บทที่ 146 – สิ่งที่พวกเราสามารถทำได้ (4)
รูเดียและฉันได้เข้าไปอยู่ในเขตกังวอนโดที่ๆซึ่งมีดันเจี้ยนระดับ B A และ A+ เนื่องจากว่ามันไกลจากโซลมา ดังนั้นฉันก็เลยจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับฉันที่จะไปที่นั่นด้วยการนั่งบนหลังของล็อทเต้ที่เร็วยิ่งกว่าเครื่องบินเจ็ท
“แต่ว่า….”
หลังจากที่ขึ้นมาบนหลังของล็อทเต้กับฉันแล้วรูเดียก็ได้พึมพัมอย่างเย็นชา เธอได้ชี้ไปที่หญิงสาวที่กอดหลังของฉันเอาไว้ด้วยดวงตาที่มีรูปเหมือนกับดาว เธอกำลังใส่ชุดเดรสสีน้ำทะเลซึ่งเหมาะมากสำหรับการเดินเล่น
“นี้คืออะไร?”
“เธอคือพลีนเป็นไซเรน เธอเป็นเพื่อนของฉันเหมือนกับล็อทเต้”
[ไฮ๊! ฉันพลีน! เป็นชื่อที่ยอดเยี่ยมเลยใช่ไหมล่ะ? ชินเป็นคนมอบมันให้กับฉัน!]
พลีนได้ยิ้มออกมาอย่างไร้เดียงสาและปล่อยแขนออกจากฉัน เธอได้ยื่นมือออกไปให้รูเดีย แต่รูเดียทำเพียงแค่จ้องมองดูเธอ
“ฉัน….ฉันคิดว่านายจะขอฉันมาเดท”
“ไม่เลย พวกเรากำลังจะไปดันเจี้ยนกัน เดทคืออะไร?”
“นายนี่โง่จริงๆ”
“นายนี่มันโง่”
[เธอใจร้ายอะ! เธอเมินคำทักทายของฉัน! ชินดุเธอหน่อยสิ!]
“รูเดียเป็นคนหยายคายนะ ให้อภัยเธอนะพลีน”
“เธอนั้นแม้แต่ขโมยที่ของฉันไป ฉันเกลียดเธอ…!”
พลีนนั้นสมบูรณ์แบบมากที่จะใช้รับมือกับรูเดีย แม้ว่ามันอาจจะโหดร้ายสำหรับรูเดียไปหน่อย แต่ฉันคิดว่ารูเดียกำลังใช้ข้อแก้ตัวทุกประเภทเมื่อเร็วๆนี้เพื่อที่จะเข้าใกล้ฉัน!
ฉันเป็นผู้ชายและรูเดียเป็นผู้หญิง มันจะไม่มีปัญหาอะไรแม้ว่าเราจะเดทกัน แต่ว่าพวกเราไม่ได้เป็นแบบนั้นการใกล้ชิดมันน่าลำบากใจ ทั้งฮวาหยาและเยอึนต่างก็ส่งสายตาแปลกๆมาที่รูเดียเช่นกัน ฉันพูดว่าฉันจะรับผิดชอบต่อการที่ทำให้รูเดียสูญเสีย แต่นั่นมันก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะแต่งงานกับเธอ! ถ้าเธอกลายเป็นสนิทสนมมากกว่าตัวเธอในปัจจุบัน…ฉัน…อะแฮ่ม
แต่ว่านี้มันเกี่ยวอะไรกันล่ะ? พลีนผู้ซึ่งชอบการใกล้ชิดกับทุกคนนั้นได้แก้ทางรีเดียได้ิอยู่หมัด ในขณะที่รูเดียได้ใช้เวลาแยกตัวจากฉันมากขึ้น เธอก็จะรู้ว่าเธอไม่ได้ยึดติดกับฉันเสมอไป!
……แต่ว่ามันแปลกนะ ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าไม่มีอะไรเปลื่ยนแปลงไปเลยนอกจากพลีนได้มาแทนที่่รูเดีย
ไม่ว่ายังไงก็ตามอย่างแรกพวกเราได้ตัดสินใจที่จะเคลียร์ดันเจี้ยนระดับ B ดันเจี้ยนนี้ได้ปรากฏขึ้นอยู่ตรงใจกลางสนามแคมป์ของกังวอนโด ฉันตกใจกับจำนวนผู้พิทักษ์จำนวนมากที่ยืนเรียงรายป้องกันอยู่ ด้วยจำนวนดังกล่าวนี้พวกเขาสามารถจะเข้าไปข้างในและเคลียร์ดันเจี้ยนด้วยตนเองยังได้
ผู้พิทักษ์มองไม่เห็นพวกเราบนท้องมันเป็นเพราะว่าล็อทเต้เป็นไวเวิร์นที่ขี้โกงที่มีทักษะพิเศษในการล่องหน ด้วยทักษะนี้ทำให้เราซ่อนตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ
“ชินนายจะทำอะไรล่ะ? จะพูดกับพวกนั้นหรอ?”
รูเดียได้ถามขึ้นในขณะที่ยกคทา มันแปลกมากทำไมเธอถึงอยู่ในโหมดต่อสู้แทนที่จะอยู่ในโหมดปกติล่ะ? เธอกดอะไรผิดงั้นหรอ?
แม้ว่าฉันจะตกตะลึงอยู่ ฉันก็ได้ตอบกลับเธอไปอย่างรวดเร็วเพราะถ้าหากเธอได้ร่ายเวทย์จะเป็นปัญหากับฉันแน่
“ไม่ พวกเราจะไปร้องเพลง”
“ร้องเพลง?”
รูเดียได้เอียงหัวงง ครู่หนึ่งเธอก็มองไปที่พลีนและเหมือนจะคิดว่า ‘เธองั้นหรอ?’
เมื่อฉันมองไปที่พลีน เธอก็หยักหน้าด้วยรอยยิ้มเขินอายจากนั้นก็เริ่มร้องเพลง
“ล๊าล่าล่า~”
“อืม? เสียงนี่มาจากไหนกัน?”
“เป็นเสียงที่สวยงามอะไรแบบนี้”
“ไอโง่ มันอาจจะเป็นการโจมตีจากมอนสเตอร์ ตั้งสติเอาไว้”
ด้วยเสียงของพลีนที่ดังจากฟากฟ้าเหล่าผู้พิทักษ์ได้เริ่มล้มลงไปทีละครับ เริ่มจากคนที่แจ้งเตือนให้คนอื่นๆระวังตัว หลังจากกลายมาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของฉันพลีนได้มีพลังในการร้องเพลงที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในตอนแรกที่เราได้เจอกันพลังของเธอก็ยังสงผลแม้แต่ผู้ใช้พลังระดับ S ซึ่งมันก็ได้พัฒนามากกว่านั้นไปอีกมาก แม้ว่าจะมีผู้ใช้พลังด้านเวทย์ที่ต่อต้านการโจมตีทางจิตใจเป็นปกติแต่ว่ามันก็ยากที่จะต้านทานการร้องเพลงของพลีน
“เพลงนี้มันเพราะอะไรแบบนี้…”
“สำหรับพวกเรามันเป็นเพลงที่ไพเราะ แต่ว่าสำหรับพวกนั้น….”
สำหรับพวกนั้นแล้วจะได้รับผลพิเศษเพิ่มเข้าไปนั้นคือการหลับลงไป 10 วินาที
เพียงแค่การร้องเพลง 30 วินาทีพลีนก็ทำให้ผู้ใช้พลังทั้งหมดที่อยู่ใกล้ๆทิ้งอาวุธลงและหลับลงไป เมื่อพวกเขาได้ตื่นขึ้นมาพวกเขาก็จะรู้สึกกระปี้กระเป่า ถ้าหากพวกนายทุกข์กับการนอนไม่หลับล่ะก็ฉันจะขอแนะนำไซเรนเลยล่ะ! พวกเธอนั้นเป็นที่นิยมอย่างมาก เมื่อคิดสิ่งไร้สาระแบบนี้ฉันก็ได้เคาะไหล่ของพลีน
“ล๊าล่าล่า~ อืม? ทำไมหรอ?”
“เธอหยุดร้องเพลงตอนนี้ได้ไหมพลีน?”
“แต่ว่าฉันอยากจะร้องจนจบ…”
“เธอสามารถจะร้องมันได้หลังจากนี้ ในตอนนั้นฉันจะฟังเพลงเต็มๆของเธอ”
“โอเค!”
