บทที่ 286 – สมาชิกคนล่าสุด (3)
วิธีการของพวกนี้ทำให้ฉันหมดคำพูดไป เจ้าพวกนี้ที่เรียกตัวเองว่าราชาไม่เพียงแค่มารวมกันเท่านั้นแต่พวกมันก็ยังใช้แผนชั่วๆแบบนี้เพื่อแยกฉันออกจากทุกๆคน ฉันไม่อาจรู้ได้เลบว่าเกิดอะไรขึ้นบนโลกแต่ว่าฉันรู้ในสิ่งที่ฉันจะต้องทำ
ฉันได้ดึงเอาหอกออกมา เพลิงโกลาหลได้ถูกจุดขึ้นบนหอกและสร้างวังวนขึ้น
“ดูเหมือนว่าฉันจะต้องรีบขยี้แกสินะ”
[ข้ายินดีกับความมั่นใจของนักรบนะแต่ว่าเจ้าควรแยกให้ออกระหว่างความมั่นใจกับความยโสฮีโร่]
ราชาแห่งสรรพสัตว์ได้เปิดปากขึ้นทันทีและคำรามออกมา ชาราน่าได้รีบแสดงรูปธรรมออกมาและสร้างกำแพงลมหุ้มตัวฉันเอาไว้ เมื่อทั้งสองอย่างนี้ปะทะกันร่างกายของฉันก็ถูกผลักกลับไปจากเสียงหอนที่ทรงพลังนี้ ฉันแทบจะไม่สามารถหยุดตัวเองได้เลย จากนั้นราชาแห่งสรรพสัตว์ก็ได้ระเบิดหัวเราะออกมา
[ฮ่าๆๆๆ น่ารักจริงๆ!]
“ที่พวกแกทำแบบนี้ก็เพราะว่าพวกแกกลัวฉันแล้วนี่แกก็กำลังมาดูถูกฉันงั้นหรอ?”
ด้วยแบบนี้มันมีความเป็นไปได้เพียงสามอย่างเท่านั้น อย่างแรกก็คือทุกสิ่งเป็นความจริงทั้งหมด ยังไงก็ตามมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่มันจะต้องทำมาทำกับดักขึ้นโดยทำเป็นประมาทฉัน แถมมันก็น่าจะรู้ว่าฉันไม่ตกหลุมพลางแบบนี้หรอก
อย่างที่สองก็คือสิ่งที่มันพูดออกมาทั้งหมดในก่อนหน้านี้คือเรื่องหลอกลวง มันไม่ได้มีแผนอะไรแบบนั้นและราชาทั้งสามก็ไม่มีใครอยู่บนโลกเลย ถ้าหากว่าเป็นแบบนี้เป้าหมายของมันก็คือการยั่วยุฉันและทำให้ฉันใจร้อนจนพลาดท่า
แต่ถ้ามันเป็นแบบนั้นท่าทางที่มันแสดงออกมาในตอนนี้ก็ไม่เข้ากันเลย การโกหกศัตรูเพื่อทำให้อีกฝ่ายทำผิดพลาดมันไม่ใช่สิ่งที่ฝ่ายที่แข็งแกร่งกว่าจะไปทำกับฝ่ายที่อ่อนแอกว่า มันต้องไม่ใช่แบบนี้
อย่างที่สามคือสิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือมีใครสักคนได้วางแผนนี้ขึ้นและเป็นคนทำให้ราชาเคลื่อนไหว นี้มันเป็นสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้ที่สุดแล้ว ฉันก็พอจะคิดออกด้วยว่าใครกันที่จะทำแบบนี้ได้ คนที่อยู่เบื้องหลังราชาทั้งห้าเขาจะต้องเป็นคนทำแบบนี้
[เจ้าจะสู้ไหม!?]
“ฉันมีทางเรียกอื่นด้วยหรอ?”
