ตอนที่ 75 ทักษะกระบี่อัสนีฉับพลัน
เมื่อเผชิญหน้ากับการจู่โจมเฉียบพลันของเฟิงเฟยเสวี่ยเซียวเฉินรู้สึกสับสนในใจ อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้แตกตื่นจนเกินไป การจู่โจมของเฟิงเฟยเสวี่ยนั้นเฉียบคมแต่ไม่มีเจตนาฆ่าแม้แต่น้อย
“อัสนีฟาดฟัน!”
เผชิญหน้ากับดอกบัวสีแดงเพลิงตรงหน้าของเขาเพียงนึกคิดกระบี่เงาจันทร์ก็ปรากฎขึ้นในมือของเขาปลดปล่อยสายฟ้าฟาดออกมา กระบี่สีดำรวดเร็วปานสายฟ้าสับลงไปที่ดอกบัวสีแดง
“ปัง!”
ดอกบัวแตกกระจายกลายเป็นประกายแสงสีแดงนับไม่ถ้วน ภายใต้แสงอาทิตย์มันมองดูราวกับหมู่ผีเสื้อกำลังโบยบินไปรอบๆ
เมื่อเห็นเซียวเฉินใช้สายฟ้าฟาดออกมาประกายระยิบระยับปรากฎขึ้นในดวงตาของเฟิงเฟยเสวี่ย หลังจากนั้นด้วยการสะบัดมือของนางพัดพับเล่มนั้นก็กลายเป็นกระบี่ยาวเรียว
เฟิงเฟยเสวี่ยคว้ากระบี่ยาวมาไว้ในมือและเคลื่อนเท้าเล็กน้อยตั้งท่าขึ้นมา ทันใดนั้นกระแสพลังของนางก็เปลี่ยนและกลมกลืนไปกับกระบี่
เฟิงเฟยเสวี่ยตะโกนออกมาเบาๆ “รับมือ!”
แสงกระบี่ราวกับโชว์แสงสีมันทั้งรวดเร็วและสง่างาม ในพริบตาแสงกระบี่ก็มาถึงตัวของเซียวเฉินที่กำลังยืนอยู่ตกตะลึง ไม่ว่าจะความเร็วหรือพลังภายในกระบี่เล่มนี้มันอยู่จุดสูงสุดของระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธ
แม้ว่าเฟิงเฟยเสวี่ยจะไม่ได้มีกระแสพลังระดับเดียวกับอ๋าวเจียวนางก็มีลีลาท่าทางงดงามไม่แพ้กัน เซียวเฉินไม่กล้าที่จะประมาทและถอยหนีอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามกระบี่นี่ก็รวดเร็วเกินไป แม้ว่าเซียวเฉินจะถอยออกมาไกลสายลมคมที่ออกมาจากกระบี่แสงก็ปาดหน้าผากของเซียวเฉินทิ้งรอยแผลเล็กๆเอาไว้เลือดสดไหลออกมา
ช่างเป็นกระบี่ที่รวดเร็วอะไรเยี่ยงนี้เซียวเฉินคิดในใจขณะสูดหายใจเข้าปอด อย่างไรก็ตามกระบี่ที่สองของเฟิงเฟยเสวี่ยก็ตามเข้ามาเขาไม่มีเวลาแม้แต่มาถอนหายใจ
“ฟาดฟันประกายแสง!”
เฟิงเฟยเสวี่ยบิดมือมือเบาๆและหักปลายกระบี่ลง ประกายแสงสีฟ้าปรากฎออกมาเป็นประกายที่ออกมาจากกระบี่แสงบริสุทธิ์
ทุกที่ที่ประกายแสงพาดผ่านไปในสวนแห่งนี้หมู่ดอกไม้แตกกลีบกระจายไปทุกที่บินวนไปโดยปราศจากลมหมุน
ด้วยการประดับประดาด้วยมวลดอกไม้นับไม่ถ้วนเฟิงเฟยเสวี่ยที่แสนสง่างามตอนนี้ราวกับนางฟ้าที่เหินลงมาจากวังสวรรค์ทั้งบริสุทธิ์และไร้มลทิน
อย่างไรก็ตามเซียวเฉินไม่ได้มีเวลามาชื่นชมเขาต้องรีบถอยหนี มุมของการโจมตีนี้ปิดทางโจมตีสวนของเขาทั้งหมดทำให้เขาไม่อาจจะทำอะไรได้นอกจากล่าถอย
“สายฟ้าผ่าสวรรค์!”
