บทที่ 331 – คลื่นลูกสุดท้าย (1)
หลังจากออกมาจากบียอนด์ ฉันก็ได้ทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าร้านขายของของโรเล็ตต้า โรเล็ตต้าได้มองมาที่ฉันในทันทีและแสดงความสงสัยออกมา
“ชินไม่ได้เปลื่ยนไปมากเลย”
“นี่ฉันต้องผ่านการเปลื่ยนแปลงในทุกๆครั้งที่กลับมางั้นหรอ?”
“ในช่วงนี้ชินเป็นแบบนั้นตลอด ฉันคิดว่ายายแก่กำลังส่งพลังมาให้ชิน”
ตอนนี้มาคิดดูแล้ว เธอก็พูดไม่ผิดเลย ฉันได้แต่เกาหัวและตอบกลับไป
“อืม เชอร์ราฟิน่าน่าจะมีปัญญาในการเติมช่องว่างชั้นบนๆอีกครั้ง แต่ว่าไม่ใช่ในตอนนี้ ต่อให้ฉันก็ไม่อาจจะดูดซับทุกๆอย่างจากศัตรูทุกๆคนที่เจอได้ อ่า ไม่ว่ายังไง…”
ทันใดนั้นฉันก็นึกได้ถึงสิ่งที่ฉันเพิ่งจะเจอมา ฉันได้กำหมัดขวานแน่นและยกนิ้วชี้ขึ้นมาก่อนที่จะขยับไปทางขวาอย่างช้าๆ
“ใช่ไหม?”
“หืม…”
เพราะโรเล็ตต้าดูจะยังไม่เข้าใจทำให้ฉันได้ขยับอย่างช้าๆและทำท่าทางให้ชัดเจนมากขึ้น เป็นท่าทางที่มีแต่โรเล็ตต้าเท่านั้นที่เข้าใจ
“หุหุ เข้าใจแล้ว”
“ใช่สินะ”
“เยี่ยมมาก… ฉันคิดไว้อยู่แล้วว่าฉันมองไม่ผิดไป”
โรเล็ตต้าได้ยิ้มออกมาอย่างแจ่มใสราวกับว่าเธอได้รู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ฉันได้ยื่นมือออกไปจับมือเธอก่อนที่จะถามถึงสิ่งที่ฉันสงสัยมาตั้งนาน
“นี่เธอได้ตัดสินใจว่าเป็นฉันนับตั้งแต่แรกๆแล้วงั้นหรอ?”
“แน่นอนสิ ฉันมั่นใจตั้งแต่ที่ชินได้อยู่บนชั้นที่ 7 แล้ว”
โรเล็ตต้าได้ยิ้มออกมาอายๆและจับมือของฉันแน่นก่อนจะพูดต่อไป
“ถึงแม้ว่าฉันจะไม่คิดว่าฉันจะรักคนๆนั้น นั่นคือตอนที่ฉันได้มอบกุญแจให้กับชิน”
“…ฉันเอาชนะโรเล็ตต้าไม่ได้จริงๆ”
“ตอนนี้ฉันได้รู้แล้วว่าชินน่าทึ่งมากแค่ไหน”
โรเล็ตต้าได้จับหน้าอกและยิ้มออกมาอย่างมั่นใจ เมื่อเห็นแบบนี้ฉันก็พูดออกมา
“ยังไงก็ตามฉันได้ขวานมา โรเล็ตต้าอยากได้ไหม?”
สิ่งที่ฉันหยิบออกมานั่นก็คือขวานสีดำขนาดใหญ่ที่ซึ่งเก็บชีวิตของลอร์ดแห่งความตายเอาไว้
“ตอนนี้หอกแห่งความโกลาหลเต็มแล้ว ฉันก็สกัดสกิลไปแล้วด้วย แต่ว่าในด้านความคงทนขวานนี้ก็ยังไม่หายไป”
“ถ้านี่เป็นของขวัญ ฉันก็ยินดีจะรับไว้ แต่ว่าชินรู้ไหมว่าขวานไม่ใช่สิ่งที่คนปกติมอบให้กับคนรักหรอกนะ”
“ถ้าโรเล็ตต้าจะรับไปก็อย่าบ่นสิ”
ฉันได้บ่นออกมาก่อนที่จะส่งขวานให้กับเธอ โรเล็ตต้าได้เหวี่ยงขวานอยู่สองสามครั้งและดูเหมือนจะพอใจ
“ว้าว นี่มันคืออาวุธที่ยอดเยี่ยม หืม? ฉันประเมินมันไม่ได้… นี่มันเป็นสิ่งที่เกินกว่าลอร์ดจะเข้าใจได้!”
“เป็นของใช้ป้องกันตัวที่สมบูรณ์แบบเลยใช่ไหมล่ะ?”
“ชิน มีมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนที่เป็นพวกบ้าด้วยงั้นหรอ?”
“ใช่แล้ว ต่อให้เป็นโรเล็ตต้าก็อาจจะมีปัญหาในการสู้กับหมอนี่ก็ได้”
เมื่อฉันได้หยักหน้าออกไป โรเล็ตต้าก็ได้แสดงสีหน้าอ่อนล้าออกมาก่อนที่จะเหวี่ยงขวานเหมือนกับที่เธอโกรธ
“ลอร์ดได้ใส่มอนสเตอร์ที่ฉันไม่รู้ไปกี่ตัวกันนะ? ถ้าไม่ใช่เพราะชิน บางทีเจ้าพวกนี้อาจจะกลืนกินมานาของดันเจี้ยนไปจนหมดก็ได้! ทรัพยากรดันเจี้ยนมีไม่สิ้นสุด ลอร์ดดูเหมือนจะใส่มอนสเตอร์พวกนี้มาโดยไม่คิดอะไร ยังไงก็ตามเธอคิดว่าจะจัดการกับค่าดูแลรักษายังไงกัน?”
“ขอบคุณนะที่บอกในสิ่งที่ฉันไม่อยากจะรู้มา ยังไงก็ตามหยุดเหวี่ยงขวานในทุกๆครั้งที่พูดได้แล้ว มันน่ากลัวน่ะ”
โรเล็ตต้าตีปากตัวเธอและเหวี่ยงขวานอีกสองสามครั้งก่อนที่จะใส่มันลงไปในร่างเเธอ ไม่ว่ามองยังไงฉันก็ไม่ชินเลยสักที เวทย์มิติช่องว่างของโรเล็ตต้าที่เธอกำลังใช้นี่แหละ
“ฉันจะเก็บรักษาเป็นอย่างดีเลย”
“ถึงฉันจะไม่อยู่ที่นี่ ขวานนั่นจะปกป้องโรเล็ตต้าเป็นอย่างดี”
“หรือว่าชินจะอยู่กับฉันไปตลอดก็ได้นะ”
โรเล็ตต้าได้บ่นออกมาในขณะที่เธอเดินเข้ามาหาฉันช้าๆ เมื่อได้เห็นเธอมองมาที่ฉันด้วยตาเป็นประกาย ฉันก็สามารถบอกได้เลยว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ฉันได้เกาหน้าและตอบกับไป
“ฉันจะต้องไปปีนดันเจี้ยนะ”
“หอกนั่นจะต้องใช้เวลาสักพักในการวิวัฒนาการใช่ไหม? ฉันมั่นใจว่ามันต้องเป็นแบบนั้น”
ในตอนนี้พอเธอพูดถึงมัน ฉันก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องหยุดการวิวัฒนาการของหอกไว้อีกแล้ว ฉันได้หยิบเอาหอกแห่งความโกลาหลขึ้นมา ถึงแมว่ามันจะดูดมานาไปจากฉันไปในบางครั้ง แต่ว่ามันก็ดูไม่เหมือนจะใกล้วิวัฒนาการเสร็จเลย ฉันได้นั่งลงและตั้งใจถ่ายเถพลังงานไปให้กับมัน
“สวนแฟรี่มีอากาศที่ดีแล้วก็น้ำบริสุทธิ์อยู! อยู่ที่นั่นฉันมั่นใจว่าจะมีส่วนช่วยที่ดีในการวิวัฒนาการหอกนี่!”
เธอได้ใช้มือหนึ่งจับมือฉันเอาไว้ และอีกมือที่ตอนนี้ได้เก็บขวานไปแล้วได้มาจับที่ไหล่ของฉันแน่น หากว่าเธอมีหาง ฉันมั่นใจว่าหางนั่นของเธอจะต้องส่ายไปมาอย่างรุนแรงแน่นอน
“มาสิ ไปกันเถอะ! ฉันให้มานาให้ชินได้ด้วยเหมือนกันนะ”
“ไม่ ไม่เป็นไรหรอก แค่ชาอร่อยๆก็พอแล้ว”
“ได้เลย!”
ทันทีที่ฉันได้ทำข้อตกลงกับโรเล็ตต้า เธอก็ได้เปิดประตูมิติไปสู่สวนแฟรี่ ฉันได้เดินเข้าไปพร้อมกับโรเล็ตต้าด้วยรอยยิ้มแห้งๆ
“พี่สาว พี่นี่หยาบคายมากเลยนะ”
“ออกไป”
เพราะอะไรซักอย่างทำให้เมื่อเธอได้เห็นหลินในกระท่อมของเธอ เธอก็ได้พยายามไล่เขาออกไป ยังไงก็ตามหลินได้ส่ายหัวอย่างไร้ยางอายและหัวเราะออกมา
“ตอนนี้น่ะ ตอนนี้คือวิวัฒนาการครั้งสุดท้ายของอาวุธที่ผมได้ทำ ในฐานะผู้สร้างแล้วผมจะต้องมีส่วนชุดใช่ไหมล่ะ?”
“หลินนนน….!”
ดูเหมือนหอกแห่งความโกลาหลจะแจ้งเตือนหลินโดยอัตโนัตเมื่อมันพร้อมจะวิวัฒนาการ แต่ว่าเขาคิดถึงขนาดว่าฉันจะมาที่กระท่อมของโรเล็ตต้า…
ฉันได้พยายามทำให้โรเล็ตต้าที่เตรียมจะต่อสู้สงบลงและหันไปยิ้มให้กับเล่ห์เหลี่ยมของหลิน
“ฉันไม่เห็นรู้เลยว่าต้องให้หลินช่วย”
“ในเมื่อหอกวิวัฒนาการมาเป็นหอกแห่งความโกลาหลจากหอกแห่งการกลืนกิน ฉันก็คิดว่าหอกจะต้องสูญเสียพลังงานไปอย่างมากแล้ว นอกไปจากนี้ฉันคิดว่าคุณสมบัติธาตุของมันได้เหมือนกับนายมากยิ่งขึ้น แต่ว่าเพราะอะไรซักอย่างคุณสมบัติธาตุไฟมันได้แกร่งยิ่งขึ้นซึ่งฉันไม่ชอบเลย”
“ไม่ใช่ว่าหลินเป็นมังกรเพิงหรอกหรอ?”
“ฉันสร้างให้มันเป็นแบบนั้นแหละ แต่ว่าก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้ในตอนวิวัฒนาการ”
นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้ยินเรื่องนี้! เมื่อฉันได้มองไปที่หลินด้วยความสงสัยว่าทำไมเขาถึงไม่ยอมบอกกับฉัน เขาได้ถอยหลยจากสายตาของฉันและหันหน้าไปอย่างช้าๆ
“ยะ ยังไงก็เถอะหอกนี่ไม่ได้ย่อยทุกๆสิ่งที่กลืนกินไปจนหมด ฉันคิดว่าฉันผิดเองแหละที่ไม่คิดว่าหอกนี่จะกลืนกินดาบศักดิ์สิทธิ์ลงไป เพราะงั้นฉันก็เลยไปหาเอเลนี่ให้เธอช่วย”
“เอเลนี่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ด้วย?”
หลินได้หยิบเอาลูกปัดเล็กๆออกมาจากกระเป๋า
“อย่างที่น้ายรู้นั่นแหละ อุปกรณ์เวทมนต์ที่เอเลนี่ได้ให้กับนายมีความพิเศษมากๆ ฉันก็ด้อยกว่าเธอในด้านนี้เช่นกัน อุปกรณ์เวทมนต์ของเธอสามารถจะยกระดับไอเทมขึ้นได้ระดับหนึ่งต่อให้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างไอเทมก็ตาม ถ้าให้อธิบาย้วยคำพูดมันก็คงยากอยู่ดีนั่นแหละ ดังนั้นหากว่าเรายืมพลังของเธอ ฉันก็คิดว่าเราจะสามารถวิวัฒนาการหอกของนายได้โดยที่ไม่ต้องใช้พลังงานใดๆ”
“แล้วลูกปัดนั่นคือของที่นายได้มาจากเอเลนี่สินะ?”
ฉันได้หยิบหอกแห่งความโกลาหลขึ้นมาวางบนตก หลินได้มองดูหอกก่อนจะถอนหายใจออกมา
“ฉันหวังเอาไว้มากเลยนะ แต่ว่าหอกนี่ได้กินของสุ่มๆไปมากมาย โชคดีนะที่ฉันได้มองการณ์ไกล “
“ฉันโชคดีตลอดนั่นแหละ”
“โกหก”
หลินได้เถียงออกมา แต่ดูๆแล้วเขาดูพอใจมากทีเดียว ในตอนนี้เองฉันก็ได้เห็นรอยจูบอยู่บนคอเขา เมื่อคิดไปถึงราคาที่เขาต้อง่ายไปเพื่อแลกไอเทมชิ้นนี้มาก็ทำให้ฉันขนลุกแล้ว
“หลินนายไปไกลจนทำให้ฉันกลัวแล้วนะ เพราะงั้นช่วย…”
“ฉันรู้ว่านายกำลังจะพูดอะไร แต่รอยนี่มาจากโรก้า”
หลินแทบจะตบฉันแล้ว
ฉันได้วางหอกไว้บนมือแต่โดยดี โรเล็ตต้ากับหลินที่ฉันเชื่อใจได้อยู่ข้างๆฉันทั้งสองคน หลังจากที่ได้รวบรวมมานารอบๆด้วยวงจรเพรูต้าแล้ว ฉันก็ได้เริ่มใส่มานาทั้งหมดลงไปในหอกแห่งความโกลาหล
“ไอ้หมอนี่… ฉันก็คิดไว้แล้วนะ แต่นี่เขามีมานามากขนาดไหนกัน…”
“หลินถ้านายจะช่วยก็ตั้งใจทำให้ดี ถ้าให้ดีก็รีบๆทำให้เสร็จแล้วออกไป”
“เข้าใจแล้วเพราะงั้นพี่สาวก็ช่วยหยุดจิตสังหารไว้ด้วยสิ”
ในระหว่างที่ฉันถ่ายเทมานาลงไปบนหอกแห่งความโกลาหล หลินก็ได้วางลูกปัดไว้บนหอกแห่งความโกลาหลก่อนที่จะดึงมานาเขาออกมา ในอีกฝั่งหนึ่งโรเล็ตต้าก็ได้เฝ้ามองดูชากที่ชายสองคนกำลังจะหอกเล่มเดียวกันอยู่
หลังจากนั้นซักพักหนึ่งหอกก็ได้เริ่มเรืองแสงออกมาเอง จำนวนมานาที่ฉันใส่ลงไปตอนนี้เกินกว่า 1.5 ล้านไปแล้ว ยังไงก็ตามสายตาของหลินก็บอกให้ฉันใส่ต่อลงไป เพราะงั้นฉันจึงยังเพิ่มมานาเข้าไปอีก
หลังจากที่ปริมาณมานามหาศาลอย่างแท้จริงได้เข้าไปในหอก ลูกปัดที่อยู่บนหอกก็ได้หายไป หลินได้เบิกตากว้างขึ้นมา
“ฟู่ว นี่แหละ คังชินทำให้มันเสร็จซะ”
“โอเค”
ในทันทีทีคำพูดหลุดออกมาจากปากเขา ฉันได้ส่งมานาทั้งหมดที่เหลืออยู่ลงไปทันที หอกได้เปล่งแสงเจิดจ้าออกมา ท่ามกลางแสงสว่างนี้รูปร่างของหอกได้ดูเรียบง่ายยิ่งขึ้น
หลังจากที่แสงทรงพลังได้อยู่ทั่วทั้งกระท่อม ในที่สุดหอกก็หยุดการกลืนกินมานาจากฉัน
ด้ามจับที่ราบเรียบของหอกได้โผล่ออกมาเป็นสิ่งแรก สัญลักษณ์สีดำแดงที่อยู่บนหอกได้หายไปแล้ว และมีโลหะแพลตตินั่มไร้ตำหนิโผล่ขึ้นมาแทน
“…หลินเกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ?”
“นายคิดว่าฉันจะรู้งั้นหรอ?”
หลังจากที่เขาได้นำทางฉันมาตลอด สุดท้ายหลินก็ทรยศฉัน! ฉันได้ตรวจสอบหอกด้วยความเป็นกังวลมากกว่าเดิม อย่างแรกความยาวหอกไม่ได้เปลื่ยนไปมากนัก คมหอกได้ยาวขึ้นเล็กน้อยทำให้มันเหมาะสำหรับการแทงมากกว่าฟันมากขึ้น และมันดูเหมือนกับโลหะสีขาวมากกว่าคมหอกซะอีก ฉันคิดว่าฉันไม่เคยเห็นโลหะแบบนี้มาก่อร
“เป็นหอกที่งดงามมาก”
นั่นเสียงของโรเล็ตต้างั้นหรอ? น้ำเสียงตกใจของเธอได้ทำให้ฉันตรวจสอบหอกอีกครั้งหนึ่ง เพราะสิ่งที่เธอพูดออกมาได้ทำให้จู่ๆหอกได้งดงามมากขึ้น
“จับหอกสิชิน”
“หืมม”
ฉันได้จับหอกอย่างที่โรเล็ตต้าพูด ความรู้สึกเหมือนถูกช็อตได้แล่นผ่านไปจากปลายนิ้วของฉัน แค่ถือมันไว้ก็เหมือนกับหอกเล่มนี้คือส่วนหนึ่งของร่างกายฉันแล้ว ถึงแม้ว่าหอกแห่งความโกลาหลจะเป็นไอเทมที่สุดยอดในตัวมันเองแล้ว แต่ว่ามันก็เทียบกับหอกเล่มนี้ไม่ได้เลย
“เป็นยังไงบ้างคังชิน?”
“ชินเป็นยังไงบ้าง?”
ครึ่งมังกรกับเอลฟ์ได้เฝ้ารอปฏิกิริยาจากฉัน ฉันได้จับหอกแพลตตินั่มเอาไว้และกอดมัน หลังจากได้ยืนยันถึงสิ่งหนึ่งฉันก็พูดออกมาอย่างมั่นใจ
“หอกนี่… ฉันไม่เห็นข้อมูลของมัน”