หลังจากที่วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ในหัวแล้ว ฉันได้เอื้อมมือขึ้นไปบนท้องฟ้า ฉันไม่ได้มีเวลามาเสียไปกับการต่อสู้กับเจ้านี่แล้ว สัตว์ป่าก็ต้องสู้กับสัตว์ป่าด้วยกันสิ เนื่องจากว่านี่เป็นการใช้พลังนี้เป็นครั้งแรกฉันจึงตั้งสมาธิไปกับหลักการในการใช้พลังนี้และเส้นทางที่พลังไหลในร่างฉัน
ฉันได้ตะโกนขึ้น
“แนนดิ!”
มุมมองของฉันดูเหมือนจะถูกย้อมไปด้วยสีแดง นี้เป็นผลที่เกิดมาจากคำพูดเพียงคำเดียวของฉันที่ตะโกนออกไป พลังงานที่น่ากลัวได้มารวมกับอยู่บนท้องฟ้าและเสียงร้องที่หนาวสั่นไปถึงไขสันหลังก็ดังขึ้นแม้ร่างของมันยังโผล่มาไม่สมบูรณ์ก็ตาม
[กรรรรรรรรรรรร!]
[ฮืมม?]
ราชาแห่งสรรพสัตว์ได้เอียงหัวออกมา มันได้ยกขาหน้าขึ้นและฟาดลงเข้ากับพื้น
[ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าทำอะไร แต่ดูเหมือนว่ามันจะดีกว่าหากข้าหยุดเจ้าเสียตอนนี้]
“อึก”
แค่การฟาดพื้นนี้ก็ทำให้เกิดแผ่นดินไหวและรอยแยกโผล่ขึ้นมา เศษหินจำนวนมากได้ลอยขึ้นฟ้าเหมือนกับการใช้ไกอา บัสเตอร์ที่มีระยะกว้างขึ้น ฉันได้พุ่งตัวไปบนท้องฟ้าและตรวจสอบสภาพปัจจุบันทันที
อย่างแรกเลยก็คือแต้มเสตตัสและทักษะที่ฉันได้มาจากการปีนดันเจี้ยนได้ลดลงไปกว่า 50% โชคร้ายอีกด้วยที่มันได้ผลกับเรเดียน วงจรเพรูต้า และพลังของเทพ ฉันรู้สึกแบบนั้น ในตอนนี้เอง
[กรรรรรรรรรรรรรร!]
รูปลักษณ์ของมันได้ปรากฏขึ้นมาอย่างน่ากลัวว ร่างกายสีแดงชาดขนาดใหญ่ เขาที่คมกริบสองข้างและดวงตาที่แดงชาน เสียงได้ดังขึ้นมาจากจมูกมัน แนนดิได้จ้องไปที่ราชาแห่งสรรพสัตว์! น่าทึ่งมากที่มันตัวใหญ่พอๆกับราชาแห่งสรรพสัตว์เลย
[คุฮ่าฮ่าฮ่า! ข้าสงสัยอยู่เลยว่ามันคืออะไรแต่มันก็เป็นแค่วัว คุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เจ้านี่มันน่ารักจริงๆเลยฮีโร่! เจ้าใช่ฮีโร่จริงๆงั้นหรอ?]
[กรรรรรรรรรรร!]
แนนดิได้พุ่งเข้าใส่ราชาแห่งสรรพสัตว์ทันทีโดยไม่รอสัญญาณใดๆจากนั้น หัวของมันได้ก้มลงต่ำในขะที่พุ่งออกมา ราชาแห่งสรรพสัตว์ได้หัวเราะออกมาและกระโดดถอยไปเล็กน้อย แน่นอนว่าต่อให้ ‘เล็กน้อย’ นั่นก็มากพอที่จะทำให้พื้นดินถล่ม
ในทันทีที่ราชาแห่งสรรพสัตว์ได้เคลื่อนไหว แนนดิก็ยังเปลื่ยนทิศทางไป ก้อนหินก้อนใหยญ่ได้พุ่งเข้าใส่แนนดิตรงๆซึ่งมันดูเหมือนว่ามีพลังมากพอจะขยี้คนเป็นร้อย นี่เป็นการต่อสู้ของมอนสเตอร์ทั้งสองจริงๆ
[น่าขำ!]
