บทที่ 19 – นักเรียนใหม่ฤดูใบไม้ร่วง (1)
“กรี๊ดด แม่คะ พี่เขาเหมือนจะถูกดูดวิญญาณออกไปแล้ว”
“เขาเป็นแบบนี้มาพักหนึ่งแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะกำลังหดหู่ ไปปลอบเขาสิ”
“ฮ่าๆ ฉันได้เอาชนะราชินีวิญญาณด้วยตัวคนเดียว…อืมม ใช่แล้ว นั่นมันไม่ได้เปลื่ยนแปลง แต่กับมนุษย์หนูทมิฬ…”
“พี่ชาย พี่ชาย หลุดออกมาจากอาการนี้นะ”
นางฟ้าจากสวรรค์…ไม่สิ ยุยได้เขย่าไหล่ของฉันและฉันไม่มีแรงที่จะต่อต้านมัน
ยุยมีเสียงที่น่ารัก เธอเป็นคนที่ซัพพอตไม่ให้ฉันล้มลงไป ถ้าหากยุยมีแฟนแล้ว ฉันควรจะทำยังไงดี? ฉันควรจะฉีกแขนขาของมันหรือว่าควรจะลักพาตัว…ฮึก”
“พี่คะ”
“ยะ ยุย”
“พี่เป็นอะไรมั้ย!? ฮ่าาาา”
เมื่อเธอเห็นฉันตื่นขึ้นมา ยุยก็ได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอเป็นห่วงฉัน น่ารักอะไรอย่างนี้
“ฮ่าๆ ไม่ต้องห่วงหรอกยุย พี่ชายสบายดี”
“แต่พี่ดูเหมือนไม่มีวิญญาณเลย พี่กำลังบ่นอะไรกับตัวเองด้วยแหละ”
“น้องพูดถูก…เอาหละ พี่ชายแค่ได้รับประสบการณ์ความล้มเหลวบางอย่างนะ”
“ความล้มเหลว?”
“ใช่แล้ว มันดูเหมือนว่าพี่จะเย่อหยิ่งเกินไป”
ฉันจำได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่ฉันได้กล่าวอำลากับโลเล็ตต้าที่ชั้นที่ 10 ฉันได้รีบวิ่งไปที่ห้องของบอสในชั้นที่ 15 ฉันได้เข้าไปในปาตี้อย่างสุ่มๆและท้าทายมนุษย์หนูทมิฬ
“เอาหละ ไปกันเถอะ”
หัวหน้าปาตี้เป็นนักดาบวัยกลางคน บางทีนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่ได้สนใจพูดคุยกับคนในปาตี้ ตอนนี้เองฉันก็เริ่มที่จะวิตก
รวมกับฉัน ปาตี้นี้ประกอบไปด้วยนักสำรวจดันเจี้ยนจากห้าทวีปที่ต่างกัน ปาตี้ไม่สามารถจะประสบความสำเร็จในการร่วมมือกันได้ อย่างไรก็ตามด้วยผู้นำปาตี้มันก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะทำเช่นนั้น ความวิตกของฉันมันได้กลายเป็นจริง
“เร็วเข้าฆ่าพวกมนุษย์หนู”
“นายทำเพียงแค่พุ่งเข้าไปหามนุษย์หนู พวกเราควรที่จะวางแผนหน้าที่กันก่อนนะ”
ในตอนแรกหัวหน้าปาตี้และคนสร้างความเสียหายได้ทะเลาะกันในขณะที่ฉันกำลังล่าพวกมนุษย์หนูอย่างเงียบๆ ถ้าไม่เช่นนั้นการต่อสู้กับบอสมันจะจบลงเร็วมาก
มีฮีลเลอร์อยู่สองคนที่มาจากที่ๆต่างกัน ดังนั้นพวกเขาจึงรังเกียจที่เพื่อช่วยหัวหน้าปาตี้ ในเวลาเดียวกันแท้งผู้ที่มาจากทวีปเดียวกันกับหัวหน้าปาตี้ ก็ได้ไปอยู่ข้างๆเขา
“กี้ๆๆๆ อย่าได้มองฉันต่ำเพราะฉันเป็นหนู!”
