บทที่ 332 – คลื่นลูกสุดท้าย (2)
เมื่อฉันได้ปืนขึ้นไปบนชั้นที่ 91 ฉันก็ได้เจอกับโลกเปิดกว้าง มีท้องฟ้าที่อยู่สูงออกไปสีน้ำเงินเข้ม และท้องทะเลกว้างใหญ่สุดขอบฟ้า ใต้เท้าของฉันได้มีทรายสีขาวอยู่
“นี่ฉันมาผิดที่หรือป่าวนะ?”
ที่คิดแบบนี้จะโทษฉันไม่ได้เลย ด้วยความสงสัยว่าฉันตกอยู่ในภาพลวงตา ฉันจึงใช้พลังมานาขึ้นมาแต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเปลื่ยนไป แม้กระทั่งพระเจ้าก็ยังหลอกฉันได้ยากเลย เพราะงั้นนี่หมายความว่าฉากตรงหน้าฉันคือเรื่องจริง
เมื่อฉันได้ันหลังกลับไป ฉันก็ได้เห็นบันไดที่วางอยู่อย่างผิดปกติซึ่งพิสูจน์ว่านี่คือชั้นที่ 91 ฉันได้มาเกินกว่าชั้นที่ 90 แล้วซึ่งมีไม่กี่คนเท่านั้นที่เคยผ่านมา
“ฉันไม่รู้ว่านี่มันหมายความว่ายังไง แต่ว่าหากฉันได้เริ่มเดินไปฉันก็จะรู้ได้เอง”
หลังจากที่ได้เตรียมตัวรับมือกับสิ่งต่างๆแล้ว ฉันก็ตะโกนออกมา
“เริ่มต้นการสำรวจ!”
บุ๋ม! ในทันทีที่เสียงฉันดังออกไป ฉันก็ได้ยินเสียอะไรบางอย่างตกลงไปในทะเล เสียงนี้ไม่ได้จบเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น มันแทบจะเหมือนกับว่ามีใครกำลังโยนก้อนหินยักษ์ลงไปในทะเลทำให้เกิดเสียงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“เกิดอะไรขึ้นในทะเล…?”
ฉันได้หันไปมองทางทะเลด้วยความสงสัย จากนั้นฉันก็ได้เจอกับขาขนาดเท่าตึกกำลังโผล่ขึ้นมาจากทะเล หากแค่ขาก็ใหญ่ขนาดนี้แล้ว ถ้างั้นหัวของมันจะใหญ่ขนาดไหนกัน?
“…นี่ล้อกันเล่นใช่ไหม?”
ฉันได้พึมพัมออกมา
[ไม่]
ถึงแม้ว่านี่จะไม่จำเป็นแต่เชอร์ราฟิน่าได้ตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว ฉันได้แอบด่าในใจและเมื่อฉันกำลังจะก้าวไปข้างหน้า ฉันก็รู้สึกตัวว่าฉันกำลังจมลงไป
เมื่อหันไปมองฉันก็ได้เห็นว่าทรายที่อยู่ด้านล่างกำลังไหลลงไปราวกับว่ามีหลุมถูกเปิดขึ้นกลางทะเลทราย จากหลุมนั่นได้มีมอนสเตอร์ที่มีหนวดนับพันโผล่ออกมา
“อ่า แมลงช้าง!”
หนวดได้พุ่งเข้ามาหาฉันพร้อมๆกันทั้งหมด แมลงช้างไม่เพียงแต่ทำให้ฉันไหลลงไปในหลุมของมันเท่านั้น แต่มันยังใช้หนวดของมันโจมตีเข้าใส่ฉัน! นี่คือร่างสุดท้ายของแมลงช้างที่วิวัฒนาการอย่างแท้จริง!