[กรรรรรรรรรร]
ในท้ายที่สุดแล้วราชาแห่งสรรพสัตว์กับแนนดิก็ปะทะกัน เขาข้างหนึ่งของแนนดิได้แทงเข้าไปในหัวไหล่ของราชาแห่งสรรพสัตว์! เลือดจำนวนมากได้พุ่งออกมา
[อั๊ก! นี้มันสัตว์ศักดิ์สิทธิ์]
“แกรู้ตัวช้าไปแล้ว!”
หลังจากที่โจมตีโดนราชาแห่งสรรพสัตว์แล้วแนนดิก็ไม่ได้มีความคิดที่จะถอยไป มันยังคงผลักดันไปด้านหน้าและสบัดหัวไปมา ไม่เพียงแค่โจมตีสิงโตได้เท่านั้นแต่มันยังผลักกลับไปได้อีกด้วย! ไม่สิ ในตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่ฉันจะมาดูการต่อสู้สบายๆแล้ว แม้ว่าฉันจะไม่ได้บอกออกไปแต่ฉันมีระยะเวลาในการใช้แนนดิแค่ห้านาที
“ชาราน่า ความเร็ว เอาให้เร็วที่สุดเท่าที่เธอทำได้”
[ค่ะ]
“ไพก้าช่วยฉันที ฉันต้องการพลังของเธอ”
[ได้เสมอ]
ชาราน่าและไพก้าได้ระเดพลังออกมา ฉันได้ดึงพลังของเทพสายฟ้าจนถึงขีดสุด จนมันแทบจะคล้ายกับว่าฉันได้เปลื่ยนตัวเองเป็นสายฟ้า ตัวฉันได้ส่องประกายสีทองออกมา
[เจ้าวัวโอหัง!]
ราชาแห่งสรรพสัตว์ได้เปิดปากของมันขึ้นมาและคำรามเข้าใส่แนนดิ แม้ว่ามันจะเป็นสิงโตแต่มันก็ยังสามารถจะพ่นกรดออกมาและส่งเสียงคำรามที่สร้างความเสียหายขึ้นได้
[มอออออออออออออออออออ!]
หนังของแนนดิได้ลอกออกมาและได้มีเลือดไหลออกมาจากร่างกายด้วย แต่ยังไงก็ตามแนนดิก็ไม่ได้สนใจอาการบาดเจ็บใดๆและยิ่งกระทั่งคลั่งขึ้นไปเสียอีก ราชาแห่งสรรพสัตว์ได้เสียเลือดมากขึ้นไปอีก ในเวลาเดียวกันนั้นฉันก็ได้พุ่งไปแทงหลังของมัน
[อั๊ก!]
“แกนี่ตัวใหญ่จริงๆ ใหญ่ซะยิ่งกว่าราชาลาวาซะอีก”
[ไสหัวไปจากหลังของข้า!]
“ถ้าแกมาสนใจฉันมากไปแล้วใครจะรับมือกับแนนดิล่ะ!?”
แนนดิก็ดูเหมือนจะเข้าใจในสิ่งที่ฉันพูดทำให้มันถีบพื้นด้วยขาหลังและชนเข้ากับราชาแห่งสรรพสัตว์อีกครั้ง เมื่อเขาของมันได้แทงเข้าไปในจุดๆเดิมที่โดนแทงไปในก่อนหน้านี้ราชาแห่งสรรพสัตว์ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากละสายตาไปจากฉัน มันได้ตะโกนออกมาในตอนที่เตะแนนดิออกไปด้วยขาหน้า
[น่ารำคาญ! ไม่เป็นไร ข้าจะฆ่าแกคนแรกเอง!]
