บทที่ 235 – ผู้พิทักษ์ (5)
[มันอันตราย อย่าไป]
เดซี่ได้พูดออกมาอย่างตรงไปตรงมา
[คังชินจะตาย]
“ฉันมาขอให้เธออธิบายสถานการณ์ที่นั้นให้ฉันฟังไม่ได้ให้เธอมาแช่งฉันนะ”
[ให้ฉันไป ฉันจะไปคนเดียว]
“ไม่ใช่ว่าเธอจะไปอื่นหรอกถ้าไปเองนะ”
[ถ้างั้นไปด้วยกันเถอะ]
เดซี่ได้ยืนยันออกมาอย่างปากแข็ง แต่ว่าฉันก็ไม่ได้วางแผนที่จะพาคนอื่นไปกับฉัน ฉันเชื่อว่ามันจะดีที่สุดถ้าหากไปด้วยเพียงแค่กับหลิน คนอื่นๆมีแต่จะทำให้เราช้าลง แต่แม้อย่างนั้นก็ไม่ใช่กับเดซี่…
“มีสมาชิกของกิลด์ผู้ดูแลที่ทรงพลังมากๆมากับฉันด้วย ดังนั้นไม่ต้องห่วงความปลอดภัยของฉันหรอก”
[บุ๊ควอร์คเกอร์แข็งแกร่ง และมีเยอะ]
“ใช่ นั่นแหละที่ฉันต้องการ ฉันอยากจะรู้ในสถานการณ์ที่นั่น”
[…บุ๊ควอร์คเกอร์ยังถูกเรียกอีกชื่อว่านักเข่นฆ่าผู้รอบรู้]
“ใช่ แล้วมีอะไรที่พิเศษเกี่ยวกับพวกนั้นล่ะ”
[พาฉันไปด้วย]
“ไม่”
เดซี่ก็ยังคงยืนกรานต่อไป ฉันได้แต่ถอนหายใจและมองกลับไปที่หลิน
“พวกเราสามารถพาคนอื่นไปได้ไหม”
“อะไรนะ แน่นอนว่าไม่”
“ทำไมล่ะ”
“พวกเราจะไม่ได้อะไรเลยจากการพาคนไปมากขึ้น ฉันจะเป็นคนต่อสู้ ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องพาคนอื่นไป”
ความมั่นใจของเขามันทำให้ฉันรู้สึกหมั่นไส้เล็กน้อย แต่ว่าฉันก็รู้ว่าเขาไม่ได้โม้ ยังไงก็ตามฉันมีความคิดหนึ่ง
“เธอชื่อว่าเดซี่ เธอมาจากทวีปไซรอนดังนั้นไม่ใช่ว่าเธอจะมีประโยชน์หากมาเป็นไกด์ให้เราหรอ”
“ทวีปไซรอนหรอ ยังมีนักสำรวจคนอื่นที่อยู่ในทวีปนั้นเหลืออยู่หรอ… เธอเลเวลเท่าไหร่กันล่ะ”
ดูเหมือนว่าฉันจะดึงความสนใจจากหลินได้สำเร็จ ฉันได้ถามเดซี่่ไปอย่างรวดเร็ซ
“เดซี่เธอเลเวลเท่าไหร่”
[83]
“เธอเลเวล 83 แล้วเธอก็ยังเป็นนักสำรวจบียอน”
“บียอน…? มีคนแบบนี้อยู่ในกิลด์นายอีกเยอะไหมเนี้ย ชั่งมันอย่างน้อยเธอก็จะไม่ถ่วงเรา”
ในตอนนั้นเองที่เดซี่สามารถมากับฉันได้ ฮวาหยาก็ส่งเสียงออกมาอย่างตื่นตระหนก
[ให้ฉันไปด้วย]
จากนั้นฉันก็อธิบายว่าเราไม่สามารถให้เธอมาได้ แน่นอนว่าฉันจะต้องใช้เวลาในการพูดอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เธอรู้สึกเจ็บใจ แม้ว่าฮวาหยาจะปฏิเสธที่จะยอมรับในคำอธิบายของฉันและได้บอกว่าเธอแข็งแกร่งพอแล้ว แต่เราก็ไม่สามารถจะพาฮวาหยามาด้วยได้จริงๆ นอกจากนี้ยังมีความจริงที่ว่าเลเวลของฮวาหยาก็ลดลงมาอีกด้วยในตอนที่ย้ายดันเจี้ยน
“รอก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะกลับมาอย่างปลอดภัยฉันสัญญาเลย”
[ที่ฉันมาเป็นทหารรับจ้างต่างมิติก็แค่เพราะฉันอยากจะไปกับนายในสถานการณ์แบบนี้….]
“ฉันไม่ได้ไปในฐานะทหารรับจ้างต่างมิติในตอนนี้ ทักษะท่องมิติของฉันยังคูลดาวน์อยู่เลย ดังนั้นฉันไม่ได้ใช้มัน ไว้คราวหน้าเราไปทำภารกิจของทหารรับจ้างต่างมิติด้วยกันโอเคไหม”
[หึ โอเคร… ฉันจะโกรธนายแน่หากนายกลับมาพร้อมบาดแผลเข้าใจนะ]
“ไม่ต้องห่วง”
ในขณะที่ฉันทำให้ฮวาหยาสงบลง เดซี่ก็ได้เข้ามาในสวนแฟรี่ ดูเหมือนว่าเธอจะเต็มไปด้วยจิตวิญญาณ เธอดูจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าในตอนปกติ
“การแยกจากฮวาหยายากมาก”
“ใช่ เธอทำได้ดี”
“เธอพูดว่าถ้าฉันทำอะไรกับคังชิน เธอจะฆ่าฉัน แต่ทำอะไรที่มันคืออะไรหรอ?”
“ฉันก็ไม่รู้สิ”
“…เนื่องจากว่าเธอมานี่แล้ว งั้นก็ไปกัน พวกเราจะต้องหาซิปัวให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้และพาเธอกลับมาที่นี่”
หลินดูจะประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเธอได้เห็นเดซี่ แต่ว่าไม่นานเข้าก็ใจเย็นลงและบอกกับเรา
“แต่ว่าหลิน เนื่องจากว่ามีสองทีมที่มาจากกิลด์ทั้งสี่ งั้นแสดงว่าในรอบนี้มีแปดกิลด์สินะ”
“ใช่แล้ว ทำไมล่ะ”
“…ฉันก็แค่อยากจะทำให้มั่นใจนะ มันไม่มีวิธีที่จะหาตำแหน่งซิปัวเลยหรอ”
“นั่นก็ถูก เราสามารถจะสัมผัสถึงเธอได้หากอยู่ใกล้เธอพอ ดังนั้นพวกเราจึงทำเพียงแค่แยกกันออกเป็นแปดพื้นที่และค้นหา นี่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะหาเธอ”
“หือ ในโลกที่ถูกปกครองโดยศัตรูของโลก….”
“ใช่แล้ว”
มันเป็นภารกิจที่จริงจังจนน่ารำคาญและอันตรายอย่างมาก
“ถ้าหากว่ายังไม่ติดสินใจเลือกที่ไป จักรวรรค์ไซออนน่าจะไปที่ๆเป็นไปได้มากที่สุด”
“เธอหมายถึงอะไร….”
“โรเดิท ไฮเดลเซิน อาจจะ…ตายที่นั่นมากที่สุด จักรวรรดิไซออนคือที่ๆอันตรายที่สุด”
“นี่มันเยี่ยมมาก ฉันรักอันตราย”
หลินได้ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มและเริ่มเดินไป มันดูเหมือนว่าเขาจะได้เลือกสถานที่ๆต้องการจะไปตามคำแนะนำของเดซี่แล้ว เดซี่ได้จ้องมองไปที่หลินที่เดินออกไปจากนั้นก็เข้ามาถามกับฉัน
“คังชิน… อย่างที่ฉันคิดเลยนายชอบผู้ชายสินะ”
“ไม่ เธอจะบอกอะไรที่ว่า ‘อย่างที่ฉันคิด’”
“นายสองคนดูใกล้ชิดกัน”
“ขอร้องล่ะ อย่าพูดอะไรแบบนั้น…”
“ฉันเป็นส่วนเกินหรอ”
“ไม่หรอก ขอบคุณที่มานะ”
ดันเจี้ยนได้ถูกหยุดแล้ว จากดันเจี้ยนที่หนึ่งไปตลอดจนถึงดันเจี้ยนที่สี่ การดำเนินการดันเจี้ยนทั้งหมดถูกหยุดลงเว้นแต่พื้นที่พักอาศัย ถึงแม้ว่าเราจะต้องทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิมให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ แค่พวกเราก็ไม่สามารถจะเร่งที่จะไปโลกอื่นได้ เพราะแบบนี้เราจะต้องใช้เวลาอีกครึ่งชั่วโมงเพื่อให้อีกแปดทีมเลือกสถานที่ๆจะไป
“ชินขอให้ปลอดภัยนะ”
“ไม่ต้องห่วง”
“มีเพียงสิ่งเดียวที่ฉันจะทำได้ในตอนนี้คือการให้พรกับชิน….เฮะเฮะ มานี่สิ เร็วเข้า”
“เธอคงจะไม่ได้ซ่อนความตั้งใจจริงใช่ไหม”
เนื่องจากว่ามันดูเหมือนเธอจะไม่ปล่อยฉันไปถ้าฉันไม่ยอม ดังนั้นฉันได้แต่ยอมรับพรจากโรเล็ตต้ามา แม้ว่าฉันจะได้รู้ว่าเธอสามารถจะให้พรโดยที่ไม่ต้องจูบก็ได้ แต่เธอก็ยังคงทำมันราวกับว่าฉันไม่รู้
นอกจากนี้แม้ว่าฉันจะเป็นคนเดียวที่ถูกเธอจูบ แต่ว่าพรก็ยังถูกใช้กับหลินและเดซี่ ฉันยังได้ยินหลินบ่นเดซี่อีกด้วย แต่ว่าเดซี่ได้ทำให้เขาเงียบไปด้วยกระสุนมานาของเธอ
“ถ้างั้นไว้เจอกันล่ะ หลินถ้าเกิดว่ามีรอยขีดข่วนบนร่างของชินเท่าไหร่ นายก็จะได้รับกระสุนเท่านั้น”
“เธอกำลังจะฆ่าฉันหรอพี่สาว”
ทีมที่ประกอบด้วยซิคาทราและฟิลิออนได้ไปก่อนหน้าพวกเรา และเราก็ยังได้ใช้ทักษะท่องมิติหลังจากนั้น แต่ว่านั่นไม่ใช่ทักษะท่องเวลาของฉัน แต่ว่าเป็นทักษะท่องเวลาที่เหมือนกับการเปิดประตูวาปจากดันเจี้ยนไปโลกอื่น
“ฉันไปนะโรก้า”
“ระวังตัวนะเนี้ยว ลูกจะรอให้พ่อเขากลับมา”
“เธอเพิ่งจะท้องแค่สองเดือนเองนะ….”
