บทที่ 129 – ทีมรีไวเวิร์ล (3)
ฉันได้คิดถึงบางสิ่งอยู่ในชั่วขณะนึงและฉันก็ตระหนักว่ามันเป็นไปได้ในระหว่างการต่อสู้กับเวนดิโก้ มันสามารถจะบอกได้ว่าฉันสามารถจะอยู่บนท้องฟ้าได้ด้วยพลังของริยู
แน่นอนว่ามันจะดีที่สุดถ้าหากว่าริยูสามารถจะบนได้ แต่เธอเป็นหมาป่าดังนั้นเธอก็เลยไม่มีปีก ถึงแม้อย่างนั้นฉันก็ฉันก็ต้องการที่จะเคลื่อนไหวบนฟ้าอย่างดิสระ ระยะเวลาของธาเลเรียมันสั้นเกินไป ฉันต้องการวิธีการที่สม่ำเสมอและยาวนานมากขึ้น
สิ่งที่ฉันคิดได้ก็คือให้ริยูลงไปในรองเท้าของฉัน ด้วยความชำนาญของสปิริตออร่าและความสัมพันธ์ของฉันกับริยู ทำให้ฉันสามารถจะที่จะแช่แข็งทุกๆสิ่งที่สัมผัสได้ มันอาจจะดูเหมือนว่ามีประโยชน์เพียงแค่ฉันโจมตีด้วยเท้า แต่ว่ามันก็ยังมีจุดประสงค์อื่นอีก ด้วยมันฉันจะสามารถที่จะเดินบนท้องฟ้าได้ ด้วยการใช้สปิริตออร่าฉันจะสามารถแช่แข็งอากาศในตำแหน่งเท้าของฉันได้ชั่วระยะเวลาสั้นๆ เมื่อฉันได้ก้าวเท้าไปและดึงพลังธาตุกลับมาที่หยั่งเท้าแบบชั่วคราวก็จะหายไป ด้วยวิธีนี้ฉันไม่จำเป็นจะต้องใช้มานามากนักและเมื่อฉันได้ใช้มันก็จะทำให้ฉันสามารถจะอยู่กลางอากาศได้เป็นเวลานาน ฉันเคยคิดที่จะสร้างบอร์ดขึ้นจากน้ำแข็งและควบคุมมันด้วยพลังของริยู แต่ฉันก็ได้ยอมแพ้เพราะมันกินมานามากเกินไป
ในตอนแรกฉันไม่แน่ใจว่ามันจะใช้งานได้ไหม แต่ว่าเมื่อฉันได้ทดสอบดูมันก็ไม่มีปัญหาใดๆ ด้วยสปิริตออร่าฉันสามารถจะสร้างแผ่นรองวงกลมที่เท้าฉันสัมผัสได้อย่างถูกต้อง โดยการกระโดดและดึงมานากลับมาจากขั้นตอนที่สร้างขึ้นแล้วน้ำแข็งก็จะหายไปและฉันจะได้มานาคืนมา ฉันได้ตระหนักว่าวิธีนี้มันค่อนข้างจะสะดวก นอกจากนี้มันยังรู้สึกดีจริงๆที่ได้บินขึ้นไปบนท้องฟ้าได้โดยที่ไม่มีข้อจำกัด! แม้ว่าเพื่อที่จะไม่ให้สิ้นเปลืองมานาฉันจึงไม่สามารถจะเดินได้ทำได้เพียงแต่กระโดดไปไกลๆเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ฉันจึงสามารถจะไปหารังไวเวิร์นได้อย่างอิสระ
“นะ นั่นคือ…อัศวินสายฟ้า…”
“เขากำลังเดินบนท้องฟ้า นั่นก็คือพลังของเขาด้วยหรอ?”
“ดูใต้เท้าเขาสิ เขากำลังเหยียบบนอะไรบางอย่าง มันยากที่จะมองเห็นในตอนกลางคืน แต่ว่ามันจะส่องแสงออกมาเมื่อเจอแสง”
เมื่อสังเกตุเห็นไวเวิร์นบินผ่านท้องฟ้า ฉันก็ได้กระโดดขึ้นไปอีกครั้ง มันก็ยังมองเห็นฉันและบินมาหาฉันในขณะที่พ่นไฟออกมา ฉันได้รีบสร้างแผ่นน้ำแข็งและกระโดดขึ้นไป
[ก๊าาาาา!]