“ฆ่าเจ้าพวกหนูชั่ว”
มนุษย์หนูทมิฬมันมีความสูง 2 เมตร มันมีขนาดที่เล็กกว่าบอสในชั้นก่อนๆมาก ดังนั้นฉันจึงคิดว่าแท้งของเราควรจะสามารถจัดการรับมือกับมันได้ แต่แน่นอนว่าฉันคิดผิด
“กี้ๆๆ กี้ๆๆๆ”
“กึก การโจมตีของเจ้าหนูนี้มันหนักเกินไป! ฮีล!”
“เวร….”
แท้งดูเหมือนจะมีนิสัยที่เหมือนกับหัวหน้าปาตี้ ฮีลเลอร์ก็ดูจะลังเลที่จะรักษามันเป็นผลเวลาที่เหลืออยู่ของพวกเราหมดลง หัวหน้าปาตี้ได้มุ่งแต่สนใจกับการโจมตีมนุษย์หนูทมิฬเพื่อที่จะเก็บผลงานอย่างเห็นได้ชัด คนสร้างความเสียหาก็ได้เถียงกับหัวหน้าปาตี้ มันได้จบลงด้วยการหายไปของมนุษย์หนูซึ่งมุ่งหน้าไปยังแท้งของพวกเรา
“อะไรนะ? เฮ้ มั่วแต่ทำอะไรอยู่? รีบเอาพวกมันออกไปจากฉันW
“ห่าเอ้ย เพียงแค่สนใจไปที่มนุษย์หนูทมิฬ”
“อา!”
เมื่อแท้งและหัวหน้าปาตี้ได้ตะโกนออกมาอย่างหงุดหงิด มนุษย์หนูทมิฬกก็ได้กลายมาเป็นอิสระเพื่อที่จะทำในสิ่งมันต้องการ ฉันกำลังล่ามนุษย์หนูไปทีละตัว แต่เมื่อฉันได้ยินเช่นนี้ฉันก็รีบวิ่งเข้าไปหามนุษย์หนูทมิฬ
แม้ว่านักเวทย?ของเราจะเปลื่ยนเป้าหมายไปที่มนุษย์หนูทมิฬในทันทีและร่ายเวทย์ใส่มัน แต่ว่ามนุษย์หนูนั้นเร็วเกินไป
“กี้ๆๆ ฉันจะเผาพวกแกทั้งหมด
[มนุษย์หนูทมิฬได้ใช้ระเบิดสายฟ้าทมิฬ]
สิ่งที่ตามมามันก็คือภาพที่ไม่น่าจดจำ ในทันทีท้องฟ้าได้เต็มไปด้วยแสงที่สีดำที่ออกมาจากร่างกายของมนุษย์หนูทมิฬและมันได้ไปโดนหัสหน้าปาตี้และแท้งผู้ที่อยู่ใกล้ที่สุด ทั้งสองคนได้เผาทั้งตัวในทันทีและคุกเข่าลงไป ฉันคิดว่ามันควรจะจบแล้ว แต่ฉันคิดผิด มันก็แค่พึ่งจะเริ่มต้น
“กี้ๆๆ มันเป็นงานปาตี้ของสายฟ้า กี้ๆๆ”
ตูมมมม
แบบเดียวกับชื่อของมัน มันเป็นการระเบิดของสายฟ้าสีดำ ทั้งหัวหน้าปาตี้และแท้งได้ตายไปในทันที และฉันผู้ซึ่งวิ่งเข้าไปหามนุษย์หนูทมิฬก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
ค่า Hp หรือไอเทมสวมใส่ของออร์คลอร์ดที่ฉันใส่ไม่สามารถจะช่วยฉันได้ มันทำให้เกิดความเจ็บปวดเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ฉันได้หมดสติไปและตื่นขึ้นมาอีกทีที่ด้านนอกดันเจี้ยน
มันเป็นความผิดของฉันเอง อย่างน้อยฉันก็คิดเช่นนั้น
