บทที่ 350 – จุดจบ (4)
เคียร่าได้เชิดอกพูดขึ้นมาอย่างภูมิใจ
“ใช่แล้ว จากความยากลำบากที่เจอทำให้ผู้คนมองหาผู้กอบกู้ ด้วยคน 2.3 พันล้านที่ตายไปทำให้ฉันมั่นใจได้ว่าจะทำให้คุณฮีโร่กลายเป็นเทพเจ้าได้ ฉันก็แค่ต้องตัดพวกเสียงรบกวนทิ้งและเพิ่มจำนวนเสียงสนับสนุนขึ้นมา นั่นมันงายมาก”
เธอมีประสบการณ์ในการควบคุมสื่อจากพลังของตระกูลเธอมาก่อน เธอไม่ได้ตัดความสัมพันธ์กับตระกูลคีเน็กซ์อย่างที่ฉันเชื่อ จริงๆแล้วเธอคือผู้ที่ควบคุมตระกูลด้วยซ้ำ ด้วยพลังของตระกูลและพลังในการเห็นอนาคตของเธอทำให้การจัดการกับความคิดเห็นของฝูงชนเป็นเรื่องที่ง่ายดาย
“แล้วเธอหลอกเดซี่ได้ยังไงกัน?”
“คุณฮีโร่ ฉันคือผู้ถือครองนัยน์ตาปีศาจนะ”
ไม้กางเขนในดวงตาเธอได้ส่องประกายอย่างรุนแรง
“ระดับพลังของฉันไม่ได้ต่ำจนจะถูกนัยน์ตาปีศาจระดับต่ำแบบนั้นวิเคราะห์ออกมาได้”
“เข้าใจล่ะ”
“คุณฮีโร่ ได้โปรดถามฉันมากกว่านี้! ฉันจะตอบในทุกๆคำถามที่คุณสงสัย”
“ทำไมเธอถึงเข้ามาในดันเจี้ยนล่ะ? เธอกลัวมาฉันจะแพ้เชอร์ราฟิน่างั้นหรอ?”
“ไม่ใช่อย่างแน่นอน ไม่มีทางที่จะมีใครเอาชนะคุณฮีโร่ได้ต่อให้เป็นฉันก็ตาม!”
ใช่แล้ว ฉันก็เพิ่งจะได้ข้อสรุปเดียวกันนี้มา ข้อสรุปที่ทำให้การเตรียมการทั้งหมดที่ฉันทำมาเพื่อต่อสู้กับเชอร์ราฟิน่าเป็นเรื่องไร้ค่า
เคียร่าได้ตอบคำถามของฉันออกมา
“นี่คือการใช้ประโยชน์จากพลังของคนผิดปกติ”
ฉันเริ่มรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาในทันที
“ยังไล่ะ?”
“ระดับพลังของเธอต่ำ แต่ว่าความสามารถของเธอน่าทึ่งอย่างแน่นอน! เธอสามารถที่จะเคลื่อนย้ายพลังแห่งโลกได้ตามต้องการ! ด้วยพลังนี้เราก็จะสามารถเติมเต็มพลังให้กับฮีโร่จนสมบูรณ์ได้อย่างรวดเร็ว”
ความคิดที่ดูโหดร้ายยิ่งขึ้นได้ปรากฏขึ้นมา
“ถ้างั้นเธอจะบอกว่า…”
“ใช่แล้ว ฉันจะเชื่อมต่อทุกๆโลกเข้ากับโลกเรา ฉันจะย้ายพลังแห่งโลกพวกนั้นมาสู่ตัวคุณฮีโร่ เพราะงั้นคุณฮีโร่ก็แค่ต้องดูดซับพลังเข้าไป! แผนของเราก็จะสมบูรณ์”
ดวงตาเคียร่าได้เจิดจ้าออกมาจนผิดปกติ
“เพราะงั้นคุณฮีโร่อย่าไดขัดขืนฉันเลย ฉันไม่ได้จะทำร้ายคุณฮีโร่ มันจะเจ็บแค่เดี๋ยวเดียวเท่านั้น เพราะงั้นช่วยทนไว้ด้วย!”
