Infinite Competitive Dungeon Society – บทที่ 347 – จุดจบ (1)

Infinite Competitive Dungeon Society - บทที่ 347 – จุดจบ (1)

บทที่ 347 – จุดจบ (1)

เลือดได้พุ่งออกมาจากทั่วร่างเดม่อนลอร์ดในทันที

[แค่ก!]

พลังปีศาจที่เขาปล่อยออกมาได้ถูกแบ่งครึ่งมาอยู่ในร่างฉันอย่างราบรื่น ฉันได้หัวเราะออกมาทั้งๆที่พลังปีศาจหมุนอยู่รอบมือของฉัน

“เป็นยังไงบ้างล่ะเดม่อนลอร์ด? หัวใจนายเต้นแรงงั้นหรอ?”
[กรอดดดดดด!]

ที่จริงแล้วฉันไม่เคยคิดจะใช้การล่อลวงของลิลิธกับเดม่อนลอร์ดเลย เขาเป็นคนที่ทรงพลังแม้กระทั่งในหมู่ศัตรูแห่งโลกเอง ตอนเขามีพลังดันเจี้ยนก็แกร่งอยู่แล้ว แต่เมื่อเขาทิ้งพลังดันเจี้ยนไปเขาก็แกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีก

แต่ว่าในเวลาเดียวกันความเป็นไปได้ที่การล่อลวงของลิลิธจะได้ผลก็เพิ่มขึ้นจากบาแผลจำนวนนับไม่ถ้วนจากการต่อสู้ทำให้เขาอ่อนแอ และที่สำคัญที่สุดเลยก็คือคำสาปจากปีศาจที่ทำให้เสน่ห์ของเดม่อนลอร์ดต้องลดลงจนถึงจุดที่ฉันสามารถสร้างผลกระทบต่อเขาได้

ที่มันเป็นไปได้อีกเหตุผลก็คือฉันได้เรียนรู้ในการประเมินความสามารถของศัตรูจากการต่อสู้กับมังกรอีกด้วย

ลิโคไรท์ได้ถามออกมาอย่างตกตะลึง

“ได้ยังไงกัน? ไม่ใช่ว่าพลังของซุสหายไปแล้วหรอ!?”
“นี่คือพลังของฉัน ซุสไม่ใช่คนเดียวหรอกนะที่เปลื่ยนเป็นอะไรก็ได้ตามต้องการ”

ยกตัวอย่างเช่นมังกรที่ฉันสู้ด้วยก็สามารถจะเปลื่ยนรูปร่างของเขาได้เช่นกัน จากการที่ฉันมีพลังมังกรและพลังของซุสมาจนถึงเมื่อเร็วๆนี้ มันจึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่ฉันจะแปลงร่างไปเป็นผู้หญิง

[แค่ก นี่… นี่มันคือพลังของดันเจี้ยนงั้นหรอ!?]
“เป็นพลังของนาฬิกาพกพาของฉันกับเสน่ห์น่ะ”

สกิลที่ถูกเก็บไว้ในนาฬิกาพกพาสามารถจะใช้ได้ต่อให้พลังดันเจี้ยนจะถูกจำกัดก็ตาม แม้ว่าสกิลพวกนี้จะใช้ไม่ได้กับเรสปิน่าก็ตาม แต่ว่านั่นไม่ใช่เพราะนาฬิกาพกพาป็นพลังดันเจี้ยน แต่…

“ยังไงก็ตามสิ่งสำคัญคือการต่อสู้นี้จบลงแล้ว”

ฉันได้ยกหอกขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม จากนั้นฉันขมวดคิ้วขึ้น

เคนผิดหวังงั้นหรอ? เพราะอะไรบางอย่างเคนได้หันหน้าไปทางอื่นโดยไม่พูดใดๆ ฉันได้แค่นเสียงขึ้นมา

“นายควรจะพร้อมทำทุกๆอย่างเพื่อชัยชนะนะ! ถึงมันจะน่าอาย แต่ก็ดีกว่าการที่ต้องเสียงเพื่อนๆไปเพราะมัวแต่เก็บพลังเอาไว้!?”
“… แน่นอนสิ นายจะชนะยังไงก็ไม่ใช่เรื่องของฉัน”

เคนได้พึมพัมออกมา จากนั้นเดม่อนลอร์ดได้ดิ้นรนลุกขึ้นและตะโกนออกมา

[ของฉัน พลังปีศาจของฉัน… พลังปีศาจของฉันจะกลืนกินนาย!]
“เสียใจด้วยนะ มันจะไม่เกิดขึ้นหรอก”

พลังปีศาจที่หมุนวนรอบมือของฉันได้ไหลเข้าไปในร่างตามวงจรเพรูต้าและผสมเข้ากับมานาอื่นๆอย่างราบรื่น ไม่เพียงแค่จะเติมพลังมานาขึ้นมาเท่านั้น แต่ยังทำให้บ่อเก็บมานาของฉันพัฒนาขึ้นไปจนถึงระดับที่ไม่น่าเชื่อ

[นายใช้พลังปีศาจได้ง่ายๆได้ยังไงกัน…!?]
“นี่นายกำลังพล่ามเรื่องไร้สาระอะไรอยู่น่ะ? พลังปีศาจก็เป็นมานาเหมือนกันนะ”

เมื่อเห็นลิโคไรท์กำลังส่ายหัวไปมาก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดแล้ว แต่ว่านั่นก็ไม่สำคัญหรอกเพราะสำหรับฉันแล้วมันไม่ต่างกัน ฉันได้ชี้หอกไปที่เดม่อนลอร์ดที่อยู่ในสภาพกึ่งตาย ออร่าได้พวยพุ่งเข้าไปในหอกบีบอัดกันจนถึงขีดสุด

[เข้าใจแล้ว นี่คือพลังที่แท้จริงของนาย… นั่นคือเหตุผลที่ทำไมทุกๆโลก…!]
“นั่นเป็นคำสั่งเสียของนายงั้นหรอ?”
[ฮึ่ม ฉันยัง… อั๊ก!]

ในตอนที่พลังปีศาจกำลังพุ่งออกมาจากร่างเขา ฉันก็ยื่นมือที่ว่างอยู่ออกไปจับคอเดม่อนลอร์ดเอาไว้เพื่อไม่ให้เขาหนีไป ฉันไม่ได้ใช้ร่างกายหยุดเขาไว้ แต่เป็นการใช้พลังอินิกม่าอีกด้วย

“ฉันจะไม่ปล่อยให้นายหนีไปไหนแน่”
[ฉะ ฉัน… คือผู้ที่จะเป็นผู้ปกครองทุกโลก…!]

ไม่สำคัญว่าเขาจะแกร่งได้อีกแค่ไหนก็ตาม เขาไม่มีโอกาสเหลือแล้วหลังจากถูกการล่อลวงของลิลิธไปและพลังของเขาก็ยังถูกแบ่งออกไปอีกด้วย เขาได้พยายามใช้พลังปีศาจที่เหลืออยู่โจมตีกลับมา แต่ว่าฉันก็ได้ใช้ร่างกายรับมันเอาไว้ด้วยรอยยิ้ม ในตอนนี้ฉันไม่รู้สึกอะไรจากพลังปีศาจอีกแล้ว

จากนั้นฉันได้ใช้หอกในมือตัดเขาขาดครึ่ง

เพราะร่างกายของเขายับเยินอยู่แล้วจากหอกศักดิ์สิทธิ์ของเคน เครื่องบินรบระเบิด และการล่อลวงของลิลิธ มันจึงไม่ยากเลยที่หอกของฉันที่ถูกเสริมพลังจนถึงขีดสุดจะตัดเขาจนขาดครึ่ง

[อ๊ากกกกกกกกกก]

สมแล้วที่เป็นเดม่อนลอร์ด เขาไม่ได้ตายไปจากการถูกตัดขาดครึ่ง เมื่อได้ยินเสียงร้องที่น่าสยดสยองของเขา ฉันก็ได้ยัดหอกกลับไปในมิติพิเศษ จากนั้นก็ใช้ทั้งสองมือจับทั้งสองส่วนของเขาเอาไว้

“บอกแล้วไงว่าฉันไม่ปล่อยให้นายหนีไปแน่”
[อึก…!]

ฉันได้ดึงพลังของฉันออกมา มันไม่สำคัญแล้วว่าพลังนั่นจะเป็นของการยึดครอง นรกสีชาด หรือวิญญาณสัมบูรณ์ ในเมื่อมีเป้าหมายแบบเดียวกันก็ไม่จำเป็นต้องแยกแยะพลังพวกนี้แล้ว ทั้งหมดที่ฉันต้องทำก็คือทำให้พลังพวกนี้ทำตามที่ฉันต้องการ

[อ๊าา อ๊ากกกกกกก!]
“ฟู่… ดูเหมือนนี้จะเป็นการทดสอบสุดท้ายแล้ว”
[อ๊ากกกกกก!]

ส่วนที่ถูกตัดครึ่งของเดม่อนลอร์ดดูจะแห้งเหี่ยวลงไป ไม่นานนักทั้งสองส่วนก็ได้กระจายไปเป็นอนุภาคแสง หลังจากถอนหายใจออกมาแล้วฉันก็ใช้วงจรเพรูต้าและเก็บอนุภาคแสงเอาไว้ด้วยกันบนมือฉัน

“หยุดพยายามหนีได้แล้ว”
[…]

อนุภาคสีดำได้ส่องแสงออกมาราวกับจะตอบสนองต่อคำพูดของฉัน แต่ว่าก็เท่านั้น ฉันได้ดูดซับอนุภาคแสงทั้งหมดเข้าไปในทันที พลังปีศาจส่วนสุดท้ายและพลังแห่งทวีปลูก้าได้ไหลเข้ามาในร่างฉัน

“เยี่ยม มันจบแล้ว”

ฉันได้ยืดตัวออกมาอย่างพึงพอใจเมื่อรู้สึกได้ถึงพลังของเดม่อนลอร์ดที่กำลังหลอมรวมอยู่ในร่างฉัน ในทันทีที่ฉันรู้สึกได้ถึงคุณสมบัติมากมายและพลังในร่างของฉันได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ฉันก็มั่นใจได้เลยว่าฉันได้รับบางอย่างที่พิเศษมา

ฉันได้สงสัยว่านี่คือสิ่งที่เชอร์ราฟิน่าต้องการในทันที

“ทะ ที่รัก”
“หืม อะไรงั้นหรอ?”

เมื่อฉันได้หันไปทางลิโคไรท์ เธอก็ทิ้งร่างกายใส่ฉันด้วยความเร็วเต็มกำลัง

“โอ้ อะไรล่ะเนี้ย!?”

เมื่อฉันได้รับเธอไว้อย่างตกตะลึง ลิโคไรท์ก็ได้ซุกหน้าลงมาที่อกฉันและตะโกนออกมา

“ที่รัก ฉันคิดว่าหากคุณยังเป็นอยู่แบบนี้ก็ไม่เป็นไรแล้ว”
“เป็นอยู่? อ่า ฉันยังเป็นผู้หญิงอยู่นี่นา!”
“ตราบใดที่เป็นที่รักฉันไม่มีมีปัญหา! จูบ ที่รักอยากจะจูบไหม?”
“ฉันไม่โอเค!”

ฉันได้เปลื่ยนกลับมาเป็นแบบเดิมอย่างรวดเร็ว ลิโคไรท์ได้ถอยออกไปพร้อมกับแสดงสีหน้าผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด

“น่าอายขริงๆ…”
“ที่ฉันเปลื่ยนร่างก็แค่เพื่อล้มเดม่อนลอร์ดเท่านั้น”

ฉันได้เขกหัวของเธอ

“เคน มันจบแล้ว ไปจัดการมอนสเตอร์บนโลกกันเถอะ”
“…”
“เคน?”

เคนไม่ได้พูดอะไรออกมา เมื่อฉันได้เรียกชื่อเขาสองสามครั้ง ในที่สุดเขาก็มองมาที่ฉันและพูดออกมา

“พลังของโลกฉันหายไปแล้ว”

ในตอนนี้เองเสียงของเชอร์ราฟิน่าก็ดังออกมา

[การจู่โจมครั้งใหญ่ ‘เคน เซราฮาร์ด’ ได้เริ่มต้นขึ้น! คุณได้เจอกับหนึ่งในศัตรูที่กำลังเพ็งเล็งในพลังแห่งโลก! พลังดันเจี้ยนไม่อาจจะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพกับศัตรูแห่งโลก ระบบการจู่โจมครั้งใหญ่มีอยู่เพื่อให้การสนับสนุนเล็กๆกับนักสำรวจที่ต่อสู้กับศัตรูแห่งโลก ศัตรูจะเบิกเฉยต่อสกิลและเลเวงของคุณและสมาชิกปาร์ตี้ของคุณ 5%!]
[การจู่โจมครั้งใหญ่ ‘เดซี่ แอคทราเดี่ยน’ ได้เริ่มต้นขึ้น! คุณได้เจอกับหนึ่งในศัตรูที่กำลังเพ็งเล็งในพลังแห่งโลก! พลังดันเจี้ยนไม่อาจจะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพกับศัตรูแห่งโลก ระบบการจู่โจมครั้งใหญ่มีอยู่เพื่อให้การสนับสนุนเล็กๆกับนักสำรวจที่ต่อสู้กับศัตรูแห่งโลก ศัตรูจะเบิกเฉยต่อสกิลและเลเวงของคุณและสมาชิกปาร์ตี้ของคุณ 5%!]
[การจู่โจมครั้งใหญ่ ‘เร็น เวราทรูด’ ได้เริ่มต้นขึ้น! คุณได้เจอกับหนึ่งในศัตรูที่กำลังเพ็งเล็งในพลังแห่งโลก! พลังดันเจี้ยนไม่อาจจะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพกับศัตรูแห่งโลก ระบบการจู่โจมครั้งใหญ่มีอยู่เพื่อให้การสนับสนุนเล็กๆกับนักสำรวจที่ต่อสู้กับศัตรูแห่งโลก ศัตรูจะเบิกเฉยต่อสกิลและเลเวงของคุณและสมาชิกปาร์ตี้ของคุณ 5%!]

ฉันได้อุทานขึ้นมาทันทีหลังจากได้ยินข้อความนี้

“ว้าว”

เคนได้พูดต่อออกมา

“นายก็น่าจะรู้สึกถึงมันใช่ไหม? พลังแห่งโลกของฮีโร่ทุกๆคนบนโลกกำลังพุ่งตรงมาหานาย”

เป็นอย่างที่เขาพูดเลย พลังแห่งโลกทั้งสามกำลังไหลเข้ามาในตัวฉันก่อนที่ฉันจะรู้ตัว นี่มันเป็นความรู้สึกที่คล้ายกันกับการเพิ่มขึ้นของระดับพลังที่ฉันเคยเจอในตอนที่เพิ่มเลเวลขึ้นในดันเจี้ยน เคนก็ดูจะรู้สึกถึงมันเช่นกันทำให้เขาตะโกนออกมาอย่างรวดเร็ว

“คังชินเร็วเข้า เมื่อไหร่ที่มันเกิดขึ้นจะไม่มีทางย้อนกลับไปได้แล้วนะ!”
“เวรเอ้ย นี่มันบ้าไปแล้ว! ฉันจัดการเอง!”

ในที่สุดเชอร์ราฟิน่าก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว! ฉันได้รีบเปิดประตูดันเจี้ยนอย่างรวดเร็ว! พรืดดด!หลังจากใช้พลังอินิกม่าแก้ไขการที่ประตูปฏิเสธฉันแล้ว ฉันก็ตะโกนใส่เคน

“เคน นายจำได้ใช่ไหม!? ทำตามที่เราเคยคุยกันในก่อนหน้านี้! นั่นคือเรื่องสำคัญที่สุด”
“ฉันรู้แล้ว ฉันได้รับพลังเทพเจ้านี่มาก็เพราะแบบนี้”
“พลังเทพเจ้า? พลังเทพเจ้าอะไร?”

ฉันได้นึกย้อนกลับไปถึงในตอนที่ได้เจอกับเคนในครั้งแรก ฉันได้ยินมาว่าเคนมีพลังของโอดิน แต่ว่าพลังที่ฉันรู้สึกจากเขาในตอนแรกต่างไปจากพลังของโอดิน ฉันสังเกตเห็นก็เพราะว่าฉันมีพลังของซุสกับเฮอร์มีส

“นับจากนี้ไป นักสำรวจทุกๆคนจะมารวบตัวกันในจุดๆหนึ่ง”

ในทันทีที่ฉันก้าวเข้าไปในดันเจี้ยน เคนก็ได้ใช้พลังที่เขาเตรียมไว้ เหตุผลสำคัญที่สุดที่ฉันพาเขามาในกิลด์เรากำลังแสดงผลออกมาแล้ว

“นับจากนี้ไป สมาชิกรีไววอร์ลทุกๆคนยกเว้นคังชินจะหายไปจากโลก”
“ที่รัก อย่างน้อยก่อนไปก็ช่วยบอกหน่อยว่าเขากำลังทำอะไร!…ขอบคุณนะ! สมาชิกรีไววอร์ลมารวมตัวกัน! ไม่ต้องสนใจมอนสเตอร์ที่สู้อยู่ มาที่นี่กันให้หมด!”

หลังจากฉันส่งความคิดไปให้ลิโคไรท์ เธอก็ได้บินไปพาคนอื่นๆมารวมตัวฉันอย่างรวดเร็ว ในบางมุมแล้วนี่ดูน่ารักมาก แต่ฉันก็ต้องยอมรับเลยว่าเธอทำได้มีประสิทธิภาพมากเพราะว่าเมื่อเธอเคลื่อนไหวก็มีซัคคิวบิและสมาชิกรีไววอร์ลปรากฏตัวมากขึ้น

ในเวลาเดียวกันคนส่วนใหญ่ต่างก็สับสนกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นโดยไม่ได้รับคำอธิบายใดๆ ฉันได้กางมือที่เต็มไปด้วยพลังในการหักเหพลังของเชอร์ราฟิน่าที่กำลังไหลเข้ามาหาเราเอาไว้

“ทุกๆคนอยู่ที่นี่กันแล้วนะ!?”
“ทุกๆคนอยู่ที่นี่แล้ว ยกเว้นก็แต่เคียร่า!”
“เธอไม่ใช่นักสำรวจ เพราะงั้นเธอไม่น่าจะมีปัญหาอะไร!”

ก่อนที่ประตูดันเจี้ยนจะปิดลง เคนก็ได้ตะโกนออกมาอย่างรุนแรง อากาศรอบๆตัวเขาได้กลายเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่เชอร์ราฟิน่าไม่สามารถแทรกแซงได้

“กุนนีร์!”

หมวกทองแห่งฮาเดสที่ซึ่งมีพลังในการซ่อนทุกๆอย่างได้ปกคลุมสมาชิกรีไววอร์ลทุกๆคนเอาไว้ ฮวาหยาได้พยายามเหลือบมองมาหาฉัน ในขณะเดียวกันฉันก็โบกมือให้กับเธอ

“เดี๋ยวฉันจะกลับมานะที่รัก”

จากนั้นฉันก็ได้เข้าไปในดันเจี้ยน

ภายในนี้ฉันไม่เห็นโรเล็ตต้าเลย

Infinite Competitive Dungeon Society

Infinite Competitive Dungeon Society

ICDS, 무한경쟁던전사회
Score 7.8
Status: Ongoing Type: Author: , , Artist: Released: 2015 Native Language: Korean
อ่านนิยาย Infinite Competitive Dungeon Society เรื่องย่อ : เหตุการณ์ดวงจันทร์แฝดคือจุดเริ่มต้นชองการเปลื่ยนแปลงทุกอย่าง เพราะการปรากฏตัวของมอนสเตอร์และดันเจี้ยนในสังคมยุคใหม่ และผู้ที่ใช้ความสามารถของเขาต่อสู้กับมัน โลกได้กำลังเผชิญหน้ากับประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ นี่คือกำเนิดขึ้นของแหล่งพลังงานชนิดใหม่ๆ และอาชีพดั้งเดิมมากมายได้หดหายไป สามัญสำนึกปกติได้ถูกเปลื่ยนแปลงไปและจินตนาการได้กลายมาเป็นความจริง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset