป็นผู้ชาย… เขาคงเสียชายไม่น้อย

หลังจากที่ปลดผ้าพันแผลทั้งหมดออกผิวขาวของเขาก็เผยออกมาและเซียวเฉินเริ่มผ่อนคลาย ยาที่ทาไว้บนผ้าพันแผลนั้นต้องเป็นของชั้นดีเพราะมันไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้เลย เขาจึงไม่กังวลว่าจะเสียโฉม

นอกจากนั้นยังมีเสื้อผ้าผู้ชายใหม่เอี่ยมพับไว้อยู่บนหัวเตียง เซียวเฉินรู้สึกตื้นตัน คนคนนี้ยังเตรียมแม้กระทั่งเสื้อผ้าไว้ให้เขา หลังจากที่เขาสวมเสื้อผ้า เซียวเฉินก็ตรงไปหาอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ

แม้ว่าจะใช้เม็ดยาอดอาหารไป เขานั้นไม่มีความจำเป็นที่จะกินหรือดื่ม แต่หลังจากที่เขาไม่ได้กินได้ดื่มมาเป็นเวลานาน เขานั้นคิดถึงรสชาติอาหารจะแย่ เมื่อเขาได้เห็นอาหารน่าอร่อยวางอยู่เต็มโต๊ะ เขาก็ไม่อาจต้านทานได้อีกต่อไป

ดูจากสถานะการณ์ปัจจุบัน ดูเหมือนเขาจะปลอดภัยดี หากเขาถูกจับตัวมา ศัตรูคงไม่ใช้ยาชั้นดีและเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้เขาขนาดนี้

ด้วยความเร็วอันไม่น่าเชื่อ เซียวเฉินจัดการอาหารบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว แม้ว่ามันจะไม่ใช่อาหารชั้นเลิศ เขาก็รู้สึกว่ามันอร่อยไม่เลว

“น้องเฉิน เจ้าฟื้นแล้ว” ประตูของกระท่อมเปิดออกเบาๆและเสียงคุ้นเคยฟังสบายหูก็ดังขึ้น

เมื่อเซียวเฉินผู้ที่ปากเต็มไปด้วยอาหารท่าทางไม่น่าดูจู่ๆก็เห็นเซียวอวี่หลันอยู่ด้านหลังประตู ทันใดนั้นเขาก็สะดุ้งสำลักอาหาร

หลังจากนั้นพักหนึ่ง เซียวเฉินก็คืนสติ “พี่อวี่หลัน ทำไม..ถึงมาอยู่ที่นี่?” เขาถามไปตรงๆ

เมื่อเห็นท่าทางของเซียวเฉิน เซียวอวี่หลันหัวเราะคิกคักใบหน้ามองดูราวกับดอกไม้ที่กำลังผลิบาน นางถามขึ้นด้วยเสียงนุ่มนวล “น้องเฉินเจ้ากินให้เสร็จก่อนเถอะ ถ้ายังไม่พอข้าจะทำมาให้เจ้าเพิ่ม”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซียวเฉินก็เข้าใจ เป็นพี่อวี่หลันนั้นเองที่ช่วยเขาไว้ เช็ดปากด้วยแขนของเขา เขาไม่ได้จับตะเกียบลงมือกินต่อ หลังจากที่ถูกเซียวอวี่หลันเห็นท่าทางอันอดอยากของเขา เขาก็ไม่มีใจจะกินต่อแล้ว

ทันใดนั้น เขาก็นึกได้ว่าพื้นที่ลับของเขานั้นเซียวอวี่หลันเป็นคนทำแผลให้ เขามองไปที่เซียวอวี่หลัน เขาทำเป็นถามอย่างไม่แยแส “พี่อวี่หลัน เจ้าได้ช่วยทำแผลให้กับข้า?”