ในกรณีที่เหตุการการจู่โจมแตกออกมาหลังจากพวกเราเคลียร์ดันเจี้ยน พวกเราก็จะเคลื่อนย้ายผู้ใช้พลังไปที่อื่น ในเวลาสั้นๆหลังจากนั้นพวกเราก็เป็นกลุ่มเดียวที่อยู่ตรงเกต
“เป็นพลังที่ไม่น่าเชื่อเลย”
“พลีน รูเดียกำลังชมเธออยู่น่ะ”
“จริงหรอ? ขอบคุณนะ ฉันชอบเธอ”
“มะ ไม่ นั่นมันไม่ใช่คำชม”
เหมือนเคยมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะได้รับคะแนนจากพลีน เมื่อฟังพวกเธอเถียงกันไปมา ฉันก็ยิ้มขึ้นและสั่งกับล็อทเต้
“พุ่งไปที่เกต”
[เข้าใจแล้วฮีโร่]
ล็อทเต้ได้กระพือปีกของเธอในทันทีและบินเข้าเกตไปอย่างรวดเร็ว
สภาพแวดล้อมของเราได้แปรปวนและเหตุการดันเจี้ยนได้ปรากฏขึ้น มันเป็นทุ่งหญ้าที่เปิดโล่งกว้างซึ่งจะมีกวางที่จะวิ่งเล่นรอบๆ พวกมันมีผิวสีเขียวขุ่นและมีขนาดที่ใหญ่กว่ากวางตามปกติถึงสามเท่า บนหน้าผากของแต่ละตัวจะมีเขาเป็นเกลียวและมีกีบเท่าเป็นลักษณะเหมือนกับกรรไกร ถ้าไม่ได้เป็นพราะการมีตัวตนของมัน ทิศทัศน์นี้มันดูสงบอย่างมาก
“เนื้อของกวางไม่ได้มีรสชาติที่ดีเลย…เวรเอ้ย”
“นายกำลังคิดที่จะกินพวกมันหรอ!?”
พลีนก็ยังคงทำได้ยอดเยี่ยมแม้ว่าจะอยู่ในดันเจี้ยน เธอสามารถที่จะปรับแต่งเพลงของเธอเพื่อที่จะเปลื่ยนไปใช้เอฟเฟคสถานะต่างๆได้ ใช่แล้วในตอนนี้เธอได้ปรับเปลื่ยนเพลงของเธอเพื่อที่จะดึงดูดผู้ฟังให้มาหาเธอเหมือนกับซอมบี้ ไม่ว่ากลางตัวนั้นจะกำลังเดินเล่นบนพื้นหญ้าหรือกำลังต่อสู้กัน พวกมันก็ได้หันมาสนใจพลีนที่กำลังร้องเพลงและเดินเข้ามาหาพวกเขา ในขณะที่พลีนร้องเพลงต่อไป พวกเราก็ได้บินวนรอบๆทุ่งหญ้าบนหลังของล็อทเต้
“ชิน? นายกำลังจะทำอะไร?”
“เธอไม่เห็นหรอ? ฉันกำลังจะรวมกวางเข้าด้วยกัน”
“ล๊าล่าล่า~”
หลังจากนั้นไม่นานฉันก็ได้มั่นใจเมื่อมองไปรอบๆดันเจี้ยนว่าเหล่ากวางฝูงใหญ่ได้ตามพวกเรามาแล้ว
“ก๊าาา…”
“กรรร….”
ในอดีตฉันจะต้องล่ามอนสเตอร์ไปในทันทีที่เห็นมัน แต่ว่าในตอนนี้มอนสเตอร์ที่อ่อนแอเหล่านี้ไม่สามารถจะทำให้ฉันรู้สึกมีจิตต่อสู้เลยซักนิด ฉันดีใจที่ได้พาพลีนมาด้วยกัน
“เราจะต้องล่ามอนสเตอร์ทั้งหมดบอสถึงจะปรากฏตัวสินะ? พวกตัวอื่นๆมันอยู่ไหนในดันเจี้ยนหรอรูเดีย?”
“ฉันคิดว่ามันน่าจะขึ้นอยู่กับจำนวนของมอนสเตอร์ที่เจอ ไม่ใช่จำนวนที่เอาชนะแล้วก็ตั้งแต่ที่เราได้เริ่มหามอนสเตอร์กันมันก็ควรใกล้จะปรากฏตัวออกมาแล้วล่ะ….อ่า มันอยู่นั่นไง!”
[ก๊าาาาาา….]
