บทที่ 340 – เดม่อนลอร์ด (3)
ฉันได้ลืมตาขึ้นมา ตอนนี้กกำลังมีก้อนหินจำนวนนับไม่ถ้วนล่วงลงมาจากบนท้องฟ้า ก้อนหินส่วนได้สูญเสียมานาที่ไร้ขอบเขตไปแล้วทำให้มันตกลงมาที่พื้นโลกอย่างไร้พลัง
[ชิน มังกร!]
ฉันทำสำเร็จ นี่คือสิ่งที่แว๊บขึ้นมาในหัวของฉัน แต่ว่ามังกรก็ได้พุ่งเข้าใส่ฉันในทันทีที่อุกกาบาตได้ถูกทำลายไป ทำให้ฉันไม่ได้มีเวลามาดื่มด่ำกับความสำเร็จนี้เลย
เพราะฉันได้ปล่อยพลังงานส่วนใหญ่ที่มีออกไปเมื่อตะกี้นี้แล้ว ทำให้ฉันต้องรวมมานาที่อยู่ใกล้ๆมาสร้างเป็นบาเรียรอบตัว มานาแห่งอินิกม่าที่เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆได้เสริมพลังให้กับบาเรีย แต่ว่ามังกรก็ได้เปิดปากกว้างออกมาโดยไม่ได้สนใจบาเรียเลย
“เจ้าบ้านี่ นี่นายบ้าไปแล้วหรอ! นี่เอาจริงดิ!?”
[อย่าได้มาดูถูกมังกร!]
มังกรได้ปล่อยลมหายใจเพลิงออกมาอย่างที่ฉันคิดเอาไว้! ใช่แล้วต่อหน้าฉันเลย! ยังมีพลังเวทย์แรงกดดันที่ทำให้ฉันแทบจะเคลื่อนไหวไม่ได้อยู่ดี แถมเพราะมานาของฉันยังไม่ฟื้นฟูกลับมาทำให้ฉันใช้พลังของเหล็กกล้าไม่ได้อีกด้วย
“ข้าดอร์ตู ข้าจะปกป้องนายท่าน”
มีคนได้กระโดดมาอยู่ตรงหน้าฉัน นั่นก็คือดอร์ตู! ในตอนนี้ฉันได้รู้แล้วว่าดอร์ตูได้แสดงรูปธรรมออกมา ดอร์ตูดูเหมือนกับอัศวินมากๆ ทั้งร่างกายได้ถูกปกคลุมไปด้วยเกราะหนาและที่มือก็ถือโล่ขนาดใหญ่อยู่
[ชิน มานา ส่งมานามาให้ฉัน!]
[นายท่าน ฉันก็จะช่วยด้วย! ฉันต้องการมานา!]
ริชูกับชาราน่าก็บินออกมาทำสิ่งที่พวกเธอช่วยได้เช่นกัน แต่ว่าทั้งสองคนรวมไปถึงดอร์ตูก็มีมานาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น คงยากที่จะบอกว่าพวกเขาจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน
เพราะลมหายใจมังกรที่อยู่ในระยะประชิดมากแบบนี้ทำให้ฉันยิ่งต้องใช้มานามากกว่าเดิมในการต่อสู้ เราไม่มีทางที่จะรู้เลยว่าจะต้องใช้มานาทั้งหมดไปเท่าไหร่ ฉันได้กัดฟันตะโกนออกไป
“ทุกคนการแสดงร่างรูปธรรม!”
ด้วยคำสั่งนี้ของฉันทำให้ภูติธาตุยกเลิกร่างรูปธรรมและลอยเข้ามาในอกของฉัน มังกรได้ตะโกนออกมาพร้อมเพิ่มพลังลมหายใจเพื่อทำลายบาเรียที่เหลืออยู่
[นี่นายไม่อยากจะเสียสละภูติธาตุของนายงั้นหรอ? ใจดีจังเลยนะ!]
“ไร้สาระ”
ฉันได้ชูนิ้วกลางออกไปให้กับเขา ไม่ว่ายังไงตราบใดที่ภูติธาตุไม่ได้แสดงรูปธรรมออกมา พวกเขาก็จะไม่ได้รับบาดเจ็บจากลมหายใจมังกร หลังจากได้ถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้ว ฉันก็เฝ้ารอจนกระทั่งบาเรียได้แตกกระจายไปก่อนที่จะใช้เงาพริบตา เทเลพอตไปอยู่ที่ด้านหลังคอของมังกร
[อะไรกัน!?]
“นายโจมตีฉันได้ถูกเวลาเลย ฉันจะตอบแทนนายด้วยเจ้านี่เอง”
ฉันได้วางหอกไปบนคอหนาๆของมังกรและแตะบนนั้นราวกับจะชมเรา
“นี่นายไม่มีจุดอ่อนอะไรแบบนี้เลยงั้นหรอ?”
[กรรรรรรรรรรร!]
ดูเหมือนว่าจะไม่มีเลยนะ มังกรนี่ได้บิดคอมาราวกับอย่างจะพ่นลมหายใจออกมาต่อ แต่ก็เพราะว่าฉันอยู่ติดกับคอเขาทำให้สุดท้ายก็จบลงด้วยการที่เขาเผาร่างตัวเองแน่หากทำต่อไป เดี๋ยวสิ เขาก็ยังจะทำมันอีก!
[ฉันบอกนายไปแล้วนี่ มาตายด้วยกันเถอะ!]
“เจ้าบ้านี่…!”
ฉันได้ใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์วิ่งไต่ไปตามคอของเขา ฉันกำลังเปลื่ยนตำแหน่งอย่างต่อเนื่องเพื่อหลบลมหายใจที่กำลังเข้ามา ยังไงก็ตามถึงนี่จะดูน่าตลก แต่ว่าหากฉันโดนลมหายใจนั่นเข้า ฉันรู้ได้เลยว่าตายแน่
นี่มันหนักหนากว่าที่ฉันคิดเอาไว้อีก ลมหายใจมังกรได้เปลื่ยนทิศทางเป็นมุมองศาที่เป็นไปไม่ได้ราวกับเป็นจรวดนำวิถี
[กรรรรรรร!]
“อ๊าา ร้อนโว๊ยยย!”
ลมหายใจมังกรไม่ใช่อะไรที่จะดูถูกได้เลย ฉันบอกได้เลยว่าเจ้านี่ได้ยอมทิ้งทุกอย่างไปจนหมดแล้ว ช่วงคอและช่องหน้าท้องของเขาได้ถูกลมหายใจของตัวเองเผาจนไหม้ไปหมดแล้ว
ไม่ว่าจะยังไงสิ่งสำคัญคือฉันก็กำลังวิ่งอยู่บนคอของมังกรที่กำลังเผาตัวเองอยู่นี้ ฉันได้ดึงพลังของเหล็กกล้าจนถึงขีดสุดเพื่อดูดเอามานาจากความร้อน แต่ถึงแบบนั้นมันก็ยังร้อนมากๆอยู่ดี
“ถ้าอยากจะตายนักทำไมไม่ตายไปคนเดียวเล่า…?”
ฉันได้กัดฟันยกหอกขึ้นมา จากนั้นก็เค้นมานาที่ฉันมีอยู่น้อยนิดลงไปบนปลายหอก ถึงแม้ว่าฉันจะกำลังใช้อินิกม่าอยู่ แต่ว่าออร่าโปร่งแสงก็มีคลื่นเล็กๆอยู่ตรงปลายหอก
ฉันได้ยิ้มออกมาและแทงหอกออกไปเขาใส่คอของมังกรในทันที ความเร็วฉันลดลงอย่างกระทันหัน แต่ว่าด้วยความรู้ดีว่าหากฉันหยุดนิ่งลมหายใจจะเผาฉันแน่ๆทำให้ฉันต้องกัดฟัน และวิ่งออกไปพร้อมๆลากหอกกรีดคอของเขา
[อ๊า!]
“มาดูกันว่าหากคอถูกตัดไปแล้วจะยังพ่นลมหายใจได้อีกไหม! ดอร์ตู ฉันฝากด้วยนะ!”
[ข้าดอร์ตู กำลังแพร่เมล็ดพันธ์]
ร่างกายมังกรมหีมาจริงๆ ไม่เพียงแต่เขาจะมีขนาดใหญ่ที่สุดในศัตรูที่ฉันเคยเจอมาเท่านั้น แต่เขาก็ยังมีมานามากที่สุดด้วยเช่นกัน
ฉันสามารถจะวาดวงกลมรอบคอได้ด้วยเวลา 12 วินาที เมื่อคิดจากความเร็วของฉันแล้วนี่คือระยะเวลาที่ยาวนานมาก แต่ไม่ว่าเส้นสีแดงจะวาดผ่านรอบคอมังกรไปแล้ว แต่ลมหายใจก็ยังไม่หยุดลง
[นี่มันยังไม่พอ]
“นั่นแหละ”
ฉันได้กระโดดขึ้นมา มังกรไม่ยอมพลาดโอกาสนี้หันหน้ามาพ่นลมหายใจเข้าใส่ฉัน ยังไงก็ตามฉันได้ตะโกนออกมาก่อนที่ลมหายใจจะถึงตัว
“ดอร์ตู”
[ข้าดอร์ตู]
ได้มีเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นมาพร้อมๆกับน้ำเสียงที่เงียบสงบของดอร์ตู ดอร์ตูได้ระเบิดโลหะที่ได้ฝังเอาไว้ในคอร์มังกร แรงกระแทกจากการระเบิดนี้ได้ทำให้ลมหายใจมังกรพลาดเป้าไป
[อ๊าาาาาาาา!]
ฉันได้ยินเสียงกรีดร้องออกมาอีกครั้งหนึ่ง ในเวลาเดียวกันจู่ๆอากาศก็ระเบิดขึ้นและเกิดแผลบนแก้มของฉัน ด้วยการเริ่มต้นนี้จากนั้นก็เริ่มมีการระเบิดขึ้นเป็นชุดราวกับมีระเบิดที่มองไม่เห็นถูกวางไว้บนท้องฟ้า
มันเป็นการระเบิดขนาดใหญ่จนเหล็กกล้าไม่อาจจะทำอะไรได้! ในขณะที่ฉันกำลังจะรวบรวมมานาใกล้ๆเข้ามา ชาราน่าก็ได้รีบตะโกนออกมา
[มานาได้เปลื่ยนตัวเองไปเป็นระเบิด! นายท่านระวังด้วย!]
“อะไรนะ!?”
มานาที่ฉันได้ดูดเข้าไปในร่างได้ระเบิดขึ้นมา ฉันได้กัดฟันแน่นหลังจากที่ไอเป็นเลือดออกมาเต็มปาก
“หมอนี่เต็มไปด้วยเทคนิคมากมายจริงๆ!”
ตราบใดที่ฉันเคยเจอมาแล้ว ฉันจะไม่มีวันตกหลุมพลางอีกเป็นครั้งที่สอง มังกรไม่อาจจะใช้อินิกม่าได้ แต่ว่าฉันสามารถจะเปลื่ยนมานาไปเป็นอินิกม่า ฉันได้ยื่นมือออกไปและเริ่มเปลื่ยนมมานาให้เป็นอินิกม่า มานาใกล้ๆได้หยุดระเบิดออกมาในทันที จากนั้นฉันก็ดูดอินิกม่าเข้าไปเพื่อฟื้นฟูมานา
[กรรรรรรรรรร!]
ยังไงก็ตามการโจมตีของมังกรก็ยังไม่จบแค่นี้ นี่เขากำลังพยายามเลียนแบบสิ่งที่ฉันทำงั้นหรอ? มานาจำนวนมหาศาลได้ถูกรวมเข้าด้วยกันและก่อตัวขึ้นมาเป็นใบมีดยักษ์ หลายสิบใบด้วย! ฉันได้มองดูใบมีดพวกนี้ฟันลงมาที่ตัวฉันและยื่นมือออกไป
“ฮ่าาาาห์!”
ในทันทีที่ฉันได้แตะใบมีด ฉันก็ใช้สกิลยึดครองอย่างสุดพลัง ใบมีดได้หมุนกลับไปราวกับชนเข้ากับกำแพงและก่อนที่มันจะหายไปไกล ฉันก็ได้ใช้มือที่บาดเจ็บจับตรงกลางใบมีดเอาไว้และเหวี่ยงออกไปแนวนอนเพื่อทำลายใบมีดอื่นๆ
จากนั้นฉันก็เล็งใบมีดไปที่มังกร
ระเบิดของดอร์ตูดูจะได้ผลทำให้เลือดได้ไหลออกมาจากคอของมังกร แน่นอนว่าฉันก็รู้ถึงดีถึงพลังในการฟื้นฟูของมังกร ทำให้ฉันไม่แปลกใจเลยเมื่อได้เห็นแผลลึกค่อยๆฟื้นฟูกลับมา ยังไงก็ตามนี่มันสายเกินไปแล้ว
[เด็ดขาดมาก!]
“นั่นคือสิ่งที่ฉันอยากจะบอกเหมือนกัน!”
ใบมีดกึ่งโปร่งแสงได้ถูกย้อมไปด้วยสีเทา ตอนนี้ทั้งใบมีดขนาดใหญ่ได้ถูกอินิกม่าครอบคลุมเอาไว้แล้ว
หากว่าฉันใช้อินิกม่าไม่ได้แล้วล่ะก็ ฉันก็คงจะตายไปนานแล้ว ฉันรู้สึกขอบคุณกับวงแหวนที่หมุนอยู่บนเขาของฉันมาก หากว่าไม่มีมันฉันก็คงไม่รู้เลยว่าฉันสามารถใช้อินิกม่าด้วยพลังของตัวเองได้
“ฟู่….!”
รอยสักทั้งหมดที่สลักอยู่บนร่างของฉันได้เรืองแสงออกมา มานาของฉันได้ถูกเติมเต็มและแขนขาของฉันก็แกร่งขึ้น
รอยสักได้หลอมละลายเข้าไปในร่างฉันอย่างช้าๆ ในท้ายที่สุดรอยสักพวกนี้ก็คือมานาที่เชอร์ราฟิน่าได้กลั่นสกัดขึ้นมา แต่ในตอนนี้ฉันได้เรียนรู้วิธีที่จะควบคุมรอยสักพวกนี้แล้ว รอยสักพวกนี้กำลังกลับไปสู่รูปแบบดั้งเดิมของมัน
ฉันรู้สึกได้เลยว่าตัวฉันกำลังเปล่งแสงเจิดจ้าออกมมา ใบมีดมานาได้ขยายขนาดใหญ่ขึ้นจากการดูดมานาเข้าไปมากยิ่งขึ้น แม้กระทั่งเวทย์ที่มังกรใช้ออกมาก็ยังถูกดูดเข้าไป
[ข้าดอร์ตู กำลังเริ่มการเสริมพลัง]
ดูเหมือนแม้กระทั่งดอร์ตูก็ไม่อาจจะเปลื่ยนใบมีดมานาขนาดยักษ์ไปเป็นโลหะได้ พลังของเขาทำได้เพียงสร้างเส้นคมมีดโลหะขึ้นมาที่มุมของใบมีดเท่านั้น ในเวลานี้มังกรก็ได้ตะโกนออกมา
[ผู้ใช้หอกอยากจะจบชีวิตฉันด้วยดาบงั้นหรอ?]
“ใครสนกันล่ะ?”
ฉันได้ตวัดใบมีดลงไปโดยไม่ลังเล ใบมีดได้ตกลงไปราวกับจะตัดโลกทั้งใบให้ขาดครึ่ง และถึงแม้ว่ามังกรจะปล่อยลมหายใจมังกรออกมาต่อต้าน แต่ว่าใบมีดนี้ก็ดูดซับแม้กระทั่งลมหายใจมังกรก็ตาม
ในตอนนี้เองที่ทำให้ฉันได้รู้ถึงความหมายการเสริมพลังของดอร์ตู โลหะที่ดอร์ตูใส่เพิ่มเข้ามาคือสิ่งที่ดอร์ตูได้สร้างขึ้นจากการดูดซับความร้อนจากลมหายใจมังกร เพราะแบบนั้นทำให้ใบมีดนี้สามารถจะตัดผ่านลมหายใจมังกรได้
มังกรได้ใช้เวทย์ออกมาทุกชนิดอย่างไม่อย่าจะเชื่อ แต่สุดท้ายแล้วใบมีดก็ได้ดูดเวทย์พวกนั้นทั้งหมดเข้าไปและตัดลงไปที่คอมังกร
เมื่อได้เห็นหัวมังกรแยกออกมาจากร่าง ฉันก็ได้แค่นเสียงออกมา
“มันไม่สำคัญหรอกว่าจะชนะยังไง สิ่งสำคัญก็คือฉันชนะไงล่ะ”
ร่างกายมังกรได้เริ่มส่องแสงออกมา
[ฉันพอใจแล้ว]
“…เวรเอ้ย”
ฉันได้บ่นออกมา
“นี่นายยังไม่ตายอีกงั้นหรอ? นายนี่เป็นสิ่งมีชีวิตจริงดิ? ทั้งๆที่หัวถูกตัดไปแล้วแต่ยังรอดชีวิตอยู่ได้ยังไงกัน?”
[ถ้าเป็นนาย นายทำมันได้แน่ ฉันขอฝากความเชื่อใจไว้กับนาย]
“เชื่อใจอะไร? ฉันไม่ต้องการ ไปไกลๆเลยไป”
[ฉันกำลังจะเริ่มแล้วนะ ฉันจะซ่อนเราเอาไว้ได้หกเดือน ทำในสิ่งที่นายทำได้เพื่อรับทั้งหมดของฉันไป]
เสียงมังกรได้ดังออกมา จากนั้นฉันก็ว่านี่คือเวทมนต์ นี่คือเวทย์ที่ถูกเตรียมเอาไว้นับตั้งแต่ที่ฉันเข้ามาในชั้นที่ 95 แล้ว มันจะทำงานขึ้นก็ต่อเมื่อฉันฆ่าเขาได้
นี่เป็นเวทย์ที่เรียบง่ายมากๆ
[พลังของมังกร นายจะรับมันไปได้ไหมมนุษย์?]
“หุบปากไปเลย ฉันไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว”
ฉันได้บ่นออกมาเบาๆ และหลับตาลงไป
หนึ่งเดือนต่อมา ฉันก็ได้ออกมาจากดันเจี้ยน…
ดันเจี้ยนแห่งหนึ่งได้ปรากฏขึ้นบนโลก