ไวเวิร์นได้หยุดพ่นไฟและเงยหน้าขึ้นมาจากนั้นมันก็ได้เริ่มพ่นไฟอีกครั้ง ฉันได้พุ่งเข้าไปหามัน แม้ว่าฉันจะใช้พลังของริยูสร้างกำแพงน้ำแข็ง แต่ก็ไม่สามารถจะป้องกันไฟของไวเวิร์นได้ ฉันรู้สึกได้ถึงความร้อนจากเพราะ ถ้าหากฉันอยู่ในดันเจี้ยนฉันก็คงจะเห็นพลังชีวิตของฉันลดลงมาแน่ๆ
โดยไม่ได้สนใจมันมากนัก ฉันได้ต่อยเข้าไปในปากของมัน
[คุแกว๊ก]
ไวเวิร์นได้ส่งเสียงแปลกๆออกมาและพยายามจะงับหมัดของฉันไว้ แต่ฉันก็ได้ใช้แขนอีกข้างล็อคคอของมันและใส่มานาลงไปในหมัดของฉัน
“ไพก้า!”
[ระเบิดสายฟ้า!]
[ก๊าซซซซ!]
ด้วยความตกใจจากระเบิดสายฟ้าทำให้ไฟของไวเวิร์นชะงักลง ต้องขอบคุณริยูที่ทำให้เกราะที่ร้อนจนทำให้ไข่สุกได้เย็นลงไป ในขณะเดียวกันฉันก็ได้ดันกำลังเข้าไปในปากมันลึกขึ้น
“ตายซะ เท็มเพรส”
[ระเบิดสายฟ้า!]
เท็มเพรสและระเบิดสายฟ้าได้ผสมเข้าด้วยกันด้วยวังวนของมานาที่ทำให้กลายเป็นพายุระเบิดสายฟ้าที่รุนแรง ในทันทีหลังจากนั้นหัวของไวเวิร์นก็ได้ระเบิดออกเป็นชิ้นๆ ฮ่าห์ นี้มันรู้สึกสดชื่นอย่างไม่น่าเชื่อเลย…?
[คุณได้สร้างทักษะพายุสายฟ้าด้วยการเพิ่มพลังสายฟ้าอันรุนแรงลงไปในวังวนที่สร้างขึ้นจากวงจรเพรูต้า คุณสามารถจะส่งการโจมตีที่ร้ายแรงเข้าใส่เป้าหมายได้! ซึ่งไม่เหมือนกับทักษะพายุธาตุที่จะสร้างวังวนธาตุใกล้ๆ พายุสายฟ้าจะเพิ่มพลังจากพลังธาตุสายฟ้าและสร้างพลังทำลายในพื้นที่ขนาดเล็ก โดยจะใช้มานาอย่างต่ำ 5% ของคุณ มันจะทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงกับเป้าหมายของคุณอย่างรวดเร็ว และด้วยการเพิ่มมานาลงจะสามารถเพิ่มพลังทำลายได้ ในฐานะที่เป็นทักษะที่ขึ้น เลเวลของทักษะจะถูกปรับเป็นระดับกลางเลเวล 2]
[คุณได้สร้างทักษะพายุสายฟ้าเป็นรูปแบบของพายุธาตุ ทักษะนี้เหมาะสมกับการต่อสู้แบบหนึ่งต่อหนึ่งมีพลังทำลายล้าที่หมาศาล ทักนี้ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในระดับสูงของผู้ใช้วงจรเพรูต้าและเวทย์ธาตุทำให้มีพลังทำลายที่ไม่มีใครสามารถเมินเฉยได้ คุณได้รับแต้มทักษะ 1 แต้มเป็นรางวัล แต้มทักษะปัจจุบัน]
ฉันรู้ฉันได้สร้างทักษะใหม่ขึ้นแล้ว ฉันไม่รู้ว่าการผสมสองทักษะนี้มันจะมีผลแบบนี้ เดี๋ยก่อนนะฉันอาจจะใช้สิ่งนี้ได้ด้วยกับหอกด้วย ความตื่นเต้นของฉันได้เพิ่มมากขึ้นจากการได้สร้างทักษะที่ไม่คาดคิดและแต้มทักษะที่ได้รับมา
“เอาล่ะไปกันต่อเถอะ”
ฉันได้ยิ้มขึ้นภายในหมวก ถ้าฉันจะสามารถปลดปล่อยอารมณ์หงุดหงิดของฉันได้ฉันก็ไม่สนว่าอะไรจะเกิดขึ้น ในตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าฉันสามารถจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างได้
“เข้ามานี่มาเจ้าพวกจิ้งเหลนบินได้!”
