บทที่ 240 – ผู้พิทักษ์ (10)
แม้ว่าฉันจะคอยอยู่นานแต่ก็ไม่มีเสียงอะไรดังออกมาอีก ในตอนท้ายฉันได้เอาชนะศัตรูของโลกนะ ในตอนนี้ฉันก็สงสัยขึ้นว่าเจ้าตัวที่เราได้เอาชนะไปมันใช่ศัตรูของโลกจริงหรือป่าว ยังไงก็ตามพลังในมือของฉันมันไม่ต้องสงสัยเลยว่าคือพลังของโลก
ฉันได้ถามกับหลิน
“หลินพวกเราเอาชนะศัตรูของโลก… มันจะไม่มีอะไรมาอีกแล้วหรอ”
“อย่าโง่หน่อยเลย รางวัลมันจะมาจากไหน่ละ”
“เอ่อ มันก็ชัดเจนนี่ว่ามาจากดัน…. อ๊า”
เหตุผลที่พวกเรามาที่นี่ก็เพื่อให้ดันเจี้ยนได้กลับไปทำงานตามปกติ แน่นอนว่าในตอนนี้มันจะไม่มีรางวัลใดๆ ในตอนนั้นเองซิปัวก็ยื่นหน้าเข้ามาหาฉัน
“นายท่านถ้าเป็นแต้มสเตตัสหรือแต้มทักษะ ฉันสามารถให้มันกับท่านได้”
“หุบปากไปเลยซิพัว อย่าได้ทำให้พลังของเสียไปมากกว่านี้”
“อย่ามาขัดฉันในตอนที่พูดกับนายท่านนะหลิน”
“ซิปัว เงียบก่อน”
“ค่ะ”
ฉันได้เริ่มเข้าใจแล้วว่าดันเจี้ยนมันทำงานยังไง เมื่อซิปัวได้เงียบไป หลินก็มองไปที่เธออย่างตกตะลึงและหันจากเธอมาจากฉัน
“แม้ว่าซิปัวจะอ่อนแอน แต่การจะเปลื่ยนให้เป็นแบบนี้…นายเป็นอะไรกัน”
“ฉันก็สงสัยเหมือนกัน”
“…ทำหน้าที่ของเธอ”
เดซี่ได้จ้องไปที่ซิปัวด้วยความรังเกียจในขณะที่เธอเดินเข้ามาหาฉัน
“ขอบคุณมากคังชิน ฉันสัญญาว่าฉันจะจำเอาไว้”
“ฉันไม่ใช่คนที่ฆ่าศัตรูของโลก มันเป็นหลินต่างหาก ถ้าหากว่าเธอต้องการจะขอบคุณละก็ เธอก็ควรขอบคุณเขา”
“เขามังกร ทำดีมาก” [แก้จากแตรมังกรเป็นเขามังกรนะ]
“เธอคิดยังไงถึงไปขอบคุณหมอนั่นอย่างจริงใจและมาทำกับฉันเหมือนเป็นสัตว์เลี้ยงของเธอกันล่ะ”
ฉันได้คิดอยู่พักหนึ่งแล้ว แต่ว่าเดซี่ได้คิดจริงๆหรือป่าวว่าหลินเป็นสัตว์….? บางทีเธอก็อาจจะชอบเขาของเขา ดูท่าฉันจำเป็นจะต้องเตือนหลินให้ระวังถูกแอบไปตัดเขาตอนหลับ
“เจอความหวัง…แม้ว่าก่อนที่คนพวกนี้จะพัฒนา มันจะต้องใช้เวลา”
“ขอโทษนะ คนตั้งมากมายต้องตายเพราะเรา…”
“มันไม่ใช่ความผิดของคังชิน ไม่มีใครคิดว่ามันจะเกิดขึ้น มันเป็นความผิดของฉันที่เชื่อในมนุษย์มากเกินไป”
