บทที่ 212 – มอนสเตอร์ที่ถูกฝึกตัวที่สาม (3)
สิ่งต่อมาที่ราชินีซัคคิวบัส ‘ลิโคไรท์’ ได้ทำต่อมาได้ทำให้ฉันตกใจอย่างแม้จริง ในตอนนั้นเธอได้ยกชุดของเธอเล็กน้อยและซัคคิวบิทั้ง 213 คนได้เปลื่ยนเป็นค้างคาวและบินเข้าไปในชุดของเธอ แม้ว่าชุดของเธอจะดูเหมือนมองทะลุได้ แต่ว่าฉันก็ไม่เห็นค้างคาวแม้แต่ตัวเดียวที่เข้าไป
ฉันยังคงจ้องอย่างตกใจไปที่ชุดของเธอและถามออกมา
“เกิดอะไรขึ้น”
“หุหุ นายไม่ต้องจ้องแบบตกใจแบบนั้นก็ได้ นายอยากจะลองยกชุดของฉันไหม”
“ไม่เป็นไร ขอบคุณ”
ลิโคไรท์ได้สะบัดชุดของเธออย่างล่อใจ แต่ฉันได้ตอบเธอกลับไปด้วยการดีดหน้าผาก ในตอนนั้นเธอได้บ่นออกมาอย่างเจ็บปวดและปราสาทที่เธอได้อยู่กับซัคคิวบิตนอื่นๆก็ได้เริ่มพังทลาย
ในตอนนี้ดูเหมือนว่าความเจ็บปวดจะลดลงไปแล้ว ลิโคไรท์ได้ยกหัวของเธอขึ้นและมองไปที่ปราสาทที่พังทลายด้วยท่าทางที่อ่อนไหว จากนั้นเธอกหันหน้ามาพูดกับฉัน
“สามีที่รัก ในตอนนี้ฉันได้เสียบ้านไปแล้ว ดังนั้นคุณจะต้องรับผิดชอบ อาหาร เสื้อผ้า ที่พักพิง และทุกๆอย่าง”
“ซัคคิบิกินอาหารด้วยหรอ”
“ใช่ แต่ว่าพวกเรามีความชอบของแต่ละคน หุหุ”
ลิโคไรท์ได้มองมาที่ร่างกายส่วนต่างๆของฉันในขณะที่เลียริมฝีปาก ฉันได้รู้สึกกังวลกับปฏิกิริยาของสมาชิกในกิลด์ว่าจะทำยังไงเมื่อเห็นเธอแล้ว
ไม่สิเดี๋ยวนะ หลังจากต่อสู้กับบอสประจำชั้น มีสิ่งหนึ่งที่ฉันเห็นอยู่เสมอ….
“ชิน เกิดอะไร… กรี๊ดดด!?”
ตามที่คิดเอาไว้เลยพวกเราได้ถูกส่งมาที่หน้าร้านขายของ ฉันไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับดันเจี้ยนบ้างในตอนที่ฉันเข้าไปในเหตุการณ์ดันเจี้ยน แต่ว่าโรเล็ตต้าที่กำลังเดินเข้ามาด้วยท่าทางที่กังวลได้ร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อเห็นลิโคไรท์
“มอนสเตอร์ตัวนั้นอะไรนะ ชะชินที่อยู่ข้างๆนาย”
“โอ้โรเล็ตต้า นี่ลิโคไรท์”
“สวัสดี ฉันลิโคไรท์ สามีที่รักได้ตั้งชื่อให้ฉัน เธอเป็นใครหรอ สนมของสามีที่รักหรอ”
“สามีที่รัก….”
โอ้ ดูนั่นโรเล็ตต้าได้เอาขวานคู่ของเธอมาแล้ว… เดี๋ยวสิ ไม่นะ หยุดก่อน
ในห้านาทีต่อมาฉันก็ได้อธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าฉันก็ได้แนะนำโรเล็ตต้าให้ลิโคไรท์รู้จักเหมือนกัน โรรเล็ตต้าได้กำหมัดแน่นซึ่งดูเหมือนว่าเธอจะกำลังคิดจะทำอะไรบางอย่างที่ดูจะรุนแรงมากๆ
“ฉันเข้าใจแล้ว…. หืม ซัคคิวบิทั้ง 213 ตนและราชินีซัคคิวบัส นอกจากนี้พวกเธอก็ยังเป็นตระกูลที่มีความสามารถในการต่อสู้ที่สูง…. อืออ พวกเขาจะช่วยชินได้เป็นอย่างดี อื้อ…ฉันจะต้องยอมรับมัน….”