[คุณได้ใช้ทักษะยั่วยุ! ศัตรูใกล้ๆจะเข้ามาโจมตีคุณด้วยความเกลียดชัง!]
เสียงตะโกนของฉันได้พุ่งเข้าผ่านเข้าไปในหุบเขาแม้แต่คนอื่นๆก็ยังตอบสนอง
“เอ๊ะ อัศวินสายฟ้าเป็นคนฝรั่งเศสหรอ?”
“นายพูดอะไรนะ เขาเพิ่งจะพูดภาษาเยอรมัน”
“อย่ามาโกหกสินั่นมันภาษาญี่ปุ่น”
เยี่ยมตราบใดที่ฉันมีเครื่องแปลงภาษานี้ ฉันก็ไม่ถูกค้นพบ พวกนายทุกคนเชิญคิดได้ตามที่ต้องการเลย
ฉันได้ยิ้มขึ้นในขณะที่ยืนบนน้ำแข็ง ด้วยการสร้างวังวนที่ผสมสายฟ้าบนมือ ฉันได้ประกับฝ่ามือเข้าด้วยกันใส่ไวเวิร์นที่กำลังใกล้เข้ามา พรุ่งนี้จะมีงานปาตี้เนื้อไวเวิร์นที่น่ารักแน่นอน
จนกระทั่งถึง 6 โมงเช้า ฉันก็ได้เสร็จสิ้นการระบายด้วยการล่าไวเวิร์นลง ในท้ายที่สุดฉันได้ล่าไวเวิร์นไปเกือบ 70 ตัวด้วยตัวเอง เมื่อฉันลงมาบนพื้นหลังจากฆ่าไวเวิร์นตัวสุดท้าย คนอื่นๆได้เริ่มพึมพัมขึ้นมา
“เขาไม่ได้แข็งแกร่งแบบนี้ในตอนเขาอยู่อังกฤษ”
“เขาแข็งแกร่ง แต่ไม่ได้ขนาดนี้”
“แต่ว่าตอนนี้…”
“เขาเป็นพวกระดับ SS”
ในทางกลับกันก็มีบางคนที่เข้ามาคุยกับฉันตรงๆ เขาเป็นคนผิวขาวที่ดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของผู้พิทักษ์ในอเมริกา เขาได้สวมใส่เพราะที่มีตราสัญลักษณ์ผู้พิทักษ์อยู่บนเกราะ
“ฉันเป็นผู้ใช้พลังระดับ S ของอเมริกา จอร์น สมิท”
“จอร์น สมิท”
“มันเป็นชื่อจริงของฉัน”
นั่นมันชื่อที่ฉันต้องการมาใช้เป็นชื่อปลอม! น่าเศร้าอะไรแบบนี้ ฉันต้องการที่จะถูกเรียกว่าจอร์นสมิทแทนที่จะเรียกอะไรแปลกๆแบบ T.K จอร์น สมิทผู้ซึ่งได้กลายเป็นเป้าหมายของความอิจฉาของฉันได้ชี้ไปที่ไวเวิร์นที่ฉันพึ่งจะฆ่าไปและถามออกมา
“ถ้านายต้องการ พวกเราสามารถจะเก็บรวมรวมไวเวิร์นไว้ให้สำหรับนายได้ แน่นอนว่าพวกเราจะไม่ทำอย่างอื่นใด”
“ทำไมล่ะ? นั่นมันดูจะเป็นข้อเสนอที่ดีเกินไป”
ฉันได้วางแผนที่จะปล่อยให้ฮวาหยาเก็บรวบรวมไวเวิร์นพวกนี้ในภายหลังด้วยข้ออ้างพลังมิติเก็บของของเธอ แต่ว่าฉันก็ต้องงงกับข้อเสนอที่ไม่เคยคาดคิด
“มันเป็นเรื่องเล็กน้อยที่เราสามารถทำได้ นายมาที่อเมริกาจากต่างประเทศและช่วยลดจำนวนของไวเวิร์นที่มีมากในยามค่ำคืน อย่างน้อยการจัดการเก็บดูแลซากไวเวิร์นก็คือสิ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อแทนความรู้สึกขอบคุณของเรา”
“อ่า…เข้าใจแล้ว”
ในตอนนี้ฉันพึ่งจะนึกได้ ในกรณีนี้ฉันรู้สึกยินดีที่มีงานเล็กน้อยให้ฉันทำ เก็บรวบรวมซากไวเวิร์นทั้งหมด 70 ตัวมันเป็นงานที่น่าเบื่อ แต่เนื่องจากว่าพวกเรามีตัวควบคุมตรวจสอบหุบเขาทั้งหมดพวกเขาก็ควรจะทำมันได้เร็วขึ้น
“หืม ถ้านั้นพวกนายก็เอาพวกมันไป 10 ตัว”
“ไม่ พวกเราไม่ได้ทำข้อเสนอนี้เพื่อรับผลประโยชน์”
“มันไม่เป็นไร เพื่อขอบคุณสำหรับการทำงานของพวกนาย 10 ตัวมันพอไหม?”