มันดูเหมือนว่าเธอจะคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะส่ายหัวและพูดออกมา
“แต่ว่าคังชินต่างออกไป ฉันไว้ใจคังชิน”
“อ่า ขอบคุณนะ”
“ไม่มีสมองที่จะหลอกคนอื่น…”
“นี้มันแรงไปแล้วนะ อย่างน้อยฉันก็ไม่ได้โง่”
เดวี่ได้พูดว่าเธอแค่ล้อเล่นและหัวเราะออกมาเล็กน้อย
“คังชินชอบฉัน ดังนั้นไม่ต้องพยายามหลอกฉัน”
“ฉันไม่มั่นใจนะว่าเธอเข้าใจความหมายว่า ‘ชอบ’ ยังไง…. แต่เธอรู้ว่านั่นมันไม่ได้หมายความแบบที่ฉันพูดก่อนหน้านี้ใช่ไหม”
“คังชินซ่อนความลำบากใจเอาไว้ มันน่ารำคาญแต่ว่าก็น่ารักนิดหน่อย”
“ถ้างั้นเธอก็ต้องการที่จะปล่อยความเข้าใจผิดเอาไว้ใช่ไหม หือ”
ฉันได้บอกตัวเองว่าจะต้องอธิบายกับเธอทีหลัง สำหรับตอนนี้มันยังมีสิ่งอื่นที่ฉันต้องทำ ฉันได้ถือบอลทรงกลมสีขาวไว้ในมือและส่งต่อให้เธอ
“มันถึงเวลาแล้วที่ฉันจะต้องทำสัญญา เดซี่ ฉันจะทำให้เธอเป็นฮีโร่แล้ว เธอพร้อมนะ”
“นับตั้งแต่เมื่อ 90 ปีก่อนในตอนที่ฉันถูกเลือกให้เป็นตัวแทนฮีโร่ ฉันก็พร้อมมานานแล้ว”
“ฉันรู้แล้ว แต่ว่าเธอแก่มากเลยนะ คุณยายเด อ๊าาาาา”
ฉันแทบจะดูดพลังของโลกไปโดยบังเอิญ เดซี่ได้สะบัดเท้าของเธอใส่หน้าแข็งของฉันในขณะที่จ้องฉัน
“วัยของหญิงสาวเป็นเรื่องสำคัญ จงขอโทษกับความหยาบคายของนายซะ”
“ขอโทษ…”
อย่างแรกเลยฉันได้ทำให้เดซี่กลายมาเป็นฮีโร่ในจุดนี้ หลินได้ยิ้มออกมาอย่างขมขืนเมื่อได้เฝ้ามองสิ่งที่เกิดขึ้นนี้
“นายมีทักาะในการจัดการกับพลังที่ดี การใช้พลังของโลกได้อย่างง่ายดายและมอบให้กับคนอื่นแบบปลอดภัย มันแทบจะเหมือนกับว่าาฉันกำลังดูฮีโร่ผู้กอบกู้…”
“ฮีโร่ผู้กอบกู้?”
“กลับกันเธอ พวกเราจะปล่อยให้ดันเจี้ยนเป็นแบบนี้นานเกินไปไม่ได้”
ฮีโร่ผู้กอบกู้เป็นหนึ่งในฉายาของฉัน หลินรู้อะไรเกี่ยวกับมันงั้นหรอ? หลินดูจะไม่ต้องการพูดอะไรกับเรื่องนี้อีกเขาได้หันหลังกลับไปอย่างเงียบๆ
ในฐานใต้ดินที่เงียบและมืดมิดคนที่เหลืออยู่มีเพียงแค่ฉัน หลิน เดซี่ ซิปัวและศพไร้หัวของศัตรูของ….เฮ้”
วัสดุอันเดทที่ดี… คู่แข่งที่ดีสำหรับลากิ”
“เฮ้”
เป็นวัสดุที่ดีมาก ดีมากๆ”
“ถึงแบบนั้นมันก็เป็นศํตรูของโลกของเธอนะ… เธออยากจะควบคุมตัวแบบนี้งั้นหรอ”
ในตอนที่ฉันถามออกไปอย่างตกตะลึง เดซี่ก็มองมาที่ฉันเหมือนกับฉันเป็นคนบ้า
“ศพ…ไม่มีบาป ศพทั้งหมดเป็นศพที่ดี”
“อย่าได้พูดแบบนั้นเหมือนกับมันเป็นแก่นแท้แห่งความจริงที่ลึ้กซึ้งสิ”
ด้วยแบบนี้การค้นหาซิปัวก็ได้จบลงและทุกคนที่ไปทั่วทวีปไซรอนก็ได้กลับมาสู่ดันเจี้ยน แม้ว่ามันจะเป็นช่วงสั้นๆแต่ว่าเหตุการณ์นี้ก็เป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืม
สำหรับการที่ช่วยค้นหาซิปัวรีไวเวิร์ลได้กลายมาเป็นกิลด์ระดับ A และเดซี่กับฉันก็ยังได้รับอุปกรณ์ระดับสูงเพื่อชดเชยกับรางวัลที่พวกเราพลาดไปจากการที่เอาชนะศัตรูของโลก พลังของดันเจี้ยนที่เอาชนะศัตรูของโลกและพลังสำหรับการนำซิปัวกลับมาได้ถูกรวมเข้าด้วยกัน
“ทำไมฉันต้องทำงานให้พวกนั้นในเมื่อฉันก็ทำงานหนักเหมือนกันนะ”
“นั่นมันชัดเจนเลยว่าเป็นเพราะนายที่ไม่ยอมพาซิปัวกลับมาในทันทีที่เจอเธอ เป็นเพราะว่านายแสดงความเมตตากับซิปัว นายรู้ไหมว่ามีโลกจำนวนมากที่ตกอยู่ในอันตราย สองที่เกือบจะล่มสลายไป”
นอกไปจากนี้มันเป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้เห็นโรเล็ตต้าโกรธ
“ในตอนที่ซิปัวออกไปจากดันเจี้ยนเธอก็กลายเป็นศัตรูของเราแล้ว เธอเป็นพวกเรามาเป็นเวลา 2500 งั้นหรอ นายสงสารเธอหรอ เธอพังทุกสิ่งที่เราใช้เวลามาหลายปีที่เราทำมาด้วยกันนะหลิน นายทำเรื่องโง่ๆแบบนี้ได้ยังไงกันห๊ะ”
“มะ ไม่ พี่สาว… พี่ก็รู้…”
“แล้วก็นั่นทำให้นายต้องไปสู้กับศัตรูของโลกเลยนะ มันโชคดีที่ผลมันออกมาในทางที่ดี แต่ว่าถ้ามันเกิดอะไรขึ้นกับชินจะทำยังไง บอกฉันมาสิ”
โรเล็ตต้าน่ากลัวมากจนฉันอยากจะวิ่งหนีไปไกลๆ ยังไงก็ตามฉันไม่สามารถจะหนีไปได้เพราะโรเล็ตต้าได้กอดฉันเอาไว้อย่างแน่นหนา อึก ในเวลาเดียวกันกลิ่นหอมและสัมผัสของเธอมันพาฉันไปสวรรค์ หายใจเข้า…. หายใจออก….
“ถ้าฉันทำนะหลิน ด้วยมือของฉันนี่…!”
