บทที่ 184 – สังเคราะห์ทักษะ (3)
จากสิ่งที่ฉันได้เห็นมาจนถึงตอนนี้ดันเจี้ยนนั้นได้ถูกออกแบบมาไว้ให้สำหรับสู้เป็นปาตี้ ความกว้างของทางเดินและจำนวนมอนสเตอร์ที่ปรากฏออกมาเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด เมื่อพิจารณาดูแล้วมันไม่เหมาะนักที่จะปีนเพียงลำพัง
ยังไงก็ตามกับดักและรางวัลก็มีพื้นฐานตามมาตี้นั้นหมายความว่าการสำรวจเพียงลำพังจะได้รางวัลที่มากว่า กับดักจะยิ่งอันตรายมากขึ้นถ้าหากมีคนพยายามจะฝ่าไปจำนวนมาก ตัวอย่างเช่นกับดักที่จะทำให้พื้นยุบหรือกับดักที่ยิงลูกธนู สำหรับนักสำรวจทั่วไปในปาตี้แล้วก็ยิ่งยากที่จะหลบกับดักเหล่านี้ในขณะที่พวกคนอื่นๆตระหนกกัน แน่นอนว่าฉันหรับฉันแล้วมันเป็นมันยากมากที่กับดักจะสามารถทำอันตรายได้
ไม่ว่ายังไงก็ตามเหล่าปาตี้ต่างๆก็อ่อนแอต่อกับดัก! มันเป็นคำพูดที่ชินหูมากทีเดียวสำหรับกับดักที่อันตรายทำให้พวกปาตี้ตายกันไปในระหว่างทาง!
นอกจากในเรื่องของกับดักแล้วก็มีเรื่องของรางวัลล ที่สำหรับนักสำรวจที่ลุยกันเป็นปาตี้ตามปกติจะมีปัญกันในตอนตัดสินใจแบ่งรางวัลจากการล่ามอนสเตอร์มีชื่อ
นอกจากนี้ยังมีเวลาพัก ใครจะเอาสมุนไพรเกรดสูงและวัสดุเกรดสูงไป แถมยังมีใครที่จะเอาไอเทมเกรดอีปิคที่ดรอปออกมาจากมอนสเตอร์
ชั้นที่ 56 เต็มไปด้วยพวกมิมิค(ชื่อมอนสเตอร์ที่ชอบเลียนแบบ) เหมือนกันกับชื่อของพวกมันพวกมันมักจะเลียนแบบเป็นพวกอาวุธ หีบสบบัติ เสื้อผ้าและสิ่งอื่นๆเพื่อนหลอกนักสำรวจ พวกนี้จะกลืนกินนักสำรวจที่ไปสัมผัสพวกมันโดยไม่รู้ตัวหรือแค่เดินผ่าน เพราะการปลอมตัวที่แนบเนียนนี้ของพวกมันทำให้ยากที่จะแยกออกว่าอันไหนของจริงของปลอม และแม้ว่าพวกเขาจะแยกออกไป แต่พวกมิมิคก็ค่อนข้างที่จะแข็งแกร่งดังนั้นจึงยากที่จะเผชิญหน้ากับพวกมัน
ดังนั้นวิธีที่จะจัดการพวกมิมิคคือการที่หาตัวของมันและโจมตีอย่างรวดเร็วในขณะที่พวกมันยังไม่รู้ตัว แน่นอนว่าเรื่องนี้มันพูดง่ายแต่ทำยาก โชคดีที่ทุกอย่างบนชั้นที่ 56 คือมิมิคทำให้มันง่ายมาก ถ้าฉันสงสัยอะไรฉันเพียงแค่แทงหอกไปที่มันเท่านั้น
ถ้าหากฉันอยู่ในปาตี้มันก็อาจจะโดนคนอื่น แต่ว่ามันไม่มีปัญหาอะไรสำหรับฉันที่เป็นนักสำรวจเพียงลำพัง ฉันเกือบจะไม่ต้องใช้เครื่องตรวจจับเวทย์เลย
“ให้ตายสิ แต่ถึงแม้แบบนั้นมันก็ช่วยไม่ได้ในบางครั้ง….”
หลังจากฉันได้ฆ่ามอนสเตอร์มีชื่อ ฉันก็ได้เอื้อมมือไปหยิบดาบออกมา จากนั้นดาบก็ได้เปิดปากของมันและงับมาที่มือของฉัน ในตอนนั้นเองมันคือตอนที่ฉันได้ตระหนักถึงความผิดพลาดที่ฉันทำไปและเผามันด้วยสายฟ้า
เจ้าพวกมิมิคพวกนี้จะกระตุ้นสัญชาตญาณของผู้คน คนจะคว้าไปที่สมบัติ หลบกระดัก เปิดประตู เปิดกล่อง ขึ้นบันได เดินเข้าไปในหลุมตามสัญชาตญาณ…อะแฮ่ม
“เครื่องตรวจจับเวทย์มันจะดังในตอนที่ฉันจับมันงั้นหรอ?”
