บทที่ 7 – เด็กหนุ่มที่กลายมาเป็นนักสำรวจดันเจี้ยน (7)
ขณะที่ฉันอยู่กับความคิดของฉัน ทุกๆคนก็เสร็จสิ้นการรับรางวัลแล้ว เอลลอสได้ตบมือของเขาและดึงความสนใจของทุกๆคน
“วันนี้ทุกๆคนทำได้ดีมาก ถ้าหากว่าไม่มีทุกๆคนพวกเราก็จะประสบกับความล้มเหลวในการเอาชนะออร์คลอร์ด ในฐานะที่พวกเราเป็นสหายในการปีนดันเจี้ยนกัน มันจะเป็นการดีที่พวกเราจะติดต่อกัน
“ติดต่อกัน? ยังไงหรอ?”
“อา นายไม่รู้งั้นหรอ นายสามารถจะส่งคำขอเป็นเพื่อนได้และนายก็จะสามารถติดต่อกับเขาได้ทุกครั้งที่คุณอยู่ในดันเจี้ยน
“เข้าใจแล้ว”
ด้วยคำพูดของเอลลอส ฉันก็ได้ตระหนักถึงการคงอยู่ของระบบฟังชันของดันเจี้ยน ฉันได้ลงทะเบียนเพิ่มเอลลอสเป็นเพื่อน แม้ว่าฉันจะไม่ต้องการเพิ่มเพลรูเดียเป็นเพื่อน แต่เพราะว่าพวกเราร่วมทีมกันฉันจึงส่งไปเช่นกัน ถ้าฉันเพิ่มเพื่อนกับเอลลอสแต่ไม่เพิ่มเพลรูเดียมันจะมีปัญหา
“ถ้างั้นนายจะมุ่งหน้าไปที่ชั้นที่หกหรอคัง ชิน?”
“อ่อ ใช่แล้วเป้าหมายของฉันก็คือการเอาชนะชั้นที่ 10”
“เอ่อ…นั่น…”
“…?”
เอลลอสดูเหมือนจะต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่แล้วเขาก็ก้มหัวลง
“มะ ไม่ มันไม่มีอะไร อืมม…โชคดีนะ โทรหาฉันถ้าหากว่านายต้องการความช่วยเหลือ ฉันจะช่วยนายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้นะ”
“อืมมม…เข้าใจแล้ว”
มันยังไงกันนะ? ฉันได้แต่เอียงหัวด้วยความสงสัย แต่เป็นเพราะว่าฉันรู้สึกถึงความจริงใจของเอลลอสฉันจึงหยักหน้า
ปาตี้ได้ถูกยกเลิกและฉันก็ถูกส่งกลับไปในที่ๆฉันอยู่ในก่อนหน้านี้ มันเป็นที่ๆอยู่ระหว่างห้องของบอส ชั้นซื้อขายของชั้นที่ 6 ฉันได้ไปที่ร้านขายของเพื้อที่จะตรวจสอบว่ามันมีอะไรที่จำเป็นจะต้องซื้อหรือไม่ แต่แล้วฉันก็ยืนยันได้ว่ามันไม่มี ในขณะนั้นเองที่ฉันกำลังจะเดินขึ้นไปบนบันไดอย่างขมักเขม้น พี่สาวเจ้าของร้านก็เชียร์ฉันด้วยรอยยิ้ม
“ทำให้ดีที่สุดน้า! วิญญาณพวกนั้นมันจะกินพลังงานของมนุษย์”
“ขอบคุณครับพี่สาว…วิญญาณ?”
ฉันคิดว่าที่ชั้นทีหกนี้มันฟังดูน่ากลัวกว่าชั้นที่ห้าซะอีก ฉันได้เริ่มตระโกน “เริ่มการสำรวจ” ออกมา และในทันทีความมืดก็ได้เข้ามาล้อมรอบฉัน
“…เอ๊ะ?”
-ชูวววว
“…เอ๊ะ?”
ฉันได้ยินเสียงอะไรนะ? ฉันรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างวิ่งผ่านมากระแทกแขนของฉัน
‘นี่มันก็เป็นเพียงแค่บรรยากาศที่ชั้นเกลียดเท่านั้น’
ฉันได้กลืนน้ำลายลงไปแล้วเดินไปข้างหน้า ช่วงเวลาต่อมาได้มีบางสิ่งบางอย่างพุ่งเข้ามาหาฉันอย่างเฉียบพลับ
“ว๊ากกกกก”
ขณะนั้นเองฉันได้กรีดร้องออกมา ฉันไม่สามารถจะทำอะไรได้และล้มลงไป บางสิ่งบางอย่างสีขาวได้เข้ามาโจมตีฉันด้วยเสียงที่อยากรู้อยากเห็น
“ฮูกี๊!”
“ว๊ากกกกก”
มันเป็นผีที่น่ากลัว! ฉันได้ต่อยไปที่มันด้วยกำปั้น แต่ว่าหมัดของฉันก็ผ่านมันไปอย่างง่ายดาย มันไม่ได้ตายไป ฉันรู้สึกได้โดนสัญชาตญาณเลยว่ามันไม่เป็นอะไร
[วิญญาณพยาบาทมันได้ทำให้คุณเสียพลังชีวิต เนื่องจากว่าคุณไม่มี MP Hp ของคุณจึงลดลงอย่างต่อเนื่อง]
“ฮูกี๊!”
“ว๊ากกกกก”
มันไม่ได้มีเพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น มีวิญญาณหลายตัวโผล่ออกมาและโจมตีมาที่ฉัน ฉันไม่ได้คิดที่จะใช้หอกออกไปเลยในขณะที่ฉรีดร้องฉันก็เหวี่ยงแขนและขาของฉันออกไป แต่ว่ามันก็ไม่มีผลใดๆเลยและในที่สุด Hp ของฉันก็ถูกดูดไปจนเหลือเพียงแค่ 0 และฉันก็ถูกเตะออกไปจากดันเจี้ยน สิ่งนี้มันเป็นสิ่งที่ค่อนข้างน่าอับอาย
“พ่อ!”
“อุหว๋า แกกำลังตะโกนอะไร!?”
“พ่อโกหกฉัน”
“เรื่องอะไรหละ?”
“ฉันไม่เคยเห็นหินมานาแม้แต่ก้อนเดียวในดันเจี้ยนเลย แถมยังมีวิญญาณพยาบาทอยู่ที่ชั้น 6 อีกด้วย หากปราศจากชิก็ไม่มีทางที่จะเอาชนะมันได้เลย บอกมาตรงๆว่าตอนนี้พ่ออยู่ชั้นที่เท่าไหร่?”
“…เยี่ยม นายเห็นแล้วสินะไอลูกชาย”
“พ่อกำลังอยู่ที่ชั้นที่เท่าไหร่?”
เมื่อฉันได้จ้องไปที่พ่อของฉันอย่างเอาเป็นเอาตายพ่อก็ตอบกลับมา
“ชะ ชั้นที่ 6”
“พ่ออออออออ!”
เมื่อฉันตะโกนออกมา พ่อก็สะดุ้ง
“อึก มันมีอะไรผิดพลาดหรอชิน? ลูกสามารถที่จะได้รับทองจำนวนมากจากการจัดการพวกออร์คที่ชั้นที่ 5 มันจะทำเงินได้มากพ่อที่ฉันจะซื้อบ้านหลังนี้ รถ และกระเป๋าของแม่อีกด้วยนะ เห็นไหมหละ ดูสิพ่อทำเงินได้มากแค่ไหน”
“สำหรับการมาถึงเพียงแค่ชั้นที่ 5 พ่อแน่ใจนะว่ามันมาก…!”
“ฮึ่ม แกก็ไม่แตกต่างกันหรอกน่า แกจะต้องล่าพวกออร์คตลอดไป”
“พ่อออ!”
แทนที่เขาจะให้กำลังใจฉัน เขากลับล้อเลียนฉันแทน! ฉันคิดว่าฉันจะคว้าไปที่คอเสื้อของพ่อและต่อสู้กับเขา แต่ว่าฉันเห็นแม่และยุยที่กำลังมองดูพวกเราผ่านทางประตูอยู ฉันจึงลบความคิดนี้ออกไป
“หึ ฉันไม่ได้กลายมาเป็นนักสำรวจดันเจี้ยนเพียงแค่เพื่อล่าพวกออร์ค…”
“ชิน นี่มันไม่ใช่โอกาสที่ทุกคนจะสามาถมีได้นะ ออร์คมันให้ 10 ทอง ซึ่งมันสามารถที่จะแลกเปลื่ยนมาเป็นเงินได้ถึง 20000 วอน ออร์คสามตัวมันเท่ากับ 20000 วอนเลยนะ ลูกรู้ไหมว่าเราจะรวยแค่ไหนกับเหมืองๆนี้?”
“แต่พ่อ…”
“มีอะไรผิดพลาดงั้นหรอ?”
“ฉันอยากที่จะมีชิ”
“แก…!”
พ่อมองมาที่ฉันด้วยท่าทางซาบซึ้งใจ ร่างกายของเขาสั่นทันใดนั้นเขาก็ได้มากอดฉันเอาไว้ มันไม่ได้เป็นเหมือนกับการต่อสู้แบบมวยปล้ำ
“เช่นนี้แกจะต้องสามารถที่จะได้รับชิได้เมื่อแม้ว่าฉันจะไม่สามารถทำได้ แกทำได้ดีกว่าที่ฉันทำในอดีต”
“พวกเราทำได้พ่อ พวกเราทำได้!”
ในที่สุดฉันก็ได้กลับไปที่ชั้นที่ 5 แต่ว่าฉันไม่ต้องการที่จะทำเพียงแค่ล่าออร์คตลอดทั้งวัน หลังจากที่ฉันได้ประสบกับความตื่นเต้นในการต่อสู้กับออร์คลอร์ด พวกออร์คธรรมดามันไม่เพียงพอที่จะทำให้ฉันพอใจได้เลย ตอนนี้มันมีบางสิ่งบางอย่างที่มาถึงแล้ว ฉันได้ตัดสินใจที่จะเพิ่มการได้รับอิลิกเซอร์บีบอัดกล้ามเนื้อ ฉันได้เลือกที่จะเข้าปาตี้และต่อสู้กับออร์คลอร์ดอีกครั้งหนึ่ง
แน่นอนว่ามันมีอุปสรรคอยู่มากมาย อย่างแรกเลยมันกลายเป็นว่าฉันสามารถจะต่อสู้ในชั้นของบอสได้เพียงวันละครั้งเท่านั้น แม้ว่าฉันจะทำมันสำเร็จ แต่ว่าฉันก็จะสามารถเข้าไปอีกรอบได้แค่ในวันรุ่งขึ้นเท่านั้น และแน่นอนว่าถ้าหากฉันทำล้มเหลวฉันก็จะไม่สามารถที่จะเข้าไปในดันเจี้ยนได้อีกตลอดทั้งสัปดาห์ ออร์คลอร์ดมันไม่ได้เป็นศัตรูที่อ่อนแอโดยสิ่งนี้มันเป็นผลให้ฉันมีโอกาสที่จะถูกเตะออกไปจาดันเจี้ยนมีถึง 50% ขึ้นอยู่กับตามแต่ละปาตี้ที่ฉันเข้าร่วม
นอกจากนี้อิลิกเซอร์บีบอัดกล้ามเนื้อก็ไม่ได้ดรอปออกมาเสมอๆ แถมฉันก็ยังไม่ใช่คนที่จะได้รับผลงานที่เป็นอันดับ 1 เสมอไป ในบางครั้งมันเหลือเพียงแห่งโพชั่นเพิ่มพลังที่เหลือเอาไว้ให้ฉัน ซึ่งมันเพิ่มเพียงแค่โบนัสความแข็งแกร่ง และพวกโพชั่นเกรดต่ำ
แต่ว่ามันก็มีข่าวดีอยู่ด้วยเช่นกันเหตุผลที่ร่างกายของฉันนั้นมันใหญ่มากไม่เพียงแต่เป็นเพราะกล้ามเนื้อของฉันเท่านั้น แต่มันยังเป็นเพราะว่าฉันมีกระดูกที่โหญ่โตอีกด้วย ใช่แล้วฉันนั้นมีโครงร่างของมังกร ประมาณครึ่งปีหลังจากนั้นที่ฉันประสบความสำเร็จในการล่าออร์คลอร์ดมันเป็นครั้งแรกที่ได้มีอิลิกเซอร์ชนิดใหม่ปปรากฏออกมา
[อิลิกเซอร์บีบอัดกระดูก (แรร์)
เมื่อบริโภคกระดูกของร่างกายก็จะถูกบีบอัดทำให้มีขนาดเล็กลงและแข็งแกร่งขึ้น อย่างไรก็ตามถ้าหากว่ากระดูกของคุณถูกบีบอัดจนถึงขีดสุดแล้ว การบริโภคมันลงไปก็จะไม่เป็นผลหรือก็อาจจะฆ่าคุณลงไปในกรณีที่เลวร้ายที่สุด]
“โว้วว!”
ฉันได้กระโดดโลดเต้นเหมือนกับในตอนแรกที่ฉันได้รับอิลิกเซอร์บีบอัดกกล้ามเนื้อ ทันทีที่ฉันกินอิลิกเซอร์บีบอัดกระดูกลงไปและคราวนี้ค่าร่างกายของฉันก็เพิ่มขึ้นอย่างถาวร 1 แต้ม
การใช้อิลิกเซอร์บีบอัดมันไม่ได้เพิ่มสเตตัสของฉันตลอดนัก แต่ว่ามันเพิ่มขึ้นแค่เป็นครั้งคราวเท่านั้น ด้วยเหตุเช่นนี้มันจึงไม่ใช่เรื่องเลวร้ายนะที่ฉันจะต้องล่าออร์คลอร์ดซ้ำๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามที่แข็งแกร่งอย่างออร์คลอร์ดมันมีบทบาทสำคัญในการช่วยเพิ่มทะษะศิลปะการต่อสู้ระดับต่ำของฉันอย่างรวดเร็วอีกด้วย
หลังจากที่ผ่านไปหนึ่งปี การล่าออร์คลอร์ดมันก็ได้กลายเป็นง่ายดายยิ่งขึ้น ดูเหมือนว่ามันจะมีเครือข่ายบางอย่างที่ไม่รู้จักของพวกนักสำรวจดันเจี้ยนเมื่อพวกเขาสร้างปาจี้คนที่เข้าร่วมมาพวกเขาจะถามว่าฉันเป็น “มงกุฎราชกุมาร” หรือไม่ เมื่อพวกเขาถามว่าคำนี้มันหมายถึงอะไร พวกเขาก็ได้ตอบว่ามันเป็นชื่อเล่นที่มอบให้กับฉันผู้ที่เชี่ยวชาญในการล่าบอสของชั้นที่ 5 หรือชื่อเต็มๆก็คือ มงกุฎราชกุมารแห่งชั้นที่ 5
“มะ มงกุฎราชกุมาร”
ฉันได้รับชื่อเล่นที่น่าอัปยศนี้มาได้ยังไงกัน แน่นอนว่าฉันรู้ว่านี้มันเป็นการที่คนอื่นๆยอมรับในความแข็งแกร่งของฉัน หลังจากที่ฉันได้เผชิญหน้ากับออร์คลอร์ดมาเป็นเวลาหนึ่งปี ฉันก็ได้เติบโตมากขึ้นจนพอที่จะสามารถเอาชนะออร์คลอร์ดได้โดยที่ไม่ต้องสูญเสียสมาชิกปาตี้แม้แต่คนเดียว
สเตตัสของฉันได้เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ผ่านทางอิลิกเซอร์บีบอัดกล้ามเนื้อและกระดูก มันเป็นเหตุผลหนึ่ง แต่เหตุผลที่สำคัญกว่านั้นอีกก็คือทักษะศิลปะการต่อสู้ของฉันแข็งแกร่งขึ้น มันเติบโตจนแข็งแกร่งเทียบเท่ากับเทคนิคหอกของฉัน ฉันสามารถจะอ่านและตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของออร์คได้อย่างรวดเร็ว
มีคนติดต่อมาหาฉันด้วยหลังจากหนึ่งปีนั้น คนๆนั้นคือเอลลอสเขาได้บอกกับผมว่าตอนนี้เขากำลังผ่านไปที่ชั้น 9
[ขอโทษด้วยนะ ถ้าหากเพียงแค่ฉันสามารถจะสอนวิธีเพาะปลูกมานาของฉันให้กับนาย…]
“มันไม่เป็นไร ฉันรู้ว่ามันเป็นความลับของครอบครัวนาย ฉันได้ยินมาว่านายไม่สามารถจะซื้อของจากชั้นซื้อขายในก่อนหน้านี้ได้ โชคดีนะที่ฉันคิดเช่นนั้น”
[ในดันเจี้ยนอื่นๆพวกวิญญาณมันจะไม่ปรากฏตัวออกมาหลังจากชั้นที่ 10 เป็นต้นไป แต่โชคร้ายที่นายกลายมาเป็นนักสำรวจของดันเจี้ยนแรก…มันเป็นสิ่งที่น่าอับอาย]
“อย่างที่ฉันพูดนั่นแหละมันเป็นเพราะโชคของฉัน”
ฉันรู้สึกได้ถึงความกังวลของเอลลอส ฉันยังเข้าใจในสิ่งที่เอลลอสต้องการจะบอกกับฉันในปีที่แล้ว
สามเดือนหลังจากที่เอลลอสได้ติดต่อมาหาฉัน คนที่ฉันไม่คาดคิดก็ได้ติดต่อมาหาฉัน คนๆนั้นเป็นเพลรูเดีย ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะติดต่อมาหาฉัน
[ฉันได้ยินมาว่านายยังอยู่ที่ชั้น 5]
“อ่าห๊ะ แล้วเธออยู่ไหนหละ?”
[ฮะ ฮึ่ม ฉันอยู่ที่ชั้นที่ 13 แล้ว ฉันนั้นแตกต่างจากนาย]
“เธอทำได้ดีมาก …”
มันไม่ใช่การเสียดสี ฉันอิจฉาเธอจริงๆ ฉันไม่ได้มาเป็นนักสำรวจดันเจี้ยนเพียงเพื่อที่จะสร้างรายได้ สมบัติ มอนสเตอร์ การสำรวจ ฉันต้องการประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ฉันต้องการที่จะต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์ที่หลากหลายและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
แม้ว่าฉันจะรู้ว่าเพลรูเดียจะมาเพื่อล้อเลียนฉัน แต่ตอนนี้ฉันไม่ต่อยได้สนใจในเรื่องนี้มากนักตลอดทั้งปีที่ผ่านมา
[ถะ ถ้า…ถ้าหากนั่นมันทำให้นายโกรธ นายก็รีบปีนขึ้นมาที่นี่ได้แล้ว มันไม่มีเวลาที่จะเสียไปให้กับชั้นที่ 5 อีกแล้ว]
“แต่ว่าฉันนั้นไม่มีมานา”
[อึก เกี่ยวกับในเรื่องนี้นายต้องสู้มันด้วยจิตวิญญาณของนาย! นายได้ช่วยฉันเอาไว้สองครั้ง ดังนั้นอย่างน้อยนายก็จะต้องทำมันได้]
“…เฮ้ย”
อะไรนะ? เธอกำลังให้กำลังใจฉันงั้นหรอ? แม้ว่าฉันจะได้ยินเสียงของเธอฉันก็รู้ว่าเธอนั้นไม่ได้เล่นตลกกับฉัน ฉันรู้สึกเหมือนกับได้รับของขวัญที่คาดไม่ถึง
[อะ อะไร…]
“ขอบคุณ”
[อุ! ฉันไม่ได้ทำอะไรที่นายควรจะขอบคุณซะหน่อย]
“ฉันเพียงแค่รู้สึกขอบคุณ ที่เธอให้กำลังใจฉันนะ ฉันจะพยายามมันให้หนักยิ่งขึ้น”
“อุววว…ทำในสิ่งที่นายต้องการไปเถอะ! ครั้งต่อไปฉันจะติดต่อนายไปก่อน ไอโง่”
จากนั้นเธอก็ตัดสายออกไป ฉันได้ปิดตาของฉันลงอยู่ครู่หนึ่งแล้วจากนั้นก็ตบแก้มของตัวเองและลุกขึ้น
“เอาหละ มาเริ่มการล่าในวันนี้กัน”