บทที่ 319 – แนวทางการขัดแย้ง (6)
“อึก!?”
“หยุดมัน! โลหะนั่นมันอันตราย”
พวกปีศาจนี่ก็ดูเหมือนจะชอบทำตัวเป็นอัศวินมังกรเพราะพวกมันทั้งหมดต่างก็ใส่เกราะเต็มตัว ยังไงก็ตามเศษโลหะของดอร์ตูที่ถูกยิงออกมาได้เจาะผ่านช่องว่างของเกราะไปและสร้างความเสียหายให้กับพวกมันได้ พลังงานแห่งความตายได้บุกเข้าไปในร่างของพวกมันจากนั้นพวกมันก็อ่อนแอลงไป
“มันใช้พลังแห่งความตายได้”
“โจมตีพร้อมกัน!”
มอนสเตอร์นกปีศาจได้พุ่งเข้ามาหาเขา ดูเหมือนว่าพวกมันจะรู้ตัวแล้วว่าไม่สามารถจะหลบการโจมตีของดอร์ตูได้อีกต่อไปทำมห้พวกมันทนต่อเศษโลหะที่อยู่ระหว่างทางเอาไว้ ในตอนนี้เองเยอึนก็ได้กระโดดมาข้างหน้าฉัน
“ถ้าศัตรูคือปีศาจ….”
เมื่อร่างของเยอึนได้หายไปจากสายตาของฉันหัวของปีศาจที่อยู่ใกล้เราที่สุดก็รอยออกไป มอนสเตอร์นกที่มันขี่อยู่ก็ยังร่วงลงไปพร้อมกับเลือดบนคอของมันอีกด้วยเช่นกัน
“เธอเร็วจริงๆ”
ความเร็วของเธอมันทำให้ฉันคิดว่าเธอมีความเร็วศักดิ์สิทธิ์ด้วยว้ำไป ยังไงก็ตามถ้าฉันจำไม่ผิด ฉันคิดว่าเธอเคยบอกฉันว่าเธอเคลื่อนที่ผ่านเงานี่ ไม่ว่ายังไงความเร็วของเธอก็น่าทึ่งอยู่ดี ปีศาจก็ยังหยุดกับที่เมื่อเห็นว่าจู่ๆพรรคพวกของมันก็ตายไป ในขณะเดียวกันหัวของปีศาจตัวอื่นๆก็เริ่มลอยขึ้นมา ด้วยพลังของปีศาจพวกนี้ทำให้ฉันเห็นได้ชัดเจนถึงพลังของเยอึนที่พัฒนาขึ้นมา
“ฉันก็จะไม่แพ้หรอกน่า!”
ฉันก็ไม่ได้คิดจะรับการโจมตีของปีศาจพวกนี้เฉยๆหรอกนะ ฉันได้เล็งหอกไปในทางตรงกันข้ามกับเยอึนและเริ่มพุ่งออกไป ลมพายุได้เริ่มมาหมุนรอบๆตัวของฉัน
“ฉันจะแสดงให้แกเห็นราชันวายุพิโรธเอง!”
“ภายใต้นามองค์เหนือหัวเดม่อนลอร์ด เราจะปราบปรามแกเอง”
“เพื่อองค์เหนืออยู่”
ปีศาจได้ตะโกนออกมาอย่างกล้าหาญและยกอาวุธที่ปลุกคลุมด้วยเวทย์ที่น่าขนลุกขึ้นมา ในเวลาเดียวกันนี้ออร่าแปลกๆได้ไหลออกมาจากพวกมันดูเหมือนจะบีบฉันเอาไว้
ยังไงก็ตามฉันได้ปัดมันถึงเหมือนกับที่ฉันเคยมีประสบการณ์กับมันมาหลายครั้งแล้ว จริงๆแล้วการที่พวกมันปิดกั้นพลังของดันเจี้ยนมันช่วยให้มีสัมผัสที่ชัดขึ้นและผลักดันพลังพวกนี้ไปด้านอื่นๆ
นอกไปจากนี้ต่อให้ไม่มีพลังของดันเจี้ยน ฉันก็ไม่ได้อ่อนแออีกต่อไปแล้ว
“จับอาวุธพวกแกให้แน่นล่ะ อย่าได้ตายก่อนฉันจะใช้มันนะ!”
ฉันได้แทงหอกของฉันใส่ปีศาจด้านหน้า ผิวสีน้ำเงินและตาสีแดงของมันได้เบิกกว้างขึ้น มันได้พยายามเอาโล่มากันแต่ว่าเมื่อมันได้สบตากับฉัน เสียงที่มันปล่อยออกมาก็ได้ยืนยันว่ามันคือผู้หญิง
“ฮะ ฮีโร่ ฉัน…..”
“ความรักของศัตรูไม่ได้รับอนุญาต”
ฉันได้แทงหัวของเธออย่างไร้ปราณี จากนั้นฉันก็พุ่งสูงขึ้นไปโดยใช้มอนสเตอร์นกเป็นฐานหยั่งเท้า จากนั้นก็ใช้พลังงานลงเพื่อกระตุ้นการโจมตีต่อไป
เป้าหมายต่อไปของฉันไม่ใช่ผู้หญิงและมันก็ได้ยิงบอลสายฟ้าหนาออกมาจากมือ ในตอนที่สายฟ้าสีแดงได้ปะทะกับร่างของฉันมันก็ได้หายไปโดยไร้ร่องรอย ในทันทีจากนั้นฉันก็ได้เข้าใกล้ปีศาจมากพอจะเห็นรูขุมขนของมัน ดวงตาที่ตกใจของมันดูค่อนข้างจะตลกเลย
“ได้ยังกัน..!”
“น่าเสียดายนะ”
ฉันได้แทงไปที่หัวของปีศาจและเลือดสีน้ำเงินได้กระฉูดออกมาใส่ตัวของฉัน
“นั่นมันอะไร!? มันมาแล้ว!”
“อึก มันคือสัตว์ประหลาด!”
“องค์ราชาอยู่ไหนกัน!?”
“หน้าที่ของเราคือทำภารกิจของเราให้สำเร็จ! โจมตี!”
ในตอนนี้ปีศาจได้มารวมกันเพื่อต่อต้านฉัน ปีศาจตัวหนึ่งได้ถูกตัดหัวออกไปและเยอึนก็เผยตัวออกมาในทันที ในมือของเธอได้มีมีดสั้นสองเล่มที่ส่งแสงจากๆออกมาทำให้ฉันสงสัย
‘เธอได้เรียนรู้การบีบอัดพลังถึงขั้นนี้แล้วหรอ?’
“อั๊ก!”
“ผู้หญิงคนนี้!”
“แกจับความเร็วฉันไม่ทันหรอก”
มอนสเตอร์นกได้พ่นลมหายใจที่ผสมระหว่างไฟและกรดออกมา แต่ว่าเยอึนก็หายไปแล้ว ด้วยการเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระที่ริยูสร้างขึ้น เยอึนได้เคลื่อนไหวเหมือนกับเธอกำลังเล่นเกมพินบอล ขบวนแถวของปีศาจได้เสียระเบียบไปจนหมดและฉันก็พุ่งตรงเข้าไปหาพวกมัน
“อ๊กกกกกกกกกก!”
ในตอนที่ฉันได้แทงหอกเข้าใส่ปีศาจ หอกกระดูกจำนวนมากก็ถูกยิงออกไปรอบๆโจมตีใส่ปีศาจที่อยู่ใกล้ๆ ยังไงก็ตามหอกกระดูกไม่ได้มีพลังมากพอที่จะสร้างความเสียหายที่ร้ายแรงในครั้งเดียว
“ฮ่าาาาห์!”
“จงลิ้มรสความพิโรธของปีศาจ!”
“องค์เหนือหัวจะมาเอาชีวิตของเจ้า!”
“แด่ชัยชนะ!”
ถึงแม้แบบนั้นราชันวายุพิโรธยังยังทำงานต่อไป พวกปีศาจได้พุ่งเข้ามาหาฉันในตอนที่พวกมันได้เห็นฉัน พวกมันได้ส่องแสงที่มีพลังปีศาจที่คุกคามออกมา แต่ว่าฉันก็ไม่ใส่ใจและตัดมันออกไปอย่างง่ายๆ จากนั้นดอร์ตูก็เดือนฉัน
[ข้าดอร์ตู สถานะของเกราะได้แปลกไป]
“เกราะ?”
ฉันได้ขมวดคิ้วขึ้นมา ดอร์ตูไม่ได้พูดผิดไปเลย บนพื้นผิวของเกราะความปรารถนาที่ดำมืดสนิทในตอนนี้ได้ถูกปกคลุมไปด้วยเลือดของปีศาจมันส่งแสงจางๆออกมาราวกับว่ามันได้อ่อนตัวลงและแข็งเป็นระยะๆ ฉันไม่สามารถจะเอามันออกไปได้ด้วยพลังของชาราน่าและแม้แต่พลังของไพก้าก็เผามันออกไปไม่ได้
“มันดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่รู้เกี่ยวกับเวทย์โบราณของเรา”
หนึ่งในปีศาจได้พูดอย่างหยิ่งยโส เวทย์โบราณ? ฉันแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกปีศาจเลยสักนิด มันไม่มีทางที่ฉันจะรู้เรื่องเกี่ยวกับเรื่องโบราณของพวกมันแน่ ก่อนอื่นฉันได้ตัดหัวของปีศาจตัวนั้นและพลังงานลมได้ปกคลุมรอบๆตัวของฉัน
ฉันได้พยายามจะถอดเกราะออกไปด้วย แต่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ หากไม่มีความช่วยเหลือจากดันเจี้ยนฉันก็บอกไม่ได้เลยว่าเวทย์มันคืออะไร อย่างน้อยที่สุดฉันก็รู้แล้วว่ามันได้ทำให้ฉันถอดเกราะไม่ได้
“ดอร์ตู”
[ข้าดอร์ตู ข้ากำลังจัดการอยู่ พลังที่น่าสะพรึงกำลังขัดขวางข้า แต่ว่าสำหรับตอนนี้มันไม่ได้ทำอะไรอีกเลย]
แม้แต่ดอร์ตูก็ยังจัดการไม่ได้งั้นหรอ? ทำไมพวกมันถึงซ่อนเวทย์ที่ทรงพลังเอาไว้จนมาถึงตอนนี้ล่ะ? รอยเลือด ความเข้มข้นของพลังและในตอนที่แสงได้ส่องออกมา… มันเป็นไปได้หรือป่าวว่า?
“มันเป็นเวทย์ที่กลั่นมาด้วยชีวิตของเรา! ถ้ารู้แบบนี้เจ้าจะกล้าเปียกด้วยเลือดเราไหมล่ะ?”
อย่างที่ฉันคิดเลย พวกมันได้วางแผนจะตายตั้งแต่แรกแล้ว ฉันได้เริ่มสัมผัสได้ถึงอันตรายบางอย่าง
เวทย์นี่มัสงผลต่อเกราะระดับตำนานโดยที่ฉันทำอะไรกับมันไม่ได้เลย ในตอนที่ฉันได้ผงะไปพวกปีศาจก็เริ่มยิ้มขึ้นราวกับว่าพวกมันได้รับชัยชนะ นี่มันไม่น่าพอใจจริงๆเลย
“ฮึ่ม”
ฉันได้นำพลังสายฟ้าและพลังลมของราชันวายุพิโรธในการโจมตีสุดท้ายมารวมเข้าด้วยกันบริเวณรอบๆหอกของฉัน พวกปีศาจได้รู้ตัวถึงมันและพยายามที่จะหลบหนีไป แต่ว่าฉันได้ปล่อยพลังออกไปก่อนที่พวกมันจะทำได้
“พวกแกทั้งหมดจะต้องตาย”
“อ๊ากกกกกกกก!”
มอนสเตอร์นกนับสิบได้ถูกพายุสายฟ้ากวาดผ่านและหายไปโดยไร้ร่องรอย ปีศาจที่ขี่พวกนกอยู่ก็ยังประสบกับชะตากรรมเดียวกัน จะมีเว้นแค่ไม่กี่ตัวที่หลบออกจากระยะได้ทันเวลา ฉันได้สูดหายใจลึกและตะโกนบอกกับเยอึน
“เยอึนอย่าปล่อยให้เลือดพวกมันถูกตัวนะ”
“ไม่ต้องห่วงชิน ฉันยังปลอดภัย”
ฉันได้หันกลับไปมองตามเสียงของเยอึนที่ดูจะมาจากข้างหลังฉัน แต่ว่าเยอึนไม่ได้อยู่ตรงนั้น กลับกันได้มีเลือดพุ่งออกมาจากปีศาจที่พุ่งเข้ามาหาฉันจากด้านซ้าย
“อ๊ากกกก พวกเราทุกคนรอเจ้าอยู่ฮีโร่ เจ้าจะต้องตายที่นี่!”
“หุบปาก ตายไปซะ”
เพียงแค่คิดถึงวิธีที่น่ารำคาญนี่มันทำให้ฉันปวดหัวมาก แต่ว่าเมื่อเมื่อมันปูดออกมาฉันก็ได้ปล่อยบอลออร่าออกไปและระเบิดพวกมันจนตาย ในเวลาเดียวกันฉันก็โกรธตัวเองมากที่ไม่สังเกตุเห็นเวทย์ทั้งๆที่ฉันคิดว่าฉันเชี่ยวชาญในมานาแล้ว
ส่วนใหญ่ที่มันเป็นแบบนี้เพราะว่าฉันมัวแต่สนใจกับความจริงที่ว่าพวกมันอ่อนแอต่อพลังของดันเจี้ยน หน้าโง่เอ้ย! ถึงแม้ว่าฉันจะต่อสู้กับปีศาจมานับไม่ถ้วนจนถึงตอนนี้ แต่ว่าฉันก็ไม่ควรคิดว่าพวกมันจะเหมือนๆกันสิ
“หัวหน้าจะมาแล้ว!”
“สละชีวิตของเขาจนกว่าท่านจะมาถึง!”
“ถ้าพวกแกอยากจะฝัน ฉันจะทำให้แกหลับไปเอง!”
แต่ว่ามันไม่มีอะไรที่ฉันจะเปลื่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วได้ ฉันไม่คิดว่าการอาบเลือดพวกมันจะทำให้เกิดคำสาป ถึงยังไงมันก็เป็นบทเรียนสำหรับอนาคตแล้ว นับจากนี้ไปฉันจะฆ่าพวกมันโดยที่ไม่มีอะไรมาแตะตัวฉันได้
[ข้าดอร์ตู พลังถูกเปิดใช้งานแล้ว ระวังด้วยนายท่าน]
เสียงที่แหลมคมของดอร์ตูได้เตือนฉันออกมา ฉันได้หยักหน้าทันทีและเคลื่อนไหวต่อไปเร็วยิ่งขึ้น ในเวลาเดียวกันนี้ฉันก็รู้สึกพลังงานจำนวนมหาศาลกำลังลอยยมาหาฉันจากทางเหนือ แม้ว่าฉันจะไม่ได้ยืนยันมันด้วยตาแต่ฉันก็มั่นใจว่ามันคือดยุคที่ปีศาจกำลังพูดถึง เนื่องจากว่าเวทย์ของมันมาใช้งานเอาตอนนี้ ดูเหมือนว่าตัวตนของดยุคจะเป็นตัวการจุดชนวนสินะ
ฉันได้ดึงพลังวิญญาณสัมบูรณ์และวงจรเพรูต้าจนถึงขีดสุด ฉันได้ขอให้ดอร์ตูสร้างบาเรียบางๆขึ้นที่เกราะและผิวหนังของฉัน ด้วยการละเล่นของเทพแห่งท้องฟ้าและโลกมายาแล้วทุกๆสิ่งมันก็จะสมบูรณ์แบบ มันจะไม่มีปัญหาอะไรอีก
“พวก เตรียมตัวให้พร้อม”
“ไอกันธ์เข้าสู่โหมดป้องกัน”
“ลูน่าปกป้องเรา!”
เดซี่กับยุยก็ดูจะรู้สึกได้ถึงพลังของดยุคด้วยเหมือนกันทำให้พวกเธอเริ่มเตรียมตัวทันที
การตัดสินใจของพวกเธอชาญฉลาดมาก กับศัตรูด้านหน้าที่ปิดกั้นพลังของดันเจี้ยน ผู้ฝึกมอนสเตอร์กับเนรโครแมนเซอร์ที่ใช้พลังของมอนสเตอร์มากกว่าของตัวเองจะได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ตราบใดที่พวกเธอยังเชื่อมต่ออยู่กับมอนสเตอร์ก็จะปลอดภัย พวกเธอจะสามารถแสดงพลังได้อย่างเต็มที่
ฉันเป็นกังวลเรื่องเยอึนมากที่สุด แต่ในเมื่อเธอยังไม่เรียกดูก้าออกมามันดูเหมือนว่าฉันไม่ต้องห่วงมากนัก
จริงๆแล้วฉันก็ตกใจความเร็วของเธอที่เทียบได้กับความเร็วศักดิ์สิทธิ์และพลังทำลายที่ตัดหัวปีศาจได้ในทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ในตอนนี้พลังของดันเจี้ยนได้ถูกปิดกั้นอยู่ มันดูเหมือนว่าสิ่งที่ฉันรู้สึกเมื่อไม่กี่วันมานี้จะไม่ผิดไปเลย สำหรับตอนนี้สิ่งที่ขาดสำหรับเธอ… อึก!
[ข้าดอร์ตู คำสาปกำลังทำงานนายท่าน!]
ฉันได้มองเห็นปีศาจที่ถูกเรียกว่าดยุคแล้ว ผู้ชายที่มีปีกยักษ์ที่เหมือค้างคาวและเขายาวบนหัวได้ลอยอยู่เหนือพวกเขาอย่างเหย่อหยิ่ง ฉันไม่ได้เจอเขาในทวีปดูก้า ดังนั้นเขาน่าจะต้องเป็นปีศาจในระดับสูงที่ยังไม่ได้ปรากฏตัวออกมาแน่
ฉันก็ยังมั่นใจด้วยว่าเขาไม่ได้เกิดขึ้นมาพร้อมกับพลังในการปิดกั้นพลังของดันเจี้ยนอย่างเรสพิน่า แต่ว่าเขาปิดกั้นพลังของดันเจี้ยนได้ยังไงล่ะ นั่นมันง่ายมา
เขามีพลังที่มากพอที่จะบดขยี้ศัตรูของโลกโดยเฉลี่ยแล้ว มันก็เหมือนกับการที่ศัตรูของโลกได้ลบล้างพลังของดันเจี้ยนด้วยพลังของพวกมัน ปีศาจดยุคตัวนี้ก็ทำแบบเดียวกันด้วยพลังของตัวเอง นอกไปจากนี้ปีศาจระดับสูงที่โจมตีเราก่อนหน้านี้ก็ยังปกคลุมพื้นที่นี้ด้วยพลังของพวกมัน ส่วนหนึ่งก็เพื่อที่จะใช้คำสาปกับฉัน แต่ว่าหน้าที่หลักก็คือการสร้างสนามรบขึ้นมา พื้นที่ที่พลังของดันเจี้ยนใช้งานไม่ได้
“ยินดีที่ได้เจอนะฮีโร่!”
ปีศาจดยุคได้ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีอะไรในมือเลย เขาก็ได้ยื่นมือมาหาฉันในลักษณะเหมือนยื่นเล็บมาจับอะไรไปจากฉัน
“ข้ารู้สึกขอบคุณจริงๆที่ได้เจอเจ้า แน่นอนว่าข้าจะต้องขอให้เจ้าชดใช้ที่ทำลายฐานใหม่ของเราด้วย!”
[นายท่าน ตอนนี้! ตอนนี้!]
“จงริ้มรสการกระทำของเจ้าซะ!”
ฉันได้เบิกตากว้างขึ้นมา ฉันเข้าใจในสิ่งที่เขาทำแล้ว ฉันรู้สึกคุ้นเคยกับพลังที่ไหลมากเกินไปแล้ว
เกราะความปรารถนาที่ดำมืดได้ระเบิดออกมา ในตอนนี้เกราะที่มีออฟชั่นไม่มีวันถูกทำลายได้ถูกแยกออกจากพลังของดันเจี้ยน จากนั้นก็กระจายเป็นเศษนับล้านชิ้นตกไปทั่วรอบๆตัวฉัน แน่นอนว่าคนที่ใส่มันก็ไม่ได้ปลอยภัยไปกว่ากันอีกด้วย
“ชินนนนนนน!”
เยอึนได้ตะโกนออกมา ในตอนนี้ฉันคิดว่าหากเราสลับเพศกันนี่มันไม่ใช่ว่าเป็นจังหวะดีที่ตัวละครเอกจะปลุกพลังได้ในนิยายเลยหรอกหรอ? ในขณะที่เผชิญหน้ากับความเจ็บปวดที่เกินจินตนาการฉันก็คิดแบบนี้ขึ้นในใจ
ยังไงก็ตามในตอนนี้เองเยอึนก็ได้เริ่มส่องแสงสีน้ำเงินดำออกมา
“ย๊ากกกกกกกกกก”
เยอึนได้ยื่นมือที่ปลุกคลุมด้วยออร่าสีดำออกมา เมื่อเห็นแขนสามคู่งอกออกมาจากไหล่ของเธอ ฉันได้คิดขึ้นอย่างงุนงง
ฉันไม่สามารถจะทำมันเป็นเรื่องตลกได้อีกเลย