บทที่ 318 – แนวทางการขัดแย้ง (5)
“….”
“….”
ทุกๆคนดูตกใจอย่างมาก ฉันก็คิดเอาไว้แล้วเพราะการระเบิดมันใหญ่เกินไปหน่อย หากว่าฉันไม่ได้ขว้างมันฝรั่งหวานออกไปสุดกำลังเราก็น่าจะโดนแรงระเบิดด้วยเช่นกัน
“อึก!”
“แค่กๆ!”
“มะ เมื้อกี้เกิดอะไรขึ้น!?”
“มะ มันโจมตี! … ด้วยมันฝรั่งหวาน!”
ในขณะที่เบื้องล่างเต็มไปด้วยเพลิงและลม ฉันก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของปีศาจขึ้นและดื่มมานาโพชั่นลงไป
“ฉันไม่เห็นเลยว่าระยะทำลายของมันไปถึงไหน… คังชินทำได้ยังไงกัน?”
“พูดตามตรงแล้วฉันก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน ฉันคิดว่าขนาดของระเบิดอย่างมากก็แค่ขนาดของกรุงโซล”
“นายหมายความว่านายทำลายเกาหลีได้ด้วยมันฝรั่งหวานเพียงลูกเดียว…..”
ฉันได้เมินความเห็นของเยอึนและโคจรวงจรเพรูต้ากับวิญญาณสัมบูรณ์ไปจนถึงขีดสุด ฉันได้เริ่มที่จะดูดซับมานาในชั้นบรรยากาศไปพร้อมๆกับพลังงานแห่งความตายที่ปกคลุมไปทั่วกรีนแลนด์ การดูดซับในพลังทั้งสองอย่างที่แตกต่างกันนี้มันยุ่งยากนิดๆแต่ว่ามันก็เทีบไม่ได้เลยกับในตอนที่ฉันฝึกวงจรเพรูต้า
เนื่องจากว่าฉันทำแบบนี้ไปอย่างต่อเนื่องทำให้ฉันขมวดคิ้วขึ้น ฉันตระหนักได้เลยว่ามันมีปีศาจจำนวนมากกว่าที่ฉันคิดเอาไว้ในกรีนแลนด์และจำนวนพวกปีศาจที่ตายไปมันก็เกินกว่าที่ฉันคาดเอาไว้มากๆ
ฉันได้ถามขึ้นกับดอร์ตู
“ดอร์ตูนี่มันใช่พลังของโอริชาคอสหรือป่าว?”
[ข้าดอร์ตู มันไม่ใช่แค่โอริชาคอส โลหะจากชั้นที่ 86 มันมีคุณสมบัติที่พิเศษอยู่ซึ่งข้าได้เสริมเข้าไปในโอริชาคาส โลหะของดอร์ตูสามารถพัฒนาการได้เสมอ]
ดอร์ตูดูจะกระตือรือร้นในการเล่าเนื้อหาของโลหะที่เขาทำขึ้นมามากๆ
[ข้าดอร์ตู โลหะพวกนั้นถูกกระตุ้นด้วยมานาและสามารถจะเปลื่ยนมานาทั้งหมดไปเป็นพลังทำลายบริสุทธิ์โดยที่ไม่เสียพลังงานใดๆไป โอริชาคอสก็ได้ขยายมานาเป็นอย่างดี ดังนั้นมานาของนายท่านจึงถูกขยายออกไปอย่างมากก่อนจะเกิดการระเบิด การอธิบายรายละเอียดที่มากกว่านี้จำเป็นต้องเสียเววลาถึงสองวัน]
“ไม่ต้องหรอก ฉันเข้าใจแล้ว”
[ข้าดอร์ตู….]