“นั่นมันมากยิ่งกว่าพอแล้ว ไวเวิร์นเป็นมอนสเตอร์ที่หายาก ดังนั้นพวกเราจึงได้ล่าพวกมันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้านายต้องการจะขายอีก 60 ตัวที่เหลือ พวกเราก็จะจ่ายเงินจำนวนมหาศาลให้กับมัน”
สำหรับสิ่งนี้เขาได้บอกว่าไวเวิร์นแต่ละตัวมีมูลค่ากว่า 2.3 ล้านดอลล่า ในเงินเกาหนีมันมีค่ามากกว่า 2.5 พันล้านวอน ชิ พวกมันมีค่ามากยิ่งกว่าทูน่าละลายซะอีกนะเนี้ย! เดี๋ยวก่อนสินั่นมันไม่ได้หมายความว่าฉันพึ่งจะทำรายได้มากกว่า 180 พันล้านวอนหรอ? ไม่ว่าฉันจะทำเงินได้มากเท่าไหร่ ฉันก็ไม่เคยใช้มันเลนยดังนั้นฉันก็เลยไม่รู้ว่ามันมากแค่ไหน สำหรับตอนนี้ฉันคิดว่า ‘ให้ 10 ตัวมันมากเกินไป’ ฉันควรจะถามราคากับเขาก่อน! ยังไงก็ตามในฐานะผู้ใช้พลังระดับสูง มันจะน่าเกลียดที่จะขอของที่ให้ไปแล้วคืนมา
ฉันได้ถามออกไปในขณะที่พยายามสงบสติอารมณ์
“ถ้างั้นฉันจะขายมัน 20 ตัวสำหรับตอนนี้”
“เข้าใจแล้ว เราสามารถจะคุยได้เกี่ยวกับรายละเอียดของมันในช่วงบ่ายหลังจากได้พักผ่อนแล้ว แน่นอนว่าเราจะเก็บศพทั้งหมดของไวเวิร์นต่อไปเรื่อยๆ
“แน่นอน”
ฉันได้กลับไปยังที่พัก ถึงแม้ว่าฉันจะทำความสะอาดเลือดของไวเวิร์นด้วยพลังของริยูมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะลบมันมันไปได้อย่างสมบูรณ์ พลักงานของล็อบบี้ผู้พิทักษ์ได้ตกใจเมื่อเห็นฉันและพาฉันไปอาบน้ำ ตามที่ฉันได้คาดเอาไว้สถานที่นี้มีไว้สำหรับเหล่าผู้ใช้พลักในการอาบน้ำส่วนตัว ในที่สุดฉันก็สามารถจะถอดหน้ากากออกได้
“ฟู่….”
แม้ว่าฉันจะปลดปล่อยความหงุดหงิดของฉันโดยการใช้ไวเวิร์น ฉันก็ได้นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนล่าสุดในห้องอาบน้ำอุ่น เคียร่าที่ตระหนกตกใจและฮวาหยาที่มองมาที่ฉันด้วยความเป็นห่วง รูเดียที่ไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะพูดคุยเกี่ยวกับฮีโร่และเยอึนที่กังวลเรื่องของฉัน แต่ว่าฮวาหยาต่างออกไป
เธอได้พิจารณาถึงข้อเสนอของเคียร่าอย่างจริงจังและถามว่าถึงการที่ฉันปฏิเสธของเสนอของเธอ เธอรู้ว่าการเป็นฮีโร่มันอันตรายยังไงและคิดว่ามันเป็นการดีสำหรับโลกและเพื่อความปลอดภัยของฉันในการยอมรับข้อเสนอของเธอ
“องกรค์งั้นหรอ หืมม….”
มันคงจะเป็นเรื่องโกหกถ้าหากฉันจะบอกว่าฉันไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย มันคงจะเป็นเรื่องโกหกถ้าหากฉันจะบอกว่าฉันไม่เคยคิดว่าฉันเป็นรองฮีโร่ในทวีปอื่นๆที่ต่อสู้กับศัตรูในโลกของพวกเขาในฐานะแกนกลางของโลก
มันเป็นเรื่องที่น่ารำคาญและน่าอึดอัดใจเพราะว่ามันเป็นเรื่องที่จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ในอนาคต แต่ว่ามันก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น เท่และเป็นสิ่งลี้ลับที่เด็กทุกคนฝันถึง คนที่ต่อสู้โดยมีชะตากรรมของโลกแขวนเอาไว้อยู่ มันค่อนข้างที่จะเป็นคำที่ได้ยินบ่อยๆในการ์ตูน นอกจากนี้มันก็ไม่ใช่ว่าฉันไม่ชอบความปลอดภัยนักหรอก ฉันไม่ได้โง่
ฉันไม่อยากที่จะตาย ฉันเป็นห่วงครอบครัวฉัน เพื่อนของฉัน รูเดียที่อยู่กับฉัน…และโรเล็ตต้าที่จะต้องเจ็บปวด
มันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ฉันจะต้องปกป้อง หลายคนที่ฉันรักและคนที่รักฉัน
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันกลัวมากยิ่งขึ้น
ที่ฉันต้องการจะใช้คนจำนวนนับไม่ถ้วนเพียงเพราะว่าชะตากรรมของโลกถูกแขวนเอาไว้อยู่ คนจำนวนมากจะต้องตายเพื่อปกป้องฉัน ฉันกลัวการที่จะต้องมีคนเลือดหลั่งไหล่ภายใต้คำว่าฮีโร่
ฉันกลัว มันน่าขยะแขยงและน่าหวาดกลัว
เพราะอย่างนั้น….
“ฉันจะต้องแข็งแกร่งขึ้น”
ฉันจะต้องแข็งแกร่งขึ้น แกร่งพอที่จะบดขยี้ทุกๆอย่างด้วยพลังของตัวเอง
ฉันจำเหตุการในทวีปลูก้าได้
ในขณะที่โลกกำลังล่มสลาย ฉันจำได้ถึงผู้คนที่เข้าต่อสู้กับปีศาจเพื่อช่วยพรรคพวกของตัวเอง
ในขณะที่โลกกำลังล่มสลาย ฉันจำได้ถึงจักรพรรดิผู้ที่ยอมเสียสละชีวิตของเขาให้กับคนที่เขารัก
ถ้าหากฮีโร่ไม่ตายสิ่งต่างๆเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น คนทรยศก็จะไม่ต้องไปจับมือร่วมกันกับปีศาจเพื่อช่วยตัวเองและจักรพรรดิก็จะไม่ต้องตายไปในอนาคต ไม่ใช่อย่างในปัจจุบัน ยังไงก็ตามฮีโร่ได้ตายไป โลกได้พังลง เพื่อนของฉันได้สูยเสียพ่อแม่ของตัวเธอเอง และคนที่ใกล้ชิดอีกมากมาย
เพราะแบบนั้นฮีโร่ของโลกก็จะต้องไม่ตาย เขาไม่ได้รับอนุญาตให้ตาย เพื่อที่จะไม่ตายเขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้น แข็งแกร่งอย่างมากเพื่อที่จะไม่ให้เกิดการตายอย่างไร้ซึ่งความหมาย
ฉันได้ปิดฝักบัว และเช็ดร่างกายด้วยผ้าเช็ดตัว ฉันได้คิดถึงวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้
แต่ฉันก็ไม่สามารถจะคิดอะไรได้เหมือนอย่างเคย