[มออออออออ!]
พลังของพระศิวะน่ากลัวจริงๆ แม้แต่พลังส่วนหนึ่งก็น่ากลัวขนาดนี้แล้ว ฉันได้ยกหอกขึ้นและในเวลานั้นฉันก็เปิดใช้งานตรีศูล ตอนนี้คือเวลาที่ฉันจะต้องสร้างความเสียหายกับราชาแห่งสรรพสัตว์ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ฉันแค่ต้องโจมตีมันให้มากที่สุด
“แกเคยได้เห็นพายุหอกสายฟ้าไหม!? ย๊ากกกกกกกกก”
ฉันได้เบิกตากว้างขึ้นมา ฉันตัดสินใจคิดว่านี่คือผืนดินและใช้หอกในกลายขุดดินนี่ขึ้นมา! เมื่อหอกของฉันได้แทงลงไปพลังป้องกันที่ทรงพลังของราชาแห่งสรรพสัตว์ก็ได้พยายามจะสะถอนฉันออกไป การเสียพลังของดันเจี้ยนไปทำให้การทะลวงผิวหนังของมันยากขึ้นจริงๆ แต่ว่าด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ของตรีศูลและวงจรเพรูต้าแล้ว ฉันก็มีพลังที่มากพอจะทะลวงมันได้ ในท้ายที่สุดหอกของฉันก็แทงทะลุผิวหนังของมันไปอย่างเต็มกลืน
[ฮ่าๆๆๆๆ นี้คือพลังของฮีโร่!? น่าขำจริงๆ]
“มันเพิ่งจะเริ่มเอง แนนดิต่อเลย”
[มอออออออออออ!]
ในตอนนี้ฉันได้ทะลวงหนังของมันไปแล้วหนึ่งครั้ง งานที่ฉันทำต่อจากนี้ก็ง่ายมาก มันก็คือการขยายรูเล็กๆนี้ให้กลายเป็นหลุมยักษ์!
ฉันได้แทงหอกลงไปอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง นี่มันไม่ได้ใกล้เคียงกับความเร็วของพายุหอกสายฟ้าจริงๆ! ฉันได้ทุ่มเทมานาไปที่กล้ามเนื้อของฉันและใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์ ความเร็วที่ฉันที่ฉันแทงหอกออกไปได้เพิ่มมากขึ้น
“ย๊าาาาากกกกกก!”
แม้ว่ามันจะไม่มีข้อความใดๆออกมาแต่ก็มีกระดูกสีขาวยิงลงมาจากท้องฟ้าและแทงเข้าไปในจุดที่ฉันโจมตี ผลของบัลลังก์แห่งหนามกำลังทำงาน! หลุมที่ฉันสร้างได้ถูกขยายขึ้นในทันที
[อ๊าก!]
ดูเหมือนว่าราชาแห่งสรรพสัตว์จะไม่สามารถเมินการโจมตีของฉันได้เหมือนก่อนหน้านี้อีก มันได้สะบัดร่างกายอย่างรุนแรงเพื่อที่จะทำให้ฉันตกไปจากหลังของมัน แต่เนื่องจากว่าเขาของแนนดิยังคงแทงอยู่ที่ไหล่ของมันทำให้แผลของมันกว้างขึ้นและเลือดได้เริ่มไหลออกมามากขึ้นไปอีก ในทางกลับกันฉัยก็ยังจับหอกที่แทงอยู่บนหลังมันแน่น เมื่อคิดว่าฉันได้อ่อนแอลงไปมากจากการเสียแต้มสเตตัสไปทำให้ฉันได้แต่กัดฟันแน่น
“เหมือนฉันยอมแหละ!”