มันไม่มีอะไรเลยนอกจากความอบอุ่มระหว่างโรก้าและหลิน ฉันได้กระโดดเข้าไปในประตูวาปพร้อมๆกันกับหลินและเดซี่
จากนั้นภาพก็เปลื่ยนไปกลายเป็นดินแดนที่แห้งแล้งโดยสมบูรณ์
“ฟู่…”
ไม่ว่าฉันจะมองไปที่ไหนก็ไม่มีแม้แต่อาคารซักแห่งหรือสิ่งมีชีวิตให้ได้เห็น หลินได้โบกมือไปมากับอากาศราวกับว่าพายุทรายกำลังทำให้เขารำคาญและยัดบุหรี่ลงไปในปากของเขา ท่าทางที่ดูผ่อนคลายทำให้ฉันตกใจมาก แต่ว่ามันดูเหมือนว่าเขาจะไม่คิดว่ามันผิดปกติ
“ไว้มาเริ่มกันหลังจากฉันสูบบุหรี่เสร็จนะ”
เมื่อเดซี่ได้ยินเสียงพึมพัมของหลินเธอได้เอียงหัวออกมา
“บุ๊ควอร์คเกอร์กำลังจะมาแล้ว พวกนั้นไวต่อการเปลื่ยนแปลง”
“เจ้าพวกที่อยู่รอบๆนี่แข็งแกร่งพอจะคุกคามฉันไหม”
“ไม่เลยสักนิด แค่ลาน่าก็พอแล้ว”
เดซี่ได้เปิดช่องเก็บของของเธอและเอาหมูป่าที่หุ้มด้วยเหล็กออกมา แม้ว่ามันจะมีขนาดหลายสิบเมตรในตอนที่ฉันได้สู้กับมันในทีแรก แต่ว่าในตอนนี้มันได้ตัวหดลงไปเหลือเพียงแค่ 3 เมตร ในตอนนี้มันแทบไม่หลงเหลือตัวตนเก่าเลย
“ลาน่าแข็งแกร่ง”
“ใช่”
ในตอนที่ฉันได้หยักหน้ากับคำยกย่องของเดซี่ เจ้าสิ่งที่เรียกกันว่าบุ๊ควอร์คเกอร์ก็ได้โผล่ออกมา ในตอนแรกฉันคิดว่ามันจะเป็นตัวอักษรเดินได้ แต่ว่ามันไม่ใช่แบบที่ฉันคิดเลย จริงๆแล้วพวกมันดูไม่ต่างไปจากมนุษย์ธรรมดาเลย
“พวกเราไม่เคยเห็นพวกนี้มาก่อนเลย”
“ยังมีมนุษย์เหลือยู่”
“พวกเราจะต้องเพิ่มพวกนี้ลงไปในฐานข้อมูลของเรา”
หลินได้หยุดสูบบุหรี่ที่เขาสูบอยู่และบ่นออกมา
“เฮ้ จัดการพวกมันไปทีสิ แค่พวกมันพูดก็ทำให้ฉันรำคาญแล้ว”
“บุ๊ควอร์คเกอร์เป็นนักวิจัย พวกเขามักจะศึกษาศัตรูของตัวเองและบันทึกไว้ในหนังสือของพวกนั้นเพื่อที่จะหาจุดอ่อนและโจมตี… นายจะต้องฆ่าพวกนี้ให้รวดเร็วที่สุดโดยไม่เปิดโอกาสให้พวกนี้ได้ข้อมูลอะไร ในตอนที่พวกนี้ได้บันทึกลงไปในหนังสือ บุ๊ควอร์คเกอร์ทั้งหมดก็จะได้รับพลังในการต้านทานสิ่งนั้น”
“เธอกำลังจะบอกว่า….”
“อันเดทของฉันจะใช้ได้แค่ครั้งเดียวและจะใช้ได้ไม่ดีในครั้งต่อไป ทักษะที่ฉันเคยใช้มาก่อนก็จะใช้ไม่ได้ดีในครั้งต่อไป”
ไอน่าได้พุ่งเข้าไปหาบุ๊ควอร์คเกอร์และเอาเขาเหล็กที่หุ้มด้วยออร่าสีดำแทงเข้าใส่ร่างพวกนั้นเพื่อโจมตี บุ๊ควอร์คเกอร์ดูจะตกใจและได้หยิบอะไรบางอย่างออกมา แต่ว่าลานาก็ได้ไปถึงตัวพวกนั้นก่อนและจัดการขวิดพวกนั้นก่อนที่จะได้ทำอะไร เดซี่ได้หยักหน้าและพูดออกมาอย่างพอใจ
“อย่าให้โอกาสพวกนั้นในการวิจัย ถ้าแบบนั้นอันเดทก็จะเอากลับมาใช้ใหม่ได้ หรือว่าด้วยพลังที่เหนือกว่ามากๆการวิจัยก็จะไร้ค่า”
“ถ้างั้นมันก็ไม่สำคัญตราบใดที่เขาแข็งแกร่งกว่าหรอ พวกนั้นมันก็ไม่ต่องไปจากมอนสเตอร์ปกติเลยนี่”
“ข้อมูลจะถูกแบ่งให้กันมันน่ารำคาญ ยิ่งระดับสูง ยิ่งแข็งแกร่ง”
“นั่นเป็นเหตุผลที่บอกให้เราเลี่ยงพวกมันสินะ… เอาเถอะยังไงก็ตาม แล้วหนังสือพวกนั้นล่ะ”
ในจุดที่หลินได้ชี้ไปมีหนังสือหนังแฟนซีที่วอร์คเกอร์เอาออกมาตกอยู่
“เผาพวกมันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
ทันทีที่คำพูดนั้นได้ออกมาจากปากเดซี่ หลินได้โยนบุหรี่ที่สูบอยู่ลงไป ในตอนที่บุหรี่ตกลงไปบนศพบุ๊ควอร์คเกอร์ พวกมันก็ได้เริ่มถูกเผาไปพร้อมๆกับหนังสือ ฉันอดไม่ได้ที่จะกลัวไฟที่น่าสะพรึงของหลิน ในตอนนั้นเองเดซี่ก็เข้ามาหาฉัน
“มีอะไรหรอเดซี่”
“ฉันมีบางอย่างจะพูดกับคังชิน”
ดวงตาโตสีแดงของเธอได้จ้องตรงมาที่ฉันอย่างตั้งมั่น
“ถ้าเป็นไปได้คังชินไม่ควรใช้พลังของนาย”
“ทำไมล่ะ”
“นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันมานี่”
เสียงของเดซี่ดูจริงจังมาก ดวงตาของเธอก็ยังมองตรงมาและไม่ยอมถอย
“ถ้าหากว่าคังชินใช้พลังที่นี่ พวกมันก็จะบันทึกไว้ พวกนั้นจะได้รับพลังในการต้านทาน ศัตรูของโลกนี้จะป้องกันพลังของนายได้”
“อ่า….”
“คังชินได้บอกว่าสักวันหนึ่ง นายจะกลับมาและช่วยที่นี่ ดังนั้นในตอนนี้เก็บพลังเอาไว้”
“ถ้างั้นเหตุผลที่เธอต้องการจะมากับเรามากๆก็เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้ศัตรูได้เรียนรู้เกี่ยวกับพลังของฉันสินะ เธอได้วางแผนจะใช้พลังของเธอแทน…?”
“อื้อ”
เดซี่ได้หยักหน้า ความเชื่อใจในศักยภาพของเธอที่มีต่อฉันมันทำให้ฉันต้องตกใจ ในตอนที่ฉันกำลังคิดเรื่องนี้ เดซี่ก็ยิ้มออกมาเล็กๆและเพิ่มเติมขึ้นอีก นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันเห็นเธอยิ้ม อย่างน้อยก็ยิ้มให้กับฉัน
“แน่นอนฉันไว้ใจคังชิน”
“ฉันคิดว่าฉันป้องกันตัวเองจากการถูกอ่านใจแล้วนะ….”
“ฉันไม่ได้อ่านใจด้วยดวงตามาร”
“อะไรนะ”
“คังชินเป็นคนที่อ่านออกง่าย แม้ว่าจะไม่มีดวงตามาร”
น่าอัปยศ ยังไงก็ตามสิ่งที่เธอพูดเสริมขึ้นมาทำให้ฉันสะดุ้ง
“นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันชอบนาย”
“…หืม”
“โอ้ อย่ามาเจ้าชู้กับผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าฉันสิ ฉันจะยิงแกแน่”
หลินที่กำลังเผาศพและหนังสืออยู่ได้เดินกลับมาหาพวกเรา ในตอนนั้นเดซี่ได้ถามออกไป
“เจ้าชู้หรอ ผู้หญิงคนอื่น ใครกับใคร….”
นั้นแหละ เดซี่ ขอร้องล่ะใสซื่อต่อไป