“นี่… เธอ…”
จู่ๆฉันก็รู้สึกพูดได้ยากขึ้นมา ทำไมกันล่ะ? ชัดเจนว่านี่มันเป็้นเพราะมิตินี้คือพลังมานาที่หนาแน่นของเชอร์ราฟิน่าที่เปลื่ยนมาเป็นของเคียร่าแล้ว แรงกดดันมหาศาลได้กดทับลงมาบนร่างฉัน
แม้ว่ามันจะไร้สาระ แต่ว่าเคียร่าที่มีพลังของเชอร์ราฟิน่าแข็งกว่าฉันอย่างไม่ต้องสงสัย
หากว่าพลังทั้งหมดได้ถูกนำมารวมกันในตัวฉันอย่างที่เธอพูด สถานการณ์ก็จะพลิกกลับแน่ แต่ว่านั่นมันก็จะสายเกินแก้แล้ว แค่การแยกพลังแห่งโลกแค่หนึ่งอย่างในร่างก็ใช้เวลาอย่างมากแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพลังแห่งโลกจำนวนนับไม่ถ้วนที่ถูกบังคับหลอมรวมกันด้วย นั่นจะไม่มีทางแก้กลับมาได้เลย
ไม่สิ ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด…
“หลังจากนั้น เธอ เธอจะกลายเป็นอะไร?”
“ใช่แล้ว ฉันก็จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหมาะสมกับชื่อที่คุณฮีโร่จะมี”
“แล้วถ้าฉันฆ่าเธอแล้วเอาพลังในการแบ่งความสามารถที่เธอมีมานาและส่งพลังแห่งโลกกลับคืนล่ะ?”
“คุณฮีโร่การดูดซับพลังแห่งโลกเป็นกระบวนการง่ายๆ แต่ไม่ใช่เป้าหมาย ฉันเข้าใจว่าคุณมีความเห็นใจต่อโลกอื่นๆ แต่ช่วยยอมแพ้เถอะนะ เมื่อคุณตื่นขึ้นมาก็จะแก้ไขอะไรกลับคืนไม่ได้แล้ว”
เคียร่ายังปล่อยมานาของเธอออกมาพร้อมกับฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี มานาของเชอร์ราฟิน่าที่แตกต่างจากอินิกม่าได้พุ่งเข้ามาใส่ฉัน
แม้ว่าเคียร่าจะกำลังควบคุมมานาเชอร์ราฟิน่าอยู่ แต่เธอก็ทำมันได้อย่างรื่นไหลเป็นธรรมชาติ พรสวรรค์ในการเรียนรู้วงจรเพรูต้าของเธอน่าทึ่งไปกว่าฉันอยู่แล้ว แต่จากระดับการควบคุมที่เธอกำลังแสดงอยู่นี่มันเกินกว่าพรสวรรค์ที่เธอแสดงให้ฉันเห็นซะอีก
ฉันได้ใช้อินิกม่าต่อต้านกลับไป แต่ว่าพลังมานาของเชอร์ราฟิน่าก็ได้ใชพลังตรงๆเอาชนะอินิกม่าได้ ถึงแบบนั้นก็ไม่ได้เกินคาดอะไร หากฉันมั่นใจว่าแค่อินิกม่าจะเอาชนะเชอร์ราฟิน่าได ฉันก็คงไม่กังวลตั้งแต่ตอนแรกแล้ว
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงในตอนนี้ฉันอยู่ภายในมิติที่สร้างขึ้นจากเชอร์ราฟิน่าด้วย หากฉันเคลื่อนไหวแม้แต่นิดมานาของเธอก็จะตอบสนองในทันที
ฉันพยายามจะใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์โจมตีกลับไปแต่มันก็ล้มเหลว เคียร่าได้ควบคุมมานาอย่างคล่องแคล่ว เธอได้ขวางทุกๆวิธีที่ฉันทำด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่ฉันกำลังคิดว่าหาทางเคลื่อนไหวที่ทำได้ เธอก็ถอนหายใจงอนิ้วเป็นรูปตะขอ
“ช่วยไม่ได้แล้ว มันจะเจ็บนะคะ แต่ว่าช่วยทนหน่อย ฉันไม่ได้มีความสามารถเท่าคุณฮีโร่ เพราะงั้นฉันไม่สามารถจะควบคุมพลังของคนอื่นๆได้เป็นอย่างดี ย่ะห์”
ฉันเข้าใจถึงสิ่งที่เธอกำลังจะทำในทันที พลังของเชอร์ราฟิน่าได้พวยพุ่งขึนมาและกลืนกินแรงกดดันที่กดทับฉัน
เธอกำลังพยายามจะดูดพลังดันเจี้ยนทั้งหมดไปจากฉัน บ้าไปแล้ว! นี่เธอใช้พลังเชอร์ราฟิน่าไดถึงระดับนี้แล้วงั้นหรอ?
ถึงฉันจะตกใจกับความสามารถของเธอ แต่ว่าฉันก็โล่งใจกับการกระทำนี้ของเธอ
“เอ๋”
“ยอมแพ้ซะเคียร่า”
“ได้ยังไงกัน? คุณฮีโร่ คุณน่าจะมีพลังของผู้หญิงคนนั้นในตัวนี่นา?”
“ฉันมี แต่ว่าตอนนี้มันต่างออกไปหน่อยแล้ว”
“โอ้ ว้าว”
เคียร่าได้แสดงท่าทางตกใจออกมาพร้อมเอียงหัวสงสัย
“อย่าบอกนะว่าคุณฮีโร่ได้ดูดซับพลังนั่นไปหมดแล้ว? เธอจะต้องใส่กุญแจมากมายเพื่อกันไม่ให้คุณฮีโร่ทำสินะ น่าทึ่งจริงๆ! คุณฮีโร่น่าทึ่งมาก!”
“เธอนี่น่าโมโหจริงๆเลยะ”
“โหดร้ายจังเลย แต่ไม่เป็นไรหรอกคะ ฉันรู้ว่าภายในลึกๆแล้วคุณฮีโร่รักฉัน! คุณจับตามองฉันมาตลอด”
“นั่นมันคือความเสียใจที่สุดในชีวิตฉันเลย”
ขณะที่ฉันพูดออกมาฉันก็มั่นใจได้ถึงเรื่องหนึ่ง เธอไม่อาจจะใช้พลังในการมองอนาคตในมิตินี้ได้ หากว่าเธอรู้ว่าเธอไม่สามารถจะดูดพลังดันเจี้ยนไปจากฉันได้ เธอก็ไม่น่าจะทำแต่แรกแล้ว นี่มันหมายความว่าในที่แห่งนี้เธอจะใช้พลังในการมองอนาคตได้
แน่นอนว่าเหตุผลที่เธอขโมยพลังดันเจี้ยนไปจากฉันไม่ได้ก็ง่ายมากๆ ในปัจจุบันนี้พลังดันเจี้ยนได้ผูกติดกับฉันด้วยสื่อกลางตัวหนึ่ง สื่อกลางนี้คือไอเทมที่ฉันได้รับมาเมื่อนานมากแล้ว นาฬิกาพกพาของนักสะสม
แม้กระทั่งในแง่ของกฏดันเจี้ยนนาฬิกาพกพานี้ก็เป็นสิ่งที่แปลก ไม่ว่าจะเป็นพลังดันเจี้ยนหรือพลังของอาร์ติแฟค นาฬิกาพกพานี้ก็สามารถจะดูดพลังมาเก็บไว้และให้ฉันใช้ได้
นาฬิกาพกพาเป็นไอเทมที่ลึกลับไม่กี่อย่างในดันเจี้ยนตั้งแต่แรกแล้ว ยิ่งฉันปืนดันเจี้ยนไปมากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งเข้าใจว่านี่ไม่ใช่ไอเทมธรรมดา เมื่อนาฬิกาพกพาทำให้ฉันสังเคราะห์สกิลได้ ข้อสงสัยฉันก็ยิ่งมากขึ้น ฉันได้รับโอเวอร์ลอร์ดมาเพราะนาฬิกาพกพานี่ หรือก็คือนาฬิกาพกพาคือสิ่งที่ได้ทำให้ฉันมาถึงจุดที่ยืนอยู่ในทุกวันนี้
และคนที่มอบมันให้กับฉันก็คือโรเล็ตต้า ไม่นานมานี้ฉันได้ถามโรเล็ตต้าว่าเธอมีฉันอยู่ในใจนับตั้งแต่มอบนาฬิกาพกพาแล้วใช่ไหม เธอก็ได้หยักหน้าอย่างไม่ลังเล ใช่แล้วโรเล็ตต้ารู้มานานแล้วว่าเชอร์ราฟิน่าหลอกเธอ และนาฬิกาพกพาก็คืออาวุธลับที่เธอไว้ใช้ต่อต้านเชอร์ราฟิน่า
เมื่อไม่นานมานี้นาฬิกาพกพาก็เพิ่งจะผ่านการเปลื่ยนแปลงสุดท้ายมาก การเปลื่ยนแปลงสุดท้ายของมันก็เรียบง่ายมาก มันสามารถจะเก็บพลังไว้ภายในเท่าไหร่ก็ได้ สังเคราะห์พลังอะไรก็ได้ และทำให้ผู้ใช้งานมันใช้พลังพวกนั้นได้อย่างอิสระ จุดประสงค์ของมันได้เรียบง่ายากยิ่งขึ้น
มันคือสื่อกลางที่เปลื่ยนพลังเชอร์ราฟิน่าให้กลายเป็นพลังที่แตกต่างไปจากเดิม เพราะแบบนี้ทำให้ต่อให้เชอร์ราฟิน่าจะพยายามเอาพลังไปจากฉันหรือใช้พลังทำร้ายฉัน เธอก็จะทำมันไม่ได้ ตราบใดที่ฉันมีไอเทมนี้อยู่ฉันก็จะหลุดพ้นจากโชคชะตาของนักสำเร็จที่ซึ่งเป็นเหมือนกับทาสของเจ้าของดันเจี้ยน
ยังไงก็ตามมีอยู่ครั้งหนึ่งที่พลังของนาฬิกาพกพาได้ถูกปิดกั้น นั่นคือในตอนที่ฉันสู้กับปีศาจเรสปิน่า นอกจากครั้งนั้นก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่ถูกปิดกั้นเลย ถ้างั้นทำไมมันถึงได้ถูกเรสปิน่าปิดกั้นพลังได้ล่?
เรสปิน่าเป็นพวกผิดแปลกแม้กระทั่งในหมู่ปีศาจด้วยกันเอง เธอแตกต่างไปจากห้าราชาหรือศัตรูแห่งโลกอื่นๆที่ฉันได้เคยเจอ เธอไม่ได้แค่ปฏิเสธในพลังเชอร์ราฟิน่าเท่านั้น แต่เธอปฏิเสธในพลังใดๆก็ตามที่ไม่ใช่พลังบริสุทธิ์ เพราะแบบนั้นทำให้เธอสามารถปฏิเสธในพลังของนาฬิกาพกพาได้หลังจากรับรู้ถึงมัน
ไม่ว่าจะยังไงก็ตามจากการที่เคียร่าไม่ได้รู้ถึงตัวตนของนาฬิกาพกพาก็พิสูจน์แล้วว่าเธอไม่ได้ต่างไปจากเชอร์ราฟิน่าในมิตินี้เลย
แม้ว่าในตอนแรกฉันจะตกตะลึง แต่การสู้กับเชอร์ราฟิน่าหรือเคียร่าก็ไม่ได้ต่างกันเลย!
“ชิ นี่มันไม่ง่ายเลย? คุณฮีโร่ยอดเยี่ยมจนเกินไป แต่นี่แหละฉันถึงได้ชอบฮีโร่ หุหุ”
“หากเธอตายไปที่นี่ ฉันก็อาจจะชอบเธอนะ”
“เฮะๆ คุณล้อฉันเล่นอีกแล้ว ฉันรู้แล้วว่าคุณรักฉันมากแค่ไหน!”
มานาของเธอได้ยิงเข้ามาใส่ฉันจากทุกทิศทาง แต่ว่าการควบคุมมานาของฉันก็ไม่ได้แพ้เธอ ต่อให้จะเป็นศัตรูที่มีมานาเหนือกว่าฉันทั้งในด้านคุณภาพและปริมาณ ฉันก็มั่นใจว่าฉันจะยืนหยัดสู้ได้ ถึงแม้ว่าตอนแรกฉันคิดว่าเธอจะคาดเดาการโจมตีฉันได้จากพลังในการเห็นอนาคตของเธอได้ทำให้ฉันท้อแท้ไป
“ดูเหมือนว่าเธอจะใช้พลังในการเห็นอนาคตในที่แห่งนี้ไม่ได้จริงๆสินะ”
“นัยน์ตาปีศาจของฉันไม่ใช่นัยน์ตาปีศาจที่ทำให้เห็นอนาคน คุณฮีโร่ ตาคู่นี้น่ะทำให้ฉันได้เห็นถึงเรื่องราวทั้งหมดในอดีตและอนาคตของดาวเคราะห์ที่เรียกว่าโลก พวกมันทำให้ฉันได้ช่วยคุณฮีโร่!”
เป็นแบบนี้นี่เอง ฉันคิดว่าพลังเชอร์ราฟิน่ายับยั้งเธอไว้ แต่ว่าดูเหมือนว่านัยน์ตาปีศาจของเคียร่าจะมีพลังที่น่าทึ่ง นัยน์ตาปีศาจของเธอไม่ใช่นัยน์ตาของผู้ใช้พลัง แต่เป็นผู้ดูแลระดับ!
เธอบอกว่าระดับพลังของเธอต่ำกว่าฉันงั้นหรอ?เธอก็แค่ถ่อมตัวเท่านั้นแหละ คนที่รู้ทุกๆเรื่องเกี่ยวกับโลกเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะมีระดับพลังต่ำกว่าฉัน! หากว่าเธอกลับไปบนโลกฉันก็คงไม่มีทางหยุดเธอได้
แต่ก็โชคดีที่ดูเหมือนพลังนัยน์ตาของเธอจะจำกัดพื้นที่แค่บนโลกเท่านั้น เพราะแบบนี้สินะทำให้เธอจะมีปัญหาในตอนที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับดันเจี้ยน มีอีกข้อสงสัยหนึ่งที่โผล่ขึ้นมา
“แล้วเธอหาเชอร์ราฟิน่าได้ยังไง?”
“ฉันไม่ได้รู้ชื่อของเธอ ฉันก็แค่รู้เรื่องการมีอยู่ของดันเจี้ยนและมันกำลังยุ่งกับแผนของเรา ส่วนที่เหลือก็เรื่องง่ายๆ เมื่อฉันมีเบาะแสฉันก็ได้ดึงข้อมูลทุกๆอย่างที่เกี่ยวกับดันเจี้ยนจากความทรงจำบนโลก”
นี่มันคือความสามารถที่ท้าทายสวรรค์อย่างแท้จริง! หรือก็คือจะมีก็แต่สิ่งที่ฉันได้ทำในโลกอื่นเท่านั้นที่เคียร่าจะไม่รับรู้
แม้กระทั่งในตอนนี้เคียร่าก็กำลังทำการเชื่อมต่อโลกเข้ากับโลกทั้งหมด เธอได้รู้ถึงจำนวนที่นับไม่ถ้วนของโลกและจำนวนที่นับไม่ถ้วนของสิ่งมีชีวิตที่จะสูญสิ้นไป ใช่แล้ว สีหน้าของเธอก็ยังคงสงสัย ตัวตนของเธอบิดเบี้ยวจนน่าหวาดกลัวแล้ว
“เคียร่า ทำไมเธอถึงได้เป็นขนาดนี้กันนะ?”
“เพราะฉันรักคุณฮีโร่! ฉันมีตัวตนอยู่เพื่อคุณฮีโร่คนเดียวเท่านั้น!”
“ฉันไม่ได้ต้องการอะไรแบบนี้เลย”
“แต่ฉันต้องการคุณฮีโร่ ฉันรู้ดี ตอนนี้คุณอาจจะยังไม่เข้าใจ แต่ว่าเชื่อฉันเถอะ อีกแค่ไม่นานแล้ว”
เป็นไปไม่ได้เลยที่ฉันจะเข้าใจเธอ มุมมองที่เรามีต่างกันจนเกินไป
การพูดคุยกับเธอไร้ค่า หากจะได้อะไรนั่นก็มีแต่จะช่วยลดความเบื่อหน่ายในระหว่างที่เธอกำลังเชื่อมต่อโลกอื่นๆเข้ากับโลกเท่านั้น
แต่ถึงแบบนั้นฉันก็อดที่จะถามออกมาไม่ได้ ยังมีสิ่งที่ฉันอยากจะรู้อยู่
ฉันได้จ้องไปที่เธอและถามออกมา
“เธอยังจำเรสปิน่าได้ไหม?”
