บทที่ 180 – พลังของฮีโร่ (4)
“คังชิน นายเพิ่งจะเปลื่ยนเมืองเล็กๆให้เต็มไปด้วยฝุ่นและเศาหิน”
“มันไม่ใช่ว่าน่ากลัวหรอ? ฉันควรจะใมช้โอกาสนี้ในการใช้ชื่อวิตที่รื่นรมย์มากขึ้น”
พร้อมกันกับเสียงทล่มของคอนกรีตไพก้าและชาราน่าได้ทำลายคอมพิวเตอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆไปด้วย อาคารขนาดใหญ่ที่ตั้งสูงตะหง่านในตอนนั้นเหลือเพียงแต่ดินที่ว่างเปล่า ฉันนี่น่าจะมีพรสวรรค์ในการรื้อถอนธุกิจสินะ
“นะ นาย…”
ตามที่คาดเอาไว้เลบจากผู้ใช้พลังระดับ SS บริทแมนไม่ได้เป็นอะไรแม้แต่นิด เขาได้เข้าไปถึงตัวไพก้าและชาราน่าแต่ว่าน่าเสียดายที่เขาไม่มีทางจะจับภูติธาตุได้ ครู่หนึ่งเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเล็งเป้าผิด คนที่เขาควรจะเล็งคือฉัน
“อัศวินสายฟ้า! นายคิดว่านายจะสามารถหนีไปได้งั้นหรอ? ทั้งนายและเกาหลีจะต้องจ่ายคืนมา!”
ฉันได้กระโดดลงไปจากล็อทเต้หลังจากที่เรียกไพก้าและเปิดใช้งานทักษะสายฟ้าคลั่ง ฉันได้ห้างหมัดออกมา เมื่อเห็นฉันกระโดดลงมาบริทแมนได้กัดฟันและหลบไป ยังไงก็ตามถ้าฉันปล่อยให้เขาหนีฉันก็คงไม่โดดลงไปตั้งแต่แรกแล้ว
“ชาราน่า”
[ค่ะ นายท่าน]
“อั๊ก”
บริทแมนได้แข็งทื่ออยู่กับที่ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างมาหยุดเขาไว้ ฉันคาดว่าเขาไม่น่าจะขยับได้อย่างน้อย 10 วินาที ฉันจึงโคจรวงจรเพรูต้าถึงขีดสุดและสร้างวังวนสายฟ้าขึ้นที่หมัดขอฝงฉัน เพียงแค่ฉันปะทะกำพื้น เมื่อเห็นหน้าที่ใหญ่ของวอร์คเกอร์ฉันก็ส่งหมัดไปหาเขา
“อั๊ก”
ต้องขอบคุณใบหน้าที่เต็มไปด้วยพลังทำให้ฉันไม่ได้รับแรงจากการตกลงมามากนัก กลับกันบริทแมนได้กระแทกเข้ากับพื่้นจนแตกออก
“อึก อะ อัศวินสายฟ้า แกเพิ่ง…!”
“ตอนนี้ฉันจะโจมตีนายต่อไป ดังนั้นอย่าเปิดปากสิมันอาจจะกัดลิ้นได้นะ”
“นายเพิ่งจะก่ออาชญา…. อั๊ก!”
ฉันได้จัดการต่อยอัปเปอร์คัตเขา ในทันทีหลังจากนั้นฉันก็ได้เตะเข้าที่หน้าอกเขา ใบหน้าของเขาได้บวมออกมา
“อัศวิน…สายฟ้า…!”
“นี้เป็นเพียงแค่หนึ่งหมัดที่นายชกฉันในวินเดอแมร์”
ฉันได้ทุบหน้าของเขาด้วยหมัดของฉัน จมูกที่โด่งของเขาได้ยุบลงไป ฉันยังคงปล่อยสายฟ้าลงไปในกำปั้นอีกด้วย
“หมัดนี้สำหรับที่นายพยายามจะแต่งงานกับเธอทั้งที่อายุขนาดนี้”
ฉันได้ชกเข้าไปที่ช่องท้องของเขาสามครั้งทำให้เขาไอออกมาเป็นเลือด ตามที่คาดเอาไว้เลยวิธีที่ผู้ใช้พลังระดับ SS ไอเลือดออกมานั้นต่างจากคนปกติ ฉันได้หลบหมัดของเขาอย่างสบายๆและโจมตีเขาไปอีกครั้งหนึ่ จากนั้นก็เน้นมานาไปที่หมดและยกขึ้น
“และนี่…คือสำหรับความกล้าหาญที่นายกล้ามาแตะน้องของฉัน”
“อะ อั๊กกก…!”