“นะ น่ากลัว พี่สาว ท่าทางของพี่น่ากลัวไปแล้ว”
นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้เห็นหลินกลัวเอามากๆ ฉันสงสัยว่าสีหน้าของโรเล็ตต้าที่กำลังทำอยู่เป็นยังไง… แต่ฉันก็รู้สึกว่าฉันจะต้องสียใจถ้าหากเงยหน้าขึ้นไป ดังนั้นฉันจึงทำเพียงขังตัวเองอยู่เงียบๆในอ้อมกอดของเธอ
“ฉันเป็นห่วงมาก… นายก็ด้วยหลิน มันจะเกิดอะไรขึ้นกันล่ะ ไม่ใช่ว่านายบอกว่านายเกือบจะตายหรอ จะเกิดอะไรขึ้นหากนายทิ้งโรก้าไว้คนเดียว”
“ไม่ เธอมีลูกแล้ว ดังนั้นเธอจะไม่…. ขอโทษครับ”
หลินได้หมอบกราบลงไป ยังไงก็ตามมันดูเหมือนว่าโรเล็ตต้าจะยังไม่พอใจ
“นายควรจะรู้ให้มากกว่านี้นะว่านายไม่ควรจะลดการป้องกันลงในพื้นที่ของศัตรู แม้ว่าฉันจะบอกให้นายระวังให้มาก ฉันบอกนายตั้งหลายครั้งเพื่อปกป้องชิน แต่ว่านายกลับไปสู้กับศัตรูของโลกด้วยกันงั้นหรอ นายกลับมาแบบภาคภูมิใจงั้นหรอ หืมม นายต้องการให้ฉันยกย่องนายสินะ”
“คังชินมีประโยชน์… ไว้ชีวิตผมด้วยพี่สาว”
“โรเล็ตต้า ฉันหายใจ…ไม่ออก…”
“อะ โอ้ ขอโทษชิน ฉันตื่นเต้นนิดหน่อยนะ”
ฉันไม่คิดว่ามันจะ ‘เล็กน้อย’ นะ แต่ฉันได้ปิดปากเอาไว้ โรเล็ตต้าได้คลายอ้อมกอดออกเล็กน้อยและกอดฉันใหม่อีกครั้ง
“ฉันเป็นห่วงนายมาก… ขอบคุณพระเจ้าที่นายปลอดภัย ขอบคุณจริงๆ…”
“ฉันขอโทษที่ทำให้เธอต้องเป็นห่วงนะโรเล็ตต้า”
“ไม่เป็นไรหรอกยังไงนายก็กลับมาแบบมีชีวิตแล้ว ถ้าหากว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับชิน… ฉันก็อาจจะเอาตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่สามารถจะตำหนิซิปัวได้เหมือนกัน”
ในตอนที่เธอพูดแบบนั้นท่าทางของเธอแปลกไปราวกับว่าเธอได้พบกับสิ่งแปลกใหม่ ใบหน้าของเธอได้ซีดลง จากนั้นเธอก็ปล่อยฉันไป ในขณะที่ฉันกำลังรู้สึกมึนเมากับกลิ่นของเธอ โรเล็ตต้าก็เอามือของเธอไปวางไว้บ่นหน้าผากของเธอและถอนหายใจออกมาราวกับว่าจะระบายเอาสิ่งที่อยู่ลึกในหัวใจเธอออกมา
“เป็น… เป็นเวลานานมากแล้วที่พวกเราคงสภาพดันเจี้ยนเอาไว้แบบนี้ ใช่แล้ว…มันเป็นเวลานานแล้ว นามากๆ บางอย่างแบบนี้มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาได้”
“มันไม่สามารถจะป้องกันได้เลยซักวิธีหรอ”
“ควรจะเอาหัวหน้ากิลด์ผู้ดูแลทั้งหมดไปเก็บไว้ในโรงละมั้ง ถ้าหากว่าพลังของลอร์ดได้ผนึกพวกเราเอาไว้ พวกเราก็ไม่จำเป็นจะต้องห่วงว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”
“ขอโทษนะโรเล็ตต้า ฉันไม่ได้หมายความแบบนี้”
โรเล็ตต้าได้ส่ายหัวของเธอ
