บทที่ 115 – ความโลภที่เขมือบทุกสิ่ง (2)
“ฉันคังชินนักสำรวจจากโลก ยินดีที่ได้พบกัน”
“โลกหรอ ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”
“เหมือนกัน”
“เวรกำ แล้วเขากลายมาเป็นนักสำรวจดันเจี้ยนได้ยังไงกันจากการที่ไม่มีรากฐานจากโลกของตัวเอง…”
ทหารรับจ้างต่างมิติส่วนใหญ่ได้มองมาที่ฉันอย่างเย็นชา ไม่เหมือนกับการต้อนรับในตัวตนจ้าชายรัชทายา พวกเขาไม่สนใจฉันหลังจากที่ได้ยินว่าฉันมาจากที่ใด พวกเขาไม่เคยได้ยินเกี่วกับฉันมาก่อนหรอ? พวกเขาทั้งหมดมีช่องทางการสื่อสารของนักสำรวจดันเจี้ยนไหมนะ?
“นายคิดว่าเขาอยู่เลเวลอะไร?”
“อุปกรณ์ของเขาดูดีมาก”
“นายโง่หรอ? นายถามเลเวลของทหารรับจ้างต่างมิติ นายเป็นมือใหม่สินะ”
มีทหารรับจ้างต่างมิติ 13 คนนอกจากฉัน มีอีกสองคนที่เพิ่มขึ้นมาหลังจากฉันรับภารกิต ตอนนี้มีทหารรับจ้างต่างมิติ 57 คนในดันเจี้ยนที่หนึ่ง และ ได้มี 14 คนมารับภารกิจนี้ ดูเหมือนว่าทุกๆคนจะกระตือรือร้นกันมาก
อัศวินหนุ่มผมยาวดำได้เดินมาหาฉัน
“ผมเบลโลด อิเรียส ตภารกิจที่กล่าวมาผมเป็นผู้บัญชาการอัศวินไครอสและเป็นนักสำรวจระดับทองในดันเจี้ยนที่หนึ่ง ขอบคุณท่านมากที่มาท่านคังชิน องหญิงได้เล่าเกี่ยวกับทานให้ผมฟังมากเลยล่ะ ถ้าท่านพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยองหญิงลำดับที่สอง ผมจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังกับรางวัลแน่ๆ”
“ขอบคุณสำหรับน้ำใจนะ”
อัศวินที่ชื่อเบลโลดได้ให้ความรู้สึกที่ดีมาก เขาเป็นคนประเภทกล้าหาญจริงจัง แต่ยังไงก็ตามเขาก็มีท่างมืดมนบางทีนั่นอาจจะเป็นเพราะความกดดันที่จะต้องช่วยชินะ หลังจากที่ทักทายกับอัศวินแล้วฉันก็ได้หันหน้าไปน่าทหารรับจ้างต่างมิติคนอื่นเพื่อที่จะทักทายพวกเขา แต่ว่าพวกเขาได้หลีกเลี่ยงสายตาของฉันมันหมายความว่าพวกเขาพบว่ามันน่ารำคาญ พวกเขาดูเหมือนว่าเขาจะไม่เสียพลังงานไปกับอะไรที่เรียกว่าการทักทาย ฉันได้พบว่ามันไร้สาระ
เบลโลดได้ยิ้มขมเมื่อมองมาที่ฉันที่ทำหน้าโกรธและพูดด้วยเสียงสงบซึ่งมีแต่ฉันเท่าานั้นที่ได้ยิน
“โปรดเข้าใจด้วย ผมได้ยินมาว่าทหารรับจ้างมิติอ่อนไหวง่ายก่อนที่จะเริ่มภารกิจ”
ด้วยอันตรายที่มาพร้อมกับงานฉันก็เลยไม่แปลกใจนัก นอกจากนี้ฉันก็เป็นเด็กใหม่ ถ้าฉันพูดออกไปมันก็จะเป็นเรียกง่ายสำหรับพวกเขาที่จะวิจารณ์ฉันในฐานะที่เป็นมือใหม่ที่พูดไร้สาระ ฉันได้ถอนหายใจออกมาและหันหัวไป เบลโลดได้พาเราไปที่โต๊ะใหญ่ในห้องโถง
รูเดียก็อยู่ใกล้ๆนี้ เมื่อสายตาของเราสบกัน เธอก็ส่งเสียงฮึ่มและจงใจหันหน้าไปทางอื่น ด้วยปฏิกิริยานี้ทำให้ฉันยิ้มขม
บนโต๊ะมีแผนที่ขนาดใหญ่ของจักวรรดิอยู่ตรงกลาง เบลโลดได้หยิงเอาไม้สั้นๆและชี้ไปบนแผนที่
“ด้วยท่านคังชินที่นี่ ทหารรับจ้างต่างมิติทั้งหมดก็ได้มาถึงแล้ว พวกเราจะทำการสรุปแผนการก่อนที่จะออกเดินทาง เราจะใช้เส้นทางที่สั้นที่สุดเพื่อที่จะได้ยังกองทหารของเดม่อนลอร์ด ในขณะที่เขายังได้รับบาดเจ็บอยู่กองทัพปีศาจก็กำลังรีบถอยทัพกลับ แต่ถ้าพวกเราเคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับกองกำลังที่ยอดเยี่ยมของเรา เราก็จะสามารถตามพวกนั้นทันก่อนที่จะกลับไปถึงดินแดนของปีศาจ”
“ดินแดนของเดม่อนลอร์ดที่นายพูดนะ ฉันได้ยินมาว่ามีแต่ปีศาจระดับชั้นยอดอยู่ที่นั่น”
“นั่นก็คือความจริง ตั้งแต่ที่พวกมันได้พบตำแหน่งที่ดีกว่า เหล่ายอดปีศาจไม่ต้องการที่จะออกมาจากดินแดน เนื่องจากว่าฮีโร่ตายไปแล้ว…พวกนั้นก็อาจจะรอจนกว่าโลกจะล่มสลายก่อนที่พวกนั้นจะปรากฏตัว”
“อืม แต่แล้วก็เดม่อนลอร์คล่ะ….”
“เดม่อนลอร์ดได้บาดเจ็บสาหัส มุกๆตยฝยจุดนี้ก็น่าจะเห็นมันได้ แม้ว่าเราจะไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้ เขาก็ไม่สามารถจะมาขัดขวางภารกิจเราได้เช่นกัน ถ้าพวกท่านต้องการผมขอสาบานด้วยวิญญาณของผมเลย”
ฉันได้อยู่เงียบๆฟังการสนทนาระหว่างพวกเขาและจดจำเส้นทางที่เบลโลดชี้ให้้เราเห็น ในกรณีที่ทุกคนทิ้งภารกิจผมจะต้องไปช่วยชินะคนเดียว
ทันใดนั้นก็มีคนมาแตะไหล่ของฉัน เมื่อฉันหันกลับไปฉันก็เห็นใบหน้าของรูเดียที่แดงแจ๋
“อะไรหรอ”
“พ่อ แม่….อยากเห็นนาย”
“จักรพรรดิและจักรพรรดินี!?”
“ตามฉันมา”
ฉันได้ออกไปจากห้องพร้อมกับรูเดีย ฉันสามารถจะรู้สึกถึงสายตาที่จ้องมาข้างหลังฉันได้เลย คนพวกนี้ทำไมเขาต้องเปล่งเจตนาฆ่าออกมามากด้วยนะ….!?
“ตอนนี้ฉันนึกออกแล้วว่าฉันได้ยินมาว่าเจ้าหญิงแสนสวยมีแฟน”
“ใช่ฉันได้ยินมาว่ามันเป็นมือใหญ่ที่น่ากลัวอะไรซักอย่าง ฉันไม่คิดว่ามันจะกลายมาเป็นทหารรับจ้างต่างมิติ”
“ฉันหวังว่าเขาจะตายที่นี่นะ”
พวกนี้มันอะไรกันเนี้ย!? แล้วก็เธอนะจะจ้องฉันทำไมในเมื่อเธอเป็นผู้หญิง?
จักรพรรดิและจักรพรรดินีกำลังรอฉันอยู่ด้วยกัน นอกจากนี้พวกเขาก็ยังสวมใส่ชุดเกราะสีทองและชุดไหมสีทอง พวกเขาไม่ต้องสงสัยเลยว่าได้ใส่เสื้อผ้าที่สะดุดตาอย่างตั้งใจ พวกเขาต้องการให้ศัตรูมุ่งเป้ามาที่พวกเขา
“โอ้รูเดีย! ชายคนนี้หรอที่ลูกพูดถึง?”
ในเวลาที่จักรพรรดิได้เห็นฉัน เขาก็อุทานออกมา ฉันรู้สึกประหลายใจมากเขาดูเหมือนจะอยู่ในช่วงอายุ 20ปลายๆอย่างมาก ดูก็รู้ได้เลยว่าพวกเขาทั้งคู่แข็งแกร่งดังนั้นพวกเขาน่าจะเป็นนักสำรวจมากก่อน
แก้มของรูเดียได้กลายเป็นสีแดงจากคำพูดของจักรพรรดิและเธอได้ตะโกนออกมา”
“ฉะ ฉันไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น! ชินะเป็นคนเดียวที่พูดทุกๆอย่าง!”
“แต่ว่าทุกๆครั้งที่ชินะพูดขึ้นมา ลูกก็จะตื่นเต้นและส่งเสียงออกมานี่นา”
เสียงที่สงบและสง่างามได้ดังออกมาจากจักรพรรดินีเธอก็เหมือนกับสามีของเธอที่มีอายุเหมือนกับ 20 ปลายๆ เธอดูเหมือนจะเป็นนักบวชของมิทารัสเหมือนกับรูเดียเนื่องจากชุดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
จักรพรรดิก็หล่อแต่วาจักพรรดินีนั้นงดงาม งดงามจริงๆ เธอและรูเดียดูเหมือนกันมาก ฉันเชื่อว่าเธอคือรูเดียอีก 10 ปีถ้าจะมีสิ่งใดต่างกันออกไปก็คือสิ่งที่ยั่วยวน…
“รูเดีย เธอก็ยังมีโอกาสเหมือนกัน!”
“เจ้างี่เง่า!”
“หุหุ ทั้งสองคนนี่เข้ากันได้ดีจัง ฉันโล่งใจแล้วล่ะ”
ฉันออกจากความมึนงงจากเสียงหัวเราะของจักรพรรดินี
“อา ขอโทษด้วย ผม…คังชินนักสำรวจจากโลก”
“ฉันได้ยินเรื่องของนายมาจากรูเดียและชินะว่านายนั้นเป็นฮีโร่ ในฐานะที่เป็นจักรพรรดิผู้ปกครองประเทศและตอนนี้โลกนี้ก็อยู่ในความดูแล ฉันสามารถจะพูดได้เพียงแต่คำว่าโง่ แต่ว่า….”
จักพรรดิได้ยิ้มออกมาและตีไหล่ของฉัน
“นั่นก็คือสิ่งที่ลูกผู้ชายควรจะทำ! ความใฝ่ฝันของนายฉันชอบมัน! ดังนั้นแล้วใครกันที่นายต้องการ!? หรือว่าเป็นทั้งคู่? ฉันสงสัยจังว่าชินะหรือว่ารูเดียที่จะปฏิเสธ!”
“อะไรนะ!?”
“พะ พ่อ! หนูบอกว่าไม่ไง! หนูไม่รู้เกี่ยวกับชินะ แต่ไม่ใช่หนูแน่!”
“ลูกควรจะเรียนรู้การโกหกให้ดีกว่านี้นะลูก แต่ว่าพ่อรู้ลูกไม่ต้องการที่จะแบ่งปันสามีด้วยกันกับชินะ ถ้างั้นพ่อจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของลูกเขยละกัน ลูกชอบแบบนี้ไหมรูเดีย?”
“อืม….ทั้งชินะและรูเดียเป็นเพื่อนที่มีค่าของผม”
นั่นก็คือทั้งหมดที่ผมสามารถพูดดได้ในตอนนี้ จากนั้นจักรพรรดินีก็พูดออกมาด้วยรอยยิ้มอ่อน
“ฉันก็ยังเป็นเพื่อนกับสามีฉันเลย ด้วยตาของฉัน ฉันเห็นอนาคตด้วยกันกับเขาและบอกว่ามันไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย แต่ว่ามันก็จบแบบนี้ที่ฉันเป็น”
“ฉันต้องการจะจัดพิธีสำหรับพวกเธอสองคน…แต่ยังไงก็ตามสถานการณ์ที่เป็นอยู่นี้มันเป็นไปไม่ได้ ฉันต้องขอโทษด้วยนะเจ้าลูกเขย”
“….”
ก่อนที่ฉันจะสังเหตุเห็น เขาก็ได้พูดว่าฉันในฐานะลูกเขยไปมันทำให้ฉันหมดคำพูด ฉันได้มองไปที่รูเดีย แต่ว่าเธอก็ได้ยุ่งกับการปิดหน้าด้วยมือของเธอ ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังตกใจ จักรพรรดิก็ได้เดินมามาหาฉัน ฉันก็เดินไปหาเขา
“ฉันต้องการให้นายช่วย…แต่ถ้าสถานการณ์มันกลายเป็นอันตรายก็ได้โปรดหนีไปด้วยกันกับรูเดีย ชินะเป็นลูกสาวที่มีค่าของฉันและฉันก็จะช่วยเธอถ้ามันเป็นไปได้…แต่ว่าฉันจะไม่ชอบสูญเสียรูเดียไปอีกคน”
“….ผมเข้าใจ”
ถึงแม้ว่าฉันจะต้องการพูดว่าฉันจะช่วยชินะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม แต่ฉันก็ไม่สามารถจะพูดอะไรออกไปได้เมื่อเบื้องหน้าของฉันเป็นใบหน้าที่จริงจังของจักรพรรดิ จากนั้นเขาก็พูดออกมาด้วยท่าทางที่จริงจังกว่าเดิม
“นอกจากนี้….อย่าได้เชื่อใจคนอื่นนอกจากรูเดียและเบลโลด”
“คุณหมายถึงยังไง?”
“นายคิดหรอว่าเดม่อนลอร์ดจะพยายามพิชิตโลกด้วยเพียงแค่กำลังความโหดเหี้ยม?”
“คุณหมายความว่า….”
“ทุกคนในการเดินทางครั้งนี้เป็นพวกระดับสูงในหมู่ระดับสูง แต่ก็อาจจะมีบางคนที่ถูกชักจูงโดยเดม่อนลอร์ด นอกจากลูกสาวของฉันรูเดีย เบลโลดเป็นเพียงคนเดียวที่นายสามารถไว้ใจได้ อย่าได้ลืมเรื่องนี้ล่ะ”
ในตอนนี้เมื่อฉันได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันก็เห็นได้ชัดเลย เดม่อนลอร์ดได้เอาชนะฮีโร่ แม้ว่ามันจะบาดเจ็บหนักแต่ว่ามันก็ยังเป็นผู้ชนะ ในสถานการณ์แบบนี้มันจะเป็นเรื่องแปลกถ้าไม่มีคนถูกล่อลวงโดยเดม่อนลอร์ด ฉันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขมขื่นในความจริงที่ฉันได้รู้
เมื่อฉันได้ถอยออกมาหลังจากได้ยินคำพูดของจักรพรรดิ เขาก็ได้พูดกับรูเดียและฉัน
“ฮีโร่ตายไปและพลังของโลกได้ถูกขโทน ชีวิตใหม่จะไม่เกิดขึ้นในโลกนี้อีกต่อไป โลกนี้แน่นอนว่าจะค่อยๆแห้งเหี่ยวลงช้าๆอย่างแน่นอน แม้อย่างนั้นฉันไม่ต้องการจะยอมแพ้ ข้าขอวิงวอนต่อพวกเจ้าลูกเขยและลูกของฉันได้โปรดช่วยชินะด้วย”
“ค่ะพ่อ หนูจะช่วยชินะ”
“….เข้าใจแล้ว”
พลังของโลกถูกขโมยไปและชีวิตใหม่ไม่สามารถจะเกิดได้อีกต่อไป…ฉันรู้แล้วนั่นก็เลยเป็นเหตุผลให้ฮีโร่เป็นแกนหลักของโลก ในที่สุดฉันก็เข้าใจในทุกๆสิ่งเกี่ยวกับโลก ถ้าชีวิตใหม่ไม่สามารถจะเกิดได้นั่นก็เทียบเท่ากับจุดจบของโลก
ฉันได้กัดลงบนริมฝีปากและพยายามที่จะสลัดภาพที่น่ากลัวของอนาคตในความคิดทิ้งไป ในขณะที่คำพูดของจักรพรรดิได้จบลง จักรพรรดินีก็ได้เข้ามาหาฉัน เธอได้ยื่นวัตถุห้าสีจากช่องเก็บของของเธอมาให้ฉัน
หลังจากรับมาฉันก็ได้ตระหนักได้ว่ามันคือครึ่งหนึ่งของดาบพร้อมกับส่วนที่เหลือของดาบที่นัก น่าแปลกที่ดาบยังคงเปล่งแสงห้าสี แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าอัญมณีที่ด้ามดาบคืออะไรแต่ฉันก็รู้ได้เลยว่าฉันไม่สามารถจะซื้อได้แม้ว่าจะขายคฤหาสน์ของฉันก็ตาม
[ดาบศักดิ์สิทธิ์แห้งมิทารัสที่ชำรุด (พระเจ้า)
ความทนทาง – 0/560
พลังโจมตี – 15,000
ความต้องการการสวมใส่ – เลเวล 90 เป็นฮีโร่
ผลลัพธ์ – สเตตัสทั้งหมด +100 ความเสียหายกับปีศาจทั้งหมดที่เป็นผู้บุกรุกเพิ่มขึ้น 3 เท่า ความแข็งแกร่ง +20% ความเร็ว +20%
ทักษะพิเศษ – การตัดสินแห่งแสง: รวบรวมแสงทั้งหมดในโลกรักษาพันธมิตรทั้งหมดในสนามรบและสร้างความเสียหายกับศัตรูในสนามรบหรือสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงกับเป้าหมายที่เลือก
คำอธิบาย – ดาบศักดิ์สิทธิ์ของฮีโร่ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยโลหะที่มีค่ามากที่สุดของทวีปลูก้า ลูก้าเดี้ยน และซึมซับพลังแห่งมิทารัส มันได้สูญเสียพลังและพังไปในการต่อสู้กับเดม่อนลอร์ดและไม่สามารถจะซ่อมแซมได้]
มันใดนั้นอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกได้ปรากฏขึ้น! มือของฉันสั่นเพียงแค่ถืออาวุธนี้!
“ฉันขอโทษนะ มันพังไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่สามารถจะใช้ได้อีก ยังไงก็ตามฉันเชื่อว่ามันสามารถจะใช้ในทางอื่นได้ ดังนั้นฉันก็เลยมอบให้เธอ ฮีโร่จากโลกอื่น เธอจะยอมรับมันไหม?”
“ผมสามารถจะรับมันได้จริงๆ?”
“หุหุ แล้วใครล่ะที่จะเอาไปถ้าไม่ใช่เธอล่ะ ลูกเขย?”
“อึก”
“แม่!”
ฉันเคยได้ยินคำว่า โชคดีเพราะมีเพื่อนดี มากก่อน แต่ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะได้รับอาวุธแบบนี้เพราะสิ่งนั้น นอกจากนี้เมื่อฉันเห็นดาบศักดิ์สิทธิ์นี้ ฉันคิดได้ทันทีถึงการใช้งานมัน หลังจากได้รับของขวัญที่น่าทึ่งโดยไม่คาดคิดแล้ว ฉันก็ได้คำนับให้กับจักพรรดิและจักรพรรดินีและออกไปจากวัง ใบหน้าของรูเดียเธอยังแดงอยู่ในขณะที่ตามฉันมาเหมือนลูกสุขัข
“ยะ อย่าไปคิดเกี่ยวกับสิ่งที่พ่อและแม่พูดเลย! มันเป็นเพียงแค่ฉันไม่ได้แสดงความสนใจผู้ชาย ดังนั้นพวกท่านก็เลยพูดแบบนั้นเพราะฉันได้พานายมา!”
“ใช่แล้ว แน่นอนสิ ฉันยังเคยแม้แต่มองเธอในฐานะผู้ชายเลยนะ”
“….แคร๊ก”
หืม? ฉันเหมือนได้ยินเสียงอะไรบางอย่างถูกทำลาย? ฉันได้มองไปรอบๆ แต่ว่าทุกอย่างยังคงอยู่ดี รูเดียเพียงแค่กำหมัดแน่น
หลังจากยืนยันว่าไม่มีใครอยู่รอบๆ ฉันก็ได้หยิบเอาหอกกลืนกินออกมา
“หืม? นายกำลังทำอะไร?”
“ดาบเล่มนี้ที่แม่ของเธอให้ฉันมา ฉันไม่สามารถใช้มันได้”
“นายหมายถึงอะไร?”
“นี่ไง ดูสิ”
ฉันได้หยิบส่วนดาบที่หักและนำมันไปเข้ากับหอกกลืนกินโดยไม่ลังเล
จากนั้นหอกกลืนกินก็ได้เปล่งรัสมีสีแดงออกมาและกลืนดาบลงไป
[หอกกลืนกินสีชาดได้ดูดซับดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งมิทารัส อัตตราการเติบโต: 47%]
“กรี๊ดดดดด! ดะ ดาบศักดิ์สิทธิ์หายไปแล้ว!”
“อย่าโง่สิรูเดีย! ดาบศักดิ์สิทธิ์นั่นตายไปแล้ว! แต่ว่าภายในหอกของฉัน! ในหัวใจของฉัน! มันก็ยังมีชีวิตอยู่เหมือนกัน!”
การเติบโตของเจ้าหอกบ้านี้มันเพิ่มขึ้นเพียงแค่ 44% หลังจากที่ดูดซับดาบระดับพระเจ้าลงไปก็ตามที แต่ว่าฉันก็รู้สึกเหมือนได้เห็นอนาคตของหอกเล่มนี้ ฉันได้ถอนหายใจออกมาอย่างถึ่งพอใจและบอกกับรูเดีย
“จำไว้รูเดีย ความโลภเขมือบทุกสิ่ง”
“อย่าได้ทำเท่และพูดคำโง่ๆนั่น…!”
นี้เป็นการสนทนาของพวกเราก่อนที่จะเริ่มเดินทาง