ฉันได้หมดความอดทนในทันที ในตอนแรกฉันได้วางแผนที่จะไปอย่างช้าๆระมัดระวังกับกับดัก แต่แล้วฉันก็ได้ตัดสินใจเปลื่ยนวิธี ฉันได้ให้ชาราน่าทำลายกับดักและพุ่งไปข้างหน้าบนหลังของริยู ด้วยวิธีนี้ฉันได้ไปเร็วมากจนไม่เห็นอะไรอีกเลย
ทันใดนั้นเองอนุสรณ์หินก็ได้โผล่ขึ้นมาในเส้นทางของเขา เมื่อคิดได้ว่ามันเป็นมิมิคฉันก็ได้เหวี่ยงหอกใส่มัน แต่อนุสรณ์หินก็ได้จบหอกของฉันและหยุดการพุ่งของพวกเรา
[ก๊าซซซซซซซ]
“อ่า มันคือโกเลม”
มิมิคมันมีความสามารถในการปลอมตัวที่ยอดเยี่ยม แต่ว่ามีความทนทานที่ต่ำ ในทางกลับกันโกเลมเป็นสิ่งมีชีวิตเวทย์ที่ทำมาจากหินหรือเหล็กและโดยมันทนทานเป็นธรรมชาติ แน่นอนว่าความทนทานของมันเป็นเรื่องหลักเพียงอย่างเดียว ฉันได้เดาะลิ้นและเผาโกเลมด้วยเพลิงโกลาหล
[ก๊าซซซซซซซซซ]
“เสียใจด้วยนะ แต่ว่าทั้งมิมิคและโกเลมต่างก็อ่อนแอเกินไป…”
‘ถ้ามิมิคปลอมตัวเป็นทางเดินล่ะ? มิมิคมันจะทำให้ฉันบาดเจ็บได้ถ้ากินฉันหรอ?’
ในขณะที่ฉันคิดแบบนั้นเครื่องมือตรวจจับเวทย์ก็ได้สั่นและทางเดินก็เริ่มแคบลง มันมีมิมิคที่เลียนแบบแบบนี้จริงๆดิ!? เดี๋ยวนะ ฉันจ่ายเงินไป 150,000 ทองเพื่อสิ่งนี้ แต่ว่ามันตอบสนองช้ากว่าฉันซะ โรเล็ตต้าโกงฉัน
“ไพก้า”
[ให้ฉันเผามันเลยใช่ไหม?]
ไพก้าได้ยิงบอลสายฟ้าที่ทรงพลังออกไป ซ้าน ขวา บนและล่าง เมื่อบอลเพลิงได้ปะทะกับกำแพงมันก็ได้ระเบิดดังออกมา มิมิคได้ตายไปก่อนที่ร่างกายจะกระจายกลายเป็นอนุภาคแสง ริยูก็ได้เร่งความเร็วขึ้นและผ่านไป
ยังไงก็ตามในทันทีหลังจากนั้นปากก็ได้เปิดออกมาบนพื้นเพื่อที่จะกินริยูกับฉัน ฉันได้ยกหอกขึ้นและแทงลงไปบนพื้น ถึงอย่างนั้นเครื่องตรวจจับเวทย์ก็ยังคงดังอยู่ แต่ว่าฉันก็ไม่รู้ตำแหน่งที่แน่นอนของมิมิคหรือโกเลม ดังนั้นเจ้าเครื่องนี้มันก็ไร้ค่าไปเลย
ในท้ายที่สุดแล้วฉันก็ยอมรับว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ดีที่สุดที่จะให้ริยูพุ่งไปต่อ ฉันได้ดื่มมานาโพชั่นและตัดสินใจที่จะใช้มาตราการพิเศษ ฉันได้ให้ริยูยกเลิกรูปธรรมและฉันได้ลอยขึ้นไปด้วยพลังของชาราน่า ฉันไม่อยากจะใช้วิธีนี้เพราะว่ามันใช้มานาจำนวนมาก แต่ว่าก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว ฉันไม่สามารถจะไว้ใจพื้นหรือเพดานได้ ฉันเชื่อใจได้เพียงแค่อากาศ
แม้หลังจากนั้นฉันก็ยังต้องเผชิญหน้ากับโกเลมที่แกล้งทำตัวเป็นกำแพง หีบสมบัติที่มีปากมากัดฉัน มิมิคที่ปลอมตัวเป็นเพดานซึ่งแยกออกได้ยาง และกับดักที่มีลูกดอกธนูพุ่งออกมา และแน่นอนลูกศรเหล่านั้นคือมิมิคที่ปลอมตัวมา ในท้ายที่สุดแล้วฉันก็ต้องใช้เวลาถึง 3 ชม. ในการผ่านชั้นที่ 56 มันค่อนข้างช้ามากเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับครั้งก่อนๆ
[คุณได้เลเวล 57! คุณได้รับคุณสมบัติในการท้าทายบียอนชั้นที่ 6]
[คุณได้รับแต้มสเตตัส 5 แต้ม]
“โอ้ ชินผ่านชั้นที่ 56 ในเวลาเพียง 3 ชม. น่าทึ่งมาก … แต่ว่าทำไมชินต้องหอบแบบนั้นด้วยล่ะฦW
“ก่อนอื่น… แฮ่ก ๆ”
ฉันได้จ้องไปที่โรเล็ตต้าและเรียกร้องออกมา
“ฉันต้องการเงินคืน”
โรเล็ตต้าไม่ได้คืนเงิน 150,000 แม้แต่นิด กลับกันเธอได้บอกว่าเธอจะให้พรของราชินีเอลฟ์แทนและพยายามจะจูฉัน แน่นอนว่าฉันได้ป้องกันเอาไว้ด้วยมือข้างหนึ่งและกระโดดเข้าไปในบียอนชั้นที่ 6
บียอนชั้นที่ 1 ถึง 5 นั้นจะมีมอนสเตอร์เป็นออร์คลอร์ดและราชีนีวิญญาณ สำหรับชั้นที่ 6 นั้นฉันเดาว่ามันน่าจะเป็นมนุษย์หนูทมิฬและความสงสัยของฉันก็ถูกต้อง ในวินาทีแรกที่ฉันได้เข้าไปในห้องโถงฉันก็ได้เผชิญหน้ากับมนุษย์หนูทมิฬนับสิบ
พูดตามตรงฉันลังเลที่จะสู้กับพวกมัน ฉันเคยถูกพวกมันฆ่ามาแล้วครั้งหนึ่งและพวกมันก็ยังสามารถใช้ทักษะที่โกงมากๆอย่างระเบิดสายฟ้าทมิฬได้อีกด้วย ฉันยังคงจำได้ดีในตอนที่โดนระเบิดสายฟ้าทมิฬ ในตอนนี้พวกมันได้ปรากฏตัวออกมาเป็นฝูง
[กี้ๆๆ]
[เนื้อมนุษย์! มีเนื้อมนุษย์อยู่ที่นี่!]
[มันถึงเวลาเทศกาลสายฟ้า]
เมื่อฉันเห็นมนุษย์หนูทมิฬเปล่งประกายสายฟ้าสีดำออกมา ฉันก็ได้แต่กลืนน้ำลายลงไป ถ้าพวกมันโดนฉันฉันจบแน่ ด้วยแบบนั้นฉันจึงเตรียมตัวที่จะใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์ ถ้าฉันใช้ผิวมังกร ไม่ยอมตาย หรือความเร็วศักดิ์สิทธิ์ มันก็อาจจะเป็นไปได้ที่จะผ่านชั้นที่ 6 ได้ภายในไม่กี่วัน
“เอาล่ะ ไปกันเถอะ”
[กี้ๆๆ ระเบิดสายฟ้าทมิฬ]
พวกมันได้ใช้ระเบิดสายฟ้าทมิฬออกมาในเวลาเดียวกัน ฉันไม่คิดที่จะหลบหลีกการโจมตีนี้ของพวกมัน อย่างแรกเลยฉันได้เรียกไพก้าออกมาและมอบมานาจำนวนมากไปให้กับเธอ จากนั้นฉันก็สร้างเพลิงโกลาหลและเตรียมที่จะปะทะกับสายฟ้าที่พุ่งเข้ามาทางฉัน ในขณะเดีนสกันฉันก็เตรียมตัวที่จะใช้ผิวมังกรถ้าฉันได้รับความเสียหามากเกินไป หลังจากที่ฉันได้เตรียมทุกอย่างเสร็จฉันก็พุ่งเข้าไปหาพวกมัน
…..และในเวลา 5 ชม. ฉันก็ได้ผ่านบียอนชั้นที่ 6 มาอย่างปลอดภัย
“ชิน!? ชินตายใช่ไหม? ชินต้องตายแน่ๆเลยใช่ไหม?”
“อย่าพูดว่าตายสิ พูดว่าฉันพลังชีวิตเหลือ 0 แทนไม่ได้หรือไง นอกจากนี้ถ้าพลังชีวิตฉันเหลือ 0 ฉัยก็ไม่มีทางกลับมาที่ชั้นขายของแน่”
ฉันก็ยังตะลึงเช่นกัน แต่ว่า….มนุษย์หนูทมิฬมันไม่ได้ทำให้ฉันบาดเจ็บแม้แต่นิดเลย
โดยพื้นฐานแล้วมนุษย์หนูทมิฬมีจุดแข็งที่ความเร็ว พลังและทักษะที่อันตรายอย่างระเบิดสายฟ้าทมิฬ แม้ว่ามนุษย์หนูทมิฬจะแข็งแกร่งกว่าตัวที่อยู่ในชั้นที่ 15 ของดันเจี้ยนที่หนึ่ง แต่มันก็ยังช้ากว่าฉันและมีเนื้อหนังที่บางเหมือนกระดาษ พวกมันได้ตายเหมือนกับแมลงในทุกๆครั้งที่ฉันแทงหอกออกไป แม้แต่ในตอนที่พวกมันใช้ทักษะระเบิดสายฟ้าทมิฬ ฉันก็สามารถจะต้านทานมันได้อย่างง่ายดาย ในความจริงแล้วไพก้านั้นได้ยินดีและดูดซัยสายฟ้าพวกมัน แทนที่จะเรียกมันว่าบียอนชั้นที่ 6 มันจะดีกว่าหากเรียกเป็นโรงงานไฟฟ้าสำหรับไพก้า
ฉันไม่จำเป็นจะต้องกังวลกับการโจมตีของมนุษย์หนูทมิฬเลยและไพก้าก็ได้ทำลายกับดักทั้งหมดด้วยสายฟ้าที่เธอดูดซับมา นี้เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้ผ่านบียอนมาอย่างง่ายดาย
“ภูติธาตุของชินส่องแสงแปลกๆนะ…ชิน?”
“จินตนาการของโรเล็ตต้าทำให้ฉันตกใจเสมอเลยนะ แต่ว่าท้องเธอเพียงแค่เต็มไปด้วยสายฟ้า”
หลังจากนั้นฉันก็ได้ใช้เวลาอยู่ไม่กี่วันในการเคลียร์ชั้นที่ 57 ของดันเจี้ยนที่หนึ่ง บียอนชั้นที่ 7 ชั้นที่ 58 ของดันเจี้ยนที่หนึ่งและบียอนชั้นที่ 8 บียอนชั้นที่ 7 นั้นมีอัศวินลิซาร์ดแมน พวกมันได้ใช้วิธีการโจมตีหลักด้วยการโจมตีไปที่พื้นในขณะที่ใช้ทักษะผิวมังกร ฉันได้บินขึ้นไปและพุ่งผ่านพวกมันอย่างง่ายๆ ที่นี่มันแตกต่างกับการต่อสู้กับบอสประจำชั้น ฉันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องฆ่ามอนสเตอร์ทั้งหมดในบียอน
ออร์คลอร์ดน่ากลัวเพราะวอคลายและการใช้งานก็มีระยะเวลาคูลดาวน์ที่น้อย กลับกันผิวมังกรของอัศวินลิซาร์ดแมนมันใช้อะไรไม่ได้นอกจากตัวของอัศวินลิซาร์ดแมนเองและมันก็มีระยะเวลาคูลดาวน์ที่นาน ถ้าฉันต้องการฉันก็เพียงแค่รอจนทักษะผิวมังกรหมดลงและฆ่าพวกมันทีละตัวก็ยังได้
บียอนชั้้นที่ 8 ก็ยิ่งง่ายขึ้น เมื่ออัศวินลิซาร์ดแมนได้ใช้การโจมตีพื้นดินมันก็สร้างความเสียหายให้กับมนุษย์หนูทมิฬและเมื่อตอนมนุษย์หนูทมิฬโจมตี ฉันนั้นปลอดภัยแต่ว่าอัศวินลิซาร์ดแมนก็ได้ถูกช็อต ในขณะนั้นพวกมันก็ได้ต่อสู้กันเองเหมือนกับคนโง่ ฉันได้จัดการกับพวกมันทีละคนอย่างสบายๆ
การปีนดันเจี้ยนมันไม่น่าจะง่ายแบบนีตลอดไป ถ้ามันยังคงเป็นแบบนี้ต่อไมันก็จะเป็นไปได้ที่ฉันจะพิชิตดันเจี้ยนในเวลาเพียง 2 ปี! ฉันได้รู้สึกมัวเมาไปกับความรู้สึกนี้ ฉันได้แข็งแกร่งมากขึ้นในทุกๆวันและปีนดันเจี้ยนอย่างราบรื่น แม้ว่าฉันจะพยายามถ่อมตัวไว้ แต่ฉันก็อดที่จะรู้สึกไม่ได้ว่าไม่มีอะไรที่ฉันทำไม่ได้
[เจ้าชายรัชทายาท… ได้โปรโช่วยฉันด้วย]
จนกระทั่งวันหนึ่งฉันได้รับข้อความมาจากเพื่อนของฉัน