สำหรับ 10 นาทีต่อมาฉันได้อัดเขาจนเขาทำได้เพียงแค่หายใจ ไม่มีกระดูกส่วนไหนในร่างกายของเขาที่ไม่หัก ฉันมั่นใจได้เลยว่าขากรรไกรของเขาได้พังไปแล้งดังนั้นเขาจึงสามารถจะทำได้เพียงแค่กินแต่โจ๊กไปชั่วชีวิตที่เหลือ ฉันทำมันเพื่อที่เขาจะไม่สามารถทำอะไรได้แม้แต่เดิน สัมผัสหรือหยิบจัอะไร
ในเวลานั้นล็อทเต้ก็ลงมากับพื้น เมื่อวอร์คเกอร์และเดซี่ลงมา พวกเขาก็เบิกตากว้างหลังจากเห็นบริทแมน เมื่อฉันได้หันไปมอง วอร์คเกอร์ก็ถอนหน้ากากออกและเผิดหน้าที่ตกตะลึง
“เอ็ด…เวิร์ด…!”
เมื่อได้ยินเสียงที่ออกมาจากปากของบริทแมน ฉันก็นึกขึ้นได้ว่าชื่อของวอร์คเกอร์คือเอ็ดเวิร์ด ฉันก็ยังทึ่งกับการฟื้นตัวของบริทแมนอีกด้วย”
“โจชัว…”
เมื่อวอร์คเกอร์อยู่กับฉันเขามักจะเรียกบริทแมนด้วยนามสกุล แต่ยังไงก็ตามในตอนนี้เขาได้เรียกด้วยชื่อ พวกเขาได้แลกเปลื่ยนสายตาที่ฉันไม่สามารถจะเข้าใจได้
“จริงๆแล้วแก…ยังมีชีวิตอยู่่…!”
“นายไม่รู้งั้นหรอ?”
“ฉันจะไม่เชื่อมัน… จนกว่าจะได้เห็นด้วยตาตัวเอง… แต่ทำไม…”
“ฉันบอกนายแล้วโจชัว โลกมันไม่ได้เป็นไปตามที่นายต้ิงการ”
“เจ้าโง่! ทำไมนายถึงไปร่วมมือกับเด็กคนนี้”
“นายมันเด็กเกินไปโจชัว เขาไม่เหมือนกับนาย เด็กคนนี้ไม่ได้เห็นแกตัวและหลงตัวเอง”
“อึก… ฉันไม่ได้อนุญาตให้ลิงเหลืองมีอำนาจสูงสุดเหนือโลกใยนี้…! เอ็ดเวิร์ดนี้มันยังไม่…สายเกินไป พาเจ้าลิงนั่นออกไปจากนี้”
ฉันได้ต่อยไปที่หน้าของเขาอีกครั้ง ในทางกลับกันวอร์คเกอร์ได้ระเบิดหัวเราะอกมา
“นายนี่มันต่ำจริงๆนะโจชัว นายพยายามจะลักพาตัวคนที่บริสุทธิ์เพื่อสิ่งนี้หรอ?”
“ลักพาตัว? นายทำลายอาคารธุกิจบริทแมนสำหรับสิ่งที่ต้องการไม่ใช่หรอ!?”
“นายก็พูดแบบนี้เสมอโจชัว นายปฏิบัติกับของๆนายเหมือนกับสมบัติและทำกับคนอื่นๆเหมือนกรวดข้างถนน ไม่ ไม่มีใครสักคนที่ชอบนาย นายพยายามที่จะเอามันมาได้ทุกอย่าง ฉันพบมันมาตลอดว่าทัศนคติของนายมันน่าขยะแขยง ฉันยังเห็นอีกด้วยว่ามันไม่เปลื่ยนไปเลยแม้จะอยู่ในสถานการณ์แบบนี้”
“เอ็ดเวิร์ด…! ฉันให้แกทุกๆอย่างที่ฉันมี!”
“นายพูดถูกโจชัว นายได้ให้ฉันทุกอย่าง”
วอร์คเกอร์ได้เดินเข้ามาหาพวกเขา หมัดของเขาได้ปกคลุมด้วยออร่าสีดำ เมื่อไหร่กันที่เขาแข็งแกร่งแบบนี้? มานาของเขาอยู่เหนือกว่าผู้ใช้พลังระดับ SS แน่นอน เขาได้หยุดอยู่หน้าฉันและยกหมัดขึ้น ในขณะที่ฉันเบิกตากว้างนั้นเอง….
เขาได้ชกลงไปที่ใบหน้าของโจชัว
“อั๊ก”
“แต่ว่านั่นมันไม่มีแม้แต่สิ่งเดียวที่ฉันต้องการเลยจริงๆ”
ด้วยหมัดของวอร์คเกอร์บริทแมนได้หมดสติไปทันที เขาได้ยกหมัดขึ้นมาและสะบัดเลือด จากนั้นเขาก็พูดด้วยร้อยยิ้ม
“การต่อยหน้าเขาแบบนี้ก็อยู่ในลิสรายการของฉัน”
“นาย… นายนี่มันน่าทึ่งจริงๆ”
“นายเพิ่งจะรู้หรอ? นายนี่มองคนไม่เป็นจริงๆสินะ”
ในขณะที่มีอากาศแปลกๆระหว่างฉันกับวอร์คเกอร์ เดซี่ก็หันหน้ามาหาฉัน
“ความคิดของเขา ฉันได้อ่านทุกอย่าง ขาดแต่ข้อมูลฉันสามารถทำมันได้”
“ขอบคุณมากเดซี่ ถ้างั้น…”
มันไม่มีเหตุผลที่จะต้องลังเล ฉันได้ลบพลังจากบริทแมนออกมา สำหรับคนที่มีบุคลิกที่สกปรกแบบนี้พลังของเขาเป็นบอลแสงที่ยอดเยี่ยมสีทอง มันดูเหมือนว่าจะเป็นพลังที่ไม่ตรงกับนิสัยขจองเขา
ฉันได้ถือมันไปทางวอร์คเกอร์
“รับไปสิวอร์คเกอร์มันเป็นของนาย”
“ฉันคิดไว้แล้วว่านายจะพูดแบบนั้น… มีคนที่ฉันต้องการจะมอบให้ มันจะเป็นอะไรไหม?”
“น้องสาวของบริทแมน โซฟีหรอ?”
“เอ๊ะ!?”
วอร์คเกอร์ได้มองมาที่ฉันอย่างตกใจ ฉันได้ยิ้มออกมาและวางมือบนไหล่ของเขา
“ไม่เคยมีสักสิ่งที่นายต้องการ หือ… ฉ้นคิดว่าฉันรู้แล้วนะว่านายต้องการอะไร เอ๊ะ?”
“คะ คังชิน นายมัน…ฮึ่ม”
“นายเพิ่งจะด่าฉันในใจใช่ไหม? ฮ่าๆๆ ถ้างั้นฉันเดาถูกสินะ”
“คังชิน นั่นมันไม่ใช่…!”
ฉันได้กลิ้งตัวบริทแมนที่ไร้สติลงไปในหลุมดินบนพื้นแบบสุ่มๆ เขาไม่สามารถจะทำอะไรได้ด้วยตัวเองอีกแล้ว ถ้าโซฟีเป็นคนแบบที่วอร์คเกอร์พูดมา ฉันก็มั่นใจว่าเธอจะดูแลบริทแมน
“นายเตรียมสัญญาวิญญาณไว้ด้วย ไม่ว่าเธอจะยอมรับพลังหรือไม่ก็ตาม”
“ฉันสามารถ…ทำให้เธอเป็นนักสำรวจได้ไหม?”
