บทที่ 85 – ระดับ S ยอน ฮวาวู (2)
ในเช้าวันรุ่งขึ้นสถานการณ์การแคมป์ก็ได้เปลื่ยนไป ได้มีคนพบคนกว่า 100 คนได้ถูกฆ่าไป ในห้องพักทุกๆคนที่ตายได้ถูกทิ้งไว้เพียงซากศพที่แห้ง ในขณะที่คนที่หลับในห้องที่ไม่ได้เจอกับซัคคิวบัสเลย เพราะอย่างนี้มันได้ทำให้เหตุการณ์กลายเป็นน่าปวดหัวมากยิ่งขึ้น
เหตุการณ์นี้ได้รับการพิจารณาว่าเกิดขึ้นโดยคนๆหนึ่ง เหล่าอาจารย์และเจ้าหน้าที่จึงได้รายงานเรื่องนี้แก่เหล่าผู้พิทักษ์ในทันที จากนั้นพวกเขาก็พบเห็ตร่องรอยการต่อสู้อยู่ในห้องนั้น และได้เกิดข้อสรุปว่าเหตุการณ์นี้ว่าเกิดขึ้นจากมอนสเตอร์ อย่างไรก็ตามเขาคิดว่ามันแปลกที่ในห้องนี้ไม่มีใครตกเป็นเหยื่อเลย
ผู้พิทักษืที่มาถึงในภายหลังก็เชื่อว่ามีคนได้เข้ามาแทรกแซงในเหตุการณ์นี้ แต่ว่าพวกเขาไม่มีอำนาจในการตรวจสอบพวกเขาจำเป็นต้องปล่อยให้ตำรวจจากหน่วยงานนิวมูนแทน แน่นอนว่าพวกเขาไม่เห็นด้วยเล็กน้อย พวกเขาแน่ใจว่ามีมอนสเตอร์อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้และมีคนที่จะต้องมาต่อสู้เพื่อป้องกันตาย แต่ในท้ายที่สุดพวกเขาก็ไม่สามารถหาความจริงของเหตุการณ์นี้ได้เลย และเนื่องด้วยนักเรียนจำนวนมากทำให้พวกเขาไม่สามารถสอบสวนได้ทุกคน
ถ้าหากผู้พิทักษ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความสัมพันธ์ที่ดีกว่านี้ เหตุการณ์มันก็จะต่างออกไป แต่ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขานั้นแย่นักอาจจะพูดได้เลยว่าน้อยมาก มันเป็นเพราะว่าผู้พิทักษ์ได้ปรากฏตัวขึ้นและปกป้องประชาชนจากมอนสเตอร์ในช่วงอันตราย ซึ่งนั่นเป็นเหตุทำให้มุมมองของประชาชนต่อตำรวจลดน้อยลง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่ชอบที่จะร่วมมือกับผู้พิทักษ์เท่าใดนัก ผู้พิทักษ์ก็เช่นกัน พวกเขาไม่ไว้วางใจตำรวจ พวกเขาทั้งสองแทบไม่ต่างไปจากศัตรูกันเลย
“พวกเราต้องขอบคุณพวกเขาที่ปล่อยผ่านเรา”
“ใช่แล้ว”
ต้องขอบคุณความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ของทั้งสอง พวกเราจึงสามารถที่จะกลับมาบ้านได้อย่างปลอดภัย ในเวลาเดียวกันฉันก็ได้ทำให้เยอึนกลายเป็นนักสำรวจดันเจี้ยนและสอนเธอในสิ่งที่ฉันรู้ แม้ว่าเธอจะสับสนแต่เธอก็ฟังฉัน ฉันคิดว่าเธอมีความสามารถมากพอที่จะปีนไปในชั้นสูงๆได้ด้วยความสามารถในการซ่อนตัวและการโจมตีที่ยอดเยี่ยม แต่ว่าเธอก็ดูเหมือนจะมีความสุขที่ได้ทำในสิ่งที่เหมือนกับฉันซะมากกว่า
“ชั้นที่ 35! ฉันจะไปที่นั่นอย่างรวดเร็ว!”