[บอสกวางคิราแห่งทุ่งหญ้า ‘กวางคิราโลหะ’ ปรากฏตัว! เอาชนะกวางคิราโลหะและเคลียร์เหตุการดันเจี้ยนจะได้รับรางวัลพิเศษ]
ในเวลาเดียวกันที่บอสปรากฏตัวในที่สุดฉันก็ได้รู้ว่ามอนสเตอร์นี้มีชื่อว่าอะไร กวางคิรา! ในฐานะที่มันเป็นบอสเพียงแค่ร่างกายมันก็สูงกว่า 3 เมตรแล้วในขณะเดียวกันขาของมันก็ได้ทำมาจากเหล็ก มันมีขนาดที่ใหญ่โต เขาหนาที่ดูน่ากลัว อย่างที่พูดไปนั้นทำไมบอสที่เป็นสัตว์ถึงชอบปรากฏตัวในรูปแบบของโลหะกันนะ!? ฉันได้ยกหอกขึ้นอย่างระมัดระวัง
“ฮีโรอิค สไตรค์”
[คุณได้เอาชนะบอสเหตุการดันเจี้ยน ดันเจี้ยนกวางคิรา]
[เงิน 30,000 จะถูกแบ่งให้กับสมาชิกอย่างเท่าเทียม คุณได้รับทอง 15,000]
[คังชินได้มีส่วนร่วมมากที่สูง เลือกรางวัลของคุณ]
[1.ดาบเขากวางคิราโลหะ
2.เขากวางคิราเดีย]
แน่นอนว่าเหล่ากวางคิราที่เหลือไม่ได้หายไปเพียงแค่เพราะฉันได้ฆ่าบอส อย่างแรกฉันได้เลือกดาบเขากวางคิราโลหะและให้หอกของฉันกินมันลงไป จากนั้นฉันก็ได้จัดการกวางคิราที่เหลือด้วยพายุธาตุ ในขณะเดียวกัน รูเดีย…
“รูดู นั่นอะไรนะ?”
“เขากวาง”
“….เธอกำลังทำอะไร?”
“ป่นมันไง”
“เพื่ออะไร…?”
“เพื่อให้ชินกินมัน”
การอุทิศตัวของรูเดียทำให้ฉันรู้สึกชื่นชมจริงๆเลย เขากวางมันเป็นสิ่งที่ดีกับร่างกายอย่างแน่นอน ดังนั้นฉันจึงรู้สึกขอบคุณ
[คุณได้เคลียร์ดันเจี้ยนระดับ B สมาชิกปาตี้ทั้งหมดได้รับโบนัสแต้มสเตตัส 1 แต้ม]
[ในตอนนี้คุณจะถูกส่งคืน]
จากนั้นพวกเราก็ได้ไปเคลียร์เหตุการดันเจี้ยนอีกสองแห่ง แต่ว่าก็ไม่เกิดเหตุการการจู่โจมขึ้นมา ทั้งหมดนี้ทำให้เราได้รับแต้มสเตตัส 4 แต้ม
[พวกเราเคลียร์เสร็จแล้วนะ คนอื่นเป็นไงมั้ง?]
[พวกเรายังอยู่ในที่ๆสองเลย]
[พวกเราก็เหมือนกันยังอยู่ในที่ๆสอง เจ้าลูกชายทำไมแกเคลียร์ได้เร็วแบบนี้?]
[พ่ออย่างจะรู้งั้นหรอ?]
[ไม่ ไม่เป็นไรหรอก แกควรจะไปต่อและเคลียร์ดันเจี้ยนที่อื่นๆนะ]
หลังจากได้ตรวจสอบข่าวสารจากโทรศัพท์แล้วฉันก็รีบไปเคลียร์ดันเจขี้ยนอื่นสองแห่ง รัฐบาลเกาหลีก็ยังได้พบว่าเราได้ทำลายเหตุการดันเจี้ยนและส่งกำลังเสริมมาป้องกันดันเจี้ยนที่ยังไม่ถูกเคลียร์ พวกเราแม้แต่วิจารณ์พวกเราผ่านสื่อต่างๆ ไม่ว่ายังไงก็ตามพวกเขาก็ไม่มีทางจะหยุดฉันได้สักนิด พลีนได้ทำให้ทุกๆคนหลับลงไปอย่างง่ายดายและพวกเราก็จะเคลียร์ดันเจี้ยน หลังจากนั้นก็ได้เริ่มมีข่าวแพร่กระจายว่ามีการจู่โจมที่ไม่สามารถระบุเจตนาที่เป็นอันตรายกำลังบุกเข้าสู่เกตของเกาหลี
“แม้ว่าจะมีเหล่าผู้พิทักษ์ป้องกันประตูไว้ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถจะป้องกันพวกเราจากการเคลียร์ดันเจี้ยนได้”
แม้ว่ามันจะมีกฏหมายเกี่ยวกับเหตุการดันเจี้ยนที่ว่าตราบเท่าที่มีดันเจี้ยนหรือเหตุการดันเจี้ยนจะขึ้นอยู่กับรัฐบาลและกลุ่มผู้พิทักษ์ที่สามารถจะบอกได้ว่าจะทำอะไรกับมัน แต่ยังไงก็ตามมันก็เป็นเพียงแค่สิ่งที่พวกเขาคิดเองเออเองเท่านั้น
ยังไงก็ตามข่าวดังกล่าวก็ได้อ้างว่าพวกเราเป็นผู้ก่อการร้ายที่พยายามจะปล่อยปีศาจในเกาหลีด้วยการเคลียร์เหตุการดันเจี้ยนและทำให้เกิดเหตุการการจู่โจม
เฮ้ ใครกันแน่ล่ะที่เป็นผู้ก่อการร้าย?