“สำหรับเราแล้วพลังของดันเจี้ยนอยู่ภายในตัวเรา เราไม่สามารถจะเอามันออกมาได้เว้นแต่จะตาย เพื่อที่จะรักษาดันเจี้ยนเอาไว้เราต้องอยู่ที่นี่ ในช่วงเวลาหลายปีจนไม่อาจนับได้ก็มีคนที่ไม่อาจจะแบกรับความเครียดนี้ได้ด้วย มีหัวหน้าถึงสองคนที่เลือกที่จะยอมแพ้และมอบตำแหน่งนี้ให้กับคนอื่น…”
“เดี๋ยวนะ ไม่ใช่ว่านั่นหมายความว่า…”
“พวกเขาฆ่าตัวตาย”
ฉันได้หยุดหายใจ ในตอนที่ฉันตัวแข็งทื่อ โรเล็ตต้าก็ยังคงพูดต่อไป
“น้ำหนักมันยิ่งหนักมากขึ้นตามช่วงเวลาที่ผ่านไป การที่ไม่มีสิ่งกระตุ้นใดๆเลยซักนิดมันดูจะเป็นสิ่งที่อันตรายเกินไป และทีละคนพวกเราได้เริ่มได้รับพลังของลอร์ดเพื่อที่จะคงมันเอาไว้มันเป็นการช่วยที่ยิ่งใหญ่ จากนั้นเองผู้คนจำนวนมากขึ้นได้เริ่มที่จะต้องการพลังของดันเจี้ยน และไม่ว่าเธอจะน่าทึ่งมากยังไงเธอก็มีขีดจำกัด พวกเราจึงได้มาเริ่มติดต่อกับนักสำรวจดันเจี้ยนและผ่านพวกเขา พวกเราก็ได้พบกับชีวิตใหม่ แต่ยังไงก็ตามนั่นมันก็มีปัญหาในตัวมันเอง”
“ปัญหาแบบนี้มันเกิดขึ้นในตอนนั้น…”
“ใช่แล้ว ฉันได้บอกนายหรือยังว่าเรื่องแบบนี้มันเคยเกิดขึ้นมาก่อน ใช่ไหม คนที่ทำให้เกิดปัญหาาแบบนี้คือแรกคือหัวหน้ากิลด์ผู้ดูแลของกิลด์ไร้หุบเขา เขาได้ตกหลุมรักนักสำรวจ เพื่อที่จะช่วยเธอกับโลกของเธอ เขาได้ใช้พลังของดันเจี้ยนเพื่อเธอมากจนเกินไป”
หัวหน้ากิลด์ของกิลด์ไร้หุบเขา ฉันจำได้ว่าเคยเจอคนๆนั้นและเธอ…
“เธอได้กลายมาเป็นคนที่ทรงพลังมากๆและประสบความสำเร็จในการเอาชนะศัตรูของโลกของเธอ เพราะว่าพลังจำนวนมากที่ถูกมอบไปให้เธอทำให้ดันเจี้ยนมาถึงจุดที่จะหยุดการทำงานลง จากนั้นหัวหน้ากิลด์ของกิลด์ไร้หุบเขาก็ได้พยายามที่จะหนีไปอยู่กับเธอที่โลกของเธอ”
“โรเล็ตต้าเดี๋ยวก่อนนะ….”
“เอเลนี่ฆ่าเขา”
โรเล็ตต้าได้พูดต่อไปโดยที่ไม่หยุดพัก
“เธอได้นำพลังของดันเจี้ยนกลับไปสู่สภาพปกติและกลายมาเป็นหัวหน้ากิลด์คนใหญ่ของกิลด์ไร้หุบเขา เธอเชื่อว่าพลังที่ปกป้องโลกของเธอไว้มันก็จำเป็นสำหรับโลกอื่นๆเหมือนกัน”
“เพราะแบบนั้นเธอเลยฆ่าคนรักของเธอ…”
“ความสัมพันธ์ของพวกเขามันเหมือนกับรักข้างเดียวซะมากกว่า นอกไปจากนี้เอเลนี่ก็ยังมีจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง แม้ว่าเธอจะดูไม่เหมือนแบบนั้นก็ตาม”
“เธอดูเหมือนกับผู้หญิงที่ชอบแต่การเที่ยวเล่นรอบๆ”
“นั่นมันก็ไม่ผิดหรอนะ ฉันไม่ได้บอกนายหรอ เธอได้ตกหลุมรักหลินโดยสมบูรณ์ในตอนนี้ ดังนั้นเธอจึงไล่ตามเขาไม่หยุดหย่อน แต่ว่าในอดีตแล้วมันต่างกันมาก เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่ตกหลุมรักใครเลย พูดตามตรงบุคลิกในตอนนั้นของเอเลนี่เหมาะสมที่สุดแล้วกับตำแหน่งหัวหน้ากิลด็ผู้ดูแล”
ประเด็นหลักของโรเล็ตต้าคืออะไรกันนะ
“หลังจากเหตุการครั้งนั้น สมาชิกกิลด์ผู้ดูแลรวมไปถึงหัวหน้ากิลด์ได้เริ่มที่จะใช้หุ่นเชิดแทนตัวจริง แม้ว่าการติดต่อกับนักสำรวจจะเป็นสิ่งที่ดี แต่ว่าทุกๆคนก็ตระหนักได้ว่ามันไม่สามารถจะรับผลที่ตามมาได้เหมือนกัน ดังนั้นจึงมีเพียงคนไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับข้อยกเว้นจากกฏนี้ ยกตัวอย่างเช่นอเลเดลและเมลาเดล
“ถึงแบบนั้น มันก็ไม่สามารถจะหยุดความรักของซิปัวได้”
“วิธีนี้ไม่สามารถจะแก้ไขมันได้อย่างสมบูรณ์…เหมือนอย่างฉันไง ฉันก็ติดต่อกับชินผ่านหุ่น และได้ตกหลุมรักชิน”
โรเล็ตต้าได้ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง
“การให้ความสำคัญกับความรู้สึกของตัวเองและไม่เก็บงำมันเอาไว้จะทำให้เกิดเหตุการแบบที่ชินเห็น แต่ถึงแม้แบบนี้ฉันก็ยัง…”
“โรเล็ตต้า…”
“ได้โปรดชินช่วยเป็นแสงสว่างนำทางแก่ฉันต่อไป….”
จากนั้นเธอก็ส่ายหัวและแก้คำพูดใหม่
“ไม่สิ ไม่มีอะไรหรอก ชินควรทำในสิ่งที่ชินต้องการจะทำ ฉันจะไม่กดดันชินอีกต่อไป ฉันจะไม่ทำ…. นั่นเป็นสิ่งที่ควรจะเป็น”
“….”
“มันจะไม่เป็นไรถ้าหากจะมีผู้หญิงคนอื่นๆ ฉันจะไม่เห็นแก่ตัว ดังนั้น… ถ้าชินเพียงแค่ชินมองมาที่ฉันบ้าง ฉันจะไม่หลงไปจากเส้นทางของฉัน ฉันจะไม่เป็นเหมือนกับซิปัว มันจะไม่เป็นไร”
ฉันได้กอดโรเล็ตต้าเอาไว้เงียบๆ ด้วยแบบนั้นโรเล็ตต้ที่พูดออกมาไม่หยุดราวกับว่าเธอกำลังจะเมาก็ได้เงียบลงหลินได้เบิกตากว้างขึ้นมา เดซี่ก็ได้ใช้มือของเธอปิดหน้าและชิปัวได้ตะโกนอะไรบางอย่างก่อนที่จะถูกเดซี่เตะจนทำให้เธอเงียบไป
จากนั้นโรเล็ตต้าก็ได้พูดออกมาอย่างว่างเปล่า
“ชิน…”
“ซักวันหนึ่ง…..”
“ซักวันหนึ่ง….?”
“ไม่ล่ะ ขอโทษนะ สำหรับตอนนี้มันเป็นความลับ”
“ถ้างั้นฉันจะรอจนกว่าชินจะพร้อมที่จะพูดมัน ฉันจะรอ….”
ในวันนี้ เป้าหมายที่ฉันตั้งเอามันดูจะเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว นี้เป็รเพีนวื่วออกเดียวเท่านั้น ฉันรู้อยู่แล้ว แต่ฉันหยุดมันไม่ได้ ฉันทำได้เพียงพูดออกไป
“โอ้ยังไงก็เถอะโรเล็ตต้า… มันมีบางอย่างที่ฉันจะพูด”
“อะไรหรอ”
“ฉันก็ชอบโรเล็ตต้าเหมือนกัน…. ฉันรักเธอ”
ในวันนั้นเองฉันก็แทบจะถูกขมขื่นต่อหน้าหลิน มันน่ากลัวจริงๆ