บทที่ 100 – มอบอิสระภาพ (7)
สิ่งแรกที่ฉันคิดเลยก็คือ ‘ว้าวแม้ว่าฉันเคยกินทูน่ามาก่อน แต่ว่านี่เป็ฯครั้งแรกเลยที่ถูกทูน่ากิน’
“เดี๋ยวก่อนนะ นี้มันไม่ใข่เวลามาตลกสิ…!”
มันสกปรก อึดอัด และน่าระคายเคือง ความดันภายในของทูน่ามันไม่ใช่เรื่องตลกเลย นี้มันอะไรกัน? เสื้อของฉันกำลังถูกละลายหรอ? กรด!
“พระเจ้า!”
ปลาทูน่าละลายดูเหมือนจะดำกลับลงไปในน้ำหลังจากที่กินฉันไปแล้ว น้ำมันได้เริ่มที่จะไหลมาล้อมรอบฉัน แม้ว่ามันจะสร้างความวุ่นวานขึ้น อย่างแรกเลยฉันได้คว้ามไปที่ผนังแต่ว่ามันลื่นจึงทำให้ฉันตกไป ราวกับว่าดูเหมือนว่าจะส่งฉันไปสู่กระเพาะกำแพงที่อยู่รอบๆฉันได้สั่นออกมา
“ริยู!”
[เข้าใจแล้ว!]
ภูติธาตุที่น่ารักของฉันได้ออกมาในทันทีที่ฉันร้องเรียกพวกเขา ฉันอยากจะขอบคุณพวกเธอจริงๆเลย
“ล้อมรอบฉันด้วยกำแพงน้ำแข็.ที่! ทำให้มันแข็งเป็นพิเศษด้วย!”
[โอเค!]
ริยูได้เริ่มใช้กำแพงน้ำแข็งในทันที ฉันได้เปิดใช้งานสร้อยข้อมือและสวมใส่เกราะอีกด้วย หลังจากใส่เกราะแล้วฉันก็รู้สึกเหมือนกับว่ามานาไหลออกไปเกือบหมด ในขณะที่มึนงงรักษาสมดุล ฉันก็ได้หยิบเอามานาโพชั่นออกมาจากช่องเก็บของและดื่มมันลงไป สถานที่แห่งนี้ดูดมันไป
ในตอนนี้ฉันต้องการที่จะมีพื้นที่พักหายใจได้บ้าง แม้อย่างนั้นกำแพงน้ำแข็งของริยูก็ได้ถูกละลายไปในขณะที่ถูกสร้างออกมา พื้นที่รอบๆตัวฉันได้ใหญ่ขึ้น ยังไงก็ตามทันใดนั้นร่างกายของทูน่าก็ได้สั่นอย่างรุนแรง มันเป็นไปตามที่คาดจากการที่ฉันอุดตันลำคอของมันเอาไว้
น้ำได้ไห้ไหลเข้ามาอย่างฉับพลัน ดูเหมือนว่ามันจะเปิดปากและกลืนน้ำเข้ามาภายในเพื่อที่จะให้ฉันไหลไปตามน้ำ! นี้มันฉลาดมากเลยแม้ว่าจะเป็นฉันก็อาจจะจมน้ำไปได้
ฉันได้พิจารณาที่จะใช้ย้อนกลับและกลับไปที่เกาหลี แต่ว่าฉันได้ตัดสินใจที่จะอดทน มันมีเหตุผลที่ฉันไม่สามารถจะยอมแพ้ได้ในที่แห่งนี้
“ริยู เธอสามารถป้องกันมันได้ใช่ไหม?”
[มันยาก ชินฉันไม่มีมานามากนัก]
เวน แม้ว่าฉันจะดื่มมานาโพชั่นที่แพงที่สุดไปก็ตาม แต่มันก็ยังคงเหลือน้อยอยู่อีกหรอ? ถ้าอย่างนั้นฉันก็ต้องถามไพก้า…หือ?
“….ไพก้า ไพก้า?”
[นายท่าน ท่านเป็นอะไรไหม!?]
[ไพก้าอยู่ข้างนอก ที่นี่มีเพียงแค่เราสองคน]
“โอ้…”
ใช่แล้ว ฉันได้ยกเลิกสปิริตออร่า! จากนั้นทูน่าก็กินฉันไปจนเกือบจะเหมือนว่ามันรู้เลย ฉันได้ยกเลิกการอัญเชิญไพก้าและเรียกเธอกลับมาอีกครั้ง เมื่อเห็นน้ำที่เอ่อร้นขึ้นมาด้วยความสิ้นหวัง ฉันได้หยิบหอกสีชาดขึ้นมา กำแพงน้ำแข็งของริยูกำลังจะแตกและพังลงไป ช่วยทนไว้อีกนิดนะ!
“ไพก้าเข้ามาในหอกของฉัน”
[โอเค นายท่าน!]
พลังสายฟ้าได้เริ่มปกคลุมที่หอกของฉัน แม้ว่าฉันจะต้องการมองดูความน่ามหัศจรรย์นี้แต่ว่าฉันก็ไม่มีเวลาอีกแล้ว น้ำมันได้เริ่มไหลเข้ามา
“ฟู่….ฮ่า!”
[ก๊าซซซซซ!]
ฉันได้แทงหอกของฉันไปที่พื้นโดยที่ไม่สนใจเสียงที่เจ็บปวดของทูน่าฉันได้แทงหอกลึกลงไปอีก จากนั้นมืออีกข้างฉันก็ใช้ดันด้านบนเอาไว้และใช้มืออีกข้างตั้งหอกตรง และปล่อยให้เพดานด้านบนลงมากระแทกกับปลายหอก
[ก๊าซซซซซซซซซ!]
ทูน่าได้ร้องออกมาดังสนั่นพร้อมกับเลือดที่ไหลออกมาของมันที่พุ่งเข้าใส่ฉัน แม้ว่าความร้อนจากชุดเพราะของฉันจะทำให้เลือดระเหยออกไปแทบจะในทันที แต่ปัญหาหลักคือการที่ทูน่าเริ่มเคลื่อนไหวรุนแรงมากขึ้น ราวกับว่ามันได้หมุนพลิกตัวไปมาหลายครั้งและทำให้เกิดการสั่นสะเทือน ฉันได้ถือหอกที่ตรึงระหว่างลำคอทั้งสองข้างของมันเอาไว้
[ชินฉันไม่สามารถจะป้องกันได้อีกแล้ว!]
“ไม่เป็นไรริยู! เธอกลับมาได้แล้ว ฉันจะเลือกเธออีกทีหลังจากนี้”
[ชินต้องรักฉันมากๆนะ!]
“ใช่แล้ว”
ในระหว่างกางคันที่ฉันได้เรียกหาไพก้า มันดูเหมือนจะทำให้ริยูน้อยใจ เมื่อเห็นแบบนี้ฉันก็ได้คุบกับเธอก่อนเธอจะไปมันทำให้ฉันอดที่จะยิ้มไม่ได้ ไม่สิ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาแบบนั้น
“ฟู่…ระเบิดสายฟ้าทมิฬ!”
ทักษะนี้มันเป็นทักษะที่ได้ช่วยฉันเอาไว้หลายครั้ง แต่ยังไงก็ตามฉันก็รู้สึกกระวนกระวายและรู้สึกละอายทุกๆครั้งที่ฉันใช้มัน เมื่อการระเบิดเกิดขึ้นฉันก็ได้หลับตาลงและโฟกัสไปที่หอก ฉันรู้สึกได้เลยจากร่างกายของมันว่ามันโกรธอย่างรุนแรง
[ก๊าซซซซซ!]
มันได้กรีดร้องออกมาอย่างน่าสยดสยองจนเกือบจะเหมือนมนุษย์ เมื่อเกิดการสั่นสะเทือนลำคอของมันก็ได้บีบมาเรื่อยๆ ในท้ายที่สุดน้ำได้พัดกวาดฉัน แต่ว่าฉันก็ได้ปิดปากและยึดติดกับที่ไว้
[ชิน ชิน! นายยังมีชีวิตอยู่มั๊ย? นายเป็นอะไรไหม? โอ้ ได้โปรด!]
โทษนะ ตอนนี้ฉันอยู่ในน้ำดังนั้นฉันก็เลยตอบเธอไม่ได้! ยังไงก็ตามดูเหมือนว่าฮวาหยาจะเข้าใจผิดในขณะที่พูดขึ้นอีก
[ชิน ขอร้องล่ะชิน! นายบอกว่านายจะสามารถเอาตัวรอดได้ในทุกๆสถานการณ์นี่! ฉันจะไม่ให้อภัยนายนะถ้านายตายแบบนี้!]
ระเบิดสายฟ้าทมิฬได้หมดลงไปแล้ว ถึงแม้ว่าฉันจะต้องการที่จะฆ่ามันให้ตายไปเลย แต่มันก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มันถูกเผาจากภายในจนเป็นสีดำ แต่ว่ามันก็ยังคงขยับตัวอยู่ ฟู่ หนังเหนียวอะไรแบบนี้! ถ้ามันเป็นเมื่อหนึ่งเดือนก่อน ฉันจะไม่มีทางเลือกอื่นได้แต่เรียกเพรูต้าออกมาช่วยแน่ๆหรือไม่ก็ใช้ทักษะย้อนกลับหนีไปที่เกาหลี
อย่างไรก็ตามในตอนนี้ฉันยังมีทักษะอื่นๆที่ใช้ได้อีกมาก ความจริงคือที่ฉันใช้ทักษะระเบิดสายฟ้าทมิฬเพียงแค่ลองดูได้ผลหรือป่าว มันยังมีทักษะของชุดเกราะสุดที่รักของฉันอยู่ เสียงคำรามสีชาด! แม้ว่ามันจะดูแปลกๆกับการคำรามใต้น้ำ แต่ว่าในตอนนี้มันไม่ใช่เวลามาบ่น
“ว๊ากกกกกกกก!”
[คุณได้ใช้เสียงคำรามสีชาด ทุกๆอย่างจะถูกเผาในเปลวเพลิง]
น้ำได้ไหลเข้ามาในเต็มปากของฉันในตอนที่คำรามออกมา ในทันใดนั้นฉันก็คิดขึ้น ‘คำอธิบายอะไรนะ? อากาศทั้งหมดที่เสียงของฉันไปถึงจะตกอยู่ในเปลวเพลิงงั้นหรอ? แต่ว่าในนั้นที่ฉันอยู่มันไม่มีอากาศแม้แต่นิดเลยนะ!? ฉันจะต้องใช้ทักษะย้อนกลับหลังจากที่ทำทั้งหมดนี้หรอ?’ แม้ว่าฉันจะกังกลเป็นอย่างมาก….
[ก๊าซซซซซซซ!]
ครู่หนึ่งมันก็ได้พิสูจน์ว่าความกังวลของฉันนั้นมันไร้ความหมาย ทุกสิ่งทุกอย่างที่เสียงของฉันไปถึง รวมไปถึงน้ำได้กลายเป็นเปลวเพลิงและเผาไหม้ มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่งเพราะว่าอากาศที่ฉันต้องการจะหายใจก็ได้กลายเป็นเพลิงไปทำให้ฉันไม่สามารถจะหายใจได้ แม้กระนั้นปลวเพลิงก็มีประกายใจและยิ่งใหญ่ราวกับจะเผาทั้งทะเลสาบ
[ก๊าาาาาาาาาา–!]
เสียงสนั่นได้ดังเข้ามาในหูของฉัน ฉันสามารถจะรู้ได้ว่าโดยสัญชาติญาณว่าคอของมันได้พังไปแล้ว การสั่นก็ได้น้อยลงและแรงกดดันของเนื้อก็ได้ลดน้อยลงไปเช่นกัน
ฉันได้ดึงหอกของฉันออกมา กำแพงได้ถูกทำจนไหม้ไปแล้ว ฉันได้เดินออกไปข้างหน้าทันใดนั้นฉันก็รู้ได้ว่าฉันกำลังลอยขึ้น ไม่สิ มันเป็นทูน่าละลายที่ลอยขึ้นไปสู่ผิวน้ำ
ในที่สุดมันได้ตายไปแล้ว
[คุณได้กวาดล้างพื้นที่ดันเจี้ยน ‘สุสานเหนือทะเลสาบ’ คุณได้เอาชนะมอนสเตอร์มากกว่า 80% รวมไปถึงจัดการบอสสองตัวและบังคับให้บอสออีกหนึ่งตัวต้องไปพักฟื้น รางวัลจะถูกแบ่งตามลำดับผลงาน]
[ผลงานของฮวาหยา เอเลนี่ มัสติฟอร์ดสูงที่สุด]
[คุณได้ประสบความสำเร็จในการกวาดล้าง ‘สุสานเหนือทะเลสาบ’ บอสตัวใหม่จะไม่ปรากฏตัวออกมาเป็นเวลา 6 เดือนหลังจากนี้ อัตราการขยายพันธุ์ของมอนสเตอร์ก็จะลดลงอย่างมากในช่วงเวลานี้]
“ชิ”
อย่างที่ฉันคิดเลยฉันไม่สามารถจะนำหน้าฮวาหยาในด้านการฆ่าพวกนี้ได้ จากทั้งหมดเธอได้ล่ามอนสเตอร์ที่นี่มาเป็นเวลามากกว่าอาทิตย์แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ได้ฆ่าทูน่านี่ด้วยตัวเองและแม้แต่ไล่ผู้หญิงร้องเพลงคนนั้นไปอีกด้วย บางทีอาจจะเป็นเพราะทูน่านี่อ่อนแอกว่าฉลามก็ได้ ต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน
[ชิน ชิน! นายยังไม่ตาย!]
“แน่นอนสิว่าไม่ เธอเคยเห็นพ่อครัวที่ถูกส่วนผสมอาหารกินไปงั้นหรอ?”
[ขอบคุณพระเจ้า ชิน! นายไม่รู้หรอกว่าฉันกลัวแค่ไหนกับความคิดว่าว่านายตายไป เพราะอย่างนี้ฉันถึงได้ตระหนักได้มากกว่าแต่ก่อนว่าฉัน…อะ!]
“หืม?”
[ฟู่… ไม่มีอะไรหรอก ลืมไปเถอะ ฉันรู้สึกตื่นเต้นตกใจกับเหตุการณ์ที่เปลื่ยนแปลงเร็วไปเท่านั้นแหละ]
“เอาเถอะ ฉันจะออกไปแล้วนะดังนั้นก็รีบๆเลือกรางวัลเถอะ ฉันก็ต้องการจะเลือกของฉันเหมือนกัน”
[…เห ใช่แล้ว เรื่องนี้ไม่นับว่าเป็นภัยต่อนายสินะ?]
“แน่นอนว่าไม่ ถ้าฉันจะตายเพราะเรื่องแบบนี้ พ่อของฉันก็คงจะเริ่มฤดูกาลแห่งการทุบตีแน่นอน”
ฉันได้ตอบฮวาหยาไปอย่างสบายๆ จากนั้นก็ถอดชุดเกราะและเก็บหอกกลับไปในช่องเก็บของ ในขณะที่ฉันคลานออกมาจากลำคอหน้าต่างหน้ารางก็ปรากฏขึ้น เพราะว่ามีฮวาหยาและฉันที่เป็นนักสำรวจดันเจี้ยนที่นี่ดังนั้นฉันก็เลยเป็นคนต่อไปที่จะเลือกรางวัลต่อจากฮวาหยา
[2.ดาบเขี้ยวยักษ์]
“ว้าว…มันโดยโครตจะไร้ประโยชน์เลย…!”
ฉันได้เลือกรางวัลมาด้วยคิ้วที่ขมวดแน่นและตรวจสอบรายละเอียดของไอเทม มันเป็นดาบที่เหมือนกับเขี้ยวของมัน มันมีขนาดที่ใหญ่กว่าดาบที่ใหญ่มาก และมันก็มีฟังชั่นที่สามารถทำให้เกิดการสั่นขึ้นได้อีกด้วย ถ้าหากว่าการสั่นสะเทือนมันสามารถจะควบคุมได้มันก็จะเป็นอาวุธที่่ทรงพลัง มันคงจะดีถ้าฉันเป็นนักรบที่ใช้ดาบ แต่ว่า…ใช่แล้ว ดูเหมือนว่าฉันจะต้องให้อาหารกับหอกกลืนกินของฉัน แม้ว่าฉันจะหวังมากแค่ไหน แต่ฉันก็รู้ว่ามันคงจะไม่สามารถเติบโตได้มากนัก
สำหรับตอนนี้ฉันได้เก็บดาบเขี้ยวยักษ์ไว้ในช่องเก็บของ จากนั้นกลิ่นของอากาศบริสุทธิ์ก็ได้ลอยเข้ามาในจมูกของฉัน ด้านนอกอยู่เบื้องหน้าฉันแล้ว
ฉันได้ดันปากของทูน่าให้มันเปิดออกและมองออกไป ฮวาหยาและคนอื่นๆกำลังขับเรือมาทางทูน่าเมื่อมันลอยขึ้นมา
คนแรกที่ฉันมองหาเลยก็คือบริทแมน จากหน้าตาของเขามันดูเหมือนเขาจะประหลาดใจที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ ฉัรได้ทำเพียงแค่มองไปหาเขาและยิ้มออกมา ในขณะที่เขาไม่คิดว่าฉันจะส่งยิ้มให้ บริทแมนได้ขมวดคิ้วอย่างไร้ยางอายเหมือนกับว่าเขาไม่อยากจะเชื่อมัน จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมา ฉันสงสัยว่ารอยยิ้มของเขามันหมายถึงอะไร เขากำลังจ้องฉันงั้นหรอ? ฉันสามารรถจะรู้สึกได้เลยว่าเขาเป็นคนเมินเฉยแค่ไหน ราวกับว่าเขาจะจะพูดว่าฉันไม่สามารถจะเทียบกับเขาได้สักทางหนึ่ง ไม่ว่ามันจะจริงไหมก็ไม่สำคัญหรอก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตอนนี้ฉันเข้าใจเขา
ถึงแม้ว่ามันจะน่าอายที่ฉันจะพูดด้วยตัวเอง แต่ฉันก็เป็นคนที่มีแนวโน้มจะอ่อนลงต่อคนที่ฉันคิดว่าเป็นพรรคพวก ครอบตรัว และก็รวมไปถึงคนที่ไว้ใจฉันให้ฉันเป็นเพื่อน
ฉันจะไม่มีทางเกลียดคนที่คิดว่าฉันเป็นเพื่อนของพวกเขา เพลรูเดียก็เป็นแบบนั้น แม้ว่าในตอนแรกที่พวกเราพบกันจะไม่ดีนัก แต่แม้ว่าในตอนที่ฉันติดอยู่ในชั้นที่ 5 เธอก็ได้ติดต่อมาให้กำลังฉันทำให้ฉันเปลื่ยนความรู้สึกที่มีต่อเธอจาก ‘สาวแปลกหน้า’ ไปเป็น ‘เพื่อน’ เยอึนก็เป็นแบบนั้น แม้ว่าเธอจะดูน่ารำคาญในตอนที่พบกันครั้งแรก แต่เธอก็ยังแสดงความสนใจต่อฉันเสมอและพยายามที่จะกลายมาเป็นเพื่อนของฉัน
บางทีด้วยเหตุผลเดียวกัน คนที่ฉันคิดว่าเป็นศัตรูก็จะต้องได้รับความเป็นปรปักษ์จากฉันอย่างเต็มที่ วอร์คเกอร์ก็เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด เขาได้แอบเข้าไปในบ้านของฮวาหยาและแทบจะโดนฉันฆ่ตายไป ถึงแม้ว่าวอร์คเกอร์จะย้ายฝั่งมา มันก็ดูเหมือนจะมีศัตรูใหม่มาแทนที่
บริทแมน เขาได้หัวเราะออกมาในตอนนี้ ทำไมเขาถึงต่อยฉัน? สายฟ้าของไพก้าได้ปลุกเขาขึ้นมาหรอ? เขาแปลกใจเพราะเห็นฉันในตอนที่เปิดตางั้นหรอ? หรือว่าเขาตื่นขึ้นมาตลอดเวลา แต่ทำเป็นแสร้งว่าสลบและทำให้ฉันตกอยู่ในอันตราย? มันเป็นการแก้แค้นที่เขาสูญเสียลูกน้องไปงั้นหรอ?
แต่ว่าฉันก็ไม่สนหรอก ฉันจะไม่ฟังข้อแก้ตัวของเขาไม่ว่ายังไงก็ตาม มันมีสิ่งหนึ่งที่ฉันแน่ใจก็คือหมัดของบริทแมนมันเจ็บมากและเกือบจะทำให้ฉันกลายเป็นอาหารปลานั้นก็เพียงพอแล้ว
นายเป็นศัตรูของฉัน ฉันก็จะทำให้นายต้องเสียใจอย่างที่สุดในวันหนึ่ง เมื่อมองไปข้างหน้ามันไม่นานนักหรอ ในความสูงของความสำเร็จที่ฉันจะปืนขึ้นไปนายเป็นแค่หินในเส้นทาง
ฉันได้ละสายตาไปจากบริทแมนและเอาตัวของฉันออกมา จากนั้นก็กระโดดขึ้นไปบนหัวทูน่า ทุกๆคนดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงการกลับมาของฉันจากเสียง ไมค์ได้ตะโกนขึ้น
“พระเจ้า TK! นายยังรอดอยู่!”
“ฟู่…. ไมค์ มันไม่มีทางที่ฉันจะตายโดยที่ยังไม่ได้กินทูน่าละลายหรอกนะ”
“นายนี่รักทูน่าละลายจริงๆ…”
“แน่นอนว่าตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปเพื่อเป็นเกียรติให้แก่ฉันที่ฆ่าทูน่าละลายยักษ์นี่นายสามารถจะเรียกฉันก็ได้ว่า ‘ทูน่าคิง’
แต่ว่าถ้าหากนายเรียกฉันแบบนั้นจริงๆ ฉันจะเกลียดนาย!