แค่รู้ว่าโลหะของดอร์ตูมีพลังในการเสริมพลังการระเบิดมันก็พอแล้ว แน่นอนว่าด้วยเท็มเพรสที่ฉันสร้างขึ้นรอบๆมันฝรั่งหวานมันก็ยังเพิ่มพลังขึ้ไปด้วย พลังทำลายล้างที่กว้างสุดลูกหูลูกตานี่ก็คือผลลัพธ์ของมัน
“ด้วยการโจมตีนี้หัวหน้าของพวกมันก็น่าจะต้องรู้ตัวแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น”
“บางทีเขาก็อาจจะตายไปแล้ว”
“ฉันไม่คิดงั้นนะ มานาที่ฉันใช้ไปในครั้งนี้ก็มีพลังของดันเจี้ยนด้วย”
ถ้าหากว่าฉันเว้นพลังของดันเจี้ยนไว้มานาของฉันก็มีแค่ราวๆหกแสน นั่นมันก็ยังเป็นจำนวนที่น่ากลัวแต่ว่าในจุดนี้มันก็ไม่ได้มากนัก การโจมตีก่อนหน้านี้มีพลังของดันเจี้ยนผสมด้วยดังนั้นไม่ว่าหัวหน้าของพวกมันจะเป็นใคร คนๆนั้นยังไม่ตาย
“ฮีโร่มาหาเรา”
“อึก แต่ว่าเราไม่มีพลังที่จะสู้กับเขา พวกเราตายมากเกินไปแล้ว….!”
“นี่มันต่างจากสิ่งที่ได้ยินจากพวกเขานี่! ฮีโร่พัฒนาเร็วเกินไปแล้ว…! เขาไม่ใช่มนุษย์!”
“….ฉันไม่เคยเห็นปีศาจที่กลัวมนุษย์มาก่อนเลย”
เมื่อเห็นพวกปีศาจที่รอดอยู่คุกเข่า เดซี่ก็พูดออกมาอย่างอดสู เธอได้ขยับอย่างรวดเร็ว เธอไม่สามารถจะเรียกลากิได้เพราะเธอมีไอกันธ์ออกมาแล้ว สิ่งที่เธอหยิบออกมาคือสีเงินบางอย่าง
“หืมม?”
มันดูคุ้นๆ มันเป็นโครงกระดูกสีเงินที่ประดับประดาไปด้วยเสื้อคลุมสวยงาม มันคือ…. ราชาแห่งความตาย!
[ซากศพจำนวนมาก]
“เมลิปลุกพวกนี้ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ใช้แค่ครั้งเดียวพอ”
[เข้าใจแล้ว]
ราชาแห่งความตายเมลิค่อยๆลดตัวลงไปบนพื้นอย่างช้าๆ เดซี่ก็ได้อธิบายออกมาในขณะที่มองเมลิ
“พลังเวทย์ของเมลิน้อยกว่าของลากิ มันก็เลยง่ายที่จะควบคุม มันเยี่ยมที่สุดสำหรับการปลุกอันเดต”
“ว้าว”
เธอพูดถูกเลย ทุกๆครั้งที่คทาของเมลิชี้ออกไปจะมีซากศพของปีศาจจำนวนมากลุกขึ้นมา ปีศาจที่ฟื้นจากอากาศตกใจได้เริ่มสะดุ้งเมื่อเห็นพรรคพวกที่ตายไปแล้วลุกขึ้นมา
“นี่… นี่มันเนโครแมนเซอร์!”
“ไม่ใช่เนโครแมนเซอร์ธรรมดาด้วยล่ะ!”
“นี่มันลิซ! เราต้องฆ่ามัน!”
“ฮีโร่กำลังใช้ลิซ…!?”
ฉันก็ไม่สนใจและดูดมานากับพลังแห่งความตายต่อไป ฉันได้ใช้มานาทั้งหมดไปกับการโจมตีก่อนหน้านี้ไปแล้ว ฉันรู้ด้วยว่าอีกไม่นานนักหัวหน้าของพวกมันจะต้องมาแน่ ความสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือฉันจะต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อมที่สุด
“เด็กๆไปเลย!”