ฉันคิดว่าฉันจะสามารถเอาชนะมนุษย์หนูได้ไม่ว่ายังไงก็ตามมันเป็นสิ่งที่โง่เง่า สำหรับเหตุผลก็คือฉันไม่ได้พยายามหยุดและไม่พูดอะไรกับการกระทำของหัวหน้าปาตี้เลย
ในตอนนี้นคิดว่า ฉันไม่ควรที่จะอนู่ในปาตี้นั้นตั้งแต่แรก ตอนที่ฉันตระหนักได้ว่ามันผิดปกติฉันก็ควรที่จะออกมาและมองหาปาตี้ใหม่
สุดท้ายฉันก็ควรที่จะโจมตีไปที่มนุษย์หนูทมิฬแทนที่จะพึ่งพาสมาชิกของฉัน ในเวลาเดียวกันฉันมั่วแต่ใช้เวลาเล่นรอบๆมาเกินไป ดังนั้นสิ่งที่ฉันทำในขณะล่าพวกมนุษย์หนูรอบๆ มันจึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าอภัย
ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เอาชนะราชินีวิญญาณเพียงลำพัง แม้ว่าฉันจะรู้ดีว่ายังมีคนอีกกว่า 100000 คน ที่อยู่เหนือกว่าฉัน เมื่อพูดถึงบนโลกก็มีระดับ SS ไม่สิแม้กระทั่งระดับ A ก็แข็งแกร่งกว่าฉันแล้ว ไม่บางทีแม้แต่ระดับ B ก็แข็งแกร่งกว่า ดันเจี้ยนนี้มันเป็นที่ๆจะต้องระวังตัวตลอดเวลา ตั้งแต่ที่ฉันโง่ลดการ์ดของฉันลง มันก็เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดที่ฉันจะตาย
ขณะที่ฉันกำลังเยาะเย้ยตัวเอง ทันใดนั้นยุยก็วางมือลงบนหัวของฉัน
“พี่สามารถทำมันได้ พี่ชาย”
“ยุย…”
“ฉันเชื่อในตัวพี่ พี่สามารถจะทำมันได้อย่างแน่นอน”
“แต่ว่า…”
“ทุกๆคนต่างก็มีความผิดพลาดพี่ชาย”
ยุยค่อยๆลูบหัวของฉัน ฉันหลับตาลงและรอคอยสำหรับคำพูดของเธอ ในเวลาเดียวกันฉันก็รู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น
“พี่ชาย คนเรานะจะเรียนรู้จากความผิดพลาดว่าเราสามารถจะทำอะไรได้บ้าง ดังนั้นมันก็จะเป็นเหมือนกับของพี่นะ”
“…น้องพูดถูก ขอบคุณนะ ยุยพี่สัญญาเลยว่าพี่จะไม่ทำความผิดพลาดอีก พี่จะไม่ยอมถูกเตะออกมาจากดันเจี้ยนอีกแล้ว”
คำพูดของยุยได้ช่วยเยี่ยวความรู้สึกผิดพลาดของฉันเอาไว้อย่างอ่อนโยน ถ้าฉันยังคงรู้สึกหดหู่อีกหลังจากที่ได้ยินเช่นนี้ ฉันก็ไม่ควรจะเป็นผู้ชาย ฉัรได้ตัดสินใจแล้วว่าฉันจะไม่ลดการ์ดของลงอีก จะไม่ยอมทำผิดพลาดอีกครั้ง จะไม่ยอมถูกเตะออกไปจากดันเจี้ยนอีกแล้ว
ฉันได้ลูบหัวของน้องสาวที่น่าชื่นชมของฉัน ยุยได้ร้องเสียงแหลมออกมาด้วยเสียงที่น่ารัก และบิดตัวของเธอด้วยความสุข นี่มันเป็นความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องที่ฉันต้องการมานานแล้ว