“ไม่ นั่นมันเป็นไปไม่ได้นั่น เหมือนที่ฉันพูดเธอจำเป็นต้องฝึกฝน”
“ฉันเพียงแค่จะต้องเพิ่มเลเวลอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะทำมัน”
เธอได้พูดถึงสิ่งเดียวกับพ่อ เมื่อฉันคิดเกี่ยวกับมัน มันไม่ใช่ความคิดที่ไม่ดี จากทั้งหมดนี้ด้วยความสามารถที่ยอดเยี่ยมของเธอการเลเวลอัพมันก็อาจจะดีกว่า การฝึกฝนและความเร็วในการผ่านดันเจี้ยนเป็นสิ่งที่เธอสามารถจะทำได้ แม้ว่าสิ่งที่ทำมันจะยากขึ้นเมื่อเธอขึ้นมาเรื่อยๆ
ฉันได้แนะนำให้เธอทำการโซโล่การจู่โจมหากเธอทำได้ เธอแข็งแกร่งกว่าฉันมากเมื่อเทียบกับในตอนที่ฉันอยู่ชั้นที่ 1 ความสามารถของเธอจะแข็งแกร่งมากขึ้นไปเท่าที่เธอปีนสูงไปอีก ดังนั้นเธอก็จะไม่มีปัญหาในการโซโล่การจู่โจม ฉันได้บอกให้เธอกินอิลิกเซรอ์แต่ละชนิดด้วยเพื่อที่จะยกระดับสเตตัส จากนั้นเยอึนก็หยักหน้ารับด้วยความเข้าใจ
ฉันได้บอกเกี่ยวกับยุทธ์วิธีสำหรับการผ่านดันเจี้ยนชั้นล่างๆและวิธีการที่จะใช้ผ่านมันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ว่าเธอก็ไม่ได้ฟังและทำเพียงแค่จ้องมาที่ใบหน้าของฉัน
“เฮ้ นี่มันยอดมาก ฉันชอบมัน”
“นี้ไหน?”
“อืม? นายก็รู้ นี่ไง! ฮิฮิ”
เยอึนได้หมุนไปรอบๆและหัวเราะอย่างมีความสุข ฉันคิดว่าฉันเหมือนกับเห็นสุนัขตัวน้อย แต่ว่ามันก็เป็นเพียงแค่จินตนาการของฉัน อย่างแรกฉันได้ดีดหน้าผากของเธอครั้งหนึ่งเพื่อให้เธอกลับมาฟังฉันแล้วอธิบายไปอีกครั้ง อย่างไรก็ตามมันใช้ไม่ได้กับเธอ เธอยังคงหัวเราะแม้ว่าฉันจะดีดหน้าผากเธอ สำหรับคนที่พึ่งจะถูกปฏิเสธ ฉันสงสัยว่าทำไมเธอถึงมีความสุขนัก
“อา ด้วยแบบนี้”
“อืม?”
“ในตอนนี้ให้ออกจากช่องทางการสื่อสารของนักสำรวจดันเจี้ยนซะ”
ฉันได้ย้ำอีกครั้ง”
“ใครจะไปรู้กันว่าเธออาจจะหลุดพูดอะไรออกไปบ้าง”
“โอเค”
เยอึนได้หยักหน้าของเธอราวกับว่ากำลังรับภารกิจลับสุดยอด ฉันพอใจกับสิ่งนี้ จากนั้นฉันก็จะบอกกับนักสำรวจคนอื่นว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้
[ยอน ฮวาวู นายไม่บาดเจ็บนะ?]
[เป็นอะไรไหมคะพี่ฮวาวู?]
[ใช่แล้ว ฉันสบายดี ฉันจะไม่พูดถึงเรื่องนี้ที่อื่นอีก ฉันจะไปที่สำนักงานนิวมูนเพื่อที่จะเปิดเผยสิ่งที่เกิดขึ้น มัสติฟอร์ดเธอช่วยสำรองข้อมูลที่อ้างสิทธิ์ของฉันในภายหลังด้วย มันคงจะดีกว่านี้ถ้าเธอมาที่เกาหลี]
[หืม? อย่างที่ฉันพูด โทรมาหาฉันฮวา…อ่า อืม ใช่แล้ว ฉันจะพยายาม บอสเหตุการณ์ดันเจี้ยนทั้งหมดหมดนั้นอาจจะซ่อนอยู่ในหลากหลายประเทศ มันน่ากลัวมากแค่ไหนกัน นายจะต้องทำงานหนักแล้วยอน ฮวาวู]
[ขอบคุณสำหรับความห่วงใย มัสติฟอร์ด]
จากนั้นฮวาหยาก็ส่งข้อความส่วนตัวมาหาฉัน
[ถ้างั้นนายก็สามารถจะมาสนับสนุนฉันที่นี่ได้เหมือนกัน ยอนฮวาวู? พวกเราไม่สามารถจะไปกันต่อได้ในเร็วนี้ๆ นายสามารถมาในฐานะอัศวินสายฟ้าได้]
[ฉันได้คิดเรื่องนี้แล้ว ถ้าเธอสามารถจะหยุดชาวจีนได้ฉันก็ยินดีที่จะไป ฉันก็อยากจะเห็นวินเดอร์แมร์เหมือนกัน]
[ไม่ต้องกังวล จีนไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะสร้างปัญหาได้ และอังกฤษก็มองอัศวินสายฟ้าในมุมมองที่ค่อนข้างดีเลย พวกเราสามารถจะเรียกนายได้ว่าเป็นอัศวินที่แท้จริง ฉันแน่ใจว่าทุกๆคนจะต้อนรับนายอย่างมีความสุข]
[เข้าใจแล้ว แต่ว่าอย่าเรียกฉันว่าอัศวินสายฟ้า]
ด้วยแบบนี้พวกเราได้ทำสัญญาร่วมมือลับกัน จากนั้นวอร์คเกอร์ก็ได้เข้าร่วมช่องทางสนธนา
[ยอน ฮวาวู…นายดูเหมือนจะค่อนข้างสนิทกับมัสดิฟอร์ดนะ]
[วอร์คเกอร์ ฉันคิดว่านายเพียงแค่เป็นพวกโดดเดียวซะมากกว่า]
[คุณวอร์ดเกอร์คะ พี่ฮวาวูนั่นต่างกัน! เขาเป็นเพื่อนร่วมชาติกับพี่สายวะ!]
[ไม่ นั่นไม่ถูกนักมินามิ]
และแล้วการสนทนาของพวกเราก็ได้จบลงแค่นั้น
ไม่กี่วันต่อมา ฉันก็ได้ไปที่สำนักงานนิวมูน เมื่อฉันได้ไปถึงฉันก็ได้อธิบายสถานการณ์ให้กับผู้ดูแล เขาได้มองมาที่ฉันเหมือนกับมองมาที่คนโง่เง่า
“คุณกำลังจะบอกว่ามันเกี่ยวกับเกตในฝรั่งเศษหรอ? ผมคิดว่าคุณกำลังเล่นมุกที่ห่างไกลเกินไปนะ
“เป็นแบบนั้นหรอกหรอ?”
ฉันได้เปิดโลงศพที่ฉันแบกมาบนหนังเอาไว้มันเผยให้เห็นศพของซัคคิวบัส ฉันได้เย็บปีกที่ฉันตัดออกไปและดวงตาของเธอกลับไปชั่วคราว
“ฉันมองเห็นแล้วและนี่เธอเป็นนักศึกษาต่างชาติจากมหาลัย XXX คุณรู้หรือป่าวว่านักเรียนของมหาลัยนี้ได้มีเหตุการณ์สังหารหมู่เกิดขึ้นไม่นานมานี้”
“อะ อืม แน่นอน นี่เป็นมอนสเตอร์ที่อยู่เหนือมาตราฐานปกติ ไม่ใช่แค่นั้นซากศพนี่ยังมีมานาจำนวนมาก…คุณยอน ฮวาวู น่าจะเป็นระดับ A คุณฆ่ามอนสเตอร์นี่เพียงลำพังหรอ?”
“ความสามารถของฉันแข็งแกร่งขึ้นน่ะ”
ฉันได้โกหกออกไป
“เธอได้บอกว่าเธอมาจากเกตในฝรั่งเศษ มันอาจจะเป็นบางอย่างนั่นแน่ๆ ฉันรู้ว่ามันมีบางอย่างแปลกประหลาดในขณะที่เกตเวรนั่นหายไป มันอาจจะง่ายถ้านายจะหัวเราะมัน แต่นายควรจะรู้ว่านายควรจะตัดสินใจอย่างชาญฉลาด หลังจากทั้งหมดนี้ใครจะรู้ล่ะว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นอีกครั้งไหม?”
พนักงานได้เงียบไปพักนึงแล้วพูดขึ้น
“นี่มันอยู่นอกเหนือขอบเขตอำนาจของผม ผมอาจจะต้องให้คุณรออีกซะหน่อย ได้หรือป่าวครับ?”
“ฉันหวังว่านายจะจ่ายค่ารายชั่วโมงที่เหมาะสมให้กับฉันนะ”
ฉันได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม เย็นนี้ก็ได้ปรากฏยอน ฮวาวูระดับ S ขึ้นในบอร์ดแถลงข่าว และทางทีวีทั้งหมดสามช่องทาง ฉันคิดว่าสำนักงานจะดูแลการแถลงถ้าเพียงแค่ฉันรายงานปัญหานี้
แม้ว่าฉันจะรู้สึกกังวลเกี่ยวกับการออกทีวี แต่ว่าหน้ากากที่ฉันสวมอยู่มันได้ช่วยให้ฉันผ่อนคลาย อย่างแรกฉันได้แนะนำตัวเองและอธิบายเกี่ยวกับเหตุการณ์ดันเจี้ยน แน่นอนว่าฉันไม่ได้ใช้ศัพท์ของนักสำรวจดันเจี้ยนนี้
ในตอนนั้นฉันได้อธิบายถึงพลังของฉันศิลปะการต่อสู้บนพื้นฐานของสายฟ้าที่ใช้มานา ฉันได้รับคำถามว่าฉันใช่อัศวินสายฟ้าอีกด้วย นักข่าวพวกนี้ทำอาชีพของพวกเขาได้เยี่ยมมา ฉันได้พูดแบบหลีกเลี่ยงและบอกว่าฉันอาจจะเป็นแบบอัศวินสายฟ้าแล้วจากนั้นก็อธิบายว่าฉันทำยังไงเมื่อได้พบกับซัคคิวบัส และเปิดเผยว่าซัคคิวบัสมาจากไหน ในตอนนั้นเองคำถามก็ได้ระดมมาที่ฉัน
“พวกเราจะเชื่อคำนี้ได้ยังไงกัน?”
“ถ้าพวกคุณไม่ต้องการจะเชื่อผม พวกคุณก็ไม่ต้องเชื่อ ผมมาที่นี่เพื่อที่จะเตือนโลกถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นไม่ใช่มาเพื่อเถียงว่าใครถูกผิด”
“คุณมีหลักฐานไหม?”
“มันไม่มีทางที่จะทำให้ซัคคิวบัสฟื้นขึ้นมา แต่ฉันแน่ใจว่ามันจะต้องมีมอนสเตอร์อื่นๆในรูปแบบของมนุษย์ได้ ฉันเชื่อว่าโลกควรจะตื่นตัวให้มากขึ้น”
“คุณมีแฟนมั๊ย?”
“เธอ ตามฉันมา”
แม้กระทั่งหลังจากนั้นผู้สื่อขาวรายหนึ่งที่ถูกคัดสรรมาอย่างดีก็ได้ถูกคนจัดการลากออกไปและการแถลงข่าวก็ดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น
ในความเป็นจริงแล้วฉันไม่ต่อการจะใช้คำพูดที่เคร่งเครียดนัก แต่เพื่อที่จะให้โลกรู้ถึงความเป็นไปได้นี้และตื่นตัวขึ้นฉันจึงทำแบบนี้ อย่างไรก็ตามในขณะนี้สื่อเกาหลีก็ได้ดำเนินการแพร่กระจ่ายข่าวนี้ไปยังประเทศอื่นๆเหมือนกับไฟป่า หน่วยงานนิวมูนก็ได้ถามความคิดเห็นของฉันอีกสองสามอย่างและได้จัดตั้งแผนกใหม่ขึ้นด้วยกลุ่มผู้พิทักษ์ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะขอความร่วมมือจากฉันด้วย แต่ฉันก็ปฏิเสธไปอย่างสุภาพ แน่นอนว่าเมื่อพวกเขาได้ถามฉันราวกับว่าจะขอศพซัคคิวบัส ฉันได้รู้สึกแย่มากขึ้
“แม่ พี่กำลังออกทีมี! มาดูสิ!”
“น้องรู้ใช่ไหมว่าไม่สามารถไปบอกกับเพื่อนได้?”
“แน่นอนคะพี่”
ยุยได้มีความสุขอย่างมากที่เห็นฉันในทีวีและเริ่มจ้องมองไปที่มัน แม่ก็ได้เอียงหัวมาและมองเห็นฉันในฐานะยอน ฮวาวู
“ทำไมลูกจะต้องสวมหน้ากากนั่นด้วย? มันดูไม่ค่อยดีนะ”
“ผมชอบมัน มันจะผอมและดี”
“มันผอมเกินไป! ลูกเป็นอย่างนี้มันสมบูรณ์แล้วนักลูกชาย”
“หนูก็ชอบพี่ชายในปัจจุบันเหมือนกัน”
สำหรับตอนนี้ฉันได้จำคำของยุยเอาไว้
พ่อได้รู้สึกเคืองที่เห็นลูกชายออกทีวีก่อนเขา ดวงจาของพ่อได้ลุกโชนขึ้นราวกับว่าพ่อได้สาบานว่าจะไปค้นหาบบอสเหตุการณ์การจู่โจม พ่อ พวกเราทั้งคู่เคยออกทีวีมาก่อนแล้วนะ….แม้ว่าในตอนนั้นจะใส่เกราะก็เถอะ
ฮวาหยาก็ยังทำตามสัญญา หลังจากที่ฉันแถลงข่าว เธอก็ได้ปรากฏตัวบนทีวีของอังกฤษและสนับสนุนคำพูดของฉัน เธอได้ทำแบบนั้นแม้ว่าเธอจะยุ่งอยู่กับ ‘สุสานเหนือทะเลสาบ’ แม้ว่าเธอจะขอโทษไม่สามารถมาเกาหลี แต่มันก็ไม่เป็นไร จากนั้นฉันก็ได้ตัดสินใจที่จะไปในอังกฤษในเร็วๆนี้
รัฐบาลอังกฤษได้ขอความช่วยเหลือจากประเทศอื่นๆที่ระดับ SS และ S นสถานการณ์ได้กลายเป็นน่ากลัวมากเกินไปสำหรับพวกเขา แม้อย่างนั้นก็ไม่มีประเทศใดที่ส่งระดับ SS ออกไปจากประเทศตัวเอง
ในความจริงที่อเมริกาและญี่ปุ่นก็มีปัญหาเช่นกัน สำหรับญี่ปุ่นดูเหมือนว่าพวกเราจะมีความภาคภูมิใจในตัวเองและยืนยันว่าจะจัดการด้วยตัวเอง มันดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ต้องใช้เวลานานกับมัน
ปัญหาจริงๆก็คือพิ้นที่ระดับ SS ในอเมริกา รังไวเวิร์น มันเป็นสถานที่ๆน่ากลัวของมอนสเตอร์ระดับ S ไวเวิร์นได้ปรากฏตัวขึ้น พวกมันได้ขยายอาณาเขตของตนอย่างต่อเนื่อง ผู้คนกังวลกับมันมาก หุบเขาอื่นๆที่อยู่ใกล้ๆกันได้กลายเป็นดันเจี้ยนทั้งหมด แม้ว่าอเมริกาจะมีระดับ SS แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรักษาสถานการณ์ได้อีกไม่นาน พวกเขาจะต้องขอความช่วยเหลือจากที่อื่นในไม่ช้า
ไม่ว่ายบังไงฉันก็ได้มีแผนที่จะไปที่อังกฤษในเร็วๆนี้แล้ว ข่าว หนังสือพิม และแม้แต่นิตยาสารก็ได้พยายามโฟกัสมาที่เรื่องราวรอบตัวของระดับ S ยอน ฮวาวูในเกาหลี แต่ว่าเขาจะเป็นอะไรนั่นพวกเขาไม่สามารถจะหาข้อมูลได้ อย่างไรก็ตามในตอนที่ฉันเป็นยอน ฮวาวู ฉันจะใช้ทักษะย้อนกลับ ในการกลับบ้านดังนั้นฉันจึงยังซ่อนความลับอยู่ได้
ในขณะที่สื่อมวลชนกำลังโฟกัสไปที่เรื่องราวของยอน ฮวาวู ฉันก็ยุ่งไปกับดันเจี้ยน
หลังจากทั้งหมดนี้ในดันเจี้ยนมันมีสิ่งที่ฉันจะต้องจัดการอย่างรวดเร็ว