บทที่ 185 – สังเคราะห์ทักษะ (4)
[เจ้าชายรัชทายาทได้โปรดมาช่วยหน่อย ฉันไม่สามารถช่วยปกป้องพวกเขาได้เพียงลำพัง]
“ทะ ทำไมฉันถึงไม่มีความสุข….!?”
[จะ เจ้าชายรัชทายาท?]
“มะ ไม่ ไม่มีอะไรหรอก”
ในตอนนี้ฉันได้คุ้นเคกับสิ่งที่เกิดขึ้นในการปีนดันเจี้ยนอยางราบรื่นไปแล้ว เหตุการดันเจี้ยน เหตุการการจู่โจม ทวีปลูก้า และในตอนนี้! เพียงแค่เมื่อฉันได้คิดว่าฉันจะได้มุ่งความตั้งใจไปที่การเคลียร์ดันเจี้ยนขึ้นไปเร็นก็ได้ติดต่อเข้ามาหาฉัน ฉันไม่สามารถจะเผลอตัวได้แม้แต่นิดเลยสินะ ในความจริงแล้วฉันรู้สึกเหมือนมันมีเจตนาที่จะทำบางอย่าง
ฉันได้กัดฟันแน่นและถามเร็น
“เกิดอะไรขึ้นเร็น? บอกมาสิ”
[ ไม่หรอก เจ้าชายรัชทายาท นายจะต้องมีเวลาที่ยุ่งเหมือนกัน มันเป็นความผิดของฉันเองลืมสิ่งที่ฉันพูดไปเถอะ]
“ชั่งมันน่าและบอกฉันมา”
[ดะ ได้!]
โลกของเร็นหรือที่ทวีปพาแนนเป็นดินแดนที่เงียบสงบซึ่งมีทั้งมนุษย์และมนุษย์สัตว์อาศัยอยู่ด้วยกัน แน่นอนว่าทั้งสองเผ่าพันธุ์ก็เผชิญกับปัญหาที่มากมายกว่าจะเกิดความสงบเรียบร้อยขึ้น แต่ว่าสิ่งที่พวกเขาได้ทำสำเร็จนั้นมันเป็นเพียงอดีตไปแล้ว อย่างน้อยก็เป็นประมาณ 200 ปีก่อน
สิ่งต่างๆได้เริ่มเปลื่ยนไปในวันหนึ่ง ความขัดแย้งเล็กๆระหว่างมนุษย์และมนุษย์สัตว์ได้เพิ่มในตามเวลาที่ผ่านไปจนกระทั่งวันหนึ่ง สงครามระหว่างประเทศมนุษย์และประเทศมนุษย์สัตว์ได้ประทุขึ้น
“ฉันไม่ได้สนใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของทวีปพาแนนนะ”
[จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามันเป็นประวัติศาสตร์ของการรุกรานจากภายนอกล่ะ?]
สงครามได้โหมกระหน่ำและโลหิตได้หลั่งไหลออกมาเหมือนมหาสมุทร จากนั้นอีกประเทศหนึ่งก็ได้กระโดดเข้ามาร่วมสงครมและทำให้ทั้งทวีปได้เต็มไปด้วยสงคราม ก่อนที่นักสำรวจดันเจี้ยนจะได้เผยความจริงออกมาทุกๆคนต่างก็คิดว่ามันเป็นภัยพิบัติที่เกิดขึ้นมาด้วยตัวเองของมนุษย์และมนุษย์สัตว์
แต่นั้นมันไม่ใช่เลย มันเป็ฯเพราะผู้บุรุกของทวีปพาแนน ‘เอล พาทิส’
“เอล พาทิสหรอ?”