เซียวอวี่หลันพยักหน้าของนาง นางไม่รู้สึกมีอะไรผิดสังเกต “ข้ามุ่งหน้ากลับลงมาจากภูเขาพอดีในวันนั้นเมื่อข้าได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น ข้าก็รีบตรงมาทันทีเห็นเจ้านอนอยู่กับพื้นอาการสาหัส”

ทันใดนั้นเซียวอวี่หลันก็เขินอาย ดูเหมือนว่านางจะนึกอะไรขึ้นได้ “ทักษะการบ่มเพาะพลังของข้า..แบบไม่ต้องไปลงลึกพวกรายละเอียดเล็กน้อย ข้าจำเป็นต้องเข้าถึงกันเจ้าทั้งทางกายและใจ”

เข้าถึงกันทั้งทางกายและใจ พี่อวี่หลันช่างใจกล้า เซียวเฉินยิ้มในใจ “จริงสิ พี่อวี่หลันข้าหมดสติไปนานเท่าไหร”

“สองวันเต็ม เมื่อวานผู้อาวุโสสามก็มาดูเจ้าด้วย เห็นว่าเส้นลมปราณของเจ้านั้นเสียหายหนัก เขาได้ให้เม็ดยาเมฆาหยกกับเจ้า มิเช่นนั้นเส้นลมปราณของเจ้าคงไม่ฟื้นตัวเร็วขนาดนี้ ” เซียวอวี่หลันพูดอย่างรวดเร็ว บอกถึงรายละเอียดตอนที่ผู้อาวุโสสามมาเยือนด้วย

ผู้อาวุโสสาม – เซียวเทียน เรื่องของภูเขาจูเชี่ยวนั้นเขาเป็นคนจัดการทั้งหมด ด้วยความปั่นป่วนเป็นวงกว้างในป่านี้ ไม่น่าแปลกที่เขาจะรู้สึกตัว

สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจนั้นคือการที่เซียวเทียนใช้เม็ดยาเมฆาหยกเพื่อรักษาเขา เม็ดยาเมฆาหยกนี้เป็นเม็ดยาระดับ 4 ภายในมณฑลฉี่จื๊อ ไม่มีทางที่จะหาตัวนักปรุงยาที่จะสกัดมันออกมาได้ ด้วยเม็ดยาที่ช่วยชีวิตคนได้ในกรณีฉุกเฉินเช่นนี้มีราคาถึงหนึ่งพันทอง

เมื่อเขามีโอกาส เขาจะตอบแทนบุญคุณนี้แน่นอน ครั้งต่อไปที่เขาสกัดเม็ดยา เขาจะมอบให้กับเขาเป็นการตอบแทน เซียวเฉินมีความมุงมั่นในใจ

เซียวอวี่หลันหยิบจี้หยกสีแดงออกมาถามขึ้นด้วยความสงสัย “น้องเฉิน เจ้าไปได้หยกวิญญาณสีเลือดนี่มาจากไหน?”

หยกวิญญาณสีเลือด นั้นคือชื่อของจี้หยกสีแดงอันนี้ เซียวเฉินตัดสินใจบอกเซียวอวี่หลันเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น ใช้ความจริงไปเพียงครึ่งเดียว

นอกจากทักษะต่อสู้ระดับสวรรค์ – ฟันสยบมังกร เขาก็ไม่ได้ปิดบังอะไรอีก เขาบอกว่าเขาได้ใช้พลังปราณไปมากก่อนที่จะจบชีวิตถังเหอด้วยอาการสาหัส เจ้าจี้หยกสีแดงนี้ก็หล่นมาจากตัวของเขา

เมื่อเซียวอวี่หลันได้ยินว่าจี้หยกสีแดงนี้ได้รับมาจากถังเหอ สีหน้าของนางเปลี่ยนเล็กน้อย “ในตอนแรกข้าคิดว่าจี้หยกสีแดงอันนี้เป็นของเจ้า ข้าเลยไม่ได้แจ้งให้ผู้อาวุโสสามทราบ ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะรุนแรงกว่าที่ข้าคิดไว้ พวกเราต้องแจ้งผู้อาวุโสสามโดยทันที”

มันก็แค่จี้หยกสีแดง สำคัญอะไรนัก?