“วอร์คเกอร์ ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่านายมีหัวใจที่บริสุทธิ์แบบนี้…”
“ฉันบอกนายแล้ว ฉันไม่ได้มีความรู้สึกที่โรแมนติกกับเธอ”
ฉันไม่สามารถจะให้พลังระดับ SS เพียงเพราะวอร์คเกอร์ชอบเธอได้ แม้ว่าฉันจะไม่ได้กำหนดเงื่อนไขที่รุนแรงเหมือนกับวอร์คเกอร์แต่ว่าฉันก็จะต้องมีมาตราการในการป้องกันไม่ให้เธอทำอะไรเกินเลย ตัวอย่างเช่นการที่ใช้พลังที่ได้รับใหม่ไปสร้างองกรแปลกๆเหมือนกับที่บริทแมนพยายามจะทำ
พวกเราได้บอกทุกคนในรีไวเวิร์ลเกี่ยวกับสิ่งนี้และได้โหวดให้สร้างนักสำรวจคนใหม่ ไม่เหมือนกันยุยคนส่วนใหญ่ไม่ได้รู้จักเธอ ในฐานะที่เธอยังเป็นน้องสาวของบริทแมนอีกด้วย พวกเขาเลยไม่สามารถจะไว้ใจเธอได้ ในตอนท้ายคนส่วนใหญ่ได้ยอมรับภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องมีพันธะสัญญาวิญญาณ วอร์คเกอร์ได้ทำสัญญากับโซฟีในขณะที่เขาสั่น
จากนั้นพวกเราก็ได้มุ่งหน้าไปที่อังกฤษ ในฐานะที่เราได้ใช้เวลาทำลายองกรบริทแมนไปในระหว่างทางด้วยทำให้มันใช้เวลาประมาณ 4 ชม.
โซฟีนั้นได้พักอยู่ในโรงแรมในเครือบริทแมนแถบลอนดอน เธอนั้นไม่เหมือนพี่ชายของเธอ เธอเป็นคนที่มีพรสวรรค์มากในด้านธุระกิจและได้สร้างการเปลื่ยนแปลงธุรกิจในเครือบริทแมนอย่างมากและตอนนี้เธอมีอายุ 27 ปี ตามที่วอร์เคเกอร์บอก
“ฉันเข้าใจแล้ว ถ้างั้นนายช่วยหยุดโม้เกี่ยวกับแฟนของนายได้ไหม?”
“เธอไม่ใช่แฟนของฉัน”
ในขณะที่เธอได้ยินเสียงของวอร์คเกอร์ เธอได้ให้เราเข้าไปในห้อง ฉันรู้สึกขอบคุณ ถ้ามเป็นไปได้ฉันไม่ต้องการจะจัดการกับตำรวจในอังกฤษ
โซฟีเป็นผู้หญิงในแบบที่วอร์คเกอร์ชอบจริงๆ เธอนั้นแตกต่างจากพี่ชายของเธอ เธอมีรูปร่างที่ผอมเพรียมและอ่อนโอน แม้ว่าดวงตาสีทองของเธอจะดูคมกล้าเล็กน้อย แต่ผมสีบลอนด์ของเธอได้ทำให้เธอดูเป็นคนใจเย็น สิ่งที่เหมือนพี่ชายของเธอมีเพียงแค่จมูกที่โด่ง ด้วยริมฝีปากที่มีเสน่ห์ของเธอได้เผยให้เห็นถึงความสวยงามของเธอ
“เอ็ดเวิร์ด”
น่าแปลกเธอได้กระโดดเข้าไปกอดเอ็ดเวิร์ดในทันทีที่เธอเห็นเขา เธอไม่ได้มองพวกเราเลยซักนิด
“นายควรจะบอกฉันนะถ้านายยังมีชีวิตอยู่เจ้าโง่!”
“โจชัวฉันพบเข้าถ้าฉันทำ”
“นายทำมันแบบลับๆไม่ได้เลยหรอ?”
“นั่นมัน…”
“ฉันเกลียดนาย!”