[พวกเขาได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นกลุ่มๆเดียวกันกับกลุ่มที่ซึ่งได้กำลังทำลายเกตต่างๆในประเทศต่างๆในช่วงเดือนที่ผ่านมา กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่รู้จักกันดีว่ามีผู้ใช้พลังระดับ SS ฮวาหยา มัสติฟอร์ดเป็นผู้นำ…]
[ข่าวด่วน ได้มีรูปภาพของคนกลุ่มหนึ่งที่ขี่อยู่บนไวเวิร์น ชายคนที่ยืนอยู่บนสุดนั้นเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นอัศวินมังกรผู้ที่พึ่งจะสร้างความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ไปในอเมริกา เป้าหมายในปัจจุบันของเขาดูเหมือนกับฮวาหยา มัสติฟอร์ด]
[ทำไมพวกเขาถึงทำแบบนี่? ในบางคนได้บอกว่าพวกเขาได้ทำลายเกตในเกาหลีด้วยเหตุผลเดียวกันกับที่พวกเขาทำลายเกตอื่นๆในช่วงเดือนที่ผ่านมา]
[รัฐบาลได้นำกองทัพผู้พิทักษ์ไปที่เกตุที่ยังไม่ถูกเคลียร์….อ่า! พวกเราเพิ่งจะได้รับรายงานมาว่าเกตอื่นๆทั้งหมดที่ไม่ใช้เกตระดับ S หรือ S+ ทั้งสี่ ได้ถูกทำลายไปทั้งหมดแล้ว]
ฉันไม่สามารถจะบอกได้ว่ามันเป็นที่น่าพอใจเพราะว่าพวกเขาได้พูดดูเหมือนว่าฉันเป็นคนร้าย แน่นอนว่าฉันก็สามารถจะเข้าใจว่าพวกเขาถูกส่งมาจากไหน พวกเขาคงอาจจะคิดว่า ‘ทำไมถึงพวกเรา?’ ถ้าฉันสามารถจะไปบอกพวกเขาได้ ฉันก็จะไปบอกว่า
ไม่ต้องกังวลสิ่งที่เหมือนๆกันนี้ก็จะเกิดขึ้นในประเทศอื่นๆเช่นกัน!
ฉันได้มุ่งหน้าไปที่โซลบนตัวของล็อทเต้ซึ่งที่นั้นเป็นที่นัดพบกันของพวกเรา อีกสองทีมที่เหลือก็กำลังมุ่งหน้าไปเช่นกัน พวกได้มีความเด็ดเดี่ยวอย่างเห็นได้ชัด นั่นมันทำให้สะดวกมากยิ่งขึ้น ฉันไม่ต้องการที่จะอธิบายซ้ำสอง
“ใช่แล้วฟังดูดีนี้ ฉันแน่ใจได้เลยว่าชินจะส่องประกายแน่แม้ว่าจะอยู่หน้ากล้อง”
“ชินเท่จัง!”
“ไม่จำเป็นต้องมายอฉันหรอกน่า ถึงอย่างนั้นก็ขอบใจนะ”
แม้ว่าในช่วงเดือนที่ผ่านมาฉันจะไม่ได้อยู่ด้วยแต่กิลรีไวเวิร์ลก็ได้ประสบความสำเร็จในการกำจัดเหตุการดันเจี้ยน พวกเขาได้ทำให้การประกาศของฉันจะมีประสิทธิภาพขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ต้องขอบคุณพวกเขาฉันได้พร้อมที่จะปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนแล้ว
ถึงเวลาแล้วที่รีไวเวิร์ลจะก้าวขึ้นสู่เวทีระดับโลก มันไม่ใช่ในฐานะพันธมิตรของทุกคน แต่ว่ามันจะเป็นกลุ่มประแปลกประหลายที่เชี่ยวชาญในการยั่วยุ
‘เคียร่าเธอต้องการจะให้ฉันเป็นผู้นำผู้ใช้พลังของโลกสินะ แต่ว่าวิธีการของฉันมันต่างออกไป มันจำทำให้เธอรำคาญแน่ๆ ฮ่าๆ!’