เฟิงเฟยเสวี่ยตะโกนออกมาเบาๆและเท้าของนางผลักลงพื้น นางกลายเป็นแสงสายฟ้าพุ่งตรงเข้ามาหาเซียวเฉินพร้อมกับกระบี่ของนางที่ชี้ไปที่หัวของเขา กระแสพลังของกระบี่กดดันเข้ามาพร้อมกับพุ่งขึ้นหน้าราวกับจะทะลวงขึ้นสวรรค์มองดูช่างสง่างาม
เซียวเฉินอุทานในใจช่างเป็นกระแสพลังที่หนักหน่วงอะไรเช่นนี้ กระบี่ที่พลุ่งหล่านนี้ไม่ได้น่าดูชมสักนิดมันพุ่งตรงมาที่หัวของเซียวเฉินบังคับให้เขาต้องปะทะกับมัน อย่างไรก็ตามเซียวเฉินถอยหลับมาแล้วสองก้าวและกระแสพลังของเขาก็ลดลงอย่างมากทำให้เขาต้องตกเป็นรอง
นอกจากนั้นกระบี่เล่มนี้เกือบจะเป็นที่สุดของกระบี่แล้ว เซียวเฉินมองหาไร้ซึ่งจุดอ่อนและไม่รู้จะจัดการกับมันเช่นไรไม่ทราบว่าจะตั้งรับกระบี่ที่พลุ่งพล่านนี้อย่างไร
ถอยหนีเป็นสิ่งเดียวที่เขาทำได้
อย่างไรก็ตามเฟิงเฟยเสวี่ยยังคงพุ่งตรงขึ้นมา หากเขายังคงถอยหลังกลับไปเรื่อยๆและร่างของเขาลอยขึ้นไปในอากาศแม้แต่เพียงเล็กน้อยเขาจะต้องโดนกระบี่ของนางเป็นแน่
เซียวเฉินรู้สึกบูดบึ้งอย่างไม่น่าเชื่อ เขาทำได้เพียงถอยหนีอย่างน่าสมเพชหลบกระบี่ไปมา นี่เป็นวิธีรับมือตรงๆและเป็นวิธีที่ได้ผลที่สุดแล้วแม้ว่ามันจะเป็นวิธีที่ทำให้เขาดูน่าสลด
“อัสนีฟาดฟัน!”
เฟิงเฟยเสวี่ยบิดร่างอันงดงามของนางในอากศและลอยสูงขึ้นไปบนฟ้า ทันใดนั้นเสียงฟ้าร้องดังมาจากด้านหลังของนางและนางก็ใช้โอกาสนี้พุ่งตรงลงมาพร้อมกับพลังสายฟ้าและสายลมของนาง
ในจังหวะนี้เซียวเฉินที่กำลังหมอบคลานอยู่กับพื้นไม่มีเวลาพอที่จะลุกขึ้น มองดูเฟิงเฟยเสวี่ยส่งกระบี่ฟาดฟันใส่เขาด้วยพลังแห่งวายุและอัสนีเซียวเฉินรู้สึกหวาดกลัว
นี่คือสายฟ้าฟาดฟันที่แท้จริง? เซียวเฉินคิดในใจ ตั้งแต่ที่กระบี่ถูกดึงออกมาจากฝักกระแสพลังของมันก็เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้งในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามต้องถูกบังคับให้ถอยหนี
เมื่อกระแสพลังของฝ่ายตรงข้ามถูกกดลงถึงขีดสุดกระแสพลังมันก็จะถูกยกขึ้นสูงสุดเช่นกัน การโจมตีแบบเอาตายในครั้งนี้เต็มไปด้วยสายฟ้าที่พลุ่งพล่านไม่อาจป้องกันได้
ทันใดนั้นเซียวเฉินไม่เสียเวลาไปคิดเยอะเขาไม่มีทางที่จะหลบกระบี่นี้ หากเขาถอยหนีเขาจะถูกสับออกเป็นสองท่อน เขาสามารถทำได้เพียงตั้งรับมัน เมื่อกระแสพลังของเขาอ่อนแอถึงขีดสุดเขาจำต้องรับกระบี่ที่กระแสพลังเร่งจนถึงขีดสุด
ช่างเป็นทักษะกระบี่ที่ยอดเยี่ยม! แม้จะอยู่ในสถานการณ์เร่งด่วนเซียวเฉินก็อดชมมันในใจไม่ได้
“ฟู่ว!”
เซียวเฉินยืนอย่างกล้าหาญและยกกระบี่เงาจันทร์ในมือขึ้น แสงสายฟ้าสาดส่องไปทุกที่และแก่นกลางปีศาจระดับ 6 ปลดปล่อยพลังของมันออกมาไม่มีกัก เขาจำเป็นต้องเร่งกระแสพลังของเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในเวลาสั้นๆนี้
“ปัง!”
กระบี่ของเฟิงเฟยเสวี่ยที่เต็มไปด้วยพลังของสายฟ้าฟาดฟันสับลงอย่างไร้ปราณีไปที่กระบี่เงาจันทร์ของเซียวเฉิน แสงสายฟ้าสุกสกาวผลักคมกระบี่ของทั้งสองออกจากกัน
“แคร้ง!”
พลังมหาศาลไหลจากคมกระบี่เคลื่อนไปที่แขนทั้งสองข้างของพวกเขาก่อนที่จะไหลลงไปที่ขา เซียวเฉินโซเซและถอยกลับออกมาสองก้าว
“อัสนีฟาดฟัน ผ่าพันธนาการ สอง!”
เฟิงเฟยเสวี่ยลงจอดลงบนพื้นและตะโกนออกมาเบาๆ มือทั้งสองข้างจับกระบี่พร้อมกับตรงขึ้นหน้ามาฟันเป็นแนวนอนไปที่เซียวเฉิน กระบี่เล่มนี้กระแสพลังถูกเร่งจนถึงขีดสุดและยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ปัง!”
ทันใดนั้นการป้องกันของเซียวเฉินไม่อาจทนรับกระบี่นี้ได้และถูกกระแทกลอยไปในอากาศ
ร่างของเซียวเฉินลอยถอยหลังไปเรื่อยๆในขณะที่เขาพยายามอย่างที่สุดเพื่อตั้งหลักลงบนพื้น
โลหิตและพลังฉีของเขาพลุ่งพล่านและอวัยวะภายในของเขาสั่นสะเทือน อย่างไรก็ตามเซียวเฉินก็รู้ได้ว่ากระบี่ที่จู่โจมเข้ามานี้ไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดของเฟิงเฟยเสวี่ย หากเป็นเช่นนั้นเขาคงไม่อาจตั้งรับการโจมตีนั้นได้
เฟิงเฟยเสวี่ยยืนตัวตรงถือกระบี่ไว้ในมือ นางพูดขึ้นด้วยท่าทางขอโทษ “นายน้อยเซียวข้าจำเป็นต้องขอล่วงเกิน มีบันทึกฉบับสมบูรณ์ของทักษะอัสนีฉับพลันนี่ที่สำนักฉีสวรรค์”
“ตราบเท่าที่เจ้าตัดสินใจจะไปที่สำนักฉีสวรรค์ ที่แห่งนั้นมีทักษะยอดเยี่ยมมากมาย เจ้าจะได้รับประโยชน์มหาศาล”
เซียวเฉินยิ้มขมๆกับตัวเอง หลังจากที่ประมือกันมาเป็นเวลานานนางทำเพียงเพื่อโน้มน้าวเขาให้ไปเข้าเรียนที่สำนักฉินสวรรค์ เฟิงเฟยเสวี่ยเจ้าช่างน่าสนใจ
หลังจากที่ฟังเฟิงเฟยเสวี่ยอธิบายความโกรธในใจของเซียวเฉินก็จางหายไป
เซียวเฉินรู้ว่านางยั้งมือไว้ในการโจมตีครั้งแรก นอกจากนั้นยังไม่ได้กลิ่นเจตนาฆ่าออกมาจากตัวนางตลอดการต่อสู้ พูดได้เพียงว่านางจริงใจอย่างแท้จริง วิธีการซื่อตรงเช่นนี้ก็ยังเป็นแบบที่เซียวเฉินชอบ ช่างน่าเสียดายที่เซียวเฉินไม่อาจจะไปได้จริงๆ