มันดูเหมือนว่าคนอังกฤษจะมีนิสัยที่ชอบจูบคนที่พวกเราเกลียด ในขณะที่รอพวกเขารับความเกลียดของฉันๆและกันเสร็จ ฉันก็ถามวอร์คเกอร์
“นายพูดว่านายไม่ใช่แฟนของเธอหรอ…?”
“นี่คือ… ความสนิทสนมของครอบครัว”
“เอ็ดเวิร์ด ฉันห่วงว่า…!”
“เหมือนเธอจะทำได้ดีนะ”
“ไม่หากไม่มีนาย”
โซฟีได้ฝังหน้าของไปในอกของวอร์เกอร์และไม่ได้มองขึ้นมาอีก วอร์คเกอร์ได้เต็มไปด้วยเหงื่อ เขาได้มองมาที่เราและส่ายหัวของเขา แต่ว่ามันก็สายไปแล้ว เดซี่ได้พูดขึ้นมาตรงๆ
“มนุษย์นี่…แปลกจริงๆ… ขยับจินตนาการเพื่อให้เป็นจริง…อันตราการสืบพันธ์จะระเบิดขึ้น”
“มันจะมีการก่ออาชญากรรมขึ้นนะดังนั้นหยุดเถอะ”
“มันไม่มีอาชญากรรม ถ้านั่นเป็นความรัก”
“หยุดพูดเรื่องนี้กันเถอะเพื่อเกียรติของวอร์คเกอร์”
โซฟีได้ปฏิเสธที่จะแยกจากวอร์คเกอร์อยู่พักหนึ่ง หลังจาก 20 นาทีเธอดูเหมือนว่าจะสงบลงและหันหน้ามาหาเรา แน่นอนว่าเธอก็ยังคงอยู่ในอ้อมกอดของวอร์คเกอร์ เธอได้ถามออกมาอย่างเย็นชา
“ถ้างั้นนายก็คือคนที่จัดการที่ของฉันหรอ? นายจะไม่แก้ตัวใช่ไหม? ทั้งหมดมันอยู่ในทีวีแล้ว”
“อ่า ใช่แล้ว เธอสามารถเรียกฉันได้ว่าอัศวินมังกร”
“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายจะมาปรากฏตัวต่อหน้าน้องสาวของเขา… นายได้ฆ่าพี่ไหม?”
“เขายังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถตอบสนองความปราถนาของมนุษย์ได้อีก”
“เอ็ดเวิร์ดทำไมนายถึงไปอยู่ภายใต้คนแบบนี้…?”
“เขาก็ดีกว่าพี่ชายของเธอ”
“มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะมีใครแย่กว่าพี่ของฉัน นายไม่จำเป็นต้องพูดอะไรที่มันชัดเจนก็ได้”
บอลแสงที่ฉันถือได้เริ่มส่องแสงออกมามากขึ้นในขณะที่มันเข้าใกล้โซฟี มันหมายความว่าเธอเหมาะกับพลังนี้ มันไม่มีแม้แต่การทำให้เธอเป็นนักสำรวจ เคียร่า… ทำไมเธอถึงเปลื่ยนบริทแมนเป็นผู้ใช้พลังระดับ SS แทนที่จะเป็นโซฟีล่ะ?
ฉันได้เหลือบไปมองวอร์คเกอร์ที่แสดงให้เห็นว่ามันไม่มีปัญหาที่เธอจะรับพลังไป เขาได้ถอนหายใจและหยิบเอาพันธะสัญญาวิญญาณออกมา จากนั้นเขาก็เริ่มอธิบายกับโซฟีที่ดวงตาเบิกกว้างในขณะที่ฟังวอร์คเกอร์ หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที เธอก็ได้ให้ปฏิกิริยาตามที่ฉันคิดเอาไว้
“เอ็ดเวิร์ด… นายกำลังบอกให้ฉันกลายเป็นหัวหน้าเครือบริทแมนหรอ!?”
“แน่นอน”
“ฉะ…ฉันสามารถคิดว่ามันข้อเสนอแนะได้ไหม?”
“ไม่ได้”
“เอ็ดเวิร์ดหยุดทำหน้าตายตลอดเวลาสิ นี้มันเป็นข้อเสนอแนะใช่ไหม?”
ไม่ เธอและฉันอยู่ในระดับที่แตกต่างฉัน ด้วยแบบนี้เธอจะสามารถยืนอยู่ในตำแหน่งที่เธอเหมาะสมได้
“….”อา ฉันรู้เก่ยวกับท่าทางนั่น มันเป็นท่าทางที่โรเล็ตต้ามักจะทำบ่อยๆ ฮวาหยาก็ยังได้ทำท่าทางแบบนี้เมื่อเร็วๆนี้ เมื่อใดก็ตามที่ฉันได้เห็นการแสดงออกแบบนี้มันคือสิ่งที่สร้างความเหนื่อย ดูเหมือนว่าสัญชาตญาณของฉันมันจะถูกจนน่ากลัง ในขณะนั้นโซฟีได้ดันหน้าอกของวอร์คเกอร์และตะโกนออกมา
“ไม่ ฉันจะไม่กลายเป็นหัวหน้า! ฉันจะไม่รับพลังหรือกลายเป็นนักสำรวจอะไรแบบนั้นเด็ดขาด”
“โซฟีลองคิดถึงภาพรวมสิ”
“ฉันคืแฉัน ไม่ใช่นาย ฉันไม่สามารถที่จะทำงานใดๆแบบนี้ได้ กำไรในไตรมานนี้มันไม่ได้ดีเท่าไหร่ และฉันก็ไม่พอใจกับรายงานที่วาฉันได้เรียนจบที่โรงเรียนนี้! ถ้ามันยังคงเป็นแบบนี้ฉันก็จะจบลงด้วยการอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิตที่เหลือและตายไปทั้งที่บริสุทธิ์ ถ้านายไม่มาเป็นคู่หมั้นของฉัน ฉันก็จะไม่ยอมรับไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขใดๆ”
“โซฟี เธอ…!”
“ตั้งแต่ที่พี่ความหวังหมดไป ฉันก็จะต้องทำให้ตระกูลมีต่อไป แต่ว่าฉันจะไม่แต่งงานกับใครนอกจากนายเอ็ดเวิร์ด! ฉันได้พูดในสิ่งที่ฉันต้องการไปแล้ว ดังนั้นกลับเมื่อนายตัดสินใจได้แล้ว”
ผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างจะคล้ายกับฮวาหยามันเป็นเพราะเป็นคนอังกฤษหรอ? ทุกๆคนที่นี่เป็นแบบนี้งั้นหรอ?
โซฟีได้ผลักวอร์คเกอร์ออกไป แน่นอนว่าเพราะเธอไม่ใช่ผู้ใช้พลังเธอเลยทำอะไรวอร์คเกอร์ไม่ได้ วอร์คเกอณืได้ถอนหายใจและหันมามองฉัน ฉันไม่เคยเห็นวอร์คเกอร์มาก่อนเลย
“คังชินมาร่วมมือกัน”
“แน่นอนสิ”
เมื่อฉันได้หยักหน้า ท่าทางของวอร์คเกอร์ก็สดใสขึ้น ในขณะที่ท่าทางของโซฟีมืดลง
“นายยังไม่พอใจกับการทำลายพี่ฉันแล้วยังจะมาทำลายงานแต่งของฉันอีกด้วยหรอ? ถ้านายทำแบบนั้น ฉันจะใช้พลังของเครือบริทแมนเต็มกำลังเพื่อบังคับให้นายต้องเจอกับนรก!”
“ฟังฉันนะคุณโซฟี ถ้ามันเป็นสิ่งที่คุณโซฟีต้องการ ฉันสามารถจะใส่ข้อนั้นในสัญญาว่าวอร์คเกอร์จะต้องเป็นคู่หมั้นของเธอได้”
ท่าทางของวอร์คเกอร์และโซฟีได้สลับกันไปโดยสมบูรณ์
“งั้นเอาตามนั้นเลยอัศวินมังกร! ไม่สิ เพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน”
“คังชินนนนนนนนนนนนนนน!”
ด้วยแบบนี้ทุกๆคนจึงมีความสุข! แน่นอนว่านั่นยกเว้นโจชัว บริทแมน!