Infinite Competitive Dungeon Society – บทที่ 250 – เหนือดินแดนน้ำแข็ง (1)

Infinite Competitive Dungeon Society - บทที่ 250 – เหนือดินแดนน้ำแข็ง (1)

บทที่ 250 – เหนือดินแดนน้ำแข็ง (1)

[ว้าว โลกมีที่เย็นๆแบบนี้ด้วยหรอ]

“นี่เป็นครั้งแรกที่มาที่นี่สินะริยู”

[อื้อ]

มันก็เป็นครั้งแรกที่ฉันได้มาเหมือนกัน

แน่นอนว่าในครั้งที่แล้วก็มีเหตุการณ์ดันเจี้ยนโผล่ขึ้นมาที่แอนตาร์กติก้าอยู่บ้าง แต่ยังไงก็ตามในตอนนั้นฉันยังอยู่ในบียอนทำให้พวกฮวาหยาและคนอื่นๆได้จัดการเหตุการณ์ดันเจี้ยนในแอนตาร์กติกไปแล้ว มันดูเหมือนว่าฉันจะชดใช้เรื่องในคราวนั้นด้วยการมาจัดการแอนตาร์กติกในคราวนี้แทน

ลิโคไรท์ ล็อทเต้และพลีนต่างก็หน้ามุ่ยกัน ไม่เว้นแม้แต่ไพก้าที่ไม่ได้รับผลกระทบกับสภาพแวดล้อมมากนักแต่ก็ยังคงรู้สึกอึดอัด จะมีก็แต่ชาราน่าที่อยู่ในที่ๆเต็มไปด้วยพลังเยือกแข็ง กับริยูที่เป็นภูติธาตุน้ำแข็งเท่านั้นที่ดูจะมีความสุข

[ที่นี่มีลมหนาวด้วยล่ะนายท่าน]

[มาเล่นที่นี่กันบ่อยๆสิ]

“อื้ม ไว้ฉันจะคิดดูนะ”

ดูเหมือนว่าฉันจะต้องใช้เวลามาท่องเที่ยวพักผ่อนในแอนตาร์กติกซะแล้วนะ… แน่นอนว่าสภาพอาการของแอนตาร์กติก้าไม่ได้ส่งผลกับฉันแม้แต่นิด แต่ว่าฉันมาเที่ยวที่นี่มีอะไรให้ทำล่ะ ฉันได้คิดอย่างจริงจังว่าจะต้องสร้างสถานที่ๆพิเศษไว้ให้สำหรับริยูในตอนที่เราเริ่มเคลียร์เหตุการณ์ดันเจี้ยนในแอนตาร์กติก้า

เหตุการณ์ดันเจี้ยนส่วนใหญ่ในมหาสมุทรแอนตาร์กติกก็จะอยู่ใต้น้ำลึก แม้ว่าฉันจะไม่ได้รับผลกระทบจากความหนาวเย็นแต่การที่จะต้องมาอยู่ในน้ำที่หนาวจนจะเป็นน้ำแข็งมันไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีเลย สิ่งหนึ่งที่มันดูจะเป็นผลดีกับเราก็คือมอนสเตอร์ส่วนนใหญ่ดูจะชอบความอบอุ่นทำให้พวกเราไม่ได้เห็นมันบ่อยนักในมหาสมุทรแอนตาร์กติกแห่งนี้ ดังนั้นส่วนใหญ่พวกเราก็จะทำเพียงแค่เคลียร์เหตุการณ์ดันเจี้ยน

[คุณได้เคลียร์เหตุการณ์ดันเจี้ยนระดับ SS ได้รับแต้มสเตตัส 2 แต้ม]

มันไม่มีอะไรที่จะมาหยุดพวกเราจากการกวาดล้างเหตุการณ์ดันเจี้ยนในมหาสมุทรแอนตาร์กติกได้ เหตุการณ์ดันเจี้ยนในมหาสมุทรมีมากกว่าบนทวีปแต่ว่าพวกเราก็สามารถจะจัดการมันจนหมดได้ภายในสิบวัน เหตุผลที่ฉันเคลียร์มันให้เสร็จภายในวันที่สิบเป็นเพราะว่าวันที่สิบเอ็ดเป็นวันหยุดพักผ่อนครั้งที่หกที่ฉันได้กำหนดเอาไว้