[นั่นคือชื่อที่พวกนั้นเรียกตัวเอง พวกเราเรียกมันว่า ‘หนอนสมอง’ สิ่งที่พวกมันเป็นคือแมลงที่จะเจาะเข้าไปในสมองของพวกเรา]
ตามที่เร็นได้บอกมา หนอนสมองนั้นจะเจาะเข้าไปในสมองขอคนที่หลับหรือกินมันลงไป ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจะตายและหนอนสมองจะแกล้งปลอมตัวเป็นคนที่มันได้ฆ่าไป วิธีเดียวที่จะสามารถตรวจสอบได้ว่าใครที่ถูกหนอนสมองกินได้ก็คือการใช้เวทย์พิเศษสำหรับตรวจจับชีพจรชีวิต
หนอนสมองนั้นสามารถจะเลียนแบบการกระทำของผู้ที่ถูกเจาะเข้าไปในสมองได้อย่างสมบูรณ์แบบในจุดที่ว่าแม้แต่คนในครอบครัวก็ไม่สามารถจะแยกแยะได้ ยังไงก็ตามความจริงที่ว่ามันยังคงเป็นหนอนสมองก็ยังคงไม่เปลื่ยนแปลง เมื่อหนอนสมองได้รวบรวมตัวกันมากพอพวกมันก็จะเผยตัวตนในที่สุดและดึงคนอื่นๆลงไปในขุมนรกของพวกมัน
[โชคดีที่คนที่มีมานาสูงสามารถจะตรวจหนอนสมองในร่างต้นและหลีกเลี่ยงพวกมันได้ นักสำรวจที่ค้นพบเกี่ยวกับการมีอยู่ของหนอนสมองได้พยายามคนหาจุดอ่อนของมันและแจ้งให้ทุกคนรู้ว่าพวกมันเป็นตัวก่อสงคราม ยังไงก็ตามมันส่งผลกระทบได้น้อยมาก พวกระบบสูงของประเทศในส่วนใหญ่ได้กลายเป็นหนอนสมองไปแล้วและไม่นานมานี้พวกหนอนสมองก็ได้แข็งแกร่งขึ้นซึ่งนักรบของพาแนนก็ได้มีปัญหากับการต่อสู้กับพวกมัน]
“แล้ว?”
[มันไม่สามารถจะหยุดสงครามในตอนนั้นได้ ประชากรของทวีปพาแนนได้ลดลงไปเรื่อยๆส่วนพลังของหนอนสมองก็มีเพียงแต่จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไป…. ในท้ายที่สุด 170 ปีหลังจากการบุกรุกก็ได้เกิดเหตุการที่ทำให้ทุกคนต้องสูญเสียความหวังที่จะต่อต้านหนอนสมอง]
ฉันรู้สึกได้เลยว่าฉันรู้ว่าอะะไรจะตามมา แม้ว่าฉันจะปิดหูของฉัน ฉันก็ยังสามารถที่จะได้ยินเสียงของเร็น
[ฮีโร่ในยุคนั้น… จักรพรรดิสิงโดทองได้ถูกกินโดนหนอนสมอง]
“เร็น…!”
[หนอนสมองที่ควบคุมฮีโร่คือตัวที่ควบคุมหนอนตัวอื่นๆทั้งหมด มันคือสิ่งที่เรียกว่าศัตรูของโลก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหลังจากที่มันได้รับพลังของฮีโร่แล้วหนอนสมองก็ได้เริ่มการพิชิตทวีปพาแนนด้วยความเร็ซที่ไม่เคยมีมาก่อน ในตอนนี้พวกมันกำลังจะทำแบบนั้นในโลกของเรา]
เร็นได้บอกว่าวิธีเดียวที่ทวีปพาแนนจะสามารถอยู่รอดต่อมาจนกระทั่งถึงตอนนั้นมันเป็นเพราะว่าพวกเขาได้พบจุดอ่อนของหนอนสมอง
[มหาสมุทร พวกมันไม่สามารถที่จะเข้ามาในมหาสมุทรได้ แม้แต่หนอนสมองที่มีร่างการของฮีโร่ก็ยังไม่สามารถจะเข้ามาได้ พวกเรารู้สึกได้เลยว่าหนอนสมองได้หลีกเลี่ยงการบุกรุกประเทศที่มีพื้นฐานเป็นทะเล เพราะว่าพวกมันไม่สามารถจะข้ามทะเลพวกมันเลยได้ใช้เส้นทางอื่นๆเพื่อนำกองกำลังไปยังประเทศต่างๆในมหาสมุทร]
“พวกนายน่าจะรู้ตัวเร็วกว่านี้นะ”
[ฉันก็ได้บอกนายไปแล้วว่าพวกมันระมัดระวังตัวมากและมมีทักษะในการซ่อนจุดอ่อน นักสำรวจส่วนมากได้หนีไปที่มหาสมุทรเพื่อหลบหนอนสมองหลังจากสังเกตเห็นโดยบังเอิฐและต้องขอบคุณในความบังเอิญนี้ที่ทำให้นักสำรวจที่เหลืออยู่ได้มีโอกาสพักหายใจ แน่นอนว่ามันก็ไม่ได้อยู่แบบนั้นนานนัก]
“ทำไมล่ะ?”
[คำถามของฉันทำให้เร็นเงียบไปอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็สภาพออกมาด้วยเสียงที่มืดมน]
[เจ้าชายรัชทายาท… มนุษย์สัตว์ไม่สามารถว่ายน้ำได้]
มนุษย์สัตว์เข้าไปในมหาสมุทรไม่ได้ ผู้รอดชีวิตส่วนใหญ่ของทวีปพาแนนนั้นเป็นเผ่ามนุษย์สัตว์ซะมากกว่า พวกเขาจึงสร้างฐานที่ใกล้กับมหาสมุทรและใช้น้ำจากมหาสมุทรเพื่อต่อสู้กับหนอนสมอง โชคดีที่ในหมู่พวกเขามีคนที่ใช้พลังน้ำได้ แต่ว่าหลังจากที่เขาถูกกินไป ความหวังสุดท้ายก็ได้หายไป
[นี้เป็นเวลาที่เซอร์เลอบิคตาย นักสำรวจส่วนใหญ่ก็ได้ตายตามไปแล้วเช่นกัน]
“เร็นถ้างั้นตอนนี้นาย…”
[ฉันกำลังป้องกันเด็กทั้งแปดคน ห้าคนเป็นมนุษย์สัตว์ อีกสามเป็นมนุษย์ เมื่อฐานทัพได้พังลงฉันแทบจะไม่สามารถช่วยเด็กพวกนี้และหาที่หลบให้พวกเขาได้เลย ฉันได้หาอาหารมาให้พวกเขาด้วยการปีนดันเจี้ยน ในตอนนั้นก็คือตอนที่ฉันได้พบกับเจ้าชายรัชทายาท]
นี้มันฟังดูโหดร้ายมาก แต่ว่าจริงๆแล้วมันดูไร้ซึ่งความหวัง นอกจากนี้ฉันก็ได้ถามเร็นขึ้นเพราะในตอนนี้ฉันต้องการจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“เร็นบอกสถานการณ์ในปัจจุบันของนายมาหน่อย”
[พวกมันพบที่ซ่อนของพวกเรา พวกเรากำลังนี้]
มันสั้นมากๆ
[ในตอนนี้พวกเรากำลังพักหลังจากที่ได้เอาชนะผู้ไล่ล่ามาได้ แต่ว่าอีกไม่นานก็น่าจะมีพวกหนอนสมองที่แข็งแกร่งขึ้นมาโจมตีพวกเราอีก ฉันเลยได้มาจบลงด้วยการมาคุยกับเจ้าชายรัชทายาท]
“ถ้างั้นนายวางแผนจะทำอะไร?”
[พวกเราจะต้องกลับไปที่ชายฝั่งก่อนที่จะสายเกินไป พวกเราต้องสร้างฐานที่จะป้องกันพวกเราจากพวกมัน พวกเราจะต้องบังคับน้ำมหาสมุทรและสร้างเกาะที่มนุษย์อยู่ได้ขึ้นมา]
“นั้นมันฟังดูทำยากมากเลยนะแม้ว่านายจะถึงชายฝั่งก็ตาม
[ชะ…ใช่แล้ว]
หลังจากได้คิดนิดนึงฉันก็ได้พูดต่อไป
“นายได้ส่งคำขอไปยังทหารรับจ้างต่างมิติหรือยัง?
[ส่งไปแล้วแต่ไม่มีคนมาเลย]
“แล้วจะใช้ทักษะท่องมิติเพื่อพาพวกเขาไปที่อื่นได้ไหม?”
