บทที่ 153 – หอกโกลาหลสีชาด (3)
ดันเจี้ยนในอิตาลีส่วนใหญ่พวกเราได้จัดการมันได้อย่างปลอดภัย แม้ว่าจะมีสุมิเระที่เสียใจเล็กน้อยที่ไม่มีดันเจี้ยนอยู่แถวโรม หลังจากฉันบอกเธอว่าเราสามารถจะกลับมาเที่ยวได้หลังจากเคลียร์เหตุการดันเจี้ยนแล้ว เธอก็ดูมีคววามสุขขึ้นทันตา
ส่วนดันเจี้ยนที่เหลืออยู่มีเพียงแค่ดันเจี้ยนระดับ S+
“ทำไมมันถึงปรากฏอยู่ในทางน้ำเวนิสทุกแห่งล่ะ?”
“อ่า…จริงด้วย”
ไม่ใช่ว่ามันเคยเกิดขึ้นมาก่อนหรอ? ใช่แล้วไม่ใช่ว่ามันก็เหมือนกับวินเดอร์แมร์ล่ะ? ฮวาหยาก็ดูเหมือนจะคิดแบบเดียวกันเธอได้หยักไหล่และหยักหน้า
“ใช่แล้วถ้ามันเปลื่ยนเป็ฯพื้นที่ดันเจี้ยน เวนิสก็จะสูญเสียไป”
“ถ้างั้นแบบนี้…”
ในที่สุดแล้วฉันก็เข้าใจแล้วว่าทำไมสื่อของอิลาลีถึงได้สนับสนุนเราเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับที่ประเทศอื่นๆ มันจะเป็นอันตรายมากถ้าหากเวนิสได้กลายเป็นพื้นที่ดันเจี้ยน ฉันได้ยิ้มและกระตุ้นล็อทเต้
“เอาล่ะ ไปจัดการความกังวลนั้นของพวกเขากันเถอะล็อทเต้”
[ก๊าซซซซซซซซซ!]
ล็อทเต้ได้ตอบกลับมาด้วยเสียงร้องและบินไปด้วยความเร็ซที่สูงมาก มันเป็นเวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้นที่เราได้มาถึงเมืองเวนิส
ที่นั่นฉันได้พบกับคนที่ฉันไม่คิดว่าจะได้เจอ
“ฉันลูก้า บรูโน่ พวกคุณทุกคนเป็นหญิงสาวที่สวยมากจริงๆ”
ด้านบนสุดของสะพานที่อยู่ใกล้ๆกับเกตในเวนิสได้มีผู้ใช้พลังระดับ SS ของอิตาลียืนรอพวกเราอยู่ เหมือนอย่างที่ฮวาหยาพูดเขาหล่อมากๆ ผมและเสื้อเชิตของเขามันดูสะดุดตาและดูเหมือนว่าจะอยู่ในยุคกลางปี 20 ไม่ว่ายังไงก็ตามฉันก็รู้สึกได้ถึงมานาที่ออกมาจากร่างกายของเขาอย่างแน่นอนซึ่งได้บอกว่าเขาคือผู้ใช้พลังระดับ SS
“โอ้ สวยอะไรแบบนี้ ผมเคยเห็นหญิงสาวมาทั่วโลก แต่ผมไม่เคยเห็นคนที่สวยงามเช่นนี้มาก่อนเลย”
“ฮิ้”
เมื่อลูก้า บรูโน่ได้ยื่นมือมา เยอึนและรูเดียผู้ที่รู้สึกไม่ดีกับคนแปลกหน้าได้ทำเสียงแปลกๆและมาหลบอยู่ข้างหลังฉัน สุมิเระผู้ที่ไม่ชอบการถูกยกยอได้ขมวดคิ้ว ในขณะที่ชูนะดูเหมือนจะมีความสุขเล็กน้อยและฮวาหยาได้หัวเราออกมา สำหรับพลีนเธอได้เหนื่อยจากเคลียร์ดันเจี้ยนก่อนหน้านี้จึงกลับไปพัก
“สวย? ฉันไม่ได้ยินคำชมแบบนี้มาพักนึงแล้วนะ”
“แน่นอน ผมเคยได้ยินเกี่ยวกับคุณมัสติฟอร์ดมามาก แต่คุณสวยกว่าที่ผมคิดเอาไว้ซะอีกนะ ตาของคุณเหมือนกับทับทิมเลย”
ฮวาหยาได้ยิ้มกับคำยกยอนี้และพูดกับฉัน
“นายได้ยินไหมชิน เขาบอกว่าตาฉันสวยกว่าทับทิม”
“อืมม…. ฉันก็ไม่คิดว่าเขาพูดผิดนะ”
“โอ้แล้วไม่ใช่ว่านายควรจะบอกฉันแบบนี้หรอ ไม่ว่าจะเป็นฉันสวยแค่ไหนนะ ฉันไม่เห็นนายบอกกับฉันเลยนะ”
“โทษที แต่ว่าฉันไม่ใช่คนประเภทที่จะพูดแบบนั้นนะ ลองจินตนาการถึงฉันพูดแบบนั้นกับเธอดูสิ”
“…ฟุ๊ ฮ่าๆๆๆๆ”
“ถ้าเธอจะหัวเราะก็อย่ามาถามเลย”
ฮวาหยาได้ระเบิดหัวเราะออกมา ตั้งแต่ที่ผู้ใช้พลังระดับ SS ได้ยกยอพวกเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ มันก็ไม่แปลกใจเลยที่พวกเธอจะรู้สึกดี ฉันได้มองไปที่ลูก้า บรูโน่ผู้ที่สับสนกับเสียงหัวเราะของฮวาหยาและถอนหายใจ
“ฉันเป็นผู้นำของรีไวเวิร์ล ยอน ฮวาวู ยินดีที่ได้เจอกันนะ”
“โอ้ ฉันต้องขอโทษสำหรับความหยาบคายด้วย ฉันถูกความงามครอบงำเอานะ ฉันนี่แย่จริงๆเลยนะ ฉันลูก้า บรูโน่ผู้พิทักษ์จากอิตาลี ตามที่นายน่าจะรู้แล้วฉันคือผู้ใช้พลังระดับ SS”
ลูก้า บรูโน่ได้อธิบายว่าทำไมเขาถึงมาที่นี่ มันดูเหมือนว่าเขาจะต้องการช่วยพวกเราเคลียร์ดันเจี้ยนระดับ S+ แม้ว่าฉันจะมั่นใจว่าพวกเราจะสามารถเคลียร์มันได้โดยที่ไม่มีปัญหาแม้จะไม่มีเขา แต่ว่ามันก็ไม่ได้จะเลวร้ายหากเขามาช่วยพวกเรา เพียงเมื่อฉันกำลังจะหยักหน้าเท่านั้นเอง…
“ขอโทษนะ แต่ว่าพวกเราจะต้องปฏิเสธ”
ฮวาหยาได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเธอก็ทำในสิ่งที่ฉันไม่เข้าใจ เธอได้เดินเข้ามาหาและเกี่ยวแขนกับฉัน ฉันได้งงกับการกระทำแบบฉับพลันนี้ของเธอ ในขณะที่รูเดียก็กระโดดขึ้นในขณะที่สุมิเระส่งเสียงออกมาอย่างน่ารัก
“ถ้ามีคนเข้ามาด้วย มันก็จะทำให้เรื่องนั้นยากขึ้น นายเข้าใจใช่ไหม? อ่า พวกเราสามารถเอาซากมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนมามอบให้ได้ แต่แน่นอนว่าไม่ฟรี”
“โอ้ ขอโทษด้วยนะ ฉันเกือบทำพลาดไปแล้ว”
“ไม่เป็นไร นายทำมันไปแล้ว แต่ว่านายควรจะรู้ด้วยใช่ไหม?”
ฮวาหยาได้กระพริบตาให้เขาและหันไป
“ไปกันเถอะ”
“โอเค”
เสียงของเธอนั้นเบาแต่มันเด็ดขาด พวกเราได้ตามเธอไปราวกับถูกดึงดูด ในเสียงเวลาที่เราได้เข้าไปในดันเจี้ยนเธอก็ได้กัดฟันและคำรามออกมา
“ชิน คราวหน้าถ้านายเห็นเขา เตะเจ้าลูกนั่นของเขาซะ”
“อะไร ทำไมหรอ?”
“ไอเวรนั่นได้พยายามจะสะกดจิตฉัน พลังของมันจะต้องเป็นการสะกดจิตหรือไม่ก็เสน่ห์ ฉันแน่ใจได้เลย ฉันรู้สึกว่ามานาของมันได้เคลื่อนไหวอย่างเงียบๆ ไม่ใช่แค่ฉันเท่านั้น แต่เป็นผู้หญิงทุกคน นายไม่รู้สึกเลยหรอ?”
“อะไรนะ!? เวรเอ้ย ฉันไม่ได้สังเกตุเห็นมันซักนิดเลย”
มันสมบูรณ์แบบจนฉันไม่เคยคิดเลย เมื่อคิดว่าลูก้า บรูโน่ได้วางแผนที่จะดึงสาวๆทุกคน ในที่สุดฉันก็เข้าใจที่ฮวาหยาบอกว่าเขาทำพลาด
ยังไงก็ตามมันยากที่จะเชื่อว่าเขาได้ใช้มานาของเขาโดยที่ฉันไม่ได้สังเกตุเห็น เขาสามารถทำให้ฉันไม่รู้ตัวได้ยังไง? เมื่อพิจารณาจากการที่ฮวาหยาสังเกตเห็นแต่ฉันไม่เห็น พลังของเขาก็แน่นอนแล้วว่าเป็นพลังทางจิตประเภทหนึ่ง เยอึนผู้ที่นิ่งเงียบอยู่ตลอดก็ได้หยักหน้ากับคำพูดของฮวาหยาและกล่าวเสริม
“ใช่แล้วมันน่ากลัว เป็นครั้งที่สองเขาดูคล้ายกับชินและน่าสนใจ ฉันได้คิดว่าจะเรียกเขาว่านายท่าน แต่ความรู้สึกนี้ก็หายไปในทันทีที่ฉันใช้ ‘จิตใจกระหายเลือด’
“เปรียบชายคนนั้นกับชิน….”
รูเดียได้พูดออกมาด้วยเสียงที่เย็นชา ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมเยอึนถึงถูกดุ ยังไงก็ตามในตอนนั้นเยอึนก็ได้ยกเลิกมันด้วยทักษะการหายใจแบบพิเศษของเธอในทันทีที่เธอได้เรียนรู้มาจากดูก้า
เมื่อได้ยินเสียงรูเดีย ฮวาหยาก็ได้ถามเธอ
“เป็นยังไงบ้างล่ะรูเดีย?”
“อย่าเรียกฉันว่ารูเดีย!… ฉันรู้สึกถึงบางอย่าง แต่ฉันก็ได้กำจัดมันออกด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ของฉัน มิทารัสคือเทพธิดาแห่งความยุติธรรมและความรักดังนั้นความรักจอมปลอมมันจะไม่มีผลกับฉัน ฉันไม่คิดเลยว่าคนแบบพวกเธอจะพ่ายแพ้กับการโจมตีแบบนี้ ถ้าเธอบอกฉันเร็วกว่านี้ฉันก็จะได้ช่วยล้างมันออกไปให้”
“อูวว ฉันคิดว่าฉันเป็นของเขา รูเดีย เมื่อพี่สาวฮวาหยาได้ปฏิเสธและปล่อยมานาออกมา ฉันก็ได้ป้องกันมันด้วยพลังผู้พิทักษ์หลังจากนั้น แต่ว่าฉันกลัวที่จะพูดอะไร ชายคนนั้นน่ากลัวมาก”
สุมิเระได้ฟังคนอื่นๆพูดในขณะที่เธอกัดฟันแน่น มันดูเหมือนว่าเธอจะไม่รู้สึกอะไรเลย มันน่าจะเป็นพลังของชื่อที่แท้จริงของอาเธน่าสินะ? ไม่ว่ายังไงก็ตามฉันมั่นใจได้เลยว่าเธอโกรธมาก เธอได้ตะโกนสาปแช่งออกมาซึ่งไม่เหมือนกับเธอตามปกติ
“เขาแย่ที่สุด! แย่ เป็นชายที่แย่ที่สุด”
“ใช่แล้ว คนที่พยายามจะควบคุมความรู้สึกของคนอื่นนั้นแย่ที่สุด รอยยิ้มภายนอกเหมือนจะไม่มีอะไรในขณะที่พยายามจะ…. เจ้าชั่วนั่น ฉันอยากจะฆ่าเขา”
ฮวาหยาได้กัดฟันแน่นและจับมือกับสุมิเระ บอลเพลิงสีขาวได้หมุนวนรอบตัวของเธอ ในอีกด้านหนึ่งฉันก็ตะโกนออกมา
“ทำไมเธอไม่บอกฉันล่ะ? ฉันจะได้ตัดเจ้านั่นของเขาในทันทีเลย”
“ฮ่าๆ ลูกชายฉันโตขึ้นแล้ว”
“เขาอาจจะเป็นแบบนั้นเพราะคุณนั่นแหละคัง ยงอู หลังจากได้อยู่กับคุณ ในที่สุดฉันก็ได้เริ่มเข้าใจคังชิน คุณนะเป็นศัตรูที่แท้จริง….อึก”
เมื่อมองเห็นว่าฉันโกรธออกมา ฮวาหยาก็ได้ยิ้มออกมาอย่างประหลาดใจเล็กๆ
“ฉันรู้ว่านายจะทำแบบนั้น ดังนั้นฉันก็เลยเข้ามาในดันเจี้ยนก่อน พวกเราจะต้องอยู่ในตำแหน่งที่ทุกๆคนสนับสนุนพวกเราก่อน ลองจินตนาการดูสิว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าหากนายทำร้ายผู้ใช้พลังระดับ SS ทุกสิ่งทุกอย่างจะตารปัดไปหมดเลย”
“มันไม่ได้สำคัญเลย ไม่ใช่ว่าฉันต้องการการสนับสนุนจากทุกๆคนนี่ สิ่งสำคัญก็คือการชดใช้ความไม่พอใจที่ทุกคนได้รับ”
“ใช่แล้ว แต่ฉันก็มีความสุขและเพียงแค่คำพูดของนาย แม้ว่าฉันจะไม่พอใจเล็กน้อยที่นายไม่ได้พูดถึงเพียงแค่ฉันก็ตาม”
“ทุกๆคนเป็นเพื่อนที่สำคัญและพรรคพวกของฉัน”
เมื่อฉันย้ำในจุดนี้ฮวาหยาก็ได้ทำท่าทางตกตะลึง แต่ไม่นานเธอก็ยิ้มออกมาอีกครั้ง ฉันจะหอกหลวมไปทันทีเพราะรอยยิ้มที่น่ารักของเธอ
“ใช่แล้ว มาดูกันดีกว่าว่านายจะพูดคำแบบนั้นไปได้นานซักแค่ไหน”
เพราะว่าฉันไม่สามารถจะเผชิญหน้ากับรอยยิ้มของเธอได้ ฉันเลยได้หันหน้าไป ฉันรู้สิ่งที่เธอต้องการจากฉัน… แต่ว่าฉันไม่สามารถจะตอบเธอได้ในตอนนี้
ดังนั้นแทนที่ฉันจะตอบคำถามเธอ ฉันได้หันไปคุยกับทุกคนแทน
“เอาล่ะ…ไปล่ามอนสเตอร์กันเถอะ! พวกเราจำเป็นจะต้องเคลียร์ดันเจี้ยนให้เร็วที่สุด เพราะเดี๋ยวฉันจะได้ไปฆ่าไอเวรนั่น”
“อย่างที่ฉันพูดไปนายฆ่ามันไม่ได้ นายไม่ได้ยินที่ฉันพูดหรอ? นอกจากนี้เขาก็อาจจะหนีไปแล้ว”
ไม่ว่ายังไงก็ตามสิ่งที่ลูก้า บรูโน่ทำได้กระตุ้นให้เราเคลียร์ดันเจี้ยนระดับ S+ อย่างรวดเร็ว
ดันเจี้ยนนี้เองก็ค่อนข้างจะแปลกประหลาด เป็นเพราะว่ามันปรากฏขึ้นในเส้นทางน้ำ? ดันเจี้ยนที่จมอยู่ใต้น้ำในขณะที่มีซาลาเมนเดอร์และปลาชนิดอื่นๆที่ยืนอยู่ในน้ำ พวกมันได้ผลัดกันกระโดดขึ้นมาและยิงน้ำแรงดันสูงที่ดูเหมือนจะมีพลังที่มากพอจะตัดเพรชได้ ถ้าหากไม่มีฮวาหยามันก็คงจะยากยิ่งขึ้น หรือก็คือการมีอยู่ของฮวาหยาทำให้พวกมันไม่เป็นภัยคุกคามพวกเรา เปลวไฟที่ทรงพลังของเธอได้ทำให้น้ำที่ยิงออกมาของพวกมันระเหยไปอย่างงายดายและทำให้เรามีโอกาสฆ่าพวกมัน
“ช่วยยกโทษให้เราเถอะนะ พวกเราไม่ต้องการจะตาย”
“พวกเราได้เรียนรู้ภาษของมนุษย์เพียงเพื่อจะขอโทษ”
“กลับไปในน้ำเร็ว”
เพลิงของฮวาหยาได้โหมกระหน่ำผ่านเหล่าปลาทั้งหมดไป เพราะว่าเธอได้ใช้โบนัสสเตตัสทั้งหมดลงไปในพลังเวทย์ ไฟของเธอจึงมีพลังที่มหาศาล พวกมันสามารถจะทำให้มอนสเตอร์ระดับ S+ เป็นขี้เถ้าได้ในทันที พวกเราได้ยุ่งกันเล็กน้อยจากการเก็บผลงานของเธอ แม้ว่าเธอจะหัวเราะออกมาต่อหน้าฉัน แต่ดูลึกๆแล้วเธอจะโกรธมากกับสิ่งที่ลูก้า บรูโน่ทำ
สุดท้ายพวกเราก็ได้จบด้วยการเคลียร์ดันเจี้ยนนี้ในเวลา 2 ชม. หลังจากที่พวกเราได้เอาชนะบอสมอนสเตอร์สองตัว มันเป็นซาลาแมนเดอร์ยักษ์และปลายักา พวกเราก็ได้เลือกรางวัลของพวกเรา สำหรับตอนนี้เป็นครั้งแรกหลังจากนานมาแล้วที่ฉันมีผลงานเป็นอันดับสอง ไม่ว่ายังไงก็ตามฉันก็ได้เลือกไอเทมที่มีชื่อว่า ‘คริสตัลถ้า’ เพราะชื่อมันดูแฟนซีดี
“เตนท์ใต้น้ำหรอ? มันเป็นเตนท์ที่ใช้เป็นบ้านระดับสูงที่ทำให้มีผิวใต้น้ำดูอบอุ่นเหมือนพื้นผิว…?”
ฉันได้เลือกไอเทมดูจะดี แต่ว่ามันกลับออกมาเป็นไอเทมแปลกๆ ผลของมันจะให้น้ำและขนมปังไว้กินโดยไม่จำกัด ด้วยแบบนี้ฉันก็สามารถที่จะใช้ชีวิตใต้น้ำไปได้ตลอดกาล แม้อย่างนั้นฉันก็ไม่จำเป็นจะต้องทำแบบนั้นเลยก็ตาม
“ถ้าหากว่ามีมอนสเตอร์ยักษ์ปรากฏขึ้นในเวนิสเราจะต้องจัดการมัน”
“อย่าพูดให้เป็นรางสิ”
แม้ว่าคนที่อยู่ใกล้เคียงจะได้ถูกอพยพออกไปแล้วก็ตาม แต่ว่าเส้นทางน้ำจองเวนิสที่สวยงาม สะพาน สิ่งก่อสร้างทั้งหมดมันจะถูกทำลาย สิ่งที่เยอึนพูดมันทำให้ดูน่ากลัว ฉันได้รอคอยข้อความเหล่านี้
[คุณได้เคลียร์เหตุการดันเจี้ยนระดับ S+ สมาชิกปาตี้ทั้งหมดได้รับโบนัสสเตตัส 3 แต้ม!]
[ตอนนี้คุณกำลังถูกส่งกลับ]
“ชิ”
ใครกันนะที่เดาะลิ้นขึ้นมา
ด้วยแบบนี้การเคลียร์ดันเจี้ยนในอิตาลีก็ได้สิ้นสุดลงไป ตามที่ฮวาหยาได้คาดเอาไว้ลูก้า บรูโน่ก็ไม่ได้โผล่ออกมาให้เห็นอีก ฉันต้องการที่จะไปหาและหักขาเขา แต่ว่ามันยังมีเหตุการณ์ดันเจี้ยนอีกมากที่พวกเราต้องทำลาย ดังนั้นตอนนี้ฉันได้แต่ปล่อยเขาไป
ในตอนนี้จำนวนคนที่ฉันต้องเอาชนะมีเพิ่มขึ้นอีกคนแล้ว
“ทำไมผู้ใช้พลังผู้ชายทุกคนถึงเป็นแบบนี้? ทำไมพวกเขาทุกคนถึงไม่สนใจเกี่ยวกับผู้หญิงเลย”
ในขณะที่กำลังออกจากอิตาลีรูเดียก็ได้โต้แย้งออกมา
“ชิน นายก็เหมือนกับพวกนั้น”
“รูเดียพูดถูก นายจะต้องให้ความสำคัญกับเรามากขึ้น”
“โทษที ฉันมันแย่เอง”
ไม่สิ มันยังมีคนนึงที่ไม่ได้เป็นแบบนั้น ชายชาวอเมริกันที่เราได้ไปเจอ
“เป็ปเปอร์ แล้วลีออน เป็ปเปอร์ล่ะ?!”
“เขา…เป็นเกย์ ฉันคิดว่านะ?”
“เธอกำลังจะบอกว่าคนที่ไม่ได้ทำเหมือนบริแมนและบรูโน่ทั้งหมดเป็นเกย์งั้นหรอ? ไม่ใช่ว่านั้นมันมากเกินไปหรอ?”
ในขณะที่ฮวาหยาได้หาข้ออ้าง เครื่องบินก็ได้มุ่งหน้าตรงไปยังอเมริกาอย่างมั่นคง
หนึ่งในดันเจี้ยนระดับ SS บนโลกกำลังรอคอยเราอยู่