ทรายมีแรงดึงดูดราวกับว่าในตัวทรายเองก็มีพลังมานาเช่นกัน และหนวดก็กำลังพุ่งเข้ามาจากทุกๆทิศทาง ไม่ว่าจะเป็นนักสำรวจคนใดก็อาจจะต้องอยู่ในอันตรายแล้ว แต่ว่าน่าเสียดายที่เจ้าพวกนี้เป็นแมลงช้าง ฉันมีอยู่หลายวิธีที่ฉันจะใช้บินได้
อย่างแรกฉันได้อัญเชิญชาราน่าออกมาและผสานเธอเข้าไปในตัวฉันก่อนที่จะลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า จากนั้นฉันก็อัญเชิญดอร์ตูออกมา
[ข้าดอร์ตู กำลังทำการสร้างระเบิด]
หลังจากดอร์ตูโผล่ขึ้นมาก็ไดมีระเบิดหลายลูกปะทุขึ้นมาจากหลุมแมลงช้างในทันที โชคดีที่ฉันยังคงอยู่บนท้องฟ้า ไม่งั้นแรงระเบิดขนาดใหญ่นี้ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อฉันได้เช่นกัน!
ท่ามกลางแรงระเบิดนี้ทำให้ร่างแมลงช้างโผล่ขึ้นมาเอง แมลงช้างได้มีขนาดใหญ่โตอย่างมากจนฉันหาคำพูดมาอธิบายได้ยากอย่างที่คิดไว้เลย แมลงช้างได้สร้างลูกบอสมานาทรงกลมยิงใส่ฉันจากสิ่งที่ดูเหมือนเป็นปากของมัน
“ฮึ่ม!”
แต่ไม่วามันจะมีขนาดใหญ่แค่ไหนหรือมีมานาอยู่แค่ไหน สุดท้ายแล้วมันก็คือสิ่งมีชีวิตระดับต่ำที่ไม่สามารถจะใช้มานาได้ในระดับเดียวกับฉัน ในฐานะมนุษย์แล้วฉันจะสอนให้มันรู้เองว่าแมลงควรจะอยู่ที่ไหน
ฉันได้เอื้อมมือขึ้นไปบนท้องฟ้า หอกแพลตตินั่มได้ปรากฏออกมาและ ฉันได้ตวัดแทงออกไปใส่ลูกบอลมานาที่แมลงช้างปล่อยออกมา จากนั้นฉันก็ได้ดึงพลังของเทพสายฟ้าออกมา ประกายสายฟ้าได้ปรากฏขึ้นจากหอกในทันทีและฉันได้บีบอัดพลังสายฟ้าให้กลายเป็นหนึ่งเดียว เมื่อพลังงานได้รวมกันแล้ว ฉันก็ยิงพลังสายฟ้าออกไปในทันที
“หอกนี่เข้ากันได้ดีกับสายฟ้าเลยแหะ”
ในตอนแรกฉันไม่ค่อยจะพอใจกับการที่มันวิวัฒนาการขึ้นมาเป็นหอกที่ฉันไม่รู้จัก แต่ว่าหากหอกแห่งความโกลาหลมีปัญหาเพราะมันมีความแข็งแกร่งเฉพาะทางเกินไป หอกนี่ก็เข้ากับฉันได้เป็นอย่างดีราวกับหอกนี่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฉัน
แม้กระทั่งในตอนนี้ที่ฉันได้ยิงสายฟ้าออกไปหรือบีบอัดพลังของฉัน มันก็ยังง่ายมากขึ้นราวกับว่าหอกได้ช่วยฉันด้วย หอกยังได้เสริมพลังให้กับสายฟ้าเป็นพิเศษอีกด้วย ต่อให้ไม่มีมานาหอกนี้ก็ยังจะช่วยให้ฉันยิงสายฟ้าออกไปได้ตามต้องการด้วย
กระสุนสายฟ้าได้ตกลงมาจากท้องฟ้าทะลวงผ่านบอลมานาของแมลงช้าง มองจากไกลๆกระสุนสายฟ้าเหมือนกับไม้แหลมที่ทะลวงลูกชิ้น ฉันได้ใช้โอกาสนี้ใช้พลังของเหล็กกล้าผ่านสายฟ้าที่ได้ยิงออกไปและทำให้บอลมานานั่นกลายมาเป็นของฉัน
“ฮ่าาาห์!”
เมื่อฉันยกมือขึ้นมา กระสุนสายฟ้าก็ได้เปลื่ยนไปเป็นแส้สายฟ้าและลอยไปตามการขยับมือของฉัน บอลมานาที่ถูกเสียบอยู่ก็ได้กลิ้งไปรวมกันจนเป็นลูกเดียว ในที่สุดแล้วมันก็ราวกับว่าฉันกำลังลูกตุ้มที่ถูกโซ่รัดไว้อยู่
[ก๊าาาาาาาาาาาาา!]
แมลงช้างได้ร้องออกมา ถึงแม้ว่าฉันจะไม่มั่นใจว่ามันใช่แมลงช้างจริงๆหรือเปล่า แต่นั่นก็ไม่ได้สำคัญแล้ว
ฉันได้ยกลูกตุ้มขึ้นไปและฟาดลงมา ขากรรไกรและเปลือกของแมลงช้างได้แตกพร้อมๆกับเสียงดังสนั่น จากนั้นสายฟ้าก็ได้ไหลเข้าไปในร่างแมลงช้างทำให้มันต้องกระตุก
“ตายซะ!”
ฉันได้เหวี่ยงลูกตุ้มลงไปอย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุด แต่เพราะขนาดของเจ้านี่ทำให้การฟาดลงไปสองสามครั้งก็ยังคงไม่พอ แต่ว่าเมื่อฉันได้ฟาดไปซ้ำๆจนมันบาดเจ็บ ในที่สุดแมลงช้างก็เงียบไป
[ข้าดอร์ตู ทำหน้าที่เสร็จสิ้นแล้ว]
ดอร์ตูได้เปลื่ยนเม็ดทรายกลายมาเป็นระเบิดในทันที เมื่อทรายเกิดระเบิดขึ้น ชิ้นเนื้อภายในเปลือกแมลงก็ถูกระเบิดลอยขึ้นมาทนท้องฟ้า ของเลวน่าขยะแขยงได้พวยพุ่งออกมาเหมือนกับภูเขาไฟปะทุก่อนที่ร่างของแมลงช้างจะหายกลายเป็นแสงสว่างไป
หลังจากที่ยืนยันว่าแมลงช้างได้ตาย ฉันก็ได้เงยหน้าขึ้นมองออกไป
“ฉันคิดว่าฉันรู้แล้วว่าแนวคิดของชั้นที่ 91 คือ…”
บนพื้นฉันสามารถจะเห็นหัวที่เหมือนกับแมลงช้างโผล่ขึ้นมามากยิ่งขึ้น และในทะเลฉัน็ได้เห็นหนวดปลาหมึกสะบัดไปมาเป็นการยืนยันถึงสิ่งที่ฉันได้เห็นก่อนหน้านี้ว่าถูกต้อง เพราะแบบนี้บนท้องฟ้าก็มีอะไรบางอย่างเช่นกัน
เจอแล้ว
ไม่ใช่เพียงหนึ่ง แต่เป็นมังกรหลายสิบตัวกำลังบินวนรอบๆกัน พวกมันแต่ล่ะตัวต่างก็มีขนาดที่ใหญ่กว่าล็อทเต้อย่างน้อยร้อยเท่า พวกมันดูเหมือนจะสังเกตเห็นตัวตนของฉัน ในขณะที่พวกมันบางตัวก็หันมามองฉันเลยด้วย
[กรรรรรรรรรรรรรรร!]
เสียงคำรามของพวกมันได้ทำให้ผืนดินสั่นสะเทือน ในตอนนี้ฉันก็อดที่ว่าหากฉันกระโดดลงไปสู้กับหนวดที่มีขนาดเท่าตึกในทะเลก็คงดีกว่าสู้กับสัตว์ประหลาดพวกนี้
ยังไงก็ตามฉันได้ยั่วยุพวกมันมังกรเต็มที่แล้ว ฉันได้แต่พุ่งตัวออกมาไปพร้อมเสียงถอนหายใจ
“เอาล่ะเข้ามาเลยเจ้าพวกกิ้งก่าสารเลว!”
ฉันได้เหวี่ยงหอกออกไปพร้อมๆกับเสียงตะโกนที่เต็มไปด้วยพลัง จากนั้นฉันก็เห็นลูกตุ้มสานฟ้าพุ่งขึ้นมาจากพื้นไปตามเส้นทางที่ฉันวาดหอก ฉันได้เอียงหัวออกมาในทันที
“ทำไมมันถึงยังอยู่อีกล่ะ?”
แน่นอนว่าโรเล็ตต้าได้สอนวิธีทำให้มานาแข็งตัวและควบคุมยิงมานาออกไปแล้ว เทคนิคนี่เทคนิคที่สะดวกและเหมาะสมสำหรับคนที่เกิดการใช้มานาสิ้นเปลือง เป็นเทคนิคอย่างที่ได้เห็นฉันใช้ฆ่าแมลงช้างเมื่อตะกี้นี้
มีข้อเสียเพียงอย่างเดียวก็คือมันเป็นเรื่องยากที่จะคงสภาพมันเอาไว้เกินกว่าสามนาที
เพราะแบบนั้นฉันถึงได้ตกใจ
[กรรรรรรรรรร!]
มังกรที่อยู่ใกล้ฉันที่สุดได้พ่นไฟออกมา ฉันได้รีบเหวี่ยงหอกออกไป และบอลมานาขนาดยักษ์ที่เป็นลูกตุ้มสายฟ้าก็ได้รับลมหายใจมังกรเอาไว้ เนื่องจากว่าลูกตุ้มได้เชื่อมต่อกับหอกฉันทำให้เหล็กกล้าสามารถจะเปลื่ยนไฟจากมังกรให้เป็นก้อนมาาได้
จากนั้นพลังก็ยังคงอยู่โดยไม่หายไป
“เข้าใจแล้ว…”
ฉันได้พึมพัมออกมาด้วยความมึนงงและมองลงไป หอกแพลตตินัมยังคงส่องประกายออกมาอย่างลี้ลับ ชัดเจนว่าหอกนี้มีพลังในการคงสภาพและเสริมพลังให้กับพลังที่ฉันใส่ลงไปในหอก
เมื่อหอกวิวัฒนาการขึ้นมา ฉันได้ขอให้ดอร์ตูทำการวิเคราะห์มัน แต่ว่าทั้งหมดที่ดอร์ตูบอกฉันได้ก็คือหอกทำขึ้นมาจากโลหะที่ไม่มีอยู่จริง ในตอนนี้ฉันเข้าใจถึงสิ่งที่ดอร์ตูบอกแล้ว หากว่ามีหอกแบบนี้อยู่อีกนั่นมันจะเป็นภัยพิบัติ
“อืม เอาล่ะมาลองทดสอบดูหน่อยแล้วกัน”
เป็นไปได้ว่าหอกยังมีความสามารถที่ฉันยังไม่รู้อยู่อีก อย่างแรกฉันได้ดึงเอาบอลมานาที่ซึ่งดูดไฟมังกรกลับคืนมาก่อนที่จะผลักมันออกไปอย่างรุนแรง มังกรที่พุ่งเข้ามาหาฉันด้วยความโกรธที่เห็นฉันไม่สะทกสะท้าน มันได้ปะทะเข้ากับบอลมานาและถูกส่งลอยกลับคืนไป
“ฮ่าฮ่า ฉันไม่ได้มีทักษะการใช้ลูกตุ้มเลยนี่นา! เพราะงั้นฉันจะโชว์ให้แกได้ถึงทักษะที่่ฉันมีเอง”
ฉันได้เกร็งแขนและใส่สายฟ้าทั้งหมดและมานาที่ฉันใช้ได้ลงไปภายในหอก บอลมานาที่เป็นลูกตุ้มสายฟ้าได้ถูกละลายรวมเข้ากับหอกกลายมาเป็นเส้นสายฟ้าที่หนาและยาว ความกว้างของมันยังขยายได้อีก แต่ว่าความยาวของมันได้สูงขึ้นไปเท่ากับตึกระฟ้าแล้ว ฉันได้จับมันเอาไว้และเหวี่ยงหอกยักษนี่ออกไปทันที
“ตอนนี้จบได้แล้ว!”
[กรรรรรรรร!]
เสียงคำรามของมังกรได้ดังไปทั่วทั้งท้องฟ้า มอนสเตอร์ที่อยู่ในท้องทะเลได้ส่งเสียงออกมาราวกับจะผสมโรงเข้ากับมังกร
มอนสเตอร์ที่ฉันได้เจอบนชั้นที่ 91 ต่างก็มีขนาดใหญ่ทั้งนั้น! พวกมันแต่ล่ะตัวไม่ได้อ่อนแอไปกว่ามอนสเตอร์ใดๆที่ฉันเคยเจอมาในอดีตเลย เพราะแบบนั้นฉันก็จะต้องใช้พลังที่มีขนาดเดียวกับพวกมัน
“นี่คือพายุพลังธาตุ(เปลื่ยนจากชื่อเดิมพายุธาตุ – Elemental Tempest) ขนาดพิเศษสำหรับแกเลย! รับไป!”
บนคมหอกที่หนาและยาวซึ่งทำมาจากสายฟ้าได้มีภูติธาตุจำนวนนับไม่ถ้วนมารวมตัวกัน ภูติธาตุมีจำนวนมากกว่าที่ฉันเคยเรียกมาในอดีตซะอีก ภูติธาตุเหล่านั้นได้มาหมุนวนรอบหอกของฉันจนเกิดเป็นพายุ
[โววว เรียกเพื่อนๆทุกคน! วันนี้มีที่มากพอแล้วด้วยนะ!]
[เย้ ในที่สุดฉันก็ได้เข้าร่วมกับท่านเจ้าชาย!]
[ท่านไพก้า]
[เจ้าโง่ อย่าพูดชื่อสิ!]
มังกรได้ปล่อยลมหายใจออกมาอีกครั้งเมื่อรู้สึกได้ถึงอันตรายพร้อมทั้งพุ่งใส่ฉัน ฉันได้เรียกดอร์ตูในทันที
“ดอร์ตูป้องกันทางพวกนั้นด้วยวิธีอะไรก็ได้ตามใจนายแล้วก็เอาพวกมันรวมไว้ในทางผ่านของพายุพลังธาตุ!”
[ข้าดอร์ตู ยอมรับคำขอที่ไร้เหตุผลของนายท่าน]
มังกรไม่อาจจะทำลายบาเรียโลหะที่ดอร์ตูสร้างขึ้นมาได้ ซึ่งแค่นี้ก็พอแล้ว ฉันได้ถือหอกสายฟ้ายาวหลายสิบเมตรเอาไว้ซึ่งตอนนี้มันได้กลายเป็นพายุสายฟ้าขนาดใหญ่และแทงมันออกไปด้านหน้า
“พายุพลังธาตุ!”
มานาจำนวนเกือบล้านได้ระเบิดขึ้นในทันที มอนสเตอร์ที่จ้องมาที่ฉัน มอนสเตอร์ที่กำลังหลบหนีไปจากฉัน และมอนสเตอร์ที่กำลังพยายามทะลวงบาเรียของดอร์ตู พวกมันทั้งหมดนี้ได้ถูกพายุพลังธาตุกวาดออกไปจนหมด เมื่อมังกรพวกนี้ทั้งหมดได้หายไปแล้วก็เหลือแต่ภาพที่สดใสเท่านั้นที่ฉันได้มองเห็น
[กี๊ซซซซ!]
ยังไงก็ตามยังมีมอนสเตอร์อยู่อีกหลายตัวที่ยังคงอยู่ ทั้งพวกที่อยูบนดินและในท้องทะเล ฉันได้มองออกไปที่ท้องฟ้าไร้จุดสิ้นสุด ในพื้นที่ไกลออกไปเกินกว่าที่พายุพลังธาตุจะไปได้ถึง ฉันก็ได้ยืนยันได้ว่ายังมีมอนสเตอร์บินอยู่อีก ฉันได้ถามเชอร์ราฟิน่าออกมาในทันที
“เชอร์ราฟิน่า… ที่นี่ใหญ่ขนาดไหนกัน?”
[มันมีขนาดเป็นสามเท่าของโลก]
ฉันได้รับภารกิจให้มาทำลายโลกของเหล่ามอนสเตอร์