ในตอนที่วันพักผ่อนได้มาถึงพวกเราก็ได้ไปอยู่ในพื้นที่พักอาศัย แช่น้ำทิ้งไว้อย่างนั้น แม้ว่าจะได้แช่น้ำอุ่นมากว่าสามชั่วโมงแล้วลิโคไรท์ก็ยังบ่นออกมา

“ความหนาวมันยังไม่หมดไปจากร่างฉันเลย นี้มันแย่ที่สุด”

“ฉันเกลียดมหาสมุทรที่หนาวเหมือนกัน มันไม่มีที่ไหนให้ว่ายน้ำได้เลยแล้วก็มันไม่ใช่ที่ๆดีที่จะร้องเพลงเลย”

พลีนได้เบะปากออกมาเหมือนกับเป็ด ฉันได้ขอให้ชาราน่าทำให้พวกเธอตัวแห้งในขณะที่ตอบกลับไป

“ไม่ต้องห่วงหรอก ในตอนที่เราได้ไปแอนตาร์กติก้า พวกเธอจะคิดว่าแอนตาร์กติกอุ่นไปเลยล่ะ”

“มันไม่ร้อนสมกับเป็นราชินีแห่งเพลิงเลย”

“ฉันตามสามีที่รักมาตลอดแม้ว่ามันจะหนาว ฉันจะต้องคลั่งแน่หากไม่ได้รางวัล”

ล็อทเต้ได้บ่นออกมา แต่ลิโคไรท์ได้ซุกมาในแขนของฉันทั้งๆที่เธอมีเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวพันอยู่ มันไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากจะตามใจเธอเลยสักนิด แต่ว่าฉันก็ยังต้องผลักเธอออกไปด้วยรอยยิ้มบางๆ

“ฉันทำมากแบบนี้ไม่ได้หรอ ถ้าแค่นิดหน่อยโอเคไหม?”

“ฉันจะต้องไปดันเจี้ยน”

ลิโคไรท์ได้ทำท่าทางหน้ารักตอบฉันและตะโกนออกมา

“คุณจะไปหาผู้หญิงคนนั้น”

“ถ้าหากมีคนอื่นได้ยินเข้าเขาจะคิดว่าเธอเป็นภรรยาของฉันแล้วฉันกำลังจะหนีไปหาชู้นะ”

“นั่นมันก็เหมือนๆกัน”

“ใช่ได้ยังไง นอกไปจากนี้ฉันก็ไม่ได้ไปหาโรเล็ตต้า ฉันจะไปเข้าบียอน”

“มาเที่ยวเล่นกับฉันแทนดีกว่าเถอะนะสามีที่รัก”

ฉันชื่นชมในการแข็งขืนของลิโคไรท์ที่ยืนยันจะใช้เวลาพักร่วมกันกับฉัน แต่ว่าฉันทำแบบนั้นไม่ได้

“มันยังมีการต่อสู้ที่สำคัญรออยู่ ดังนั้นฉันไม่สามารถพักผ่อนและทำเป็นเล่นได้”

“ถ้างั้นพวกเราก็ควรทำอะไรให้มันมากขึ้น สามีที่รัก… ฉันจะไปด้วย”

“ไม่”

ใช่แล้ว เนื่องจากว่าฉันได้เอาไอเทมจากบอสชั้นที่ 75 มาหมดแล้วในวันนี้ ตอนนี้ฉันกำลังจะมุ่งหน้าไปสู้กับบอสในชั้นที่ 25 ของบียอน

“ฮีโร่คุณแตกต่างกับชายคนอื่นๆ แตกต่างแบบแปลกๆ แตกต่างจนน่ารำคาญ”

“ชินเป็นคนใจดีและยอดเยี่ยม”

“ไม่ นั่นไม่ใช่แบบนี้ แต่ว่าสามีที่รักเป็นคนสำ…”

“หยุดแค่นั้นพอ”