เซียวเฉินลุกขึ้น หลังจากที่ยืนได้เต็มเท้าทันใดนั้นเขาก็ชักกระบี่ออกมา เป็นท่วงท่าเดียวกับของเฟิงเฟยเสวี่ยเมื่อครู่ เฟิงเฟิยซู่เผยสีหน้าประหลาดใจเนื่องจากการเคลื่อนไหวนี่ไม่ช้าไปกว่าของนางเลย
ทิ้งกระบี่ในมือไปพัดพับปรากฎขึ้นในมือของนางอีกครั้ง ดอกบัวสีแดงเพลิงปรากฎขึ้นมาตรงเท้าของนาง ภายในการเวลาไม่นานมันก็กระจายไปหลายสิบเมตรรอบตัวนางทุกฝีเท้าที่นางก้าวผ่านก็จะมีดอกบัวสีแดงบานออกมารองรับ
“นายน้อยเฉิน…”
เฟิงเฟยเสวี่ยเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างหลังจากที่นางยืนตัวตรงแต่เซียวเฉินก็ไม่มอบโอกาสให้นางได้กล่าวให้จบ ทันใดนั้นเขาก็ใช้อัสนีหลบเลี่ยงมาปรากฎตัวที่เบื้องหน้าของนาง คว้าความได้เปรียบเขาใช้ฟาดฟันประกายแสงเกิดเป็นประกายแสงปรากฎขึ้นในอากาศ
เฟิงเฟยเสวี่ยนั้นต่างจากเซียวเฉินนางฝึกฝนทักษะกระบี่สายฟ้าฟาดมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วและเข้าใจถึงแก่นแท้ของทักษะกระบี่นี้ นางรู้ว่านางไม่อาจถอยหนีได้ เมื่อนางเริ่มหนีนางก็จะไม่อาจหยุดมันได้อีกต่อไปในที่สุดกระแสพลังของนางก็จะถูกกดต่ำลงจนถึงขีดสุด
นางหมุนตัวออกด้านข้างอย่างแผ่วเบาและส่งพัดพับในมือตรงไปเจอกับกระบี่เงาจันทร์ในมือของเซียวเฉิน
“บูม!”
อย่างไรก็ตามเฟิงเฟยเสวี่ยต้องตกตะลึงในพลังมหาศาลที่ออกมาจากคมกระบี่ นางคิดมาตลอดว่าเซียวเฉินนั้นเป็นเพียงระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดขั้นสูงสุด ดังนั้นนางจึงกดพลังปราณของนางให้อยู่ที่ระดับเชี่ยวชาญยุทธขั้นต้นเพราะเกรงว่าจะทำให้เซียวเฉินบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตามนางไม่ได้คาดคิดว่าความแข็งแกร่งของเซียวเฉินจะสูงกว่าระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธขั้นสูงทั่วไปเสียอีก เมื่อเหยียบลงบนดอกบัวสีแดงใต้เท้าของนางเฟิงเฟยเสวี่ยถอยกลับไปสองสามก้าว
“สายฟ้าผ่าสวรรค์!”
เซียวเฉินไม่ปล่อยให้นางได้ตั้งตัวและรีบตรงเข้าไปหาชี้ปลายกระบี่ตรงไปที่หัวของนาง ท่าทางน่าสมเพชของเซียวเฉินเมื่อครู่ไม่ได้อยู่ในหัวของเฟิงเฟยเสวี่ยอีกต่อไป
สิ่งที่ทำให้เซียวเฉินรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยคือแม้ว่าเฟิงเฟยเสวี่ยจะถอยหนีไปแต่นางท่าทางผ่อนคลายยิ่งกว่าเซียวเฉินเสียอีก พร้อมกับดอกบัวแดงที่ผลิบานอากาศโดยรอบเติมเต็มไปด้วยความสดใสร่าเริง เฟิงเฟยเสวี่ยถอยกลับไปสามก้าว
“อัสนีฟาดฟัน!”