เทคนิคที่ฉันได้พัฒนาขึ้นมามันไม่ได้หายไปแค่เพราะว่าฉันเสียความแข็งแกร่งไปเล็กน้อยหรอกน่า! ฉันได้จับหอกของฉันแน่นด้วยมือทั้งสองข้างตั้งสมาธิที่พลังกายภาพไปในจุดๆเดียวและโจมตีลงไป หอกของฉันได้แทงลงไปบนหลังของมันกว่าครึ่ง ดูเหมือนว่ามันจะไม่สนใจฉันอีกต่อไปไม่ได้แล้ว
[อ๊าาาาาา]
เมื่อมันได้ร้องออกมาร่างกายของมันได้สั่นและขนบนร่างของมันได้กลายเป็นเส้นตรง ฉันได้รีบเปิดใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์เมื่อรู้สึกผิดปกติขึ้นทันทีเพื่อจะดึงหอกออกมาและกระโดดขึ้นไปบนฟ้า
“ริยู”
[อื้อ]
[ลองลิ้มรสราชาคนนี้ดู!]
และสิ่งที่ฉันคิดก็ได้กลายเป็นจริง ขนที่ตั้งตรงของมันได้ถูกยิงออกมา! แม้ว่าริยูจะสร้างกำแพงขึ้นในทันทีที่ฉันเรียกเธอออกมาแต่ว่าด้วยความแข็งและคมของมันทำให้บาเรียป้องกันไม่ได้
เมื่อฉันได้ตระหนักได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ฉันได้สร้างพายุสายฟ้าขึ้นด้วยพลังของเทพสายฟ้าและวงจรเพรูต้าทันที ขนที่พุ่งออกมาที่เสียแรงไปบ้างจากตอนที่เจาะบาเรียของริยูได้พุ่งเข้ามาหาฉัน
“อึก!”
[ก๊าซซซซซซ]
เสียงร้องของฉันได้ถูกกลบไปจกเสียงร้องของแนนดิในทันที ฉันได้ฝืนทนความเจ็บปวดเอาไว้และโคจรวงจรเพรูต้าขึ้น ตอนนั้นเองจู่ๆก็ได้มีเสียงหนึ่งกระซิบในหูฉัน
[นายท่าน ข้าจะใช้พลังสุดท้าย]
เสียงนี่เป็นของ… แนนดิ! เขาดูสุภาพอะไรแบบนี้!?
[ถ้าข้าใช่พลังนั่นข้าก็จะหายไป ศัตรูยังมีพลังอยู่ดังนั้นอย่าได้ลดการป้องกันลงนะนายท่าน]
จากนั้นแนนดิได้ก้าวถอยไปถอนเขาออกมาจากร่างของราชาแห่งสรรพสัตว์ ในขณะเดียวกันฉันก็ได้ดึงเอาขนของมันที่แทงเข้ามาในร่างของฉันออกไปด้วยพลังของวังวน แนนดิกับฉันต่างก็เสียเลือดไปอย่างมาก
แต่ว่าสิ่งมันยังมีสิ่งที่สำคัญกว่านั้น ฉันได้ตั้งสมาธิกับการวงจรเพรูต้า ฉันได้กัดฟันแน่นและเล็งหอกไปทางราชาแห่งสรรพสัตว์
[ข้าจะใช้พลังของข้าเปิดช่องว่างให้ จากนั้นท่านก็โจมตีนายท่าน]
[ขอบคุณมากแนนดิ ฝากด้วยนะ]
[มันเป็นเกียรติมากที่ข้าได้รับใช้ท่าน ท่านจะต้องเดินไปตามเส้นทางที่คู่ควรกับชื่อของพระศิวะ]
ทันใดนั้นแนนดิก็ได้เริ่มเรืองแสงสีแดงออกมา เขาได้ดึงดูดความสนใจของราชาแห่งสรรพสัตว์ไปทันที
[เจ้า…! ดี มาลองดู!]
ราชาแห่งสรรพสัตว์ได้ยืดตัวขึ้น ในเวลาเดียวกันร่างของมันก็เริ่มเรืองแสงสีทองออกมา ในขณะเดียวกันฉันก็เริ่มเตรียมการโจมตีครั้งสุดท้าย
“ความพิโรธของเทพแห่งท้องฟ้า การละเล่นของเทพแห่งท้องฟ้า!”
ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากจะใช้โอเวอร์ลอร์ด แต่ว่าราชาแห่งสรรพสัตว์มันไม่ใช่ศัตรูเพียงแค่ตัวเดียวที่ฉันจะต้องมาเผชิญหน้าในวันนี้และสิ่งที่เคียร่าได้บอกมาก็ยังอยู่ในหัวของฉัน จริงๆแล้วฉันยังลังเลที่จะใช้ความพิโรธของเทพแห่งท้องฟ้าด้วยซ้ำ แต่ว่าฉันไม่มีทางเลือกอื่น หากไม่ใช้มันฉันก็ไม่อาจจะเอาชนะมันได้
ในตอนนี้ที่ฉันได้ใช้มันแล้ว ฉันได้มั่นใจเต็มร้อยว่าฉันสามารถเอาชนะมันได้ จากนั้นการโจมตีของแนนดิก็ออกไป
[ก๊าซซซซซซซซซซซ]
[งั้นไว้เจอกันเดือนหน้านายท่าน]
เสียงที่เคร่งขรึมของแนนดิได้ดังขึ้นภายในหัวของฉัน จากนั้นร่างของแนนดิก็ได้กลายร่างกายเป็ฯเลือกและเข้าไปโจมตีราชาแห่งสรรพสัตว์ ราชาแห่งสรรพสัตว์ก็ยังเปล่งเสียงคำรามออกมา
[นี่คือสิ่งที่เจ้าจะต้องชดใช้กับการที่มาท้ายท้ายราชาของสรรพสัตว์]
พลังขนาดใหญ่ของทะสองได้ปะทะเข้าด้วยกันและพื้นที่นี้เกิดความปั่นป่วนขึ้นทันที ด้วยพลังที่ยิ่งใหญ่นี้มันมากพอที่จะทำลายพื้นที่นี้ได้ มันเป็นไปได้ที่จะทำลายโลกนี้ที่สร้างขึ้นมาจากพลังของดันเจี้ยนได้เลย
โชคร้ายที่ว่าพลังของพวกเขาไม่ได้เล็งไปที่พื้นที่โดยตรงทำให้มันยังไม่สามารถจะฉีกมิตินี้ได้ แต่ว่าแรงปะทะกันนี้ก็ยังคงยิ่งใหญ่อยู่ พื้นดินได้แตกออกและมานารอบๆได้กระจัดกระจายไปทั่วจากแรงระเบิดที่พวกเขาสร้างขึ้น มันเป็นฉากที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
ในท้ายที่สุดแล้วก็เหลือเพียงราชาแห่งสรรพสัตว์ที่เหลืออยู่ แต่ว่ามันก็มีเลือดที่ไหลออกมาอย่างไม่สิ้นสุดจากแผลที่เปิดกว้างของมัน แต่ไม่ว่ายังไงมันก็ยังรอดอยู่
[อ๊ากกกกกกกก! ใครกันที่กล้ามายืนท้าทายข้า!? นอกเหลือไปจากเขาคนนั้นก็ไม่มีใครที่จะฆ่าข้าไป! ใช่แล้ว แม้แต่ฮีโร่ก็ไม่…อ่า?]
ในท้ายที่สุดแล้วมันก็ได้ตระหนักแล้วว่าฉันหายไป มันแข็งแกร่งกว่าราชาลาวาแต่ก็ดูเหมือนมันจะมีความโง่เข้ามาชดเชยไป
[….เจ้าหายหัวไปไหนกัน? เจ้าตายแล้วหรอ?]
ราชาแห่งสรรพสัตว์ได้พึมพัมออกมา เมื่อฉันได้ยินเสียงนี้ฉันอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
จากนั้นฉันก็เคลื่อนไหวในทันที