เธอรู้ว่าเธอควรจะปลอบโยนพี่ชายอย่างไร….ยุยโตขึ้น! พี่ชายคนนี้สาบานว่าจะทำให้เธอพี่ความสุขที่สุด! อืมม มันฟังดูไม่ค่อยจะถูกสักเท่าไหร่ ใช่แล้วฉันจะปกป้องรอยยิ้มของนางฟ้าตัวน้อยคนนี้เอาไว้
พลังจากที่ฉันได้รับพลังจากมาจากคำพูดของยุยแล้ว ฉันก็ได้บีบหมัด ทันได้นั้นเสียงก็ดังลั่นออกมา เมื่อฉันทำมัน แม่ก็สั่นในขณะที่มองออกมาจากห้องครัว บนโต๊ะมันมีคอหมูแช่แข็งอยู่ แม่คงจะไปซื้อหมูมาไว้ทำให้พ่อกิน
“ทะ ไท้ได้นะ ลูกทำไม่ได้! พวกลูกมีสายเลือดเดียวกัน! ลูกห้ามคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้นะ”
“ผมบอกว่าไม่ใช่ไงเล่า! มันเป็นสิ่งที่แม่คิดอยู่แค่ฝ่ายเดียวนะแม่?”
“แต่มันน่าสงสัยมาก! ทำไมคนสองคนที่โตขึ้นแล้วสองคนต่างอยู่ด้วยกันบนโวฟา!?”
เวรเอ้ย มันได้กลายเป็นความน่าอึดอัดจนเป็นปัญหา แต่ว่าการใกล้ชิดกันเกินไปมันก็เป็นปัญหาด้วยหรอ…!? เมื่อไม่มีใครบ่นถึงมัน ฉันก็สามารถจะเก็บความโกรธที่ไม่ยุตินี้ไว้ได้
สัปดาห์ต่อมา ฉันได้ท้าท้ายมนุษย์หนูทมิฬอีกครั้งเพื่อที่จะแก้แค้นมัน ในครั้งนี้ปาตี้ของฉันให้ความรู้สึกที่ดีขึ้น จากที่พูดนั้นฉันได้วางแผนต่อไปว่าก่อนที่ฉันจะสามารถเอาชนะมนุษย์หนูทมิฬได้ด้วยตัวคนเดียว มันจะดีที่สุดถาหากฉันไม่ได้พึ่งพาปาตี้ของฉันมาเกินไป มันคงจะดีตราบเท่าที่พวกเขาไม่ขัดขวางฉัน
“นี่อาจจะเป็น…? พี่ชายมงกุฏราชกุมาร?”
อย่างไรก็ตามผู้หญิงในปาตี้ดูเหมือนจะรู้จักฉัน เธอเป็นใครกัน? เธอเป็นคนที่สวยผิวขาวไข่มุก มีผสหางม้าสีบลอนด์ และตาสีเขียวที่เป็นประกาย
ฉันไม่มีความทรงจำที่ว่าได้พบกับสาวสวยคนนี้เลย ฉันจึงได้ถามเธอว่าเธอได้รู้จักฉันผ่านจากทางข่าวลือหรอ แต่เธอก็ส่ายหัว
“ขอบคุณพี่ชายมงกุฏราชกุมารมาก ฉันได้ทำลายผ่านชั้นที่ 5 เมื่อสองปีก่อนมาได้ ฉันยังรู้สึกขอบคุณสำหรับมันอยู่เลย ในตอนนั้นฉันยังไม่สามารถเติมเต็มหน้าที่ของฉันได้ไม่ว่าอยู่ในปาตี้ใดฉันจึงรู้สึกหดหู่ ในใจลึกๆฉันคิดว่าฉันคงไม่เหมาะสมกับดันเจี้ยนแล้ว ฉันได้ท้าท้ายออร์คลอร์ดเป็นครั้งสุดท้าย และในครั้งนั้นคุณก็คือคนที่ฉันเข้าร่วมปาตี้ด้วย
“อา…เข้าใจแล้ว”
“คุณในวันนั้นเท่มากๆเลย … ตามคำสั่งของคุณ ฉันได้รับความมั่นใจในตนเอง ฉันสามารถที่จะเอาชนะความกลัวและแทงดาบของฉันผ่านออร์คลอร์ดได้ หลังจากที่พวกเราชนะมันแล้ว ความมั่นใจของฉันก็ได้เติบโตขึ้นและฉันก็ได้มาถึงที่นี่ ปาตี้กับพรรคพวกของฉันมาจากทวีปลูก้า
ผ่านชั้นที่ 10 ใน 2 ปี แม้ว่ามันจะช้ากว่าเพียงเอลลอสเล็กน้อย แต่นี่ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีพรสวรรค์และความพยายามที่สูง หญิงสาวคนนี้ได้ปีนจากชั้นที่ 5 มาจนไกลได้ขนาดนี้ในสองปี มันเป็นเรื่องที่น่ายกย่อง
ฉันไม่ลังเลเลยที่จะเปิดเผยความคิดออกไป
“มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ เธอจะต้องใช้ความพยายามอย่างมาก
“อา คุณไม่ต้องเรียกฉันเป็นทางการเกินไปหรอ…คุณสามารถเรียกฉันได้แบบเป็นกันเองๆเหมือนกับเมื่อตอนนั้น? มันจะเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจเกินไป..”
“ไม่ แล้วฉันควรจะทำยังไง?”
เป็นกันเอง? ฉันจะพูดกับผู้หญิงที่โตขึ้นมาเป็นแบบเธอหรอ? มารยาทของฉันอยู่ที่ไหนกับนะ
เมื่อเห็นจะทำท่าทางแปลกๆ เธอก็ได้ส่ายมือของเธอในขณะที่หัวเราะคิกคัก
“ไม่ๆ คุณทำมันเพราะว่าเมื่อสองปีก่อน ฉันเป็นเพียงแค่เด็กน้อยที่สูงไม่เกิน 130 ซิไฮ”
“…ใช่หรอ?”
ซิไฮมันเป็นหน่วยวัดส่วนสูงของทวีปลูก้าซึ่งมีขนาดประมาน 1.1 เซนติเมตร กล่าวอีกนัยนึงคือเธอคงจะมีความสูงประมาณ 143 เซนติเมตรเมื่อสองปีก่อน แต่ว่ามันจะเป็นไปได้ยังไง? เธอในตอนนี้ดูเหมือนจะสูงกว่า 160 เซนติเมตร ทุกๆคนสามารถจะเติบโตได้แบบนี้งั้นหรอในสองปี? ในตอนที่พูดถึงเลือกนี้ขนาดหน้าอกของเธอก็น่าถึง…
“ฮุฮุ คุณดูน่ารักมาเลยเมื่อคุณดูกระวนกระวาย”
“ไม่ นี่มัน…”
“คุณไม่ต้องแปลกใจหรอก ผู้คนจากทวีปลูก้าจะมีการเจริญเติบโตอย่างมากในช่วงอายุหนึ่ง มันเป็นอะไรที่มากกว่าของคนในทวีปอื่นๆ ดังนั้นฉันจึงสงสัยว่านี่คงจะเป็นลักษณะพิเศษของพวกเรา”
“อา ฉันเข้าใจแล้ว”
มันทำให้ทึ่ง แม้ว่าพวกเราทุกคุณจะดูเหมือนมนุษย์เหมือนกัน แต่พี่เราก็ยังแตกต่างกันอยู่ดี ช่วงเวลาเติบโตที่แตกต่างกันมันเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ แต่ตรวจเหตุผลบางอย่างคำว่าทวีปลูก้ามันได้เตือนให้ฉันนึกถึงใครสักคน
“เอาหละ มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้’
ด้วยสิ่งนี้ ฉันได้ปล่อยผ่านความคิดนั้นไป