ยุยก็ยังได้ส่งมอนสเตอร์ของเธอออกไปจัดการกับพวกปีศาจที่บาดเจ็บอยู่ ตั๊กแตนยักษ์ได้กระโดดลงไปทีละตัวจากทั้งฟ้า…. เมื่อไหร่กันนะที่พวกมันตัวใหญ่แบบนี้นะ พวกมันมีขนาดใหญ่ประมาณมนุษย์สองคนในสองวันก่อน แต่ว่าในตอนนี้มันใหญ่กว่าตึกแล้วนะ
“เฮะๆ พวกเขาตัวใหญ่ขึ้น พวกเขาได้พัฒนาอย่างมากเลยจากการได้กินอาหารดีๆ”
ยุยได้อธิบายออกมาเมื่อเห็นความตกใจของฉัน เธอได้หัวเราะออกมาอย่างภูมิใจ ตั๊กแตนที่ได้เข้าสู่วัยผู้ใหญ่แล้วก็ได้เริ่มโจมตีปีศาจทันที ด้านล่างได้เต็มไปด้วยเสียงร้องต่างๆมากมาย
“อ๊ากกกก!”
“ระ เราจำเป็นต้องโจมตีตัวควบคุมพวกมัน!”
“ให้ตายสิ เมื่อไหร่ท่านดยุคจะมาถึงกัน!”
“มันฝรั่งหวานนนนนนนน!”
ฉันได้ยินเสียงปีศาจร้องและสาปส่งมันฝรั่งหวานออกมา ตั๊กแตก็รู้ว่าพวกมันไม่สามารถจะเอาชนะปีศาจที่ทรงพลังได้เพียงลำพังทำให้พวกมันได้ร่วมมือกันโจมตีด้วยกัน จนในที่สุดพวกมันก็เอาชนะมาได้ด้วยการร่วมมือและแบ่งอาหารกันอย่างสามัคคี เนื่องจากพวกปีศาจเป็นแหล่งพลังเวทย์ชั้นดีทำให้ตั๊กแตนได้พัฒนาอย่างมากในทุกๆครั้งที่ฆ่า
[ระเบิด! ระเบิด! ตาย! ตาย!]
ในทางกลับกันเมลิก็ได้ควบคุมอันเดตที่ตายเข้าไปโจมตีเช่นกัน
พวกเราได้จัดการกวาดล้างพื้นดินอย่างรวดเร็วและจัดการฆ่าปีศาจทุกๆตัวที่เราเจอ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้ไปช่วยด้วย แต่ว่าความสามารถของยุยกับเดซี่ก็พอจะทำหน้าที่นี้แล้ว ตั๊กแตนของยุยได้แข็งแกร่งขึ้นในทุกๆครั้งที่กินพวกปีศาจลงไปและน่ากลัวมากยิ่งขึ้น การระเบิดอันเดตของเมลิก็ยิ่งน่ากลัวขึ้นเมื่อทำการระเบิดติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ถ้าหากว่านรกมีจริงงั้นสถานการณ์ในตอนนี้ก็คงไม่ต่างกันนักหรอก
“ไม่ใช่ว่านี่มันเป็นปาร์ตี้ของฮีโรหรอ แค่มองมันดูเหมือนว่าเราจะเป็นปาร์ตี้ของเดม่อนลอร์ดซะอีกนะ”
“มันดูเหมือนเรากำลังมาพิชิตโลกเลย”
“คังชินไม่มีระเบิดมันฝรั่งหวานอีกแล้วหรอ”
“ฉันยังไม่ฟื้นมานาเลยนะ”
“ลุยเลยเด็กๆ! อย่าบาดเจ็บนะ ระวังกันด้วย!”
หลังจากที่ปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วนได้ตายไปลงแล้วทำให้เมื่อมองลงไปด้านล่างก็เห็นแต่แอ่งเลือด เศษเนื้อ และปีศาจอันเดตกับตั๊กแตนยักษ์
ปีศาจได้ร่วมมือกันต่อต้านแต่ว่าอันเดตของเมลิก็ได้ใช้การระเบิดที่ทรงพลังเข้าใส่จากนั้นตั๊กแตนของยุยก็จะเข้าไปบดขยี้พวกมันซ้ำก่อนที่จะกินพวกมันเป็นอาหาร
ฉันไม่รู้ว่ามันผ่านไปนานแค่ไหนแต่ว่าในตอนนี้มานาของฉันมันก็เต็มแล้ว ฉันจะให้อันเดตกับตั๊กแตนกลับมาแล้วใช้กระจกโลหะกับดวงตามารร่วมกันก็ได้ แต่ว่าฉันก็แค่ดูโดยไม่ธรรมอะไรเพราะพวกเธอก็ทำได้ดีอยู่แล้ว ในขณะที่รออยู่บนหลังไอกันธ์นี้ ฉันก็ได้ส่งมานาเข้าไปที่หอกของฉันด้วย
กรีนแลนด์ ที่ที่ครั้งหนึ่งมีแต่น้ำแข็งกับหินตอนนี้ได้กลายเป็นดินที่แห้งแล้วแล้ว เมื่อแผนดินได้รับเลือดและเนื้อของปีศาจมันก็ได้เริ่มอุดมสมบูรณ์มากขึ้นอีก
“ฮีโร่อยู่ที่นั่น!”
“อย่าให้มันตายอย่างสงบสำหรับฮีโร่ที่ฆ่าพี่น้องเรา”
“องค์เหนือหัวได้บอกเอาไว้ว่าใครก็ตามที่เอาหัวของฮีโร่ไปได้จะได้รับรางวัลอย่างมาก!”
ในตอนที่ฉันคิดว่าอีกไม่นานมันจะจบลงฉันก็ได้ยินเสียงตะโกนที่เต็มไปด้วยจิตสังงหารออกมา ฉันได้เงยหน้าขึ้นไปและหันไปมองทางเสียงตะโกน
ฉันได้มองเห็นมอนสเตอร์ที่บินอยู่ที่มีรูปร่างไวเวิร์นที่ผิดแปลกไปทันที ร่างกายของพวกมันเป็นสีดำสนิทและมีกระดูกสีเลือดที่ยื่นออกมา นอกไปจากนี้ดวงตาสีเหลืองของมันก็ยังมีออร่าที่คุกคาม
“มานาที่ทรงพลังคังชิน ระวังตัวด้วย”
“เดซี่ตั้งสมาธิที่พื้นดินพอ เยอึน”
“อื้อ”
เยอึนได้ชักมีดสั้นออกมาและโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยก่อนฉันจะได้เรียกเธอซะอีก เธอพร้อมที่จะพุ่งออกไปทุกเมื่อแล้ว เธอเป็นคนที่น่าสงสารที่สุดในเวลานี้แต่ว่าในสนามรบเธอน่าเชื่อถือมาก
“จงลิ้มรสความไม่พอใจของเราไปซะ!”
“แกจะต้องชดใช้ที่มาต่อต้านเรา!”
มานาจำนวนมหาศาลได้รวมเข้าด้วยกันเป็นเวทย์ลอยเข้ามาหาพวกเราอย่างรวดเร็ว ฉันได้ปล่อยมือข้างหนึ่งจากหอกและยื่นไปข้างหน้า
“ริยู!”
[ฉันต้องให้ชาราน่าช่วย!]
ฉันได้ส่งชาราน่าออกไปด้วยเหมือนกัน จากนั้นโล่น้ำแข็งได้เริ่มสร้างขึ้นข้างหน้าของฉัน มันใหญ่มากพอที่จะปกคลุมด้านหน้าของไอกันธ์ทั้งหมด เมื่อเวทย์ของปีศาจปะทะเข้ากับโล่นี้ โล่ก็ได้ดูดซับแรงกระแทกและทำให้มันหายไป ฉันเห็นได้อย่างชัดเจนว่าปีศาจไปผงะกลับไป
“เขาไม่ใช่นักสำรวจ!?”
“ฉันคิดว่าเราลบล้างพลังของดันเจี้ยนได้แล้วนะ!”
“เยอึนเธอได้ยินแล้วนะ? พวกนี้ดูเหมือนจะเป็นกลุ่มที่ลบล้างพลังของดันเจี้ยนได้!”
“ไม่ต้องห่วง เทคนิคที่ฉันเรียนมาจากอาจารย์ไม่ใช่ของดันเจี้ยน”
แม้ว่าจะได้ยินสิ่งที่ฉันพูดความมั่นใจของเยอึนก็ไม่ได้สั่นคลอนเลย ฉันได้ตัดสินใจว่าเธอไม่เป็นอะไรเมื่อเห็นออร่าสีดำโผล่ออกมาบนตัวเธอ
“เดซี่ ยุย จัดการบนพื้นดิน”
“กำลังทำอยู่ คังชินป้องกันฉันด้วย”
“ไว้ใจเราได้เลยค่ะพี่”
ยิ่งเวลาผ่านไปพวกมอนสเตอร์บินแปลกๆนี่ก็ปรากโตัวขึ้นมามากขึ้น ฉันเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าอย่างน้อยก็สองร้อยตัวแล้ว พวกมันแต่ล่ะตัวต่างก็มีพลังที่มากกว่าพวกปีศาจที่เราเห็นในกรีนแลนด์ทั้งนั้น การที่มันเมินได้แม้แต่พลังของดันเจี้ยนนี่… พวกมันต้องเป็นพวกชั้นสูงแม้แต่ในหมู่ปีศาจแน่
“แต่ว่าชิน ชินป้องกันเวทย์นั่นได้ยังไงในเมื่อพวกมันลบล้างพลังของดันเจี้ยนได้?”
“ฉันมีพลังของผู้ใช้ธาตุ”
ฉันตระหนักได้ว่าเราถูกล้อมแล้ว เนื่องจากว่าฉันรู้สึกได้ว่าพลังของดันเจี้ยน พลังของชาราน่าได้ออกไปจากร่างฉันอย่างช้าๆ ฉันก็สูดหายใจเข้าลึก
“โชคดีนะที่พวกมันไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับเรสพิน่า แต่ว่าถ้าพวกมันเข้ามาใกล้กว่านี้เดซี่กับยุยโดนผลกระทบอย่างมากแน่ เธอเข้าใจสิ่งที่ฉันจะบอกนะเยอึน?”
“อื้้อ แต่ว่าฉันบินไม่ได้อะ”
“ฉันจะให้เธอยืมริยู”
[ฮี้ ฉันอยากจะอยู่กับชิน โอเค….]
ริยูได้สร้างที่รองเท้าน้ำแข็งขึ้นมาอย่างง่ายๆ เยอึนก็เข้าใจในสิ่งที่ฉันบอกทำให้เธอยิ้มสดใสออกมา
“ถ้างั้นฉันไปแล้วนะ”
“ระวังตัวด้วย ฉันจะออกไปก่อน”
ฉันได้อัญเชิญธาเลเรียออกมาและบินขึ้นไป
“ฮีโร่อยู่นั่น!”
“มันฆ่าพี่น้องเราไปกว่าล้าน! ฆ่าเจ้าฮีโร่ชั่วร้ายนั่น”
“เพื่อองค์เหนือหัวเรา!”
ฉันได้สร้างกระจกโลหะขึ้นทันทีเมื่อรู้สึกได้ว่าปีศาจได้หันมาสนใจทางฉัน ดวงตามารของฉันมันใช้ไม่ได้ผลกับปีศาจชั้นสูงพวกนี้ แต่ว่าเศษโลหะก็เป็นพลังโจมตีได้เช่นกัน
“ฟู่…. ฮ่าาา….!”
ดินแดนที่ปกคลุมไปด้วยพลังแห่งความตาย ฉันได้สูดหายใจเข้าลึกๆและพลังแห่งความตายก็ได้เริ่มเอ่อข้าในร่างของฉัน
ฉันได้แบ่งพลังนี้ออกไปอย่างเท่าๆกันในเศษโลหะของดอร์ตู
“ดอร์ตูใช้พวกมันให้ดี”
[ข้าดอร์ตู…]
ดอร์ตูได้ตอบอย่างมั่นใจ
[เชื่อในภูติธาตุของนายท่าน]
เศษโลหะที่เต็มไปด้วยพลังแห่งความตายได้ลอยเข้าไปหาปีศาจที่บินอยู่ มันดูเหมือนกับกลีบดอกเกสรที่ลอยออกไปตามรบ ถึงแม้ว่าฉันจะมองเห็นไม่ชัด แต่ฉันก็รู้ได้เลยว่าพวกมันได้รับบาดเจ็บจนล่วงลงไป ฉันได้ตะโกนออกมาด้วยรอยยิ้ม
“เข้ามาหาฉันนี่! ถึงแม้ว่าจะไม่มีพลังของดันเจี้ยน ฉันจะกวาดล้างพวกแกทั้งหมดเอง!”