สิ่งแรกที่ฉันได้ทำในวันหยุดก็คือการลุยชั้นที่ 75 ฉันค่อนข้างจะคาดหวังเมื่อชั้นที่ 71 มีค้างคาวเหมือนกับในชั้นที่ 61 แต่ว่าสิ่งที่โผล่ขึ้นมาในชั้นที่ 73 กลับกลายเป็นแวมไพร์ พวกมันมีพลังเวทย์ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าซัคคิวบิและอินคิวบิ เนื่องจากว่าพวกมันสามารถจะเคลื่อนไหวได้เร็วมากๆและเล็งโจมตีในจุดที่ฉันไม่คิดอย่างคอ ยังไงก็ตามในดันเจี้ยนที่หนึ่งก็ยังคงไม่สามารถจะหยุดยั้งฉันได้ ฉันยังคงผ่านแวมไพร์พวกนี้ไปอย่างง่ายดาย

เนื่องจากว่าฉันจะต้องทำแบบนี้ในทุกๆคืนตอนที่ทุกๆคนหลับอยู่เพื่อปีนดันเจี้ยนทำให้ฉันจะต้องใช้เวลาหลายวันในการปีนไปในแต่ละชั้น แน่นอนว่าเนื่องจากฉันก็จะต้องรอเวลาให้ถึงวันพักผ่อนเพื่อที่จะเข้าไปในบียอนทำให้การที่จะต้องใช้เวลาหลายวันในการปีนดันเจี้ยนชั้นหนึ่งมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากนัก ฉันได้ผ่านชั้นหมาป่ายักษ์ เวนดิโก้ หรืออะไรพวกนั้นมาเรื่อยๆและมาจบลงในดันเจี้ยนที่หนึ่งชั้นที่ 75 ลอร์ดแวมไพร์ในระหว่างสัปดาห์ที่ห้า

อย่างแรกเลยโชคร้ายที่ว่าฉันไม่ได้รับฉายาผู้พิชิตลอร์ดแวมไพร์ มันดูเหมือนว่าจะมีหนึ่งในนักสำรวจบียอนในอดีตได้เคยเอาชนะมันด้วยการต่อสู้เพียงลำพังในครั้งแรกไปซะแล้ว

เนื่องจากว่ารางวัลสำหรับการโซโล่ครั้งแรกมันไม่มีแล้ว ฉันจึงได้ทักษะจากการเอาชนะเพียงลำพังมาแทนคือทักษะม่านหมอกซึ่งทำให้ฉันกลายร่างเป็นหมอกได้มาก แต่มันก็เป็นทักษะที่ฉันไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้มันเลย

ถ้าหากว่าฉันสู้กับศัตรูที่ใช้มานาไม่ได้และเปลื่ยนร่างเป็ฯหมอกจะป้องกันฉันจากการโจมตีได้และทำให้ฉันสามารถเคลื่อนไหวได้โดยเป็นร่างหมอก แต่ว่ามันก็คงไม่มีศัตรูตัวไหนที่ฉันจะต่อสู้โดยที่ไม่มีทักษะในการใช้มานา ถ้าหากฉันใช้มันมันก็อาจจะจบลงด้วยการเผยจุดอ่อนออกมาซะมากกว่า

ที่สำคัญไปกว่านั้นถ้าหากว่าฉันจำเป็นจะต้องเปลื่ยนเป็นหมอกจริงๆ ฉันก็สามารถจะทำมันได้ง่ายๆอย่างการใช้การละเล่นของเทพแห่งท้องฟ้า ในด้านทักษะการละเล่นของเทพแห่งท้องฟ้าสามารถจะทำงานได้หลากหลายมากกว่าอีก ด้วยการละเล่นของเทพแห่งท้องฟ้านี้ฉันไม่ต้องการทักษะอื่นใดที่ใช้แปลงกายอีก

แต่กลับกันอิลิกเซอร์ในชั้นที่ 75 ไม่ได้ทำให้ฉันต้องผิดหวังเลย มันถูกเรียกว่าโลหิตแก่นแท้แวมไพร์ มันให้ความรู้สึกแปลกนิดๆในตอนที่ฉันกินมัน แต่มันก็ยังคงเพิ่มความอดทนและพลังเวทย์ของฉันขึ้นครั้งละ 3 หลังจากได้กินอิลิกเซอร์ขวดที่สิบไปความทนทานและพลังเวทย์ของฉันก็เพิ่มขึ้น 30 ทำให้มานาของฉันทะลุ 200,000 ไป แม้ว่าฉันจะใช้ฮีโรอิค สไตรค์ออกไปด้วยพลังมานา 50% ฉันก็ยังคงเหลือมานาอีกมากให้ใช้

อย่างสุดท้ายก็คือทักษะจากชุดเช็ตของบอสประจำชั้นที่เรียกว่าคำสาปโลหิต มันมีลักษณะคล้ายๆกับทักษะจากแหวนโลหิตต้องสาป ในตอนที่เปิดใช้งานฉันสามารถจะโจมตีเป้าหมาและลดสเตตัสทั้งหมดของเป้าหมายทำให้เป้าหมายตกอยู่ในสถานะเลือดไหลได้ มันเป็นทักษะดีบัฟที่ดีเลย

ในตอนที่ฉันกำลังจะไปบียอนหลังต่กึดถึงสิ่งที่ได้มาจากชั้นที่ 75 ลิโคไรท์ก็แกล้งซะอื้นออกมา

“ฮึก ฉันถูกเมินด้วยสามีเหมือนกับเด็กน้องแล้วก็ถูกบังคับให้หลับอย่างโดดเดี่ยว”

“อย่าได้พูดแบบนี้ต่อหน้าผู้หญิงคนอื่นๆนะ โอเค”

โดยเฉพาะกับยุย ฉันไม่อยากจะจินตนาการเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเธอได้ยินเข้า

“อื้อ ไปเถอะ รีบๆกลับมาหาฉันด้วย”

“ฉันจะกลับไปนอน ฉันเหนื่อยมาก”

“ฉันจะยังอยู่ในพื้นที่พักนะ ฉันรู้ว่าฮีโร่คงจะใช้เวลาไม่นาน”

ฉันได้ลูบหัวลิโคไรท์กับคนอื่นๆเบาๆและเข้าไปในดันเจี้ยน โรเล็ตต้าที่รอฉันอยู่ในร้านขายของของชั้นที่ 75 ได้กระพือหูและทักทายฉันอย่างมีความสุข

“ชินมาเล่นกับฉันใช่ไหม ไปเล่นกันๆ”

“นี่เป็นอะไรที่เป็นที่นิยมในตอนนี้งั้นหรอ”

ฉันจะต้องยุ่งแค่ไหนกันเมื่อทุกๆคนเริ่มพูดคำๆนี้ ฉันได้สาบานกับตัวเองว่าจะต้องจัดการเหตุการณ์ดันเจี้ยนที่เหลือให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ฉันอยากจะพักเหมือนกันแล้วนะ

ยังไงก็ตามสำหรับในตอนนี้ฉันไม่สามารถจะมาใช้เวลากับโรเล็ตต้าได้ ฉันได้ชี้ไปที่ประตูบียอนด้วยรอยยิ้มขม

“ขอโทษนะโรเล็ตต้าเดี๋ยวฉันจะกลับมา”

“ฮึก ฉันถูกเมินด้วยสามีเหมือนกับเด็กน้องแล้วก็ถูกบังคับ…”

“เธอวางแผนกับลิโคไรท์ไว้งั้นหรอ ใช่สิตอนนี้ฉันพึ่งจะนึกออกเธอก็ไม่ใช่วัย….”

โรเล็ตต้าได้ตวัดสายตามาหาฉันพร้อมมืออีกข้างที่จับขวานทันที

“มีอะไรหรอชิน”

“ไม่มีอะไร โรเล็ตต้า”

ฉันจะตายโดยที่ยังไม่ได้เห็นแม้แต่หน้าของบอสไม่ได้ ฉันได้ยอมแพ้กับการเผชิญหน้าที่รุนแรงกับโรเล็ตต้าและจากนั้นก็บุกหน้าสู่บียอนชั้นที่ 25 ทั้งน้ำตา โรเล็ตต้าได้มองฉันด้วยรอยยิ้ม แต่ว่าหลังจากนั้นฉันก็ไม่ได้มองกลับไปหาเธออีก ฉันจะต้องเผชิญกับความโกรธแน่ๆ

มันดูเหมือนว่าฉันอาจจะต้องเพิ่มวันหยุดให้กับตัวเองอีกสักวัน ให้ตายสิ ปากฉันนี่มันเวรจริงๆ…

มอนสเตอร์ที่ฉันได้เผชิญหน้าคือการรวมจุดแข็งของหมาป่ายักษ์และเวนดิโก้ พูดตามตรงไม่ว่าจะเป็นหมาป่ายักษ์หรือเวนดิโก้มันก็เป็นศัตรูที่ยากจะเผชิญหน้า

หมาป่ายักษ์ในบียอนชั้นที่ 21 นั้นตัวใหญ่ยิ่งกว่าบอสในดันเจี้ยนชั้นที่หนึ่ง แต่ว่าฉันก็มีประสบการณ์ต่อสู้กับมอนสเตอร์ขนาดใหญ่มากมายและเชี่ยวชาญในการตรวจจับตัวตนแล้ว สำหรับฉันแล้วมันไม่มีอะไรมากไปกว่ากระสอบทรายเลย เวนดิโก้ที่เพียงแค่เพิ่มพลังเยือกแข็งมากขึ้นยิ่งง่ายกับการจัดการยิ่งกว่าหมาป่ายักษ์ซะอีก เวนดิโก้พวกนี้ทำอะไรไม่ได้เลยเมื่ออยู่ต่อหน้าพลังของริยู

ในบียอนชั้นที่ 21 ถึง 24 นี้มันก็คล้ายๆกันในตอนที่ฉันปีนดันเจี้ยนที่หนึ่งชั้นที่ 41 ถึง 50 แต่ว่าบียอนนี้มีขนาดที่ใหญ่กว่ามาก ฉันก็ยังจะต้องใช้เวลาหนึ่งวันเต็มในการปีนแต่ละชั้น

ไม่ว่ายังไงก็ตามบียอนก็ยังคง…ง่าย

[ก๊าซซซซซซซซซซ]

บียอนชั้นที่ 25 นี้เป็นภูเขาหิมะซึ่งคล้ายๆกับห้องบอสในตอนที่ฉันสู้กับเวนดิโก้ ที่นี่ฉันได้เจอโครงกระดูกหมาป่าที่มีขนาดใกล้เคียงกันกับภูเขา

“ห้องสู้แต่ละห้องต่างก็มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ…อย่าได้บอกฉันนะว่าซักวันมันจะกว้างเท่าประเทศ….”

ในตอนที่ฉันพึมพัมอย่างขี้เกียจฉนก็เหวี่ยงหอกในมือและเปลื่ยนท่าจับ สายฟ้าสีทองได้ส่งประกายออกมาอยูรอบๆปลายหอกพร้อมๆกับที่ริยูแสดงรูปธรรมออมาในร่างของเด็กสาวมนุษย์สัตว์และเตรียมตัวที่จะรับการโจมตี ทั้งการป้องกันและโจมมตีสมบูรณ์แบบ

“มาสู้กันเถอะ ฉันจะจบมันในพริบตา”

[ก๊าซซซซซซซซซซ]

Infinite Competitive Dungeon Society

Infinite Competitive Dungeon Society

ICDS, 무한경쟁던전사회
Score 7.8
Status: Ongoing Type: Author: , , Artist: Released: 2015 Native Language: Korean
อ่านนิยาย Infinite Competitive Dungeon Society เรื่องย่อ : เหตุการณ์ดวงจันทร์แฝดคือจุดเริ่มต้นชองการเปลื่ยนแปลงทุกอย่าง เพราะการปรากฏตัวของมอนสเตอร์และดันเจี้ยนในสังคมยุคใหม่ และผู้ที่ใช้ความสามารถของเขาต่อสู้กับมัน โลกได้กำลังเผชิญหน้ากับประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ นี่คือกำเนิดขึ้นของแหล่งพลังงานชนิดใหม่ๆ และอาชีพดั้งเดิมมากมายได้หดหายไป สามัญสำนึกปกติได้ถูกเปลื่ยนแปลงไปและจินตนาการได้กลายมาเป็นความจริง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset