บทที่ 104 – คนเหล่านั้นที่ปืนไปในดันเจี้ยน (3)
ฉันได้ประสบความสำเร็จในการอัพเกรดฉายามาเป็นเจ้าชายรัชทายาชั้นที่ 40 ซึ่งมันได้เริ่มแพร่กระจายไปทั่วในหมู่นักสำรวจทวีปอ้วนๆและปาตี้ของฉันก็เต็มไปในทุกๆครั้งที่ฉันสร้างขึ้น ในขณะที่ฉันล่ายมทูตได้สามครั้งต่อวันก็ทำให้นักสำรวจ 27 คนได้ไปที่ชั้นที่ 27 ทุกๆวัน แน่นอนว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นได้เฉพาะในกรณีที่ทุกคนมีชีวิตรอด ในความจริงแล้วจำนวนคนที่ไปต่อมีน้อยกว่าครึ่งของจำนวนนั้น
จากที่ฉันเห็นมีคนประมาณ 1,500 ตนที่ติดอยู่ในชั้นที่ 40 หรือก็คืนหลังจากประมาณ 100 นักสำรวจส่วนใหญ่ก็จะก้าวไปข้างหน้าต่อ อย่างไรก็ตามหลังจากสองสัปดาห์ผ่านไปปาตี้ของฉันก็ไม่ค่อยเต็ม
“พวกเขาก็ยังเหมือนเดิม”
นักเวทย์แก่ๆคนหนึ่งได้ออกจากปาตี้ของฉันและบอกฉันหลังจากการจู่โจมจบลง
“พวกเขาอยู่อย่างนี้มาหลายสิบปี ลองจินตนาการดูสิถ้าหากนายได้มีโอกาสเติบโต พวกเราจะยินดี และนอนและว่าอาจจะน้ำตาและขอบคุณ… แต่ว่ามันก็ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ยังหวาดกลัว”
“ทำไม”
“เพราะว่าภาระที่เขาแบกเอาไว้จะหนักขึ้น ยิ่งนายได้รับความรับผิดชอบมากแค่ไหนก็จะยิ่งต้องรับผิดชอบมันมากเท่านั้น นอกจากนี้ถ้านายแข็งแกร่งขึ้นด้วยพลังของคนอื่นก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนอื่นๆที่คาดหวังในพวกเขาจะผิดหวัง”
“….”
ฉันได้กลืนอิลิกเซอร์ลงไปในขณะที่ฟังชายแก่พูดเงียบๆ เพราะว่าฉันไม่เคยแบกภาระบนบ่าเลย ฉันก็เลยไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดอะไร
การติด การทะลวงผ่าน ติด ติด ติด หลังจากเป็นแบบนี้ซ้ำๆมาหลายปี พวกเขาจะประสบความทุกข์ทรมานมากแค่ไหนกันล่ะ?”
ในฐานะที่เป็นนักสำรวจดันเจี้ยนที่หนึ่งซึ่งมีเพียงแค่คนที่มีพรสวรรค์ที่สุดเท่านั้นที่จะได้รับเลือกให้เข้ามา พวกเราก็จะได้รับความอิจฉา ความคาดหวัง และความดต้องการมากมายนับไม่ถ้วย เมื่อใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของชีวิต เมื่อพวกเขาได้ตระหนักว่าพวกเขาก็ยังอยู่ในระดับกลาง พวกเขาจะรู้สึกอับอายมากแค่ไหนกัน? ไม่ต้องพูดถึงเวลาหลายสิบปีที่พวกเขามีชีวิตอยู่โดยที่ไม่พัฒนาเลย ความรักหรือความกล้าหาญใดๆจะคงอยู่ในหัวใจของพวกเขากัน? พวกเขาจะเต็มใจที่จะท้าทายด้วยตัวเองอีกครั้งหรอ? พวกเขาเข้าใจความล้มเหลวและความพ่ายแพ้ที่ต้องทนต่อความคาดหวังที่พวกเขาได้รับ
ฉันได้ถามกับชายชรา
“แล้วทำไมนายถึงมาเอาชนะยมทูตกับฉัน?”
“นั่นจะต้องถามด้วยหรอ?”