เซียวเฉินตะโกนขึ้นกลางอากาศและเสียงฟ้าร้องดังขึ้นมาจากด้านหลังของเขา พลังวายุและอัสนีไหลไปตามท่วงท่าของเขา ท่วงท่าที่เซียวเฉินเคยใช้เป็นปกติแต่กลับออกมาไปท่าทางที่ต่างออกไป เซียวเฉินสามารถรู้สึกได้ถึงความแตกต่าง
ปลดปล่อย! เฟิงเฟยเสวี่ยตะโกนขึ้นมาเบาๆในใจของนาง ดอกบัวสีแดงเพลิงปรากฎขึ้นมาบนดวงตาคู่งามของนาง พัดพับที่ส่องแสงสลัวออกมากลายเป็นมืดมัวมองดูราวกับพัดธรรมดาและความสามารถของมันถูกปกปิดไว้
นางเหวี่ยงมันขึ้นไปเบาๆ รับกระบี่ของเซียวเฉินที่ดิ่งลงมาจากท้องฟ้า ไร้ซึ่งเสียงสั่นสะเทือนสวรรค์หรือคลื่นพลังฉีที่ควรปะทุออกมาจากการปะทะ มันเพียงรับกระบี่ของเซียวเฉินไว้อย่างนิ่มนวล
นางสลายกระแสพลังที่ถูกเร่งจนสูงถึงขีดสุดออกไป นี่มันเหมือนกับตอนที่กำลังจะถึงฉากสำคัญแต่กลับโดนสาดน้ำเย็นดับ
เซียวเฉินลงจอดลงบนพื้นรู้สึกหดหู่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เขาไม่แม้แต่จะมีโอกาสได้ต่อท่าสายอัสนีฟาดฟัน,ผ่าพันธนาการ,สอง รสชาติของการที่ถูกใครบางคนทุบพังลงมาเช่นนี้มันไม่อาจจะทานทนได้
ดอกบัวแดงในดวงตาของนางจางหายไปและเฟิงเฟยเสวี่ยก็ยิ้มขึ้นอย่างอ่อนโยน “เป็นเช่นไร? หลังจากที่เจ้าได้สัมผัสกับทักษะฉบับสมบูรณ์ด้วยตัวเอง มันไม่ใช่สิ่งที่ทักษะทั่วไปจะเอามาเปรียบได้ใช่หรือไม่? ที่สำนักฉินสวรรค์ยังมีทักษะต่อสู้เช่นนี้อีกมากมาย ด้วยพรสวรรค์ที่เจ้าแสดงออกมาที่นี่การฝึกฝนของเจ้าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด”
“นอกจากนั้นชุดทักษะอัสนีฉับพลันนี่ยังมีถึงผ่าพันธนาการสาม แม้ข้าจะยังไม่สามรถใช้มันได้ หลังจากที่เจ้าไปที่นั้นเจ้าจะต้องสำเร็จมันได้ภายในพริบตา”
เซียวเฉินฟื้นคืนความสงบและรู้สึกว่ามันน่าขบขัน แม่นางเฟิงเฟยเสวี่ยราวกับเป็นหมาป่าสาวที่กำลังพยายามล่อลวงเขา
ตามสัญชาญาณของเขาเขาแน่ใจว่าเฟิงเฟยเสวี่ยนั่นไม่ได้มีเจตนาร้ายแต่อย่างใด ช่างน่าเสียดายแม้ว่าระดับบ่มเพาะพลังของเฟิงเฟยเสวี่ยจะสูงแต่นางก็ยังไม่อาจได้ฟังเสียงของกระบี่
เซียวเฉินเดินไปที่ด้านข้างและเก็บกระบี่ที่เฟิงเฟยเสวี่ยทิ้งเอาไว้ “แม่นางเฟิงเจ้าสามารถฟังเสียงของมันได้หรือไม่?”
เฟิงเฟยเสวี่ยนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งสับสนเล็กน้อยและพูดขึ้น “เจ้าหมายถึงฟังเสียงของกระบี่และสื่อสารกับมัน? ข้าไม่อาจทำได้”
ความสามารถในการสร้างเสียงสะท้อนออกมาจากอาวุธไม่ได้เกี่ยวข้องกับระดับการบ่มเพาะพลังแต่ต้องอาศัยความเข้าใจหยั่งรู้ถึงมัน
ผู้อาวุโสหลายคนแห่งสำนักฉินสวรรค์ไม่อาจเข้าใจได้ถึงระดับนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกที่นางจะไม่สามารถได้ยินเสียงของกระบี่เพราะมันไม่ใช่อาวุธหลักของนาง
เซียวเฉินกุมมือคำนับขอบคุณ “ขอขอบคุณแม่นางเฟิงที่ชี้แนะอย่างจริงใจ แต่อย่างไรก็ตามข้าเซียวเฉินมองหาเพียงที่ที่ทำให้ข้าได้ยินถึงเสียงของกระบี่ ข้ามีแผนของข้าอยู่ในใจแล้ว ข้าขอน้อมรับไว้ได้เพียงความหวังดีเท่านั้น”
เซียวเฉินหันหน้าและเดินจากไปหลังจากพูดจบ เฟิงเฟยเสวี่ยหน้ามุ่ยเล็กน้อยมองดูแผ่นหลังของเขาที่เดินจากไป คิดในใจหากเขาไม่ได้ไปที่เมืองหลวงเช่นนั้นมันก็กลายเป็นเรื่องยุ่งยากแล้ว มันไม่อาจที่จะรับประกันความปลอดภัยของเขาได้