“หืม? เธอก็ไม่ใช่สนมของเขานี่นา แล้วทำไมฉันต้องให้เธอมายอมรับด้วยล่ะ”
“ลิโคไรท์เงียบน่า”
“สามีที่รัก เอลฟ์นี่จ้องฉันอะ น่ากลัว”
แม้แต่ลิโคไรท์ก็ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถต้านทานต่อเจตนาฆ่าของโรเล็ตต้าได้ เธอได้เข้ามาหลบหลังฉันอย่างสั่นกลัว ซึ่งนั่นดูจะทำให้โรเล็ตต้าโกรธยิ่งขึ้น
“ชินนี้มันมากไปแล้ว”
“อะไรนะ แต่ว่านี้ไม่ใช่ความผิดของฉันนะ”
“ชินฆ่าพวกเธอได้ถ้าหากว่าชินมีจิตใจที่มั่นคง”
“เธอต้องการให้ฉันฆ่าพวกเธอแม้ว่าพวกเธอจะไม่เคยมีความเป็นศัตรูกับฉันเนี่ยนะ”
“อึก….”
ความถูกต้องนี้ได้สร้างแรงกดดันอย่างหนักให้กับโรเล็ตต้า หูของเธอได้ตกลงและบ่นออกมา ในตอนนั้นเองลิโคไรท์ก็ได้แตะที่แขนฉันแล้วพูดออกมา
“สามีที่รัก ฉันอยากจจะกลับไปที่บ้านของคุณแล้วในตอนนี้”
“บ้านหรอ เธอหมายถึงบ้านที่อยู่ในพื้นที่พักอาศัยหรือว่าที่อยู่บนโลกนะ”
เมื่อคิดเกี่ยวกับลิโคไรท์กับซัคคิวบิทั้ง 213 ตนแล้วมันทำให้ฉันรู้สึกปวดหัว เนื่องจากว่าลิโคไรท์เป็นหัวหน้า ฉันจึงสามารถจะสั่งลูกน้องของเธอได้อย่างสมบูรณ์ พวกเธอแต่ละคนต่างก็มีพลังที่มากกว่ามอนสเตอร์ระดับ S….
“ลิโคไรท์ พวกเราจะไปที่โลกกัน โรเล็ตต้าเดี๋ยวฉันกลับมานะ”
“ได้ชิน ฉันเชื่อใจชิน โอเคนะ ชินจะต้องกลับมา อย่างได้ถูกซัคคิวบัสกระจอกนี่หลอกเอานะ”
“ซัคคิวบัสกระจอกหรอ ซัคคิวบัสดีกว่าเอลฟ์กระจอกเยอะนะ”
“ทั้งคู่เงียบเลยนะ”
หลังจากที่ฉันได้ลงโทษโรเล็ตต้าและลิโคไรท์อย่างเหมาะสม ฉันก็ได้กลับโลกไปพร้อมๆกับลิโคไรท์ เนื่องจากว่าตอนนี้ไม่มีใครอยู่บ้าน ฉันเลยได้ส่งข้อความไปหาฮวาหยาและมุ่งหน้าไปสู่บ้านกิลด์ของเราบนโลก
แม้ว่าฉันจะมั่นใจว่าฉันได้ติดต่อแค่กับฮวาหยาก็ตาม แต่ว่าเมื่อฉันได้มาถึงบ้านกิลด์ฉันก็ได้เจอกับสุมิเระ ยุย รูเดีย และเยอึน
“ทำไมพวกเธอถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ”
ฮวาหยาได้ตอบออกมาทันที
“ก็เพราะนายบอกว่า ‘ฉันได้กองกำลังที่เราสามารถจะไว้ใจได้อย่างสนิทใจ’ ดังนั้นมันก็ยังไม่ชัดเจนอีกหรอที่จะทำให้ฉันคิดว่า ‘ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร’ ดังนั้นฉันก็เลยได้รวบรวมคนที่ฉันคิดว่าเป็นพันธมิตรของฉันมานะ”
“เฮ้….”
“แต่ว่าก็เป็นผู้หญิงจริงๆ… สัญชาตญาณของพี่สาวฮวาหยาน่ากลัว”
“แล้วเธอเป็นใครล่ะ เธอไม่ได้ดูเหมือนมนุษย์นะ”
ในตอนนั้นเยอึนก็ก็ได้ตอบสนองขึ้นมา รูเดียผู้ใช้เวทย์ศักดิ์สิทธธิ์ก็เหมือนจะรู้สึกได้ถึงออร่าของลิโคไรค์ทำให้เธอเตรียมสู้ขึ้นมา เพียงแค่นั้นฉันก็จำเป็นจะต้องอธิบายให้พวกเธอฟังเหมือนกับที่อธิบายกับโรเล็ตต้า
“214 คน….”
“และพวกเธอทั้งหมดเป็นซัคคิวบัส….”
“ว้าว เธอดูแข็งแกร่งกว่าราชินีซัคคิวบัสที่ฉันเจอมาอีกนะ เธอเป็นราชินีซัคคิวบัสจริงๆหรอ”
“ฮึ่ม มันยังไม่ชัดอีกหรอว่าฉันแข็งแกร่งกว่าเจ้าพวกที่ยอมให้กับดันเจี้น พวกนั้นผูกมัดกับดันเจี้ยน แต่ว่าฉันไม่ใช่”
“ซัคคิวบัส…หือออ”
ฉันไม่รู้ว่าทำไม แต่รูเดียเธอได้ลดคทาลงอย่าโล่งใจ ในตอนนั้นเองลิโคไรท์ได้ถามออกมาอย่างสงสัย
“ฉันเข้าใจว่าพวกเธอทุกคนคือผู้หญิงของสามีที่รัก แต่ว่าใครเป็นภรรยาเอกหรอ คุณรู้ไหมลำดับชั้นมันสำคัญนะ ถ้าคุณบอกฉัน ฉันจะปฏิบัติตัวตามนั้นเป็นอย่างดี”
ความเงียบได้มาเยอะอีกครั้ง ในตอนที่ฉันกำลังจะพูดบางอย่างออกไปอย่างเหนื่อยใจ บรรยากาศก็ได้เปลื่ยนไป รูเดียได้ยกคทาขึ้นอีกครั้งและอากาศรอบๆก็ได้ร้อนขึ้นจากบอลไฟของฮวาหยา
“เธอทำลังทำอะไรนะ”
“ฉันคิดว่าจะต้องทำให้มันชัดเจนในเรื่องภรรยาเอก…. ฉันจะยอมรับในตำแหน่งนั้น”
“นั่นมันเป็นตำแหน่งของฉัน”
“ฉันมั่นใจในการต่อสู้เหมือนกัน”
ฉันได้ใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์และทำให้พวกเธอสงบลงด้วยการดีดหน้าผากของพวกเธอในทันที จากนั้นฉันก็พูดต่อ
“ยังไงก็เถอะ เธอมาช่วยพวกเรา และมันมีเรื่องง่ายๆมากมายที่เรายังไม่ได้ทำ พวกเธอทั้งหมดมีสติปัญญาของมนุษย์และพวกเธอยังไม่มีทางทรยศพวกเรา”
“อืมม พวกเรามีสิ่งที่จะต้องทำอีกมาและพวกเราก็ไม่สามารถจะขอความช่วยเหลือจากข้างนอกได้… ฉันยังรู้สึกผิดเลยที่ให้สุมิเระทำงานอย่ตลอดเวลา”
“ใช่แล้ว ถ้าหากพวกเราลองคิดดูว่ามีผู้ใช้พลังระดับ SS 213 คนอยู่ฝั่งเรานี่มันน่ากลัวมากเลยนะ พวกเธอสามารถจะพิชิตโลกของเราได้ด้วยพลังของพวกเธอ”
“ผู้รับใช้ของฉันมีพลัง ถ้าหากเป็นคำสั่งของสามีที่รัก พวกเธอก็จะทำทุกอย่าง”
ลิโคไรท์ได้ยกมือของเธอขึ้นและพูดออกมาอย่างสดใส หลังจากฮวาหยาคิดอยู่ครู่หนึ่งเธอก็หยักหน้าออกมา
“….เอาล่ะ ฉันจะรอวันที่ได้ทำงานร่วมกันนะ แต่พูดตามตรงนะฉันไม่สามารถจะยอมรับคนอื่นทั้ง 213 คนมาในนฐานะคู่แข่งได้ ให้พวกเธอไปหาผู้ชายคนอื่น”
“อ่า คนในตระกูลของฉันตามปกติและมักจะเลือกผู้ชายคนหนึ่งมาเพื่อรับใช้ เธอรู้ไหม พวกเราเชื่อมต่อความแข็งแกร่งกัน ด้วยมันพวกเราสามารถจะแบ่งปันประสบการณ์และพัฒนาขึ้นไปอย่างรวดเร็ว แต่ว่ามันก็ยังมีข้อเสียอยู่ พวกเราจะรู้สึกเจ็บปวดขมขื่นเมื่อเราไปทำกับผู้ชายคนอื่น ดังนั้นมันจึงเป็นราชินีเสมอที่จะเลือกผู้ชายในขณะที่คนอื่นๆจะเลือกตาม ดังนั้นไม่ต้องห่่วง สามีที่รักของเราสามารถจะรับมือกับคน 200 คนถึง 300 คนได้โดยไม่ต้องเหนื่อย”
“นั่นไม่ใช่ปัญหา”
“…..”
นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเธอทั้งหมดอยู่ในเหตุการดันเจี้ยนด้วยกันสินะ… เพียงแค่ฉันคิดถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างฮวาหยาและลิโคไรท์มันก็ได้แตกเป็นเสี่ยงๆ อย่างที่พูดไปทุกคนได้ยอมรับประโยชน์จากซัคคิวบัสนี้ อย่างแรกเลยผู้รับใช้โดยตรงของราชินีซัคคิวบัส ‘มิไร’ ได้กลายมาเป็นเลขาของฮวาหยา แม้ว่าสุมิเระจะมีแผนอยู่เกาหลีต่อ แต่เธอก็กลายเป็นว่างจากงานที่เราได้ยัดให้เธอแล้ว
“ฉันชอบเธอ เธอแต่งตัวดูสุภาพ”
“ฝากตัวด้วยค่ะท่านฮวาหยา”
แจ๊คเก็ตหนัง กางเกงหนัง และผมสีเทาที่ยาวลงมาประบ่า ด้วยดวงตาสีเท่าที่ดูสงบทำให้เธอดูจะเป็นเลขาที่สมบูรณ์แบบ นอกจากนี้มิไรยังมีพลังที่เป็นรองเพียงแค่ลิโคไรท์เท่านั้น ทำให้เธอสามารถสู้ได้หากมีอะไรเกิดขึ้น
นอกจากนี้ยังมีซัคคิวบิอีกหลายตนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของมิไรและเก็บของมูลมอนสเตอร์ เหตุการดันเจี้ยน เหตุการการจู่โจมที่ปรากฏบนโลก
จนกระทั่งมาถึงตอนนี้กิลด์รีไวเวิร์ลยังไม่เคยมีหน่วยข้อมูลที่เหมาะสมเลย ซึ่งมันส่งผลให้ฉันต้องพลาดข้อมูลไปหลายอย่าง แต่ในตอนนี้ทุกอย่างจะเปลื่ยนไป
ในตอนนี้ด้วยพวกเธอทั้งหมดที่มีพลังระดับ SS การให้พวกเธอมาช่วยทำให้สามารถที่จะรวบรวมข้อมูลได้ยิ่งกว่าแต่ก่อน และเนื่องจากว่ามิไรได้เชิ่อมต่อกับลิโคไรท์ตลอดเวลาทำให้ฮวาหยาและฉันสามารถจะได้รับข้อมูลตลอดเวลา พลังของซัคคิวบินี้ไม่สามารถจะใช้คำอธิบายได้เลย
“พวกเธอแพ้ได้ยังไงกัน”
“บางทีมันอาจจะเป็นเพราะชะตากรรมทำให้ฉันได้มาพบกับสามีที่รัก”
“งั้นหรอ”
มันเป็นการยากที่จะรับมือกับการเข้าหาแบบแอบๆของฮวาหยา แต่ว่าฉันชอบที่ลิโคไรท์เป็นแบบนี้เพราะฉันสามารถจะตีเธอได้โดยไม่ลังเล
…เอ๊ะ ทำไมฉันถึงพูดเหมือนคนที่น่ากลัวแบบนั้นล่ะ
ยังไงก็ตามนอกเหนือจากลิโคไรท์ มิไร และซัคคิวบัสที่อยู่ภายใต้คำสั่งของมิไรทั้ง 30 ตนแล้ว ก็ยังมีซัคคิวบิเหลืออีก 182 ตน พวกเราควรจะให้พวกเธอทำอะไร พวกเธอไม่สามารถจะปีนดันเจี้ยนได้ งั้นเราควรส่งเธอไปที่ประเทศอื่นหรอ ในขณะที่ฉันกำลังใช้สมองที่โง่เขลาของฉันครุ่นคิด ลิโคไรท์ก็ถามออกมา
“สามีที่รัก ทำไมถึงมีมอนสเตอร์ที่ถูกทิ้งเอาไว้มากมายบนโลกนี้ล่ะ”
“โอ้ นี้มันเพราะว่าคนไม่สามารถจะเข้าไปในพื้นที่ๆมีมอนสเตอร์ได้ง่ายนะ มันเป็นอันตรายและเราก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีมอนสเตอร์อะไรอยู่ที่นั่น เนื่องจากทุกๆคนต่างก็ยุ่งกับมอนสเตอรร์ที่อยู่ใกล้กับที่อยู่ของมนุษย์ พวกเขาจึงไม่สามารถจะรวมตัวกันเพื่อไปจัดการพื้นที่ขนาดใหญ่แบบนั้นได้”
จากนั้้นลิโคไรท์ก็ได้ชี้ไปที่ค้างคาวทั้ง 182 ตัวที่อยู่ในคฤหาสน์
“ไม่ใช่ว่ามีพวกเธออยู่หรอ”
“….เธอพูดถูกเลย”
สงครามชิงดินแดนระหว่างมนุษย์กับมอนสเตอร์ได้เริ่มขึ้นด้วยความคิดนี้เอง