ความสงสัยของเซียวเฉินเพิ่มพูนขึ้นและเมื่อเขานึกถึงเสียงที่ได้ยินจากสัมผัสวิญญาณ เขาจำได้ว่าถังเหอพูดถึงแผนหรือภารกิจอะไรสักอย่าง เขาจึงถามขึ้น “เจ้าหยกวิญญาณสีเลือดนี้… มันเอาไว้ใช้ทำอะไร?”

เซียวอวี่หลันไม่ได้ปิดบังอะไรและเล่าถึงการใช้งานหยกวิญญาณสีเลือดแก่เซียวเฉินไปตามตรง

เมื่อพูดถึงหยกวิญญาณสีเลือด ก็ต้องเริ่มจากการฝึกสัตว์อสูร ด้วยสัตว์อสูรวิญญาณที่แข็งแกร่ง มันสามารถสร้างความได้เปรียบในการต่อสู้ ดังนั้นนักบ่มเพาะพลังในทวีปเทียนวู่ไม่เคยย่อท้อต่อการฝึกสัตว์อสูรวิญญาณ

วิธีที่ง่ายที่สุดที่นักบ่มเพาะพลังมักใช้ฝึกสัตว์อสูรวิญญาณก็เหมือนกับการฝึกสัตว์ทั่วไป พวกเขานำสัตว์อสูนวิญญาณอายุน้อยมาและเลี้ยงดูมันตั้งแต่เด็ก เมื่อเลี้ยงดูและฝึกฝนมันมาพวกเขาก็จะเกิดความสัมพนธ์กับสัตว์อสูรวิญญาณตัวนั้น การฝึกก็สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม สัตว์อสูรวิญญาณนั้นต่างจากสัตว์ทั่วไป โดยทั่วไปมันนั้นมีสติปัญญาสูง การใช้วิธีนี้ไม่สามารถฝึกสัตว์อสูรวิญญาณที่ระดับสูงกว่าระดับ 4 ได้

ไม่มีทางรับประกันได้ว่าสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 4 ขึ้นไปนั้นจะเชื่อฟัง เป็นเรื่องที่เห็นได้ทั่วไปที่สัตว์อสูรวิญญาณนั้นหันกลับมาทำร้ายเจ้านายของมันระหว่างการต่อสู้

นอกจากนี้ วิธีนี้นั้นค่อนข้างจะใช้เวลานาน อย่างเร็วก็อาจจะเป็นไม่กี่ปีอย่างนานก็อาจจะเป็นสิบปี นอกจากนี้ หนึ่งสัตว์อสูรวิญญาณจะรับใช้เจ้านายเพียงหนึ่ง ไม่มีทางที่จะสามารถส่งมอบมันให้แก่คนอื่นได้

เรื่องเป็นเช่นนี้จนกระทั่งมีผู้อัจฉริยะปรากฎตัวขึ้นและเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เขาเป็นผู้ก่อตั้งนิกายเกาทัณฑ์อสูร – เหมาเหย่อาน

เมื่อตอนที่เหมาเหย่อานเดินทางไปทั่วทวีปเขาได้พบกับหยกลึกลับ หลังจากที่ขัดเกลามัน มันสามารถกักเก็บสัตว์อสูรวิญญาณไว้ภายใน ทำให้ผู้ถูกครองหยกนั้นสามารถทำสัญญาเลือด

หลังจากนั้น ก็มีการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับมันและพวกเขาได้ไขความลับอื่นๆเกี่ยวกับมัน คิดค้นทุกวิธีเพื่อที่จะใช้เศษหยกเล็กๆนี้ควบคุมสัตว์อสูรวิญญาณ นอกจากนั้นมันยังไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับระดับของสัตว์อสูรวิญญาณอีกด้วย

ลองจินตนาการถึงคนที่สามารถควบคุมสัตว์อสูรวิญญาณนับสิบ คิดถึงพลังอันน่ากลัวในสนามรบ ดังนั้นเมื่อเขาก่อตั้งนิกายเกาทัณฑ์อสูร เขาได้กลายเป็นอำนาจสูงสุดแห่งอาณาจักรต้าซรี่

ณ ช่วงเวลานี้ทุกคนล้วนรู้ถึงความลับของหยกวิญญาณสีเลือด อย่างไรก็ตามภายในทวีปเทียนวู่ มีเพียงอาณาจักรต้าซรี่เท่านั้นที่ผลิตหยกวิญญาณสีเลือดออกมา นอกจากนั้นเกือบทั้งหมดยังถูกควบคุมโดยนิกายเกาทัณฑ์อสูร มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่อยู่ในมือคนอื่น

อาจจะพูดได้ว่าชิ้นส่วนหยกวิญญาณสีเลือดที่อยู่ในมือของเซียวเฉินนั้นเป็นหนึ่งในน้อยชิ้นที่พบในอาณาจักรต้าฉิน มูลค่าของมันมากกว่าศิลาแสงจันทร์หลายเท่าตัว

“พี่อวี่หลันจะบอกว่าพวกคนตระกูลถังตั้งใจจะใช้หยกวิญญาณสีเลือดนี้ในการฝึกสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 4?” เซียวเฉินทำความเข้าใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม นี้มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่จริงๆ

เซียวอวี่หลันสามารถเห็นได้ถึงความสงสัยในใจของเซียวเฉิน “เรื่องนี้มันไม่ง่ายอย่างที่เจ้าคิด ตามข้อตกลงที่กำหนดขึ้นโดยสามตระกูลใหญ่ ตระกูลอื่นที่ไม่ใช่ตระกูลเซียวสามารถนำสมุนไพรและสัตว์อสูรวิญญาณออกไปได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น”

“อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนั้นระบุไว้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นหรือตายสัตว์วิญญาณอสูรที่ระดับ 4 ขึ้นไปนั้นไม่สามารถนำออกไปจากภูเขาชีเจี่ยวได้ นี่เป็นขีดเส้นตายของตระกูลเซียวของเราเพราะนั้นเป็นที่มาของรายได้สำคัญของตระกูล ตอนนี้ตระกูลถังละเมิดข้อตกลง เจตนาของเขานั้นค่อนข้างชัดเจน”

เมื่อละเมิดข้อตกลงนี้นั้นหมายความว่าตระกูลถังไม่เห็นหัวตระกูลเซียว คิดว่าพวกเขาจะทำอะไรก็ได้ นี้สิเป็นเรื่องค่อนข้างร้ายแรง

เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นและไม่จัดการมันให้ดี เมื่อเรื่องนี้กระจายออกไปก็จะเกิดข้อกังขาเกี่ยวกับอำนาจของตระกูลเซียวที่มีอยู่เหนือภูเขาชีเจี่ยว อย่างไรก็ตามทำไมตระกูลถังนั้นถึงได้กล้าลงมือเช่นนี้? พลังอำนาจของพวกเขาก็ต่ำกว่าตระกูลเซียวไปไกล นอกจากนั้น พวกเขาเคยเก็บตัวเงียบมาตลอด อาจจะมีบางคนเข้ามาหนุนหลังพวกมันถึงได้กล้าทำเช่นนี้

ในจังหวะนี้ มีกระแสพลังอันตรายเข้ามาจากระยะไกล เซียวเฉินรีบส่งสัมผัสวิญญาณของเขาออกไป เขามีความมั่นใจอย่างมากในสัมผัสนี้ของเขา

