บทที่ 88 – ระดับ S ยอน ฮวาวู (5)
[คุณได้สวมใส่ชุดเซ็ตดูลาฮาน ความแข็งแรงและความอดทนเพิ่มขึ้น 17 เมื่อคุณสวมใส่เซ็ตดูลาฮานจะสามารถใช้ทักษะ ระเบิดออก ได้หนึ่งครั้งต่อวัน]
[สมองของคุณได้รับการเสริมจนถึงขีดจำกัด สติปัญญาและพลังเวทย์เพิ่มขึ้น 3 การกินอิลิกเซอร์ชนิดนี้เพิ่มจะไม่ส่งผลเพิ่มเติมใดๆ]
“ฟู่ มันจบแล้ว…”
ฉันยังสงสัยว่าทำไม แต่ฉันรู้สึกเหมือนว่าฉันได้เสร็จสิ้นในวันเดียว ในความจริงแล้วมันใช้เวลาเกือบจะถึงเดือนในการทำแบบนี้ ถึงแม้ว่าฉันจะเกือบตายไปหลายครั้งในช่วงนั้นด้วย แต่ฉันก็ทำมันได้สำเร็จโดยที่ไม่ตายสักครั้ง ด้วยความสำเร็จนี้ทำให้ความมั่นใจของฉันเพิ่มขึ้น ที่สำคัญไปกว่านั้นฉันได้กำจัดนิสัยเสียของฉันที่ชอบใช้ทักษะของบอสประจำชั้นไปได้
การป้องกันทางจิตใจของฉันก็ยังดีขึ้นเช่นกัน ฉันยังคิดว่าสติปัญญาของฉันมันอัพเดตช้าไปหน่อย แต่ว่าฉันจะไม่ทำผิดผลาดเหมือนกันในตอนที่ไปแคมป์อีกครั้ง
“ที่ฉันดีใจที่สุดก็คือทักษะชุดเซ็คระเบิดออก ฉันสามารถจะใช้มันเป็นใบ้ตายในการพลิกสถานการณ์ได้…”
[นี้มันน่าขนลุก!]
[น่ากลัว!]
ไพก้าและริยูได้พูดออกมากับการพูดคนเดียวของฉัน ฉันได้ลูบหัวของไพก้าและริยูในขณะที่หัวเราะแห้งๆออกมาและเก็บทักษะระเบิดออกไว้ในเข็มนาฬิกา 7 ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้ต้องการใช้ทักษะของบอสประจำชั้นมากนัก แต่ว่ามันก็เป็นส่วนหนึ่งของความแข็งแกร่งของฉัน ด้วยทักษะที่แข็งแกร่งอย่างมากในตัวของฉันทำให้ฉันอดที่จะมีความสุขไม่ได้
ในตอนนี้ฉันมีทักษะ 7 ทักษะอยู่ในนาฬิกาพกพาแล้ว เมื่อมองไปที่อัญมณีในตำแหน่งนาฬิกาฉันได้ยิ้มขึ้น ในพรุ่งนี้ฉันจะต้องไปวินเดอร์แมร์ในอังกฤษ มันเป็นเรื่องดีที่ฉันสามารถจะจบชั้นที่ 35 ได้ก่อน เริ่มจากตอนนี้มันก็ถึงเวลาแล้วที่แล้วที่ฉันจะไปที่ชั้นที่ 40 ก่อนที่ฮวาหยาจะมารับฉันบนเครื่องบิน
เมื่อฉันกำลังจะขึ้นไปชั้นที่ 36 เอลลอสก็ได้ติดต่อมาหน้าฉัน
[ชิน! พวกเราได้ผ่านชั้นที่ 30 มาเมื่อวานนี้]
“นาย…นี้มันเร็วจริงๆเลย! มันยังไม่ถึงสามเดือนเลยนะ”
[นายรู้มั๊ย พวกเรามีสมาชิกปาตี้มากขึ้น ตอนแรกฉันคิดว่าจะใช้เพียงแค่พวกเราสามคน แต่ในตอนท้ายฉันก็ตระหนักว่าพวกฉันไม่ควรจะยืนกรานในเรื่องนี้มากนัก]
“มันก็ยังเร็วแหละ”
[ฉันได้เรียนรู้จากนายมามากในวันนั้น สมาชิกที่เพิ่มเข้ามาในปาตี้ของเราคือนักสำรวจที่อยู่ในชั้นที่ 25 ที่ไม่สามารถจะผ่านไปต่อได้ แต่ว่าพวกเราก็ยังเป็นผู้รอยชีวิตในระหว่างช่วงเวลาของผู้บุกรุก พวกเราได้ร่วมกันท้าทายกูลยักษ์แม้ว่ามันจะน่าอาย แต่ว่าพวกเราได้เรียนนายและใช้มันในการผ่านชั้นที่ 30 แม้อย่างนั้นพวกเราก็ได้ถูกเตะออกมาหนึ่งครั้ง แต่ว่าพวกเราก็ยังผ่านมันไปได้อย่างรวดเร็วและ…ฉันก็ยังคงประหลาดใจมากพวกเราสามารถจะเอาชนะอัศวินโครงกระดูกในชั้นที่ 30 โดยที่ได้ต้องเสียสมาชิกปาตี้คนใด พวกเราได้ไปต่อด้วยกันกับนักสำรวจที่น่าทึ่งพวกนี้]
“นักสำรวจที่น่าทึ่งหรอ?”
[ใช่แล้ว เขาเป็นเด็กหนุ่มที่มีชื่อว่าเร็น พวกเรามีเพียงแค่เจ็ดคนเท่านั้นรวมเขาไดเด้วย แต่ว่าเขาก็ได้บ่นเกี่ยวกับบางอย่างที่ไม่ดรอปออกมาและไม่ต้องการจะรอมากกว่านี้ ฉันเกือบจะคิดว่าเขาเหมือนกันนายเลยล่ะ]
“…”
เร็น! นายกวาดล้างชั้นที่ 25 และมาที่ชั้นที่ 30 แล้วงั้นหรอ!?
[เขาเป็นคนที่น่าทึ่งจริงๆ แม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถเทียบนายได้ แต่การวางแผน การเคลื่อนไหว และเทคนิคดาบเครมอร์ของเขาก็เป็นของจริง พวกเราตกใจอย่างมากเมื่อเห็นเขาผลักดันอัศวินโครงกระดูกได้ในการต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่ง ต่อสู้กับบอสประจำชั้นเพียงลำพัก…ฉันไม่คิดเลยว่าจะยังมีนักสำรวจคนอื่นที่ทำแบบนายได้อีก ชิน!]
“อา ใช่..”
[ต้องขอบคุณเขา พวกเราได้เคลียร์ชั้นที่ 30 ได้ในครั้งเดียว และสำหรับการช่วยนักสำรวจในทวีปก็ได้เติบโตขึ้น กษัตริย์ได้อนุญาติให้ฉันได้พบกับฮีโร่ของทวีป เขายังคงได้สอนฉันเล็กน้อย มันจะต้องขอบคุณนายจริงๆเลย ชิน]
“ไม่ มันเป็นผลลัพธ์จากความพยายามของนาย ฉันจะไม่บอกว่ามันเป็นเพราะฉัน ฉันเพียงแค่ทำตามใจตัวเองเท่านั้น แต่นายเป็นคนนำพาสหายคนอื่นๆไปข้างหน้า นายควรจะภูมิใจกับมันนะ”
[ขอบคุณ… ชิน สักวันหนึ่งฉันหวังว่าจะได้ยืนเคียงข้างนายในการต่อสู้อีกครั้ง]
“นายจะได้ทำมันในเร็วๆนี้”
ฉันไม่สามารถจะบอกเขาได้ว่าฉันเคลียร์ชั้นที่ 35 และกำลังจะมุ่งหน้าไปชั้นที่ 36 แล้ว อย่างไรก็ตามในขณะที่บทสนทนาระหว่างฉันกับเอลลอสจบลง เพลรูเดียก็ได้ติดต่อมาหาฉันราวกับว่าพวกเขาได้วางแผนกันเอาไว้ นี้มันน่าแปลกใจมาก
[ฉันได้ผ่านชั้นที่ 30 แล้ว! ไม่มีแม้แต่สมาชิกคนเดียวที่ตายด้วย! คังชินตอนนี้นายอยู่ไหน?]
“ฉันเพิ่งผ่านชั้นที่ 35”
[โอ้ เข้าใจแล้ว…ดีล่ะ มันไม่สำคัญหรอก ฉันไม่ได้สนใจมันเลย ฉันเพียงแค่ถามเท่านั้น]
แม้อย่างนั้นเสียงของเธอก็ดูจะผิดหวัง ฉันไม่ได้เห็นในจุดนี้และไม่ได้สนใจเธอ
[ยังไงก็ตาม! อย่าลืมว่านายได้บอกวานายจะมากินอาหารในสัปดาห์นี้ด้วยอาหารจากโลก]
“ใช่ ฉันรู้ ฉันมีเยอะเลยล่ะ เธอได้บอกว่าเธอเพิ่งจะผ่านมาโดยที่ไม่มีสมาชิกคนใดตายไปสักคนใช่มั๊ย? นี้มันเยี่ยมมาก ทำได้ดี”
[อ่า อืม ถ้ามันสำหรับเพลรูเดีย เกล็น อิเทอร์แล้วมันก็เหมือนกับการปอกกล้อย!…แม้ว่าจะมีคนที่น่ารำคาญเล็กน้อยช่วยเราก็เถอะ]
ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกไม่สบายใจ
“บางที่ชื่อของคนๆนั้นอาจจะ…”
[เร็น เขาบอกว่าเขาชื่อเร็น เขาเป็นคนที่สูงมาก เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและมีผมสีบลอนด์ที่ค่อนข้างยุ่ง เขาไม่สามารถจะพูดอะไรได้ในตอนที่เจอหน้าฉัน เขาเอาแต่หน้าแดง ดังนั้นมันจึงน่ารำคาญมาก]
เร็น..! นายไม่สามารถจะมองไปที่รูเดียได้เพราะเธอสวยเกินไป!
[เห็นได้ชัดเลยว่าเขาเป็นคนที่คอยช่วยนักสำรวจตั้งแต่ชั้นที่ 25 ฉันได้ยินผู้คนเรียกเขาว่าราชสีห์ทองคำแห่งชั้นที่ 30]
“มันเป็นชื่อเล่นที่น่าสนใจนี่”
ในชั้นที่ 25 และ 30 ฉันได้เอาชนะบอสด้วยตัวคนเดียว ดังนั้นฉันจึงไม่ได้พบกับนักสำรวจคนอื่นๆเลย แม้ว่าในชั้นที่ 25 และ 30 จะมีนักสำรวจที่น้อยกว่าชั้นล่างๆ แต่ว่ามันก็ยังมีคนอยู่มากที่เดียวที่ติดอยู่ที่นั่นดังนั้นนี้เลยเป็นผลจากการที่เร็นยังอยู่ในที่นั้น เขาได้รับชื่อเล่นที่ยอดเยี่ยม
ฉันจำขึ้นไว้ว่าฉันจะต้องเรียกเขาว่า ‘ราชสีห์ทองคำในตอนที่เราพบกันในครั้งหน้า ต้องขอบคุณรูเดียที่ให้ข้อมูลมากับฉันก่อนที่ฉันจะจบการสนทนาไป เมื่อนั้นฉันก็ได้รับข้อความมาอีกมันมาจากคนที่คาดไม่ถึงเยอึน’
[ชิน ฉันไม่ได้รับอิลิเซอร์อะไรเลย]
“อะไรนะ?”
ฉันได้แต่งง สามสัปดาห์ได้ผ่านไปนับตั้งแต่ที่เยอึนได้เข้ามาเป็นนักสำรวจ พิจารณาจากพลังของเธอ เธอค่อนข้างจะช้าไปบ้าง ฉันสงสัยว่าทำไมเธอถึงเพิ่งจะติดต่อฉัน แต่มันดูเหมือนเธอจะมีปัญหา
“เธอเอาชนะมันด้วยตัวคนเดียวหรอ?”
[อ่อใช่แล้ว ฉันทำมันในครั้งแรกและได้รับการพิสูจน์แห่งไดฟิคมา มันบอกว่าฉันจะเรียกหาใครสักคน ฉันกลัวมันดังนั้นฉันเลยยังไม่ได้ใช้]
“ลองมันดูสิ ไม่ว่าใครก็ตามที่ถูกอัญเชิญก็อาจจะมีประโยชน์ ดังนั้นไม่ใช้ว่าเธอก็ยังเคลียร์มันด้วยตัวคนเดียวหลังจากนั้น?”
[ไม่ ฉันได้เคลียร์ในปาตี้แบบ 10 แต่ว่ามันก็ไม่ได้ออกมา ฉันได้พยายามดูอีกครั้งในปาตี้ 8 คน ในแบบนี้มันก็ยังไม่ได้ดรอปออกมาอีกครั้ง]
“จริงหรอ…?”
[แล้วก็ฉันได้ลองแบบ 5 คน จากนั้นก็ 2 คน แต่มันก็ยังไม่ดรอปออกมา]
“จริงหรอ? ทำไมกัน?”
[ฉันไม่คิดว่าชินจจะโกหกฉัน ดังนั้นฉันก็ยังคงพยายามอีกสองสัปดาห์หลังจากนั้น ตลอดเวลาฉันได้เปลื่ยนจำนวนคนในปาตี้ไปเรื่อยๆ แต่ว่าอิลิกเซอร์บีบอัดกล้ามเนื้อมันก็ไม่เคยดรอปออกมาเลย เจ้าของร้านขายของก็ยังบอกว่าเขาไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย]
“….”
ความเชื่อใจของเธอต่อฉันมัน…มหาศาลมาก…!
[แต่ว่าฉันก็สนุกมาก! ออร์คลอร์ดเป็นคนที่น่าสนใจ! คนในปาตี้ก็ยังไม่กลัวฉันอีกด้วย…เฮะๆ ฉันรู้สึกว่ามันสนุกมาเลย!]
การต่อสู้กับออร์คลอร์ดมันสนุกหรอ? เธอนี่มีพรสวรรค์ในด้านนี้จริงๆเลย ด้วยรอยยิ้มขมฉันไม่สามารถจะเทียบเธอได้เลย ฉันได้พูดไป
“ฉันจะไปถามคนที่น่าจะรู้ว่าทำไมอิลิกเซอร์บีบอัดถึงไม่ได้ดรอปออกมา ช่วยรอสักเดี๋ยวนะ”
[โอเค]
ฉัยได้หยุดการสนทนากับเธอไปและหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทำไมอิลิกเซอร์ถึงไม่ดรอปนะ? ในขณะที่ฉันไม่สามารถจะคิดเหตุผลออกฉันก็ได้ไปถามหลิน หลินยังอยู่ในระหว่างการจารึกสิ่งอะไรบางอย่างลงไปในอัญมณีที่มีรัศมีสีทองอยู่ ดูเหมือนว่าเขาใกล้จะทำไอเท็มป้องกันจิตใจที่ฉันขอเสร็จแล้ว ด้วยแบบนี้ ฉันจะต้องผ่านชั้นที่ 40 ในครั้งแรกให้ได้ แต่ว่ามันก็ไม่ควรจะพอแค่นั้น ฉันควรที่จะเพิ่มทักษะและไอเทมไว้ช่วยเหลือให้มากยิ่งกว่านี้…
“ฉันทำให้นายเสียสมาธิมั๊ย?”
“สมาธิของฉันไม่สั่นคลอนง่ายๆเพียงเพราะแค่การพูดคุยกันนายหรอก ดังนั้นตามสบาย”
“ดีละ…หลิน ฉันได้ทำให้เพื่อนของฉันจากโลกกลายมาเป็นนักสำรวจดันเจี้ยน เธอเป็นผู้ใช้พลังระดับ A จากที่ฉันรู้มา”
“แล้ว?”
“ผลงานของเธอทำได้สูงมากพอ แต่ว่ามันกลับไม่เคยมีอิลิกเซอร์บีบอัดดรอปออกมาเป็นรางวัลในการเอาชนะออร์คลอร์ดเลย ทำไมกันหรอ?”
“มันอาจจะไม่ใช่แค่อิลิกเซอร์เท่านั้น แต่เธอก็อาจจะไม่สามารถรวมเซ็ตไอเทมบอสได้”
หลินได้พูดออกมาอย่างปกติ ฉันได้เข้าใจได้โดยสัญชาตญาณ”
“ปัญหามันอยู่ที่เธอหรอ? เหมือนว่าเธอมีพลังอยู่แล้วสินะ?”
“โอ้? ถ้างั้นนายก็รู้อยู่แล้ว”
“แต่แล้วฉันล่ะ? ฉันก็เป็นผู้ใช้พลัง แต่ฉันก็ยังสามารถจะได้รับอิลิกเซอร์”
“นายได้รับพลังหลังจากที่กลายมาเป็นนักสำรวจดันเจี้ยน ไม่ต้องพูดถึงที่ว่าพลังของนายก็ยังเป็นประเภทที่เติบโตขึ้นไปตามเลเวลและการฝึกฝนของนาย แน่นอนความด้วยความสำเร็จของนายนี้จะทำให้นายได้รับการยอมรับตามปกติ”
“นายหมายถึงความสำเร็จของเพื่อนของฉันยังไม่ได้รับการยอมรับตามปกติ?”
“นาย..ก็คิดได้นี่ นายคิดว่าอะไรเป็นตัวกำหนดรางวัลที่ได้รับจากการเอาชนะบอส?”
หลินได้ถามฉันในขณะที่โรยผงแยกออกไปต่างหาง หลังจากที่ได้คิดสักนิด ฉันก็ได้ตอบกลับไป
“ไม่ใช่ว่าไอเทมจะดีขึ้นถ้าสามารถจะเอาชนะบอสโดดเทคนิคและความสามารถที่เหนือกว่าหรอ?”
“นายพูดถูกเพียงแค่ส่วนหนึ่ง นายได้พลาดสิ่งสำคัญไป มันได้พิจารณาจะพลังที่แท้จริงของนาย”
“นายหมายความว่าเพราะความแข็งแกร่งของเพื่อนฉันอยู่เหนือกว่าพื้นฐาน ความสำเร็จของเธอเลยไม่ได้ถูกประเมินว่าสูงนักสินะ?”
“ใช่แล้ว ดูเหมือนว่านายจะเริ่มใช้หัวเป็นละนี่”
“แต่ว่า…เมื่อเทียบกับนักสำรวจคนอื่นๆ สเตตัสของฉันก็ยังอยู่เหนือกว่ามาตราฐานจากการอิลิกเซอร์บีบอัดและเสริมแกร่ง”
“นายอยู่ในขอบเขตของดันเจี้ยน ดังนั้นนายเลยเป็นข้อยกเว้น”
“เข้าใจแล้ว”
หรือก็คือสิ่งที่ฉันได้รับมามันมาจากระบบของดันเจี้ยนที่ไม่ได้ให้ผลลบ เมื่อนำมาคำนวนความสำเร็จของฉัน ในทางกลับกันเยอึนผู้ที่กลายมาเป็นนักสำรวจดันเจี้ยนหลังจากที่มีพลังอยู่ในระดับ A ก็ได้มีพลังที่สูงกว่ามาตราฐานของดันเจี้ยนไปแล้วดังนั้นการที่เธอสามารถเอาชนะออร์คลอร์ดด้วยความแข็งแกร่งแบบนี้เธอจึงไม่สามารถที่จะได้รับรางวัลที่เหมาะสมได้
“เธอบอกว่าเธอได้รับหนังสือเวทย์การพิสูจน์แห่งไดฟิคและฉายา”
“สิ่งเหล่านี้เป็นรางวัลที่ตายตัว…ฉันยังจำเป็นต้องอธิบายอะไรเพิ่มอีกมั๊ย”
“ใช่แล้ว ชั้นอะไรที่เธอจำเป็นก่อนที่เธอจะสามารถได้รับรางวัลจากดันเจี้ยน?”
“ฉันไม่รู้ ฉันไม่แน่ใจว่าความแข็งแกร่งที่นายพูดว่าระดับ A คือเท่าไหร่ ระดับของนายคืออะไร?”
“ระดับ S”
“อืม ด้วยการคำนวนจากความแข็งแกร่งของเธอที่ได้รับจากการเลเวลอัพและฉายา อาจจะประมาณชั้นที่…50 มั้ง?”
โอ้ไม่นะ บอกลาอิลิกเซอร์เสริมผิวไปได้เลยเยอึน มันเป็นเรื่องดีที่ฉันยังไม่ได้บอกมันกับเธอ ด้วยรอยยิ้มขมฉันได้บอกในสิ่งที่ฉันเพิ่งได้ยินออกไปให้แก่เยอึน เยอึนก็ดูจะไม่สนใจมันนัก
[นี่มันเยี่ยมมาก! ดังนั้นฉันสามารถที่จะขึ้นไปในขณะที่เอาชนะเจ้าพวกนี้ด้วยตัวคนเดียวได้ใช่มั๊ย?]
“ใช่แล้ว แต่ว่าอย่าได้หวงโอกาสที่พลังของเธอจะเติบโตล่ะ ล่องหนและ..อะไรอีกนะ?”
[เทคนิคมีดสั้น! ฉันได้รับมีดสั้นสองเล่มเมื่อเข้ามาในดันเจี้ยน ฉันชอบมันเพราะว่ามันดูสะอาดมากกว่าเมื่อเทียบกับการต่อสู้ด้วยมือของฉัน]
“อา ฉันเข้าใจแล้ว ยังไงก็เถอะทำให้แน่ใจว่าเลเวลของทักษะพวกนี้เธอเพิ่มขึ้นด้วย ไม่อย่างนั้นเธอจะเสียใจในภายหลัง”
[ขอบใจนะที่เป็นห่วง ไว้เจอกัน!]
“อย่าลืมลองใช้การพิสูจน์แห่งไดฟิคล่ะ”
[โอเค! ฉันจะรีบไปหานายในเร็วๆนี้ ดังนั้นอย่าไปไกลนะ โอเคมั๊ย?]
ด้วยเหตุนี้ฉันจึงจบการสนทนากับเยอึน ขอโทษนะเยอึนฉันไม่สามารถจะทำแบบนั้นได้ นี่มันใกล้เส้นตายการพนันแล้วด้วย…
“ยังไงก็ตามคังชิน”
“ว่าไง?”
หลินยังคงเจาะอัญมณีในขณะที่พูดออกมา
“เพื่อนคนนั้นของนายเป็นผู้หญิงใช่มั๊ย?”
“..ใช่แล้ว”
“โอ้? หญิงสาว หึหึ”
หลินได้ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย
“แน่นอน ฉันรู้สึกว่ามันแปลกที่ฮีโร่ไม่มีหญิงสาวข้างกายสักคนสองคน ฮุฮุ พี่สาวอาจจะจบลงด้วยการมองไปที่ดาดฟ้าอีกครั้ง ฮุฮุฮุ”
“พวกเราเป็นเพียงแค่เพื่อนกัน ดังนั้นอย่าได้เข้าใจผิด และไม่ใช่ว่านายพูดอะไรที่เหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างระหว่างฉันกับโรเร็ตต้า…อีกแล้วหรอ?”
“โอ้? นายอยากรู้หรอ? นายอยากรู้สินะ เอ๋? บางทีพี่สาวอาจจะมีโอกาสในครั้งนี้ ฮ่าๆ”
“ฉะ ฉันไม่อย่างรู้เลยสักนิด”
…ใช่แล้ว ฉันไม่อยากรู้เลย ไม่ ไม่แม้แต่นิดเดียว ฉันเพียงแค่ถามไปเท่านั้นแหละ เพราะแบบนี้ฉันก็ได้ก้าวไปต่อในชั้นที่ 36 ด้วยการแสดงออกที่อารมณ์ดี
“อะฮ่า!”
“ชายคนนั้นเขากระตือรือร้น…”
“ฉันเพียงแค่ไม่อย่างพลาดการไปต่อเท่านั้น อะแฮ่ม!”
“ด้วยแบบนี้ พลังชีวิตของนายจะเป็น 0 จากการถูกโจมตีในการไปต่อก่อนที่จะไปถึงชั้นที่ 36”
ฉันจะต้องทะลุผ่านชั้นที่ 40 ในวันนี้อย่างแน่นอน!