[นั่นมันเป็นไปไม่ได้ ทักษะท่องมิติใช้ได้แค่เพียงคนเดียว]
“ทำไมนายไม่เพิ่มแต้มทักษะใส่มันบ้างแล้วก็…อ่า”
ใช่แล้วนั่นมันเป็นทักาะของฉัน ทักษะท่องมิติแต่เดิมไม่ได้มีเลเวลทักาะดังนั้นมันจึงไม่สำคัญว่าจะมีแต้มทักษะมากแค่ไหน…. เดี๋ยวก่อนนะ แต่ถ้านั้นเป็นย้อนกลับ! ถ้าฉันสามารถใช้ย้อนกลับกับเด็กทั้งแปดคนนอกเหนือจากเร็นล่อ….! ทักษะย้อนกลับของฉันในปัจจุบันมีเลเวลที่ 4 ฉันสามารถที่จะพาคนไปกับฉันได้สามคน เนื่องจากว่าฉันไม่เคยใช้แต้มทักษะกับมันเลย ฉันเลยได้ใช้แต้มทักษะ 15 แต้มเพื่อเพิ่มเลเวลมันจนเป็นเลเวล 8
[ทักษะย้อนกลับกลายเป็นเลเวล 8! มันสามารถจะใช้งานได้ 6 ครั้งต่อวันและสามารถเลือกสถานที่ได้ 6 ที่ คุณสามารถจะพาคนไปด้วยกันได้ 5 คน]
ให้ตายสิมันยังไพอ…! เมื่อฉันกลับมาที่โลกโดยใช้ทักษะย้อนกลับ ฉันก็จะไม่สามารถกลับไปที่ทวีปพาแนนด้วยทักษะย้อนกลับไป ฉันจะต้องใช้ทักษะท่องมิติระหว่างโลกแทน เพราะว่าทักษะท่องมิติมันมีการคูลดาวน์ที่นานดังนั้นมันจึงใช้ไม่ได้ ฉันได้ขบริมฝีปากแน่น
ในขณะเดียวกันเร็นยังคงพูดอยู่
[เจ้าชายลืมเรื่องที่ฉันพูดไปเถอะ ฉันเร็นแห่งพาแนน ที่นี่มันอันตรายมากฉันผ่านมันไปด้วยตัวเองได้]
“ไม่ได้แน่เจ้าวัวโง่”
[ฉันไม่ใช่วัว ฉันเป็นสิงโต]
ในสถานการณ์นี้มีเพียงแค่สิ่งเดียวที่ฉันทำได้มันก็คือการเมินเฉยต่อคำขอของเร็น เร็นก็รู้ดีว่าเขากำลังขอร้องในสิ่งที่ไม่สมควรและเขาก็จะขอเอามันคืนไป หนอนสมอง… น่าขยะแขยง มันไม่ใช่ว่าฉันรู้สึกไม่เห็นใจเร็นนะ แต่ว่านี้มันไม่มีความหวังเลย
ชิ ฉันได้บอกกับเขาไป
“อย่าตายก่อนที่ฉันจะไปถึงล่ะ”
[เจ้าชายฉันบอกนายแล้วว่าอย่ามา! ฉันแค่ปากลั่นไปเองเท่านั้น]
“ถ้านายตาย ฉันจะฆ่านายแน่เข้าใจนะ?”
[เจ้าชาย!]
“เงียบไปซะ ถ้าฉันคิดว่ามันอันตรายเกินไป ฉันจะหนีไปเอง”
[เจ้าชาย….]
ฉันได้เมินเร็นและจากนั้นฉันก็ติดต่อไปหาคนในรายชื่อเพื่อนของฉันที่ฉันไม่เคยติดต่อมาก่อน
“เลอบิค เธอกำลังทำอะไรอยู่?”
[ทะ ทวีปพาแนนร้องขอทหารรับจ้างต่างมิต… ฉันควรทำยังไงดีเจ้าเด็กใหม่?]
“เธอก็ควรจะรู้นะว่าเธอควรทำภารกิจนี้”
[มะ ไม่มีใครอยากจะไป…! เจ้าเด็กใหม่บอกเร็นให้ออกมาที่นั่นเร็ว ได้โปรด]
“เร็นไม่ได้คิดจะออกมาเลย เขากำลังปกป้องเด็กทั้ง 8 คน”
[แปด… นั่นมัน…]
“เลอบิค เธอจะทำอะไร?”
[ฉันหรอ? นายต้องการจะบอกให้ฉันไปทวีปพาแนนงั้นหรอ?]
“ตอบฉันเร็วๆ เธอจะทำอะไร? บอกฉันว่าเธอคิดอะไร”
[…เด็กใหม่นาย….]
“ทักษะท่องมิติของฉันมันพิเศษนิดหน่อย ฉันสามารถจะพาคนไปกับฉันได้ ดังนั้นเลอบิคเธอจะทำอะไร?”
ในขณะที่ฉันพูดกับเธอฉันก็ได้เพิ่มแต้มไปที่ทักษะท่องมิติ เลเวล 2 3 4… จากนั้นจำนวนคนที่ฉันสามารถจะพาไปได้ก็เพิ่มขึ้นมา คูลดาวน์ได้ลดลงค่อนข้างมากเป็นเวลาสองเดือน ในตอนนี้ฉันมีแต้มทักาะเหลืออีกเพียง 1 แต้มแล้ว มันไม่มีทางถอยกลับ
[นะ นายกำลังหมายถึงอะไร… ฉะ ฉันไปไม่ได้ ฉันจะตายแน่นอนถ้าฉันทำแบบนั้น!]
“เธออาจจะตายนั้นคือความจริง ฉันก็ไม่ได้คิดว่าการตัดสินใจมันง่ายดาย”
[ถ้างั้นทำไมนายพูดเหมือนว่ามันไม่มีอะไรเลยลฃ่ะ? นายกำลังจะไปหาความตายนะ!? ถ้าหนอนสมองกินนาย นายจะไม่แม้แต่ได้รับส่วนที่เหลือของชีวิตไปนิรันดร์ สมองของนายจะถูกินและร่างกายของนายก็จะกลายเป็นของเล่นของพวกมัน]
“แต่ว่าถ้าฉันไม่ไป สิ่งที่เหมือนกันนี้จะเกิดขึ้นกับเพื่อนของฉัน เลอบิค ฉันจะให้เวลาเธอ 5 วินาที ดังนั้นเธอต้องตัดสินใจ ถ้าเธอไม่ได้ ฉันจะไปคนเดียว”
[ดะ เดี๋ยวก่อน มะ ไม่ ฉันจะไม่…. ฉันจะไม่ไป! ฉันได้หนีมาเองดังนั้นฉันจะทำอะไรได้ในจุดๆนี้….]
“3 2 1 …”
[อูวววว ไม่เป็นไร! ฉันจะไป]
ฉันได้ยิ้มออกมา ตามที่คาดเอาไว้เลยจากผู้หญิงที่มีความรัก
“เยี่ยม ฉันมั่นใจได้เลยว่าเร็นจะสัมผัสได้ บางทีเขาอาจจะสัมผัสได้ถึงสิ่งนั้นและมากอดเธอ”
[ขะ เขาจะกอดฉัน? เร็นจะกอดฉัน? อุ… มะ ไม่สิ ฉันจะไม่เติมเต็มในความปรารถนาของฉัน…! แม้ว่าฉันจะไม่ทิ้งชีวิตของฉันไปเพื่อสนองความปรารถนาของฉันก็ตาม! ฉันเพิ่งแค่อยากจะชดใชให้กับความจงรักภักดีที่ฉันทำมันล้มเหลวไป]
“ฉันเข้าใจแล้ว ถ้างั้นมาเจอฉันที่บาร์ในพื้นที่พักของดันเจี้ยนที่หนึ่ง ‘คุ๊กเก็ด’ เตรียมตัวให้พร้อมด้วย
[โอเค…เด็กใหม่]
ฉันได้ปล่อยเธอไปจากนั้นก็ถอนหายใจยาวและเปิดช่องสนทนากิลด์
[ฉันจะไปทำภารกิจของทหารรับจ้างต่างมิติ มันอาจจะใช้เวลาสักพักแต่ไม่ต้องห่วงนะ]
[มันปลอดภัยไหม?]
จากเสียงประกาศนั้นช่องสนทนากิลด์ก็ได้กลายเป็ยวุ่นวาย จากนั้นฮวาหยาก็ถามฉันด้วยเสียงที่เป็นกังวล แม้ว่าฉันจะรู้สึกขอบคุณเธอที่เป็นห่วงฉัน….แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างฉันได้ระเบิดหัวเราะออกมา
[ภารกิจนี้ปลอดไหมหรอ? เอาเถอะ มันคงจะไม่มีปัญหาอะไร]
ฉันได้พูดออกไปตรงๆ
[ฉันสามารถจบมันได้]