ชายชราได้ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม
“เพราะฉันเป็นนักสำรวจ”
“ฮ่าๆๆ”
“ฉันได้ล้มเหลวหลายครั้งจนนับไม่ถ้วนและไม่สามารถจะนับจำนวนได้ คนที่คาดหวังในตัวฉันได้หันหหลังและจากไป ฉันก็ยังใช้เวลาเช่นเดิมเหมือนคนอื่นๆ ฉันได้ปีนมาชั้นที่ 40 ฉันทำมันได้ดี ฉันได้บอกตัวเองอย่างนี้เพื่อแก้ตัว แต่ว่าฉันโกหกตัวเอง แต่แล้วนายก็มา ตอนนั้นเองที่ฉันได้หลุดพ้นจากมัน ถ้าฉันไม่ท้าทายมันในตอนนี้ฉันก็รู้เลยว่าฉันจะไม่มีโอกาสอีกต่อไป แม้ว่าฉันจะลงเอยด้วยการล้มที่ไหนซักที่ ฉันก็ยังต้องการที่จะไปอยู่ชั้นที่เหนือกว่าที่นี่ ฉันต้องการที่จะให้เลือกในร่างกายของฉันร้อนขึ้น”
ชายชรานักเวทย์ได้ตะโกนออกมา
“ฉันเคยมีประสบการณ์มาหลายสิบปีแล้ว! แม้ว่าถ้าฉันจะล้มเหลวอีกครั้งฉันก็ไม่ได้เสียอะไรไป! ฉันมีความสุขมากที่ฉันสามารถจะออกชั้นนี้ได้! แม้ว่าฉันจะไม่สามารถไปไกลกว่าชั้นที่ 41 ได้ก็ตามที! แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่ความกล้าของชายแก่คนนี้ แต่ฉันก็จะไปต่อ เพราะหัวใจนี้เป็นสิ่งเดียวที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าฉันเป็นนักสำรวจของดันเจี้ยนที่หนึ่ง! ดังนั้นคำตอบนี้ได้ตอบคำถามของนายยัง?”
“แน่นอน”
ฉันได้ตอบออกไปในขณะที่ยิ้มสดใจ คำพูดของเขาได้เข้ามากระแทกไปในหัวใจของฉันอย่างจังและมันทำให้ฉันอดยิ้มออกมาไม่ได้
“นายสามารถจะปีนขึ้นไปได้สูงขึ้นอีก ฉันขอรับประกันมัน!”
“ฮ่าห์! ถ้าเจ้าชายบอกแบบนั้นฉันก็จะเชื่อมัน! ฮ่าๆๆๆๆ”
เขาได้หัวเราออกมาอย่างจริงใจ จากนั้นเขาก็ออกไปจากปาตี้ของฉันและหายตัวไป
เมื่อฉันได้คุยกับชายชราคนนี้ความคิดเกี่ยวกับนักสำรวจของฉันก็เปลื่ยนไป
อย่างไรก็ตามเมื่อฉันออกไปจากห้องบอส ฉันก็เห็นหลินแสดงท่าทางที่ไม่เหมือนปกติ แต่ เอ๊ะ? บางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับเขาดูเหมือน…
“มีอะไรหรอหลิน? นายกำลังพัฒนาหรอ?”
“ฉันไม่ได้พัฒนา แต่ว่าฉันได้รับการเลื่อนต้ำแหน่ง”
หลินไม่ได้สูบบุหรี่ตามปกติ
“เวรเอ้ยและมันในฐานะตัวแทนกิลด์มาสเตอร์… น่าปวดหัวอะไรแบบนี้ ทั้งหมดนั่นเป็นความผิดของนาย”
“ตัวแทนกิลด์มาสเตอร์หรอ? แล้วโรเล็ตต้าล่ะ?”
เมื่อฉันพูดแบบนั้นหลินก็จ้องฉัน ดวงตาของเขาได้ร้อนแรงราวกับกำลังไหม้อยู่ เจ๋งอะไรแบบนี้ ฉันได้สงสัยว่าฉันจะมีโอกาสได้รับทักษะแบบนี้ไหมนะ?
“นายไม่รู้หรอว่าเกิดอะไรขึ้น?”
“แน่นอนสิฉันไม่รู้เลย ช่วยอธิบายมาที”
“คุ สำหลับนี่เป็นครั้งแรกในร้อยปีที่พีสาวขอร้องลอร์ดเป็นการส่วนตัว เพื่อเอาตุ๊กตาหุ่นเชิดจำนวน 4,187 ตัวออกมาเปลื่ยนจากชั้นขายของและแทนทีด้วยพวกเราสมาชิกสวนแฟรี่และสมาชิกกิลด์อื่นๆ”
“ว้าว”
ฉันไม่รู้ว่าโรเล็ตต้าได้ดูแล 4,187 ร้านขายของด้วยตุ๊กตาของเธอ มันอาจจะยากลำบากมาก ในขณะที่ฉันกำลังพยายามจะแยกแยะสิ่งที่เพิ่งจะได้ยิน หลินก็พูดขึ้นต่อ
“ลอร์ดได้ฟังคำขอของพี่สาว เธอได้ทำงานมาเป็นจำนวนมากอย่างไม่น่าเชื่อสำหรับนักสำรวจดันเจี้ยนนที่หนึ่งและเธอก็มีส่วนช่วยในการบริหารงานอื่นๆอีกมากด้วย…”
“โรเล็ตต้าทำ หืม…”
“เธอยังได้ใส่ข้อความเพิ่มขึ้นไปอีกหลายประโยค แต่ว่าสิ่งที่เธอต้องการก็เห็นได้ชัดเลย… เธอต้องการที่จะสนับสนุนนาย”
“เอ๊ะ? ฉัน?”
“ใช่แล้ว ไม่ใช่ด้วยหุ่นเชิดแต่เป็นตัวเธอจริงๆ เธอต้องการที่จะสนับสนุนนายโดยตรง แม้ว่าเธอจะเป็นกิลด์มาสเตอร์ของสวนแฟรี่…เอาเถอะ นายเป็นฮีโร่และก็เป็นมือใหม่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในดันเจี้ยน นอกจากนี้เพราะว่ามนุษย์มีอายุขัยที่สั้น ลอร์คก็ได้ยอมรับมัน ปัญหาก็คือฉันจะต้องทำงานมากขึ้นเพราะนาย!”
ฉันได้สงสัยว่าทำไมหลินถึงได้ยกยอฉัน แต่ว่าเขาก็ได้ด่าฉันในทันที เมื่อได้ยินหลินพูดว่าเกี่ยวกับโรเล็ตต้าว่าเธอจะสนับสนุนฉันด้วยร่างกายจริงๆของเธอ ฉันก็คิดย้อนกลับไปในคำสารภาพล่าสุดของเธอ เพื่อที่ชีวิตประจำวันของเธอ เธอได้เคลื่อนไหวแล้ว ฉันอดไม่ได้ที่จะประหลาดได้
“เฮ้ ให้ฉันถามอะไรอย่างสิ”
หลินได้พูดในขณะที่มองนิ่งมาที่ฉัน
“….นายทำมันหรอ?”
“ทะ ทำอะไร!? ไม่ ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น!”
“ถ้างั้นก็มีบางสิ่งเกิดขึ้น ฉันสงสัยว่านายได้เคลื่อนไหวอย่างแรกแล้ว ดังนั้นพี่สาว? ฮ่าห์ เธอกล้าหาญอะไรแบบนี้ เธอจะต้องอดทน… ถ้างั้น? เกิดอะไรขึ้น?”
“หลินนี่คือสิ่งที่นายต้องการจะถามตั้งแต่แรกใช่ไหม?”
“รีบๆตอบมา เกิดอะไรขึ้น? นายทำมันงั้นหรอ?”
“ฉันไม่ได้ทำอะไร!”
หลินได้มองมาที่ฉันด้วยท่าทางสับสนและถ่มน้ำนายลงพื้น
“นายมันสิ้นหวังสุดๆ … นายมี ‘มัน’ หรือป่าว?”
“ฉันมีสิ!”
เมื่อฉันได้ตอบกลับไปอย่างจริงจัง หลินก็ได้ถอนหายใจออกมา จากนั้นในที่สุดเขาก็หยิบเอาบุหรี่ออกมาและถามฉันด้วยเสียงที่จริงจังมากขึ้น
“อย่าได้ทำให้พี่สาวร้องไห้ เธอทั้งเปราะบางและบริสุทธิ์ยิ่งกว่าที่นายคิด ฉันเตือนนายนะโอเค?”
“ฉัน…เข้าใจแล้ว ฉันรู้แล้วดังนั้นหยุดจ้องฉันแบบนั้นซักที”
“ฮึ่ม ฉันได้พูดในสิ่งที่ฉันอยากจะพูดออกไปแล้ว ต่อไปก็ขอให้โชคดีล่ะ อย่าตายและอย่าล้มล่ะ จากสิ่งที่ฉันเห็นนายเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่มีมีศักยภาพในการไปในดันเจี้ยน ดังนั้นอย่าได้สูญเสียจิตวิญญาณไม่ว่าศัตรูของนายจะเป็นใคร เข้าใจนะ?”
“ขอบคุณหลิน ขอให้นายโชคดีเหมือนกัน เริ่มจากในฐานะตัวแทนกิลด์มาสเตอร์”
“อ๊าาาา… เอาล่ะ ฉันไปล่ะ”
หลินได้จางหายไป ฉันได้จ้องไปในที่ๆเขายืนอยู่และหันกลับไป ฉันสามารถจะล่ายมทูตได้อีกครั้ง การกวาดล้างมันยังไม่จบลง อย่างไรก็ตามได้มีใครบางคนมาขัดจังหวะฉันนั่นก็คือเยอึน
[ฉันผ่านชั้นที่ 20 แล้วนะ!]
“เธอเร็วขึ้นเรื่อยๆเลยนะ เธอทำมันคนเดียวหรอ?”
[ใช่แล้ว! เจ้านี่มันพยายามจะทำเท่ แต่เขานะโครตอ่อนเลย หลังจากทุบเขา เขาก็ได้ใช้อะไรบางอย่างที่เรียกว่าผิวมังกรและกระแทกพื้นด้วยหอก แต่ว่าเขาก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้เมื่อฉันไปอยู่บนเพดาน]
เธอทำแบบนั้นได้ด้วย! ไม่สิ นักสำรวจปกติไม่มีใครสามารถจะไปอยู่บนเพดานได้นานแบบนั้นหรอกนะ! อย่างที่ฉันคิดเลยเยอึนมีพรสวรรค์ของนักฆ่าตามธรรมชาติ เมื่อคิดว่าเธออาจจะไล่ทันฉันได้ ฉันก็ถามเธอ
“เธอได้ลองใช้การพิสูจน์แห่งไดฟิคไหม?”
[ชะ ใช่แล้ว]
“…ทำไมเสียงของเธอสั่นล่ะ?”
[การพิสูจน์แห่งไดฟิคมันน่ากลัว น่ากลัวมากๆ]
“ทำไม!? อะไรที่มันน่ากลัว!?”
[มันเจ็บ การฝึกมันยากเกินไป]
เธอได้พูดออกมาสั้นๆเหมือนกับเด็ก มันคงจะเป็นเรื่องยากจริงๆ… แม้ในขณะที่ฉันรู้สึกถึงปัญหา ฉันก็ได้พยายามทำตัวใจเย็น
“เธอคงได้พบกับครูที่ดี”
[เธอเป็นผู้หญิงที่ชั่วร้าย ชินช่วยฉันด้วย ฉันอยากเห็นนายมากๆเลย]
“พวกเราสามารถจะได้เจอกันในเร็วๆนี้ เมื่อเธอเคลียร์ชั้นที่ 25 เราก็สามารถจะออกไปดื่มกันได้”
[จริงนะ? โอเค ฉันจะพยายามให้ดีที่สุด! ฉันจะรีบๆเลย!]
“ใช่แล้ว โชคดีนะ อ่าเวทย์ที่เธอได้รับในชั้นที่ 10ล่ะ? เธอยังได้รับความเชี่ยวชาญจิตวิญญาณไหม?”
แม้ว่าฉันจะคิดว่าความเชี่ยวชาญจิตวิญญาณเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับผู้ใช้ธาตุของฉัน แต่ว่ารางวัลมันก็ดูเหมือนจะได้รับการเหมือนกัน จากผลตอบแทนที่เร็นบอกและเยอึนก็ได้รับการพิสูจน์แห่งไดฟิคที่ชั้น 5 มันก็ทำให้ฉันมั่นใจ อย่างไรก็ตามสิ่งที่เยอึนบอกต่อมามันทำให้ฉันตกใจ
[อา มันมีสิ่งที่เรียกว่าความเชี่ยวชาญดาบเงา มันสนุกสุดๆเลย! ถ้าฉันถือมีดสั้นไว้และโจมตี เงาของฉันก็จะโจมตีอีกครั้ง! หรือฉันสามารถจะใช้พลังงเงาของฉันตรงๆในการโจมตีได้เลย! มันเยี่ยมมากเลย]
“เจ๋งอะไรแบบนี้”
ดังนั้นรางวัลในชั้นที่ 10 แตกต่างกัน! มันเป็นทักษะที่สมบูรณ์แบบสำหรับเยอึนที่มุ่งเน้นกับการโจมตี แม้ในขณะที่ฉันง่วนกับความอิจฉา ฉันก็ได้พยายามทำเท่และแสดงความยินดีกับเธอ
[ชิน ตอนนี้ชินอยู่ชั้นอะไรแล้ว?]
“ฉันกำลังจะกวาดล้างชั้นที่ 40”
[ถ้างั้นฉันจะตามไปในเร็วๆนี้!]
“พวกเราจะได้เจอกัน ถ้าเธอดูถูกดันเจี้ยนเธอจะต้องเสียใจแน่ๆ ดังนั้นระวังตัวด้วยนะ”
[ฉัน ฉันจะไม่ดูถูกมัน ฉันไม่เคยเลยจริงๆ อึก ฉันโดนดุอีกแล้ว นายท่านจะโกรธฉัน]
“เธอเพิ่งจะอัญเชิญ….?”
แม้แต่ฉันก็รู้สึกกลัวเล็กน้อยกับมาสเตอร์ของเยอึนที่ฉันไม่เคยได้เจอ