หลังจากที่ปลดปล่อยสัมผัสวิญญาณของเขา เซียวเฉินไม่คาดคิดว่าสัมผัสวิญญาณของเขานั้นในตอนนี้สามารถส่งไปไกลได้ถึง 800 เมตร อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะมีเวลาได้ชื่นชม เซียวเฉินขมวดคิ้ว

ผ่านทางสัมผัสวิญญาณของเขา เขาสามารถเห็นกลุ่มคนในชุดคลุมกำลังแบกหน้าไม้ขนาดใหญ่เร่งฝีเท้าผ่านเข้ามา คนกลุ่มนี้ล้วนอยู่ในระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธขั้นสูงและคนที่กำลังพวกเขามาอยู่ในระดับขอบเขตปรมจารย์

ด้วยความเร็วของพวกเขา พวกเขาน่าจะมาถึงในเวลาไม่ถึงนาที นอกจากนั้นหน้าไม้ในมือของพวกเขายังไม่ใช่ของคุณภาพธรรมดา มันเหมือนกับว่าเป็นชิ้นงานจากหมู่บ้านหุบเขาทักษะสวรรค์

เรียกคืนสัมผัสวิญญาณของเขา เซียวเฉินรีบพูดขึ้น “มีกลุ่มคนระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธกำลังตรงมาหาพวกเราจากทางตะวันออก พวกมันน่าจะมาถึงในอีกไม่ถึงนาที”

“เช่นนั้น รีบไปกันเถอะ” สีหน้าของเซียวอวี่หลันเปลี่ยน นางไม่ถามว่าเซียวเฉินนั้นรับรู้ได้อย่างไรและเพียงแค่คว้ามือของเขาและพุ่งออกหน้าต่างไป

ในจังหวะที่ทั้งสองกระโดดออกมา เกิดเสียงดังขึ้นในอากาศมีลูกศรนับไม่ถ้วนถูกยิงพุ่งเข้าใส่กระท่อมไม้ ลูกศรช่างทรงพลังเพียงไม่นานก็เกิดเป็นรูนับไม่ถ้วนปรากฎขึ้นบนกระท่อมไม้

อย่างไรก็ตามชายชุดดำนั้นก็ยังไม่หยุดมือ เพียงชั่วครู่กระท่อมไม้ได้พังทลายลงอย่างรวดเร็ว เซียวอวี่หลันหันกลับไปมองที่กระท่อมไม้ที่นางใช้อยู่อาศัยมาเป็นเวลาหลายปีและสีหน้าของนางปรากฎเป็นเย็นชา

Immortal and Martial Dual Cultivation

Immortal and Martial Dual Cultivation

เซี่ยวเฉินได้ซื้อ ‘ตำราบ่มเพาะพลัง’ มาจากเถาเป่าพร้อมกับเม็ดยาเซียนที่จะทำให้เซี่ยวเฉินเข้าสู่โลกแห่งเซียนได้ ถึงกระนั้นเขาได้เขาได้ฝึกฝนตามตำรามากว่าสามปีแต่กลับไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะกินเม็ดยาเซียนเข้าไปและมันทำให้เขาข้ามภพไปเกิดในร่างของเด็กหนุ่มที่มีชื่อเดียวกับเขา ไปสู่โลกทวีปเทียนหวู่ไปสู่โลกที่ถูกปกครองด้วยศิลปะการต่อสู้ไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ของเขา ผู้แต่ง : 月如火 Reach the peak of immortal cultivation and become able to run amok without fear! Use the power of martial arts to rule the world and defeat heroes! The weather changes at the whim and wave of a palm. He who cultivates both immortal techniques and martial arts, who could possibly defeat him! Xiao Chen is a shut-in who purchased a ‘Compendium of Cultivation’. Soon after, he crossed over into the Tianwu World, a world ruled by martial arts. He then refined pills, drew talismans, practiced formations, crafted weapons and cultivated the Azure Dragon Martial Soul that had not been seen for thousands of years. This is a story